ยาคุม ปกติ แทนยาคุมฉุกเฉิน

ไม่อ่านแล้วจะเสียใจ เกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับยาคุมฉุกเฉิน

การวางแผนชีวิตและครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ และในปัจจุบันก็มีหลากหลายทางเลือกที่ช่วยให้ชีวิตของคุณเป็นไปตามแผนได้อย่างสะดวกมากขึ้น ยาเม็ดคุมกำเนิดเป็น หนึ่งในตัวช่วยนั้น แม้กระทั่งเมื่อมีเหตุให้ชีวิตของคุณต้องผิดแผน ก็ยังมีตัวช่วยที่คอยกู้สถานการณ์ฉุกเฉินอย่าง “ยาคุมฉุกเฉิน”

ปัจจุบัน คนส่วนใหญ่ยังมีความรู้ความเข้าใจที่ไม่เพียงพอเกี่ยวกับตัวยา และวิธีใช้อยู่มาก จากการไม่ได้รับข้อมูลเชิงปฏิบัติ ทำให้หลายคนมักจะใช้ยาอย่างไม่ถูกต้องจนไม่ได้รับประสิทธิภาพสูงสุดจากยา ควรรีบทำความเข้าใจยาตัวนี้ให้ดี เพราะเรื่องฉุกเฉินไม่จำเป็นต้องรอให้ฉุกเฉินค่ะ

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับยาคุมฉุกเฉิน
– ยาคุมฉุกเฉิน เป็นประเภทหนึ่งของยาเม็ดคุมกำเนิด
– ยาคุมฉุกเฉิน แตกต่างจากยาคุมปกติ และไม่สามารถใช้แทนยาคุมปกติได้ เพราะมีปริมาณฮอร์โมนสูงกว่ามาก ไว้สำหรับใช้หลังมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกันด้วยการคุมกำเนิดแบบอื่นเท่านั้น
– ยาคุมฉุกเฉิน ไม่ใช่ยาทำแท้ง เพราะใช้ได้ภายใน 3 วันหลังมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกันเท่านั้น
– สามารถใช้ยาคุมฉุกเฉินได้มากกว่า 2 ครั้งในชีวิต โดยไม่ควรใช้เกิน 2 ครั้งต่อ 1 เดือน
– ยาคุมฉุกเฉิน 1 แผง มีเม็ดยา 2 เม็ด โดยจะทานพร้อมกันเลยก็ได้ หรือจะ ทานแยกกันตามวิธีต่อไปนี้ก็ได้

วิธีใช้ยาคุมฉุกเฉิน
1. วิธีทั่วไปที่นิยมใช้ และเป็นที่แนะนำคือ ทานเม็ดแรกทันที หรือเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ หลังมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน
2. หลังจากทานเม็ดแรกแล้ว 12 ชั่วโมง ให้ทานเม็ดต่อไป (เม็ดสุดท้าย)
3. สามารถทานยาคุมฉุกเฉินทั้ง 2 เม็ดพร้อมกันได้เลย ทันที หรือเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หลังเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน สาเหตุที่แนะนำให้ทานทีละเม็ดแบบข้อ 1-2 เพื่อหลีกเลี่ยง หรือบรรเทาอาการข้างเคียงค่ะ
4. ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ ขึ้นอยู่กับเวลาของการเริ่มรับประทานยา จึงต้องทานทันทีหลังมีเพศสัมพันธ์ และอย่างช้าที่สุดไม่เกิน 3 วัน
5. อาการข้างเคียงที่อาจพบได้คือ คลื่นไส้ อาเจียน เลือดออกกระปริบกระปรอย เจ็บคัดเต้านม อ่อนแรง ปวดศีรษะ ปวดท้องน้อย ที่พบบ่อยคือ ประจำเดือนคลาดเคลื่อน มาช้ากว่ากำหนด

แม้ว่าการใช้ยาคุมฉุกเฉิน 2 ครั้งต่อเดือน จะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่ถ้ารู้ตัวว่าต้องคุมกำเนิดบ่อยๆ ควรใช้ยาคุมแบบปกติ (มีแบบ 21 เม็ดและ 28 เม็ด) เพื่อการคุมกำเนิดในระยะยาวที่ปลอดภัย ได้ผลดี ไม่ต้องรอให้ฉุกเฉินค่ะ

ติดตามเคล็ดลับดีๆเกี่ยวกับสุขภาพและไลฟ์สไตล์ได้ที่   https://www.facebook.com/healthyclub.by.biopharm/

ยาคุม ปกติ แทนยาคุมฉุกเฉิน

ปรึกษาปัญหาสุขภาพกับ Biopharm ทาง Line Official : @biopharm

ยาคุม ปกติ แทนยาคุมฉุกเฉิน

รู้ก่อนใช้...ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน กินอย่างไรให้ปลอดภัย

July 29 / 2020

รู้ก่อนใช้...ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน กินอย่างไรให้ปลอดภัย

ยาคุม ปกติ แทนยาคุมฉุกเฉิน
ยาคุม ปกติ แทนยาคุมฉุกเฉิน

พญ.ศรีสุภา  เลาห์ภากรณ์

สูติ-นรีเวช

ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน (emergency contraceptive pills, morning-after pills) เป็นยาเม็ดฮอร์โมนขนาดสูงที่รับประทานหลังจากมีเพศสัมพันธ์เพื่อลดโอกาสที่จะตั้งครรภ์ การคุมกำเนิดวิธีนี้จะให้ประสิทธิภาพภายใน 2 – 3 วัน โดยจะไปรบกวนการตกไข่ หรือรบกวนการปฏิสนธิของไข่กับอสุจิแต่หากได้รับการปฏิสนธิเป็นตัวอ่อนแล้ว จะไม่สามารถป้องกันได้

ข้อบ่งชี้ในการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน

  1. หลังจากที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน
  2. สตรีถูกข่มขืน (Sexual assault)
  3. มีการใช้การคุมกำเนิดที่ไม่ถูกต้อง มีโอกาสล้มเหลว เช่น ถุงยางแตก หลุด หรือใส่ไม่ถูกต้อง
  4. ลืมทานยาคุมกำเนิด
    • ชนิดฮอร์โมนรวมตั้งแต่ 3 เม็ด
    • ชนิดฮอร์โมนโปรเจสตินชนิดเดี่ยวลืมทานเกินเวลา 3 ชั่วโมง จากเวลาเดิมที่ทานประจำ หรือเกิน 27 ชม.จากเม็ด
    • ชนิด desogestrel-containing pill (0.75 mg) มากกว่า 12 ชั่วโมง จากเวลาทานปกติ หรือเกิน 36 ชม.จากเม็ดที่ทานก่อน
  5. เลยกำหนดฉีดยาคุม
    • มากกว่า 2 อาทิตย์ ชนิด norethisterone enanthate (NET-EN)
    • มากกว่า 4 อาทิตย์ ชนิด depot-medroxyprogesterone acetate (DMPA)
    • มากกว่า 7 วัน ชนิด combined injectable contraceptive (CIC)
  6. diaphragm or cervical cap หลุด ขาด หรือแตก ก่อนเอาออก
  7. ล้มเหลวในวิธีการหลั่งข้างนอก เช่นหลั่งในช่องคลอด หรืออวัยวะเพศด้านนอก
  8. คำนวณวันเว้นมีเพศสัมพันธ์พลาด
  9. ห่วงคุมกำเนิดหลุด หรือยาฝังหลุด

ยาคุม ปกติ แทนยาคุมฉุกเฉิน

ข้อควรรู้ก่อนกินยาคุมฉุกเฉิน

  1. ยาคุมฉุกเฉินไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อได้ ยาชนิดนี้มีประโยชน์ในการป้องกันการตั้งครรภ์เท่านั้น ไม่สามารถป้องกันโรคจากเพศสัมพันธ์ได้ หากต้องการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ควรใช้วิธีสวมถุงยางอนามัยจะดีที่สุด
  2. มีความเข้าใจว่า ยาคุมฉุกเฉินเป็นยาทำแท้งเป็นความเข้าใจที่ผิด ยาคุมฉุกเฉินสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้เท่านั้น  นั่นคือต้องได้ยาเข้าไปในร่างกายก่อนที่จะมีการฝังตัวของไข่ที่เยื่อบุโพรงมดลูก เแต่หากไข่ที่ผสมกับอสุจิได้ฝังตัวที่ผนังมดลูกไปแล้ว ยานี้จะทำอะไรไม่ได้ ดังนั้นยานี้จึงไม่ใช่ยาทำแท้ง
  3. ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมีผลข้างเคียงสูงมาก ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินจะออกฤทธิ์ต่อสภาพแวดล้อมของเยื่อบุโพรงมดลูก จึงมีผลต่อฮอร์โมนและทำให้เกิดความผิดปกติต่อตัวผู้ใช้ เช่น มีประจำเดือนผิดปกติ คลื่นไส้อาเจียน และหากกินบ่อยๆ อาจเสี่ยงต่อการท้องนอกมดลูกได้
  4. ความเข้าใจว่ายาคุมฉุกเฉินอาจทำให้ทารกพิการได้หากรับประทานไปโดยไม่ทราบว่าตั้งครรภ์ ความเข้าใจนี้ไม่ถูกต้อง ทั้งนี้มีรายงานว่าไม่พบทารกพิการจากมารดาที่รับประทานยาโดยที่ไม่ทราบว่าตนเองกำลังตั้งครรภ์
  5. การรับประทานยาเม็ดแรกภายใน 72 ชั่วโมง หลังการมีเพศสัมพันธ์ดังกล่าวตามด้วยยาเม็ดที่สอง จะให้ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 75% แต่หากเริ่มยาภายใน 24 ชั่วโมง หลังการมีเพศสัมพันธ์ จะให้ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์เพิ่มขึ้นเป็น 85% ดังนั้นจึงควรรับประทานยาเม็ดแรกหลังการมีเพศสัมพันธ์ให้เร็วที่สุด
  6. มีความเข้าใจว่า ใช้ยาคุมฉุกเฉินเพื่อคุมกำเนิดระยะยาวได้ ความเข้าใจนี้ไม่ถูกต้อง หากสามีภรรยาที่ยังไม่พร้อมมีบุตรแต่ต้องการคุมกำเนิดในระยะยาว มีวิธีคุมกำเนิดที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากกว่าเช่น การรับประทานยาคุมกำเนิดแบบปกติชนิดเม็ด โดยรับประทานทุกวันวันละ 1 เม็ด นอกจากนี้การรับประทานยาคุมฉุกเฉินเป็นประจำจะพบอาการข้างเคียงสูง เช่น ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน เลือดออกกะปริดกะปรอย รวมทั้งพบความเสี่ยงในการเกิดอุบัติการณ์การตั้งครรภ์นอกมดลูกเพิ่มขึ้น
  7. ยาคุมฉุกเฉินไม่เป็นอันตรายต่อการตั้งครรภ์ครั้งใหม่ และไม่มีผลทำให้การตั้งครรภ์ครั้งถัดไปช้าลง
  8. ถ้ามีอาเจียนภายใน 2 ชั่วโมง ควรทานยาซ้ำ ยาคุมฉุกเฉินชนิดฮอร์โมนเดี่ยวชนิดโปรเจสตินนิยมมากกว่าชนิดฮอร์โมนรวม เนื่องจากมีคลื่นไส้อาเจียนน้อยกว่า ยังไม่แนะนำให้ทานยาแก้อาเจียนทุกครั้งที่ทานยาคุมฉุกเฉิน

วิธีคุมกำเนิดฉุกเฉิน

  1. Ulipristal acetate (UPA) ทาน 1 เม็ดครั้งเดียว (30 mg) มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดฉุกเฉินสูงกว่า Levonorgestrel ถึงแม้จะรับประทานยาล่าช้าออกไปจนถึง 120 ชั่วโมง หลังการมีเพศสัมพันธ์ นอกจากนี้ UPA ยังสามารถต้านการฝังตัวของไข่ที่ผสมแล้วได้โดยออกฤทธิ์รบกวนการเตรียมความพร้อมของเยื่อบุมดลูก ในขณะที่ levonorgestrel ไม่มีผลดังกล่าว ยังไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย
  2. ยาเม็ดฮอร์โมนเดียวโพรเจสโตเจน (0.75 mg) 2 เม็ด ทานห่างกัน 12 ชั่วโมง เม็ดแรกทันทีหรือไม่เกิน 72 ชั่วโมง ยี่ห้อที่มีขายในประเทศไทย เช่น Madonna, Postinor, Mary Pink หรือรับประทาน  levonorgestrel 1.5 mg ครั้งเดียวมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์และอาการข้างเคียงไม่แตกต่างกัน
  3. ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม (100 μg of ethinyl estradiol + 0.50 mg of LNG) 2 เม็ด ทานห่างกัน 12 ชั่วโมง (Yuzpe method) เช่น ใช้ยาคุมกำเนิดยี่ห้อ Yasmin ที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจน 30 ไมโครกรัม ต่อ 1 เม็ด เพราะฉะนั้นให้กินครั้งละ 4 เม็ด อีก 12 ชั่วโมง 
  4. การใส่ห่วงคุมกำเนิดทองแดงไม่เกิน 5 วัน หลังมีเพศสัมพันธ์ วันหลังการร่วมเพศซึ่งช่วยการตั้งครรภ์ได้ร้อยละ 99 มีการศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิภาพของการป้องกันการตั้งครรภ์ของการทานฮอร์โมนlevonorgestrel 0.75 mg (LNG) กับวิธี Yuzpe โดยให้รับประทาน 2 ครั้ง ห่างกัน 12 ชั่วโมง เช่นกัน พบว่ายาคุมกำเนิดฉุกเฉินที่มีตัวยา LNG เดี่ยวๆ มีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ร้อยละ 85 (74 – 93) ในขณะที่ยาคุมกำเนิดที่มีตัวยาผสมระหว่าง estrogen กับ progestin (Yuzpe method) ป้องกันได้เพียงร้อยละ 57 (39 – 71) ดังนั้นการใช้ฮอร์โมน LNG จึงเป็นที่นิยมมากกว่าในปัจจุบัน แต่มีการศึกษาพบว่าน้ำหนักและค่า body mass index (BMI) มีผลต่อประสิทธิภาพยาคุมกำเนิดฉุกเฉินชนิด LNG เดี่ยวๆ โดยในหญิงที่มีน้ำหนักมากกว่า 75 กิโลกรัมมีความเสี่ยงที่จะคุมกำเนิดฉุกเฉินล้มเหลวสูงกว่าคนที่น้ำหนักน้อยกว่าประมาณ 4.5 เท่า และในหญิงที่มีค่า BMI มากกว่า 25 กิโลกรัมต่อตารางเมตร มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์เพิ่มขึ้นประมาณ 2 เท่า ดังนั้นสตรีที่มีน้ำหนักเกินจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการคุมกำเนิดได้ จึงควรรีบรับประทานให้เร็วที่สุดหลังมีเพศสัมพันธ์

ผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉิน

  • ประจำเดือนมาไม่ปกติ
  • คลื่นไส้ อาเจียน และรู้สึกพะอืดพะอม
  • ปวดศีรษะ
  • ปวดท้อง มีอาการปวดท้องคล้ายกับตอนมีประจำเดือนได้
  • เสี่ยงตั้งครรภ์นอกมดลูก

ยาคุม ปกติ แทนยาคุมฉุกเฉิน
ยาคุม ปกติ แทนยาคุมฉุกเฉิน
ยาคุม ปกติ แทนยาคุมฉุกเฉิน
ยาคุม ปกติ แทนยาคุมฉุกเฉิน
ยาคุม ปกติ แทนยาคุมฉุกเฉิน

ผู้ที่ห้ามใช้ยาคุมกำเนิด

  • มะเร็งของอวัยวะภายในของผู้หญิง และมะเร็งเต้านม
  • โรคตับเฉียบพลันหรือตับแข็ง มะเร็งตับ
  • เคยหรือเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • ความดันโลหิตสูง
  • โรคลิ่มเลือดอุดตัน
  • โรคลมชัก ที่รับประทานยากันชัก
  • โรคเบาหวาน ที่มีภาวะไตทำงานผิดปกติ หรือมีภาวะหลอดเลือดผิดปกติ
  • อายุมากกว่า 35 ปีสูบบุหรี่จัด อ้วน มีไขมันในเลือดสูง
  • เป็นไมเกรนชนิดที่มีอาการเตือน (Migraine with aura)

ถึงแม้ยาคุมฉุกเฉินจะมีประสิทธิภาพดีในการป้องกันการตั้งครรภ์ โดยเฉพาะถ้าทานเม็ดแรกทันทีหลังมีเพศสัมพันธ์ แต่ไม่แนะนำให้ใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินแทนการคุมกำเนิดปกติ แม้ยาจะปลอดภัยก็ตาม เพราะขนาดของฮอร์โมนที่สูง ผลข้างเคียงของยา ตลอดจนความผิดปกติของรอบเดือนที่เกิดขึ้น อาการปวดเกร็งช่องท้องน้อย รวมทั้งไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ ดังนั้นควรเลือกใช้ในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น และหลังการใช้หากประจำเดือนมาไม่ปกติ ขาดประจำเดือน เลือดออกไม่หยุด หรือปวดท้องไม่ดีขึ้น ควรรีบมาพบแพทย์

ยาคุม ปกติ แทนยาคุมฉุกเฉิน

ยาคุมฉุกเฉินมีประสิทธิภาพดีในการป้องกันการตั้งครรภ์ แต่ไม่แนะนำให้ใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินแทนการคุมกำเนิดปกติ ควรเลือกใช้ในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น

ยาคุม ปกติ แทนยาคุมฉุกเฉิน

นัดพบแพท์คลิก

พญ.ศรีสุภา  เลาห์ภากรณ์

สูติ-นรีเวช

แก้ไขล่าสุด 29/07/63

ยาคุมฉุกเฉินเท่ากับยาคุมปกติกี่เม็ด

เมื่อซื้อยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน จะได้ยาขนาดเม็ดละ 0.75 มิลลิกรัม 2 เม็ด ซึ่งต้องรีบกินให้เร็วที่สุดหลังจากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน เพื่อให้ยามีประสิทธภาพมากที่สุด ทั้งนี้สามารถเลือกกินได้ 2 แบบ ซึ่งให้ผลลัพธ์ไม่แตกต่างกัน ดังนี้ กินครั้งเดียวพร้อมกันทั้ง 2 เม็ด ทันทีหลังมีเพศสัมพันธ์

ยาคุมฉุกเฉินต่างกับยาคุมปกติยังไง

ยาคุมฉุกเฉินมีส่วนผสมเช่นเดียวกับยาคุมธรรมดา แต่มีปริมาณ กำหนดเท่านั้นจึงจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ ในขณะที่ ยาคุมธรรมดาต้องกินวันละ 1 เม็ด ทุก ๆ วัน (กรณีแผงละ 28 เม็ด) และมีปริมาณฮอร์โมนต่อเม็ดน้อย ฮอร์โมนต่อเม็ดสูงกว่า และต้องกินหลังจากมีเพศสัมพันธ์ภายในเวลาที่

ยาคุมฉุกเฉินแบบไหนดีกว่ากัน

วิธีคุมกำเนิดฉุกเฉิน ยาเม็ดฮอร์โมนเดียวโพรเจสโตเจน (0.75 mg) 2 เม็ด ทานห่างกัน 12 ชั่วโมง เม็ดแรกทันทีหรือไม่เกิน 72 ชั่วโมง ยี่ห้อที่มีขายในประเทศไทย เช่น Madonna, Postinor, Mary Pink หรือรับประทาน levonorgestrel 1.5 mg ครั้งเดียวมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์และอาการข้างเคียงไม่แตกต่างกัน

ยาคุมฉุกเฉินเม็ดเดียวกับสองเม็ดต่างกันยังไง

สำหรับยาคุมฉุกเฉินชนิด 2 เม็ดและ 1 เม็ดนั้น ประสิทธิภาพไม่ได้แตกต่างกัน เพราะระดับฮอร์โมนใน 1 แผงจะเท่ากัน เพียงแต่เมื่อเป็นชนิดที่มี 2 เม็ด ฮอร์โมนก็จะถูกแบ่งครึ่งออกไปอยู่ในยาคุมแต่ละเม็ดค่ะ