เงินคงค้างของสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ14 มกราคม 2565ฝ่ายกำกับธุรกิจออกแบบการลงทุนและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อนสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (provident fund: PVD) คงทราบกันดีว่าการออมผ่านกองทุนสำรอง เงินคงค้างมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในภาวะวิกฤติโควิด ซึ่งมีสาเหตุหลายประการ เช่น สมาชิกไม่ทราบว่าตนมีเงินเก็บออมผ่านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ติดตามตัวสมาชิกไม่ได้ สมาชิกเสียชีวิตโดยผู้ที่ได้รับผลประโยชน์หรือทายาทไม่ทราบว่ามีเงินก้อนนี้อยู่ หรือ มีหนี้สินกับนายจ้างจึงไม่กล้ากลับไปรับเช็คคืน ตรวจสอบเงินคงค้างได้อย่างไร ท่านสามารถเช็คว่านายจ้างที่ตนเองหรือบิดามารดาเคยทำงานอยู่มีสวัสดิการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพหรือไม่ กรณีที่ท่านพบว่านายจ้างรายนั้นมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ แต่ไม่แน่ใจว่าตนเองหรือบิดามารดาเคยเป็นสมาชิกหรือไม่
ขอให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลหรือคณะกรรมการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของนายจ้าง ติดต่อขอรับเงินคงค้างอย่างไร หากท่านเพิ่งสิ้นสมาชิกภาพไม่นาน โดยมีเช็คคงค้างอายุไม่เกิน 6 เดือน (หรือ บลจ. ต่ออายุเช็คให้เป็นประจำ) ท่านสามารถติดต่อฝ่ายทรัพยากรบุคคลหรือคณะกรรมการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของนายจ้างท่าน เพื่อรับเช็ค สำนักงาน ก.ล.ต. เห็นว่าเงินคงค้างที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่สำคัญ และได้พยายามหาวิธีอื่นเพิ่มเติม เพื่อให้เพื่อนสมาชิกได้รับเงินดังกล่าว ซึ่งเป็นเงินที่ท่านมีสิทธิที่จะได้รับเพื่อไว้ใช้จ่ายในยามจำเป็น หรือเก็บออมต่อเนื่องสำหรับใช้ในยามเกษียณอายุ ควรทำอย่างไรกับเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเมื่อออกจากงาน??25 กันยายน 2558สมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ลาออกจากงาน มักจะมีคำถามว่า ควรทำอย่างไรกับเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพดี ? ตามที่ท่านทราบกันดีว่าเงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจะแบ่งออกเป็น 4 ส่วน คือ เงินสะสม (ส่วนที่สมาชิกจ่ายเข้ากองทุน) เงินสมทบ (ส่วนที่นายจ้างจ่ายให้) ผลประโยชน์เงินสะสม และผลประโยชน์เงินสมทบ (สิ่งประโยชน์ที่งอกเงยจากการลงทุน) เงินที่เป็นสิทธิของสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแน่นอนคือ “เงินสะสม”และ”ผลประโยชน์เงินสะสม” ส่วน”เงินสมทบ”และ”ผลประโยชน์เงินสมทบ” จะได้รับก็ต่อเมื่อสมาชิกปฏิบัติตามเงื่อนไขของกองทุนฯ เช่น มีอายุงานถึงเกณฑ์ที่กำหนด เป็นต้น เมื่อท่านออกจากงานจะมีวิธีในการจัดการกับเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอย่างไรนั้น วันนี้เราขอนำเสนอทางเลือกสำหรับท่านสมาชิก 2 ทางคือ 1) ท่านสามารถขอรับเงินกองทุนทั้งก้อน โดยถือว่าเป็นการลาออกจากระบบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือ 2) ยังไม่ประสงค์ที่จะรับเงินก้อนนี้ โดยขอคงเงินไว้ในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพก่อน
ข้อพึงระวังคือ หากสมาชิกลาออกจากกองทุนโดยที่ยังไม่เข้าเงื่อนไขการได้รับการยกเว้นภาษี สมาชิกอาจจะเสียผลประโยชน์จากเงินสมทบที่จะได้รับไม่เต็มจำนวน อีกทั้ง เงินที่ได้รับจากกองทุนในส่วนของเงินสมทบและผลประโยชน์ของเงินสะสม และเงินสมทบ จะต้องถูกหักภาษี ตามเงื่อนไขเรื่องสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพด้วย โดยขอชี้แจงหลักเกณฑ์ในเบื้องต้นดังนี้ สมาชิกจะต้องตรวจสอบว่าเงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของสมาชิกทั้ง 3 ส่วน อันได้แก่ ผลประโยชน์เงินสะสม เงินสมทบ และผลประโยชน์เงินสมทบ เข้าเงื่อนไขการได้รับการยกเว้นภาษีหรือไม่ ซึ่งปกติเงินดังกล่าวจะได้รับการยกเว้นภาษีทั้งจำนวนก็ต่อเมื่อสมาชิกออกจากงานโดยมีอายุ 55 ปีบริบูรณ์ และเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพไม่น้อยกว่า 5 ปี ตามหลักเกณฑ์ใหม่ที่เคยนำเสนอให้ท่านในวารสารครั้งที่แล้ว หรือกรณีเสียชีวิต หรือ ทุพพลภาพเท่านั้น ถ้าสมาชิกไม่ได้เข้าเกณฑ์ดังกล่าวข้างต้น เงินกองทุนทั้ง 3 จำนวนสามารถนำมาใช้ลดหย่อนได้บางส่วนกรณีที่สมาชิกลาออกจากงานโดยอายุงานตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป (หักค่าใช้จ่ายได้ 2 ส่วน 7,000 x จำนวนปีที่ทำงาน ที่เหลือหักค่าใช้จ่ายได้ครึ่งหนึ่ง และสามารถนำไปแยกยื่นภาษีโดยไม่ต้องนำไปรวมกับรายได้อื่นเพื่อคำนวณภาษี) แต่ถ้าท่านมีอายุงานน้อยกว่า 5 ปีจะต้องนำเงินทั้ง 3 ส่วนนั้นไปรวมกับรายได้เพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตอนสิ้นปี
การคงเงินเป็นการส่งเสริมให้สมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมีการออมอย่างต่อเนื่องโดยไม่ขาดช่วงแม้มีการเปลี่ยนงาน จึงมีการเปิดโอกาสให้สมาชิกสามารถขอคงเงินไว้ในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเดิมต่อไปได้ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในข้อบังคับกองทุน ที่นี้มาดูประโยชน์จากการคงเงิน อายุสมาชิกต่อเนื่องเมื่อมีการย้ายงาน ถ้าท่านได้งานใหม่กับนายจ้างที่มีการจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพภายในก่อนสิ้นระยะเวลาการคงเงิน ท่านสามารถขอให้โอนเงินจากกองทุนเดิมไปเข้ากองทุนใหม่ได้โดยท่านไม่จำเป็นต้องรับเงินออกจากกองทุน ซึ่งจะช่วยให้สมาชิกยังไม่มีภาระภาษี เนื่องจากเงินที่ขอคงไว้ยังไม่ถือเป็นเงินได้ของสมาชิก คงเงินไว้เพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษี สมาชิกที่ต้องการคงเงินต่อเพื่อรออายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และเป็นสมาชิกกองทุนไม่น้อยกว่า 5 ปี ตามเงื่อนไขของทางกรมสรรพากร เพื่อที่จะได้รับการยกเว้นภาษีสำหรับเงินที่ได้รับจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เพื่อรอตลาดปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น ตามที่ทราบกันว่าเงินที่อยู่ในกองทุนนั้นจะถูกนำไปลงทุนตามนโยบายการลงทุนที่ท่านกำหนด ซึ่งอาจมีทั้งกำไรและขาดทุน ขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดแต่ละขณะ โดยเฉพาะการลงทุนในนโยบายตราสารทุน ซึ่งเมื่อตลาดอยู่ภาวะที่มีความผันผวน และส่งผลให้ผลตอบแทนจากการลงทุนนั้นลดลง การคงเงินเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ท่านสามารถให้เงินในกองทุนยังคงลงทุนต่อเพื่อให้ตลาดมีการปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้นและค่อยนำเงินออกจากกองทุนต่อไป ทั้งนี้ ท่านสมาชิกอาจต้องศึกษาข้อบังคับกองทุนของตน ว่ามีระยะเวลาที่สามารถคงเงินไว้ในกองทุนได้นานเท่าใด ซึ่งข้อบังคับต้องกำหนดเวลาไว้ไม่น้อยกว่าเก้าสิบวันนับแต่วันที่ออกจากงาน และมีค่าธรรมเนียมในการคงเงินอยู่ที่ 500 บาทต่อปี นอกจากนี้ กฎหมายยังกำหนดให้สมาชิกดังกล่าวยังคงสภาพป็นสมาชิกกองทุนต่อเนื่อง ทำให้เงินที่สมาชิกคงไว้ในกองทุนสามารถนำไปลงทุนและได้รับผลประโยชน์งอกเงยได้ และสมาชิกก็จะยังคงได้รับ ”ใบรับรอง/รายงานยอดเงินสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund Statement)” แจ้งยอดเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ตนคงเงินไว้ตามรอบปกติอีกด้วย |