ออก จาก งาน แล้ว ประกัน สังคม

  • เข้าสู่ระบบ

     ระบบดังกล่าวเป็นระบบที่ให้บริการแก่คนหางานที่เป็นผู้ประกันตนกรณีว่างงาน ที่ถูกเลิกจ้างหรือลาออกจากงาน ซึ่งคนหางานที่จะได้รับสิทธิผู้ประกันตนกรณีว่างงาน จะต้องเป็นผู้ที่จ่ายเงินสมทบไม่น้อยกว่า 6 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือนก่อนการว่างงาน โดยระบบจะอำนวยความสะดวกในการขึ้นทะเบียนและรายงานตัวของผู้ประกันตนกรณีว่างงาน ให้สามารถขึ้นทะเบียนและรายงานตัวผ่านทางอินเตอร์เน็ตได้ ซึ่งข้อมูลของผู้ประกันตนกรณีว่างงาน จะได้รับการตรวจสอบข้อมูลจากกรมการปกครอง เพื่อยืนยันตัวบุคคลในการใช้บริการในระบบดังกล่าวผ่านอินเตอร์เน็ต และยังสามารถออกหนังสือรับรองการขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนกรณีว่างงาน สำหรับใช้เป็นหลักฐานยืนยันในการขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนกรณีว่างงาน ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตในการขอรับสิทธิประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533

1) ลงทะเบียน

สำหรับผู้ใช้ที่ยังไม่เคยขึ้นทะเบียนว่างงานและที่ยังไม่มีรหัสผ่านเข้าใช้ระบบ
   

คุณภาพชีวิต-สังคม

ลาออกจากงาน ยังมีสิทธิได้ "เงินชราภาพ" จาก "ประกันสังคม" ไหม?

23 พ.ค. 2565 เวลา 17:20 น.47.9k

กรณี "เงินชราภาพ" จากประกันสังคม ประชาชนยังมีข้อสงสัยในหลายประเด็น หนึ่งในนั้นคือ หาก "ลาออก" จากงาน และสิ้นสถานะการเป็น "ผู้ประกันตน ม.33" แล้ว จะยังมีสิทธิได้เงินชราภาพหรือเงินชดเชยอื่นๆ จากประกันสังคมหรือไม่?

ก่อนหน้านี้มีประเด็นสำคัญที่ "ผู้ประกันตน ม.33" ได้เฮกันยกใหญ่ เมื่อ "ประกันสังคม" อัปเกรดใหม่ เพิ่มสิทธิประโยชน์กรณี "เงินชราภาพ" ที่จะให้สิทธิ "3 ขอ" ได้แก่ ขอเลือกบำเหน็จ/บำนาญ, ขอคืนเงินสะสมชราภาพ, ใช้เป็นหลักประกันเพื่อการกู้เงิน

แต่ทั้งนี้ บางคนอาจยังมีข้อสงสัยในหลายๆ ประเด็นเกี่ยวกับ "เงินชราภาพ" หนึ่งในนั้นคือปัญหาที่ว่า หากลาออกจากงาน และสิ้นสถานะการเป็นผู้ประกันตน ม.33 แล้ว ยังจะมีสิทธิได้เงิยชดเชย หรือเงินออมชราภาพอยู่หรือไม่?

เรื่องนี้มีคำตอบจาก "ประกันสังคม" ที่ได้เผยแพร่ผ่านเพจ "สำนักงานประกันสังคม" ระบุรายละเอียดไว้ดังนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

  • "เงินชราภาพ" ใช้ได้เมื่อไร? เมื่อ "ประกันสังคม" อัปเกรดใหม่เพิ่มสิทธิ ม.33
  • ‘ประกันสังคมมาตรา 33’ ถูกหักเงินสมทบแล้ว ไปไหน?
  • ผู้ประกันตน เฮ! ครม.อนุมัติหลักการ เพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีชราภาพ เช็กเลย

1. ลาออกจากงาน และสิ้นสุดการเป็นผู้ประกันตน ม.33 จะได้เงินชราภาพไหม?

เงินสมทบในส่วนของ "เงินออมชราภาพ" สามารถยื่นเรื่องขอรับคืนได้เมื่ออายุครบ 55 ปีบริบูรณ์เป็นต้นไป แม้ว่าจะไม่ได้เป็นผู้ประกันตนแล้วก็ตาม 

หมายความว่า หากลาออกจากงานแล้ว ไม่สามารถยื่นขอเงินที่เคยส่งเป็นเงินสมทบเข้าประกันสังคมไปก่อนหน้านั้นได้ทันที แต่จะต้องรอจนถึงอายุเกษียณตามกำหนดของประกันสังคม นั่นคือ อายุ 55 ปีบริบูรณ์ก่อน จึงจะยื่นขอเงินคืนได้ โดยขึ้นอยู่กับข้อกำหนดและระยะเวลาในการส่งเงินสมทบ

แต่ทั้งนี้ ล่าสุด.. ประกันสังคมเพิ่งจะมีการปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์กรณี "เงินชราภาพ" ในหัวข้อ "การขอคืนเงินสะสมชราภาพได้บางส่วน" จากหลักการ "3 ขอ" (ประมาณ 20-30% ของเงินที่สะสมไว้) ทำให้ผู้ประกันสังคมอาจจะยื่นขอเงินชราภาพออกมาใช้ได้ก่อนอายุ 55 ปีบริบูรณ์ อย่างไรก็ตาม จะต้องรอประกาศใช้คำสั่งนี้อย่างเป็นทางการอีกครั้ง

อยากรู้ว่าตนเองได้สะสม "เงินชราภาพ" มาเป็นเวลากี่เดือนแล้ว? และมียอดเงินสะสมอยู่จำนวนเท่าไร? สามารถดูวิธีเช็กข้อมูลได้ที่นี่ : วิธีดูยอดเงินสะสม "ประกันสังคม" คำนวณเงินชราภาพง่ายๆ รู้เลยได้กี่บาท? 

2. เงื่อนไขการยื่นขอ "เงินชราภาพ" กรณีเงินบำนาญ

  • ต้องมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์
  • ไม่เป็นผู้ประกันตน ทั้งมาตรา 33 และมาตรา 39
  • ผู้ประกันตนจะต้องจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 180 เดือน ไม่ว่าระยะเวลา 180 เดือนจะติดต่อกันหรือไม่ก็ตาม

โดยจะมี "สิทธิประโยชน์" ที่ผู้ประตนมาตรา 33 ต้องรู้ กรณีเลือกขอเป็นเงินบำนาญชราภาพ มีดังนี้

  • หากจ่ายเงินสมทบครบ 180 งวดเดือน จะได้รับเป็นบำนาญรายเดือนไปตลอดชีวิต โดยจ่ายให้ในอัตราร้อยละ 20 ของฐานค่าจ้าง (แต่ไม่เกิน 15,000 บาท) เฉลี่ย 60 เดือนสุดท้ายก่อนความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง
  • หากมีการจ่ายเงินสมทบเกินกว่า 180 เดือน จะปรับเพิ่มอัตราเงินบำนาญชราภาพ จากอัตราร้อยละ 20 เพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 1.5 ต่อระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบครบทุก 12 เดือน

*หมายเหตุ : กรณีผู้ประกันตนรับบำนาญชราภาพ ต่อมาเสียชีวิตภายใน 60 เดือน นับแต่เดือนที่มีสิทธิได้รับเงินบำนาญชราภาพ ให้จ่ายเงินบำเหน็จชราภาพแก่ทายาทตามกฎกระทรวงใหม่ คือ

จากเดิมให้ 10 เท่าของเงินบำนาญชราภาพรายเดือนที่ได้รับครั้งสุดท้ายก่อนถึงแก่ความตาย ปรับใหม่เป็น ให้เงิน “จำนวนเท่ากับจำนวนเงินบำนาญชราภาพที่ได้รับเดือนสุดท้ายก่อนถึงแก่ความตาย x จำนวนเดือนที่เหลือหลังจากผู้รับเงินบำนาญชราภาพถึงแก่ความตายจนครบ 60 เดือน เช่น หากผู้ประกันตนเคยได้เงินบำนาญชราภาพ 5,000 บาทต่อเดือน มาแล้ว 20 เดือน ก่อนเสียชีวิต ทายาทจะได้เงินที่เหลือคือ 5,000 x (60-20) = 200,000 บาท เป็นต้น

อ่านเพิ่ม : เงินช่วยเหลือทายาท ผู้ประกันตน ม.33 ม.39 เดิมได้ 5 หมื่นเปลี่ยนเป็น 2 แสนบาท

3. เงื่อนไขการยื่นขอ "เงินชราภาพ" กรณีเงินบำเหน็จ

  • มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ หรือเป็นผู้ทุพพลภาพ หรือถึงแก่ความตาย
  • ไม่เป็นผู้ประกันตน ทั้งมาตรา 33 และมาตรา 39
  • จ่ายเงินสมทบไม่ครบ 180 เดือน

โดยจะมี "สิทธิประโยชน์" ที่ผู้ประตนมาตรา 33 ต้องรู้ กรณีเลือกขอเป็นเงินบำเหน็จชราภาพ (จ่ายเป็นก้อนครั้งเดียว) มีดังนี้

  • หากจ่ายเงินสมทบกรณีชราภาพมาไม่ครบ 12 เดือน จะได้รับเฉพาะส่วนที่ผู้ประกันตนจ่าย
  • หากจ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไปแต่ไม่ครบ 180 เดือน จะได้รับส่วนของผู้ประกันตน ส่วนของนายจ้างและผลประโยชน์ตอบแทนประจำปี

*หมายเหตุ : เงินบำเหน็จชราภาพ หากผู้ประกันตนเสียชีวิต ทายาทจะมีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จชราภาพคืน โดยจ่ายให้แก่ทายาทผู้มีสิทธิ เช่น บุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย, สามี-ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย, บิดา-มารดาที่จดทะเบียนสมรสกัน หากไม่ได้จดทะเบียนสมรสจะได้เฉพาะมารดา หรือ บุคคลอื่นที่ผู้ประกันตนทำหนังสือระบุไว้ให้ได้รับร่วมกับทายาทผู้มีสิทธิ

ทั้งนี้ เงื่อนไขการได้รับสิทธิ ผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 จะได้รับสิทธิเมื่อจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 เดือน ภายในระยะเวลา 6 เดือนก่อนถึงแก่ความตาย

--------------------------------------

อ้างอิง : สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน