การเงิน Show
11 ส.ค. 2565 เวลา 15:02 น.2.1k กสิกรไทยต่อยอดโครงการรวมใจไม่ทิ้งกัน ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปราะบาง ที่มีวงเงินไม่เกิน 2 ล้านบาท และไม่มีสถานะเป็น NPL ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจซบเซา และค่าครองชีพที่สูงขึ้น ด้วยมาตรการลดยอดผ่อนชำระต่อเดือน 10%นายกฤษณ์ จิตต์แจ้ง กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า จากปัญหาสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประกอบกับภาวะเงินเฟ้อ และค่าครองชีพที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ลูกค้าของธนาคารทั้งลูกค้าบุคคล และลูกค้าธุรกิจ ได้รับผลกระทบทั้งในแง่ของต้นทุนการผลิตสินค้าที่สูงขึ้น และราคาสินค้าอุปโภค และบริโภคในชีวิตประจำวันที่แพงขึ้น ทางธนาคารจึงออกมาตรการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้าบุคคล และลูกค้าธุรกิจที่มีวงเงินสินเชื่อ แต่ละผลิตภัณฑ์ไม่เกิน 2 ล้านบาท และไม่มีสถานะเป็น NPL โดยมีรายละเอียดมาตรการความช่วยเหลือ ดังนี้ มาตรการ “ลดยอดผ่อนชำระต่อเดือน 10%”ระยะเวลา 12 เดือน ลูกค้าที่เข้าร่วมมาตรการนี้ ได้แก่ - ลูกค้าธุรกิจที่ใช้บริการ สินเชื่อเพื่อธุรกิจ และสินเชื่อเงินด่วนเพื่อธุรกิจ - ลูกค้าบุคคลที่ใช้บริการ สินเชื่อบ้าน และสินเชื่อเงินด่วน โดยลูกค้าบุคคล และธุรกิจที่สนใจเข้าร่วมมาตรการนี้ สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ธนาคารกสิกรไทยได้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน – 30 ธันวาคม 2565 มาตรการ “ผ่อนชำระขั้นต่ำ 5%” ระยะเวลา 12 เดือน ลูกค้าที่เข้าร่วมมาตรการนี้ ได้แก่ - ลูกค้าบุคคลที่ใช้บริการ บัตรเครดิต และบัตรเงินด่วน โดยมาตรการนี้จะเป็นการปรับยอดขั้นต่ำให้ลูกค้าโดยอัตโนมัติ ลูกค้าไม่ต้องลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการ นายกฤษณ์ กล่าวในตอนท้ายว่า ธนาคารกสิกรไทย มีความมุ่งมั่นในการช่วยเหลือ และยืนหยัดเคียงข้างลูกค้าทั้งธุรกิจ และบุคคล เพื่อให้สามารถผ่านพ้นทุกวิกฤติ และเดินหน้าต่อไปอย่างยั่งยืนไปพร้อมกัน ลูกค้าธุรกิจ และลูกค้าบุคคลที่สนใจ เข้าร่วมมาตรการ สามารถลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ธนาคารกสิกรไทยได้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน – 30 ธันวาคม 2565 หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับลูกค้าธุรกิจติดต่อได้ที่ K-BIZ Contact Center 02-888-8822 สำหรับลูกค้าบุคคลติดต่อได้ที่ K-Contact Center 02-888-8888 พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์
注册 无法处理你的请求此请求遇到了问题。我们会尽快将它修复。
Meta © 2022 มาตรการที่ 1 สินเชื่อฟื้นฟูเพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ รักษาการจ้างงาน และฟื้นฟูธุรกิจ ทั้งนี้ ไม่ให้นำเงินสินเชื่อดังกล่าว มาชำระหนี้เดิมที่มีอยู่กับสถาบันการเงินเดิม หรือ Refinance จากสถาบันการเงิน ลูกค้าปัจจุบัน สำหรับลูกค้าที่ 30% ของวงเงิน ลูกค้าใหม่ อัตราดอกเบี้ย 2% ใน 2 ปีแรก ฟรี ดอกเบี้ย 6 เดือนแรก* คุณสมบัติของลูกค้าที่จะขอกู้
รายละเอียดมาตรการ
ช่องทางการติดต่อ
คำถามที่พบบ่อย สำหรับมาตรการสินเชื่อฟื้นฟู คุณสมบัติของลูกค้าที่จะสมัครผลิตภัณฑ์สินเชื่อฟื้นฟู มีอะไรบ้าง
*วงเงินสินเชื่อธุรกิจนับรวม Loan, OD, PN, Trade, Factoring วงเงินสินเชื่อเงินด่วนแบบผ่อนระยะยาวเพื่อธุรกิจ (Xpress Loan-Long term loan) วงเงินเพื่อธุรกิจสำหรับบุคคลธรรมดาที่ไม่มีทรัพย์เป็นหลักประกัน, วงเงินสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้กำกับ (ให้นับวงเงินกู้เดี่ยว รวมกับ วงเงินกู้ร่วมตามสัดส่วนความรับผิดในหนี้) วัตถุประสงค์สำหรับการขอผลิตภัณฑ์สินเชื่อฟื้นฟู เพื่อเสริมสภาพคล่องในการประกอบธุรกิจ ลดผลกระทบต่อการจ้างงาน และฟื้นฟูการประกอบธุรกิจ ทั้งนี้ ไม่ให้นำเงินสินเชื่อดังกล่าวมาชำระหนี้เดิมที่มีอยู่กับสถาบันการเงินเดิม หรือ Refinance จากสถาบันการเงินอื่นๆ ผู้ประกอบธุรกิจสามารถยื่นขอกู้สินเชื่อฟื้นฟูได้ในวงเงินเท่าใด ลูกค้าปัจจุบัน : ไม่เกิน 30% ของวงเงินสินเชื่อธุรกิจที่มีอยู่กับธนาคารกสิกรไทย* ณ วันที่ 31/12/2562 หรือ ณ วันที่ 28/2/2564 แล้วแต่จำนวนใดสูงกว่า ทั้งนี้ต้องไม่เกิน 150 ล้านบาท หรือ สูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาท สำหรับลูกค้าที่ 30%
ของวงเงินสินเชื่อธุรกิจที่มีอยู่กับธนาคารกสิกรไทย* มีจำนวนไม่ถึง 50 ล้านบาท (หักด้วย วงเงินสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่อง (สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ BOT Soft Loan) เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากการระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 และสินเชื่อฟื้นฟู ที่เคยได้รับอนุมัติ บวก วงเงินสินเชื่อดังกล่าวที่ลูกค้าเคยได้รับอนุมัติแต่ไม่ประสงค์ใช้และธนาคารได้คืนเงินแก่ ธปท.แล้ว) *นับเฉพาะLoan, OD, PN, Trade, Factoring วงเงินสินเชื่อเงินด่วนแบบผ่อนระยะยาวเพื่อธุรกิจ (Xpress Loan-Long term loan) วงเงินเพื่อธุรกิจสำหรับบุคคลธรรมดาที่ไม่มีทรัพย์เป็นหลักประกัน, วงเงินสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้กำกับ ของตัวผู้กู้เอง จะไม่นับรวมวงเงินตามภาระผูกพัน และไม่รวมวงเงินสินเชื่อส่วนบุคคล (Xpress Cash), วงเงินสินเชื่อเงินด่วน (Xpress Loan) วงเงินสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย, และวงเงินสินเชื่อบัตรเครดิต ประเภทของวงเงินสินเชื่อฟื้นฟูที่อนุมัติให้กับผู้ประกอบธุรกิจ ครอบคลุมวงเงินประเภทใดบ้าง วงเงินกู้ (Loan) ระยะเวลากู้สูงสุด 7 ปี พักชำระเงินต้นสูงสุด 24 เดือน (ไม่ต้องชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 6 เดือนแรก) อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมของสินเชื่อฟื้นฟูภายใต้ พ.ร.ก. มีรายละเอียดอย่างไร
ลูกค้าสามารถขอสินเชื่อภายใต้สินเชื่อฟื้นฟู ได้กี่ครั้ง ขอได้ 6 ครั้ง โดยเงื่อนไขการเบิกเงินกู้แต่ละครั้งต้องเป็นการเบิกเงินกู้ครั้งเดียวทั้งจำนวน สำหรับลูกค้าปัจจุบัน : รวม 6 ครั้ง จะต้องไม่เกิน 30% ของวงเงินสินเชื่อธุรกิจที่มีอยู่กับธนาคารกสิกรไทย ทั้งนี้ต้องไม่เกิน 150 ล้านบาท หรือ ไม่เกิน 50 ล้านบาท สำหรับลูกค้าที่ 30% ของวงเงินสินเชื่อธุรกิจที่มีอยู่กับธนาคารกสิกรไทยมีจำนวนไม่ถึง 50
ล้านบาท ผู้ประกอบธุรกิจต่างชาติที่จดทะเบียนในประเทศไทยหรือบริษัทที่ถือหุ้นโดยต่างชาติ สามารถเข้ามาตรการสินเชื่อฟื้นฟู ได้หรือไม่ ได้ เนื่องจากคุณสมบัติของผู้ที่ขอกู้ได้ คือ บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทยที่มีสถานประกอบการและประกอบธุรกิจในประเทศไทยโดยไม่ต้องพิจารณาสัดส่วนการถือหุ้น ประเภทหลักประกันที่ต้องนำเสนอภายสินเชื่อฟื้นฟู ต้องค้ำประกันโดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อย (บสย.) โดยมีค่าธรรมเนียม ดังนี้
กรณีลูกค้าเคยได้รับเงินกู้ผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่อง (สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ BOT Soft Loan) เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากการระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 ไปแล้ว สามารถขอเพิ่มได้อีกหรือไม่ สามารถขอกู้ได้ ทั้งนี้ เมื่อนับรวมวงเงินสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่อง (สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ BOT Soft Loan) เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากการระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 และวงเงินสินเชื่อฟื้นฟูที่ขอทั้งหมด จะต้องไม่เกิน 30% ของวงเงินสินเชื่อธุรกิจที่มีอยู่กับธนาคารกสิกรไทย ทั้งนี้ต้องไม่เกิน 150 ล้านบาท หรือ ไม่เกิน 50 ล้านบาท สำหรับลูกค้าที่ 30% ของวงเงินสินเชื่อธุรกิจที่มีอยู่กับธนาคารกสิกรไทยมีจำนวนไม่ถึง 50 ล้านบาท กรณีลูกค้าเข้ามาตรการช่วยเหลือของธนาคาร สามารถขอสินเชื่อฟื้นฟูได้หรือไม่ สามารถขอได้ ทั้งนี้ลูกค้าต้องมีคุณสมบัติตามเกณฑ์สินเชื่อฟื้นฟู กรณีลูกค้าไม่มีสินเชื่อเพื่อธุรกิจ สามารถขอสินเชื่อฟื้นฟูได้หรือไม่ กรณีไม่มีสินเชื่อธุรกิจกับทุกสถาบันการเงิน ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 ลูกค้าสามารถขอสินเชื่อฟื้นฟูกับธนาคารกสิกรไทยได้ เว้นแต่ ลูกค้าไม่มีสินเชื่อธุรกิจกับธนาคารกสิกรไทยแต่มีสินเชื่อธุรกิจกับธนาคารอื่น ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 จะไม่สามารถขอสินเชื่อฟื้นฟูกับธนาคารกสิกรไทยได้ มาตรการที่ 2 พักทรัพย์ พักหนี้ (Asset Warehousing)เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ ด้วยการลดภาระเงินต้นและดอกเบี้ย ประคับประคองให้ยังสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ธนาคารจะไม่ขายหลัก สามารถเช่าหลักประกัน ฟรี ค่าธรรมเนียมทุกประเภท คุณสมบัติของลูกค้าที่เข้าร่วมมาตรการ
รายละเอียดมาตรการ
ช่องทางการติดต่อ
คำถามที่พบบ่อย สำหรับมาตรการพักทรัพย์ พักหนี้ (Asset Warehousing) ลูกค้าต้องมีคุณสมบัติอย่างไรที่สามารถเข้าร่วมโครงการ
ลูกค้าที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถลงทะเบียนได้ผ่านช่องทางใดบ้าง ติตด่อผู้ดูแลความสัมพันธ์ หรือ K-BIZ Contact Center 02-888-8822 ระยะเวลาที่ลูกค้าสามารถแจ้งความจำนงในการขอเข้าร่วมโครงการ 2 ปีนับแต่วันที่ พรก. มีผลบังคับใช้ (10 เม.ย.2564) หรือ เต็มวงเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดทุกสถาบันการเงินรวมกัน 1 แสนล้านบาท หลักประกันใดที่สามารถเข้าร่วมโครงการ ต้องเป็นทรัพย์สินที่เป็นหลักประกันกับธนาคารก่อนวันที่ 1 มีนาคม 2564 ทั้งนี้การพิจารณาเรื่องหลักประกันที่สามารถรับได้ จะเป็นไปตามเงื่อนไขการพิจารณาของธนาคาร ประเภทธุรกิจใดที่สามารถเข้าร่วมโครงการ ต้องเป็นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบทางตรง หรือทางอ้อมจาก COVID-19 ลูกค้าต้องประกอบธุรกิจอยู่ในพื้นที่ใดบ้างที่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ พื้นที่ได้รับผลกระทบทางตรง หรือทางอ้อมจาก COVID-19 ข้อดีของการเข้าร่วมโครงการ ลูกค้าสามารถลดภาระหนี้ที่มีอยู่กับธนาคาร และได้รับสิทธิในการเช่าและซื้อทรัพย์คืน รวมถึงได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีค่าธรรมเนียมในการตีโอนทรัพย์ ลูกค้าสามารถเช่าทรัพย์ที่โอนให้กับธนาคารเพื่อดำเนินธุรกิจต่อได้หรือไม่ สามารถเช่าทรัพย์ได้ แต่ต้องแจ้งความจำนงต่อธนาคารภายใน 15 วันหลังจากวันที่ธนาคารรับโอนทรัพย์ ราคาค่าเช่าทรัพย์ที่ตีโอนไป ธนาคารมีวิธีการคิดค่าเช่าอย่างไรบ้าง ขึ้นอยู่กับการตกลงระหว่างลูกค้ากับธนาคาร ลูกค้าสามารถซื้อทรัพย์คืนได้หรือไม่ ธนาคารจะให้สิทธิกับลูกค้าที่เป็นเจ้าของทรัพย์ในการซื้อทรัพย์คืนเป็นรายแรกในระยะเวลา 3-5 ปี นับจากวันรับโอนทรัพย์ โดยธนาคารไม่สามารถขายทรัพย์ให้กับลูกค้ารายอื่นได้ เว้นแต่ได้รับแจ้งว่าจะไม่ใช้สิทธิซื้อทรัพย์คืนเป็นหนังสือจากลูกค้า มูลค่าการตีโอนทรัพย์ของธนาคารคิดอย่างไร ตามการพิจารณาของธนาคาร ซึ่งขึ้นอยู่กับทรัพย์และ ภาระหนี้ โดยจะต้องไม่เกินกว่าเงินต้นในบัญชีสินเชื่อเพื่อธุรกิจที่มีกับธนาคาร ราคาการซื้อทรัพย์คืน ธนาคารมีวิธีคิดอย่างไร ต้นทุนรับโอน +ค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาทรัพย์ที่ไว้กับธนาคาร โดยคิด 1% ของราคาที่รับโอน + ค่าใช้จ่ายในการดูแลทรัพย์ตามจริงตามระยะเวลาในการซื้อคืนไม่เกิน 3-5 ปี – ค่าเช่าที่ลูกหนี้จ่ายให้กับธนาคารตลอดสัญญา ลูกค้าขอเข้าร่วมโครงการพักทรัพย์ พักหนี้ (Asset Warehousing) กับธนาคารกสิกรไทยแล้ว สามารถเข้าร่วมกับธนาคารอื่นได้อีกหรือไม่ ลูกค้าสามารถเข้าร่วมกับธนาคารอื่นได้ หลักประกันจะตีโอน ต้องเป็นชื่อเดียวกับผู้กู้หรือไม่ ไม่จำเป็น แต่ต้องเป็นทรัพย์สินที่เป็นหลักประกันธนาคาร ก่อนวันที่ 1 มีนาคม 2564 ลูกค้าสามารถขอซื้อทรัพย์คืนโดยการขอสินเชื่อ ได้หรือไม่ สามารถทำได้ ลูกค้าสามารถซื้อทรัพย์เดิมด้วยเงินสด หรือ จะขอสินเชื่อกับธนาคารได้ |