การสื่อสาร หมายถึง การบอกกล่าวสิ่งที่คิด หรือสิ่งที่ต้องการให้ผู้อื่นรับรู้ หลายครั้งที่เราพูดถึงคำนี้จะคิดว่าคนที่สื่อสารเก่ง จะต้องเป็นคนพูดเยอะ พูดเก่ง แต่ที่จริงแล้วเคล็ดลับของผู้ที่สื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ Show
กลับเป็นเรื่องของ “การฟัง” เสียมากกว่า ทำไมการฟัง ถึงช่วยแก้ปัญหาเรื่องการพูดได้?ปัญหาในเรื่องการพูดที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง เกิดจากการเข้าใจประเด็นที่ต้องการสื่อสารผิด เช่น การตอบไม่ตรงคำถาม การอธิบายสิ่งที่คิดออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ ฉะนั้นการจับประเด็นสำคัญของสิ่งที่เราต้องการพูด และสื่อสารตรงไปยังประเด็นนั้น จึงเป็นการสื่อสารที่เกิดประสิทธิภาพสูงสุด แล้วเราจะพัฒนา “การสื่อสาร” อย่างไรให้มีประสิทธิภาพ?ในส่วนนี้ เรามีตัวอย่างของการขัดเกลาทักษะการฟังที่ดี ซึ่งเป็นเคล็ดลับที่ก่อให้เกิดการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพมาฝากอีกด้วย อันได้แก่ 1.มองหน้า จ้องตา ผู้พูดขณะทำการสื่อสารอยู่ในการสื่อสารกัน การที่เรามองสีหน้าท่าทาง รวมถึงสายตาของคู่สนทนา จะทำให้เราได้รับสารที่ค่อนข้างครบถ้วนด้วย ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ของเขา ณ ขณะที่เล่า หากเราสังเกตโดยเก็บรายละเอียด อาจรู้ได้ถึงความรู้สึกของเขา ต่อเรื่องที่เขาเล่าในแต่ละส่วนอีกด้วย 2.รับฟังอย่างตั้งใจ แต่ต้องสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายในการสื่อสารด้วยหากเป็นสนทนาที่จริงจัง เป็นไปได้ที่บรรยากาศโดยรอบขณะทำการสื่อสาร อาจเต็มไปด้วยความตึงเครียด การจัดการกับบรรยากาศในการเล่าเอง ก็เป็นหนึ่งในหน้าที่ของผู้ฟังที่ดีเช่นเดียวกัน ในส่วนนี้เราอาจทำได้ด้วยกันหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งบรรยากาศห้อง หรือการวางตัวขณะรับฟัง อาทิ ยิ้มแย้มแจ่มใสหรือ หาเครื่องดื่มเพื่อผ่อนคลายบรรยากาศ 3.มีทัศนคติเปิดกว้างต่อความคิดเห็นของผู้พูด ไม่ตัดสินก่อนจบการฟังที่ดี คือการฟังโดยไม่ตัดสินความก่อนจะฟังข้อความจบ ฟังอย่างเป็นกลางและมีทัศนคติที่เปิดรับความเห็นที่ต่างจากตัวเอง และให้คำปรึกษาได้จากทั้งมุมมองของเรา และมุมมองของผู้เล่า 4.มองให้เห็นภาพเดียวกัน กับผู้พูดเช่นเดียวกับข้อ 3 การมีทัศนคติที่ดีในการรับฟังคือต้องมีสิ่งที่เรียกว่า ความเข้าอกเข้าใจ ผู้อื่น สิ่งๆนี้จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย หากปราศจากการเปิดรับความคิดเห็นของผู้พูด หากเราสามารถเข้าใจมุมมองของผู้เล่า และหากใช้จินตนาการ เราอาจสามารถเห็นภาพที่ผู้เล่ากำลังเห็นอยู่ได้ เช่นเดียวกันอีกด้วย 5.อย่าขัดจังหวะ ระหว่างผู้พูดกำลังเล่าเรื่องการขัดบทพูดของผู้เล่า เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นที่สุดในเรื่องของการสื่อสาร เพราะนอกจากจะเป็นการเสียมารยาทแล้ว ยังเป็นการตัดอารมณ์ของผู้พูดอย่างมากอีกด้วย อาจทำให้เกิดความเคลือบแคลงใจว่า เรากำลังฟังสิ่งที่เขาพูดอยู่จริงๆหรือไม่ หรือร้ายที่สุด อาจทำให้ผู้พูดเลิกเล่าเรื่องไปเสียดื้อๆก็เป็นได้ 6.ถามคำถามได้ สำหรับส่วนที่ไม่เข้าใจสำหรับในเรื่องของการสื่อสาร การถามคำถามในเรื่องที่ผู้พูดเพิ่งจะพูดไป ไม่ได้เป็นการสื่อว่าเราไม่เข้าใจ ในสิ่งที่เขาเล่า แต่เป็นการแสดงออกให้เห็นถึงความต้องการที่จะเข้าใจอย่างแท้จริง ฉะนั้นหากขณะทำ 7.จงมองหา “คำพูดที่ไม่ได้พูด”ในการรับฟังข้อมูลต่างๆ อีกสิ่งหนึ่งที่คนมักจะมองข้ามคือ ข้อความที่ผู้พูดต้องการสื่อสารออกมา แต่อาจจะแฝงอยู่ในส่วนของรายละเอียดเล็กๆ เช่น อาจเป็นน้ำเสียงของผู้เล่าที่อ่อนลงในขณะที่กำลังพูดถึงเรื่องที่ลำบากใจอยู่ แสดงให้เห็นว่าเขามีอารมณ์อ่อนไหวกับเรื่องราวดังกล่าว เป็นต้น “การรับฟัง” กับ “การได้ยินผ่านหู” ต่างกันอย่างไร?การแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของคำสองคำนี้ง่ายที่สุด คงเป็นการยกตัวอย่าง สมมุติว่ามีคนมาเล่าให้เราฟังว่า “วันนี้เบื่อจัง.. ไม่อยากทำงานเลย” หากฟังผ่านๆ ก็อาจคิดได้ว่า เขาเป็นคนขี้เกียจ หรือเป็นคนหมดไฟ แต่หากเราตั้งใจฟัง เราจะมีคำถามขึ้นมาว่า ทำไมเขาจึงรู้สึกอย่างนี้? หากพูดคุยประเด็นนี้กับเขา เราอาจได้คำตอบว่า “วันนี้ฉันป่วย” หรือ “ตอนเดินทางมาทำงานวันนี้ วุ่นวายมากเลย” ความรู้สึกและมุมมองที่เรามีต่อเขาก็อาจเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง สรุปไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการพูด หรือการฟัง สิ่งสำคัญที่สุดคือเรื่องของความตั้งใจ ที่จะจดจ่ออยู่กับประเด็นของสิ่งที่เราพูดคุยอยู่ ในมุมของผู้เขียนบทความ สุดท้ายการพูดที่ดี ไม่ใช่การพูดที่มากความเวิ่นเว้อ แต่เป็นการพูดตรงไปยังประเด็นที่ต้องการสื่อ เลือกใช้คำพูดที่เหมาะสมกับอุปนิสัยและบทบาทของผู้ฟัง แหล่งอ้างอิง SHARE AuthorThanawat BhocasathitAccount Executive ของ Magnetolabs ชื่นชอบการท่องเที่ยวและดนตรี สนุกสนานไปกับเรื่องราวต่างๆ ที่เข้ามาทั้งในชีวิตส่วนตัว และชีวิตการทำงาน พูดอย่างมีประสิทธิภาพคืออะไรการพูดที่ดี คือ การใช้ถ้อยคำน้ำเสียง รวมทั้งกิริยาอาการอย่างมีประสิทธิภาพ ถูกต้อง ตามจรรยามารยาทและประเพณีนิยมของสังคม เพื่อถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด ความรู้ ประสบการณ์ และความต้องการที่เป็นคุณประโยชน์แก่ผู้ฟัง เพื่อให้เกิดการรับรู้และเกิดผลการตอบสนองอย่างสัมฤทธิ์ผลตามความมุ่งหมายของผู้พูด
การพูดมีความหมายว่าอย่างไรกล่าวโดยสรุป การพูด หมายถึง พฤติกรรมการถ่ายทอดความรู้ ความคิด ความรู้สึก หรือความต้องการของผู้พูดเพื่อสื่อความหมายไปยังผู้ฟังโดยใช้ถ้อยค า น้าเสียง สีหน้า แววตา และ กิริยาท่าทาง เพื่อให้ผู้ฟังรับรู้เข้าใจ และสนองตอบต่อสารที่ผู้พูดได้สื่อไปยังผู้ฟัง
บุคลิกภาพแบบใดที่ช่วยให้การพูดมีประสิทธิภาพมากขึ้น1. มีความมั่นใจและชั้นเชิงดี คือพูดด้วยความมั่นใจ เป็นตัวของตัวเอง และพูดได้เป็นธรรมชาติ 2. มีความกระฉับกระเฉงแจ่มใส คือพูดด้วยท่าทีผึ่งผาย มีชีวิตชีวา 3. มีความจริงใจและมีความคิดเห็นเป็นของตนเอง โดยจะแสดงออกทางสีหน้า แววตา ท่าทาง และน้ำเสียง
ข้อใดสำคัญที่สุดที่ทำให้การพูดมีประสิทธิภาพ1.ก่อนพูดควรคิดก่อนเสมอ ระมัดระวังคำพูดที่จะทำให้คนอื่นไม่พอใจ อย่าพูดพล่อยๆ โดยไม่มีหลักฐาน 2.ควรใช้คำพูดที่สุภาพเหมาะสมกับกาลเทศะและบุคคล 3.ออกเสียงสระ พยัญชนะ และตัวควบกล้ำให้ชัดเจน 4.ควรคำนึงถึงหลักจิตวิทยาของการพูด เช่น
|