คําถามพัฒนากระบวนการคิด การงานอาชีพ ม.1 เฉลย

ปีการศึกษา

ชั้น

กลุ่มสาระ

ชั่วโมง 20

แผนการสอนโดย -

ครูผู้สอน ครูนิพนธ์ เชิญทอง และครูรุ่งทิพย์ แสงรุ่ง

กําหนดการรายชั่วโมง

คําถามพัฒนากระบวนการคิด การงานอาชีพ ม.1 เฉลย
กำหนดการจัดการเรียนรู้รายชั่วโมง รายวิชา การงานอาชีพ

ครูนิพนธ์ เชิญทอง และครูรุ่งทิพย์ แสงรุ่ง
การงานอาชีพ

หนงั สือแบบฝึกหดั การงานอาชพี รายวชิ า ง21101 การงานอาชพี 1 ง21102 การงานอาชีพ 2 ระดับมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 1

หนงั สอื แบบฝึกหัดการงานอาชีพ รายวิชา ง21101 การงานอาชีพ 1 ง21102 การงานอาชีพ 2 ระดบั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 รหสั วชิ า ง21101 รายวิชา การงานอาชพี 1 จานวน 0.5 หนว่ ยกติ เวลา 20 ชวั่ โมง/ภาคเรยี น ระดบั ชั้น หอ้ งทส่ี อน ม.1/1-15 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564 ครผู สู้ อน นางนชุ รี บัวคีรี, นายมะนแู มรี ลีมงิ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชวี้ ัด/ผลการเรยี นรู้ ง 1.1 เขา้ ใจการทางาน มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการทางาน ทักษะการจดั การ ทักษะ กระบวนการแกป้ ญั หา ทักษะการทางานร่วมกนั และทักษะการแสวงหาความรู้ มีคุณธรรม และลักษณะ นสิ ัยในการทางาน มจี ติ สานกึ ในการใชพ้ ลังงาน ทรัพยากร และสง่ิ แวดล้อม เพ่ือการดารงชีวติ และ ครอบครัว ม 1/1 วิเคราะหข์ ั้นตอนการทางานตามกระบวนการทางาน ม 1/2 ใชก้ ระบวนการกลมุ่ ในการทางานดว้ ยความเสียสละ ม 1/3 ตัดสินใจแก้ปัญหาอย่างมเี หตุผล ง 2.1 เข้าใจ มที ักษะท่ีจาเป็น มีประสบการณ์ เห็นแนวทางในงานอาชพี ใช้เทคโนโลยเี พือ่ พัฒนาอาชพี มคี ณุ ธรรม และเจตคติทด่ี ีต่ออาชพี ม 1/1 อธิบายแนวทางการเลอื กอาชพี ม 1/2 มีเจตคติทดี่ ีตอ่ การประกอบอาชีพ ม 1/3 เหน็ ความสาคัญของการสรา้ งอาชพี 2

หนงั สอื แบบฝกึ หัดการงานอาชพี รายวิชา ง21101 การงานอาชพี 1 ง21102 การงานอาชีพ 2 ระดบั มัธยมศึกษาปที ี่ 1 รหสั วิชา ง21101 ชอ่ื วิชา การงานอาชพี 1 กลุม่ สาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 ภาคเรียนที 1 เวลา 20 ช่วั โมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ คำอธิบายรายวชิ า สรุป และหาความสัมพนั ธ์ข้นั ตอนการทำงานตามกระบวนการทำงาน ปฏบิ ตั ิงานกลุ่มได้ตามข้ันตอน ดว้ ยความเสยี สละ ตัดสินใจแกป้ ัญหาการทำงานอยา่ งมีเหตผุ ล โดยใช้ข้ันตอนการทำงานตามกระบวนการทำงาน ใชก้ ระบวนการกลุ่มในการทำงาน และกระบวนการ แก้ปญั หา เพื่อให้นักเรียนมีความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต และความสามารถในการใช้เทคโนโลยี มีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่ือสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งม่ันในการทำงาน รักความเป็นไทย และมีจิตสาธารณะ บรรลุตามพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของในหลวงรัชการท่ี 10 มุ่งสร้างพื้นฐานให้ผู้เรียนมีทัศนคติที่ ถูกต้องตอ่ บา้ นเมอื ง มพี ้ืนฐานชวี ติ ที่มน่ั คง มีงานทำ มีอาชีพ และเปน็ พลเมืองดี มาตรฐาน มาตรฐาน ง 1.1 เข้าใจในการทำงาน มคี วามคดิ สร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการทำงาน ทักษะจัดการ ทกั ษะกระบวนการแก้ปญั หา ทกั ษะการทำงานร่วมกนั และทักษะการแสวงหาความรู้ มีคุณธรรมและลักษณะ นสิ ัยในการทำงาน มจี ติ สำนึกในการใชพ้ ลงั งาน ทรพั ยากร และสง่ิ แวดล้อมเพือ่ การดำรงชวี ิตและครอบครัว ตวั ชีว้ ดั 1. วิเคราะห์ขน้ั ตอนการทำงานตามกระบวนการทำงาน 2. ใชก้ ระบวนการกลุ่มในการทำงานดว้ ยความเสียสละ 3. ตัดสนิ ใจแก้ปัญหาการทำงานอยา่ งมีเหตุผล 3

หนังสอื แบบฝึกหดั การงานอาชพี รายวิชา ง21101 การงานอาชีพ 1 ง21102 การงานอาชีพ 2 ระดบั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 โครงสร้างรายวชิ า รหัสวชิ า ง21101 รายวิชา การงานอาชพี 1 ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 1 จำนวน 20 ชัว่ โมง สัดส่วนคะแนน ระหวา่ งเรยี น : กลางภาค : ระหวา่ งเรียน : ปลายภาค = 30 : 20 : 30 : 20 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี มาตรฐานการเรยี นรู/้ สาระสำคัญ เวลา คะแนน ตวั ชีว้ ัด (ชวั่ โมง) 1. บา้ นนา่ อยู่ ง 1.1 ม.1/1 - การทำงานใหม้ ี ม.1/2 ประสิทธภิ าพ ม.1/3 - การเลือกใช้ การเก็บ 10 50 อปุ กรณ์ในการทำความ สะอาดบา้ น - การจัดตกแต่งหอ้ ง 2. แต่งกายดี มีเสน่ห์ ง 1.1 ม.1/1 - ความสำคญั และ ม.1/2 ประโยชนข์ องเส้ือผ้า ม.1/3 - การดูแลเสือ้ ผา้ 10 50 - การเลือกใช้อุปกรณ์ ซอ่ มแซมเส้ือผ้า - การซ่อมแซมเสือ้ ผา้ 4

หนงั สือแบบฝกึ หดั การงานอาชพี รายวชิ า ง21101 การงานอาชีพ 1 ง21102 การงานอาชพี 2 ระดับมธั ยมศึกษาปที ่ี 1 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 บ้านนา่ อยู่ สาระสำคัญ การทำงานใหม้ ปี ระสิทธิภาพ แบบทดสอบก่อนเรียน คำชแี้ จง ให้นกั เรียนเลือกคำตอบโดยทำเครื่องหมาย ข้อทถี่ กู ต้องทส่ี ุดเพยี งขอ้ เดียว 1) ในการปฏิบัตงิ านควรทำสง่ิ ใดเป็นอันดับแรก คะแนนท่ไี ด้ ก. การวเิ คราะห์งาน เต็ม 10 คะแนน ข. การวางแผนการทำงาน ค. ประเมินผลการทำงาน ง. การปฏบิ ัติงานตามลำดบั ขัน้ ตอน 2) หลังจากการทำงานเสร็จแล้วสงิ่ ท่จี ะชว่ ยพัฒนาทักษะกระบวนการทำงานคอื ขอ้ ใด ก. การวางแผนการทำงาน ข. การวเิ คราะห์งาน ค. ประเมินผลการทำงาน ง. การปฏบิ ัติงานตามลำดบั ข้ันตอน 3) กระบวนการกลมุ่ จะต้องมีคนตงั้ แต่กี่คนขึน้ ไป 1. 2 คน 2. 3 คน 3. 4 คน 4. 5 คน 4) การทำงานกล่มุ จะตอ้ งยดึ หลกั การในขอ้ ใด 1. ปฏบิ ัติงานเฉพาะท่ีตนชอบ 2. เวลาปฏิบัติงานจะตอ้ งขัดแย้งกบั สมาชิกเสมอ 3. สร้างบรรยากาศทีด่ ีในการทำงาน 4. ในการทำงานไมป่ รกึ ษากนั ในกลมุ่ 5) การคิดไว้ล่วงหน้าวา่ จะทำอะไรคือข้อใด 1. การวางแผน 2. การปรับปรุงงาน 3. การปฏิบัตงิ าน 4. การประเมนิ ผล 6) ในการแก้ปญั หาการทำงานควรคำนึงถึงข้อใด 1. การสงั เกต 2. การวิเคราะห์ 3. การวางแผนเพื่อทำงาน 4. ถูกทกุ ขอ้ 5

หนงั สือแบบฝกึ หัดการงานอาชีพ รายวิชา ง21101 การงานอาชพี 1 ง21102 การงานอาชีพ 2 ระดับมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 7) การวางแผนท่ดี ีจะต้องคำนงึ ถงึ สิ่งใด 1. การลงมือปฏบิ ตั งิ าน 2. การจำแนกงาน 3. การเขียนรายงาน 4. การรวบรวมข้อมูลของงาน 8) การวางแผนงานท่ดี ีจะต้องมีรายละเอียดอะไรบา้ ง 1. วนั และเวลาท่ีทำแผนงาน 2. ผู้รับผิดชอบ 3. ผรู้ บั ผิดชอบ 4. ถกู ทุกขอ้ 9) การติดตามงานเพ่ือปรบั ปรุงแกไ้ ขคอื ขอ้ ใด 1. การวางแผนงาน 2. การปฏิบตั ิงาน 3. การมอบหมายงาน 4. การประเมินผล 10) ในการทำงานเพอื่ ประหยดั เวลาในการทำงานควรทำอยา่ งไร 1. วางงานไวใ้ กลบ้ ริเวณทำงาน 2. วางงานไว้ขา้ ง ๆ บริเวณทำงาน 3. วางงานไวบ้ ริเวณทำงานและหยิบงา่ ย 4. วางงานหา่ งจากบรเิ วณทำงานเลก็ นอ้ ย 6

หนังสอื แบบฝกึ หัดการงานอาชพี รายวชิ า ง21101 การงานอาชีพ 1 ง21102 การงานอาชีพ 2 ระดับมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 1 บ้านน่าอยู่ สาระสำคัญ การทำงานให้มปี ระสิทธภิ าพ ทักษะ หมายถึง ความชัดเจน และความ ทักษะกระบวนการทำงาน ชำนิชำนาญในเร่ืองใดเรื่องหน่ึง ซ่ึงบุคคล สามารถสร้างข้ึนไดจ้ ากการเรยี นรู้ หมายถงึ การลงมอื ทำงานต่างๆดว้ ยตนเอง ทั ก ษ ะ ก า ร ท ำ ง า น ห ม า ย ถึ ง บรรลุตามเป้าหมาย โดยมีขั้นตอนดังน้ี ค ว า ม ส า ม า ร ถ ใน ก า ร ท ำ ง า น ไ ด้ อ ย่ า ง คล่องแคล่ว ว่องไว รวดเร็ว ถูกต้อง 1.วเิ คราะห์การทำงาน แม่นยำ และความชำนาญในการปฏิบัติ 2.การวางแผนในการทำงาน จนเปน็ ทีเ่ ช่ือถือและยอมรับ 3.การลงมือทำงาน 4.การประเมนิ การทำงาน ทักษะทจ่ี ำเปน็ ตอ่ กระบวนการทำงาน ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา กระบวน การ หมายถึงแนวทางการ หมายถึง การหาทางออกเมือ่ พบปญั หาหรอื ดำเนนิ งานเร่อื งใดเรอ่ื งหนึง่ อยา่ งมีขน้ั ตอน สถานการณ์จรงิ โดยมีขนั้ ตอนดังน้ี ซ่ึงวางไว้อย่างเป็นลำดับตั้งแต่ต้นจนจบ แ ล้ ว เส ร็ จ ต าม จุ ด ป ร ะ ส ง ค์ ที่ ก ำห น ด ไ ว้ 1.สังเกต ข้ันตอนดังกล่าวช่วยให้การดำเนินการมี 2.วิเคราะห์ ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ น ำ ไ ป สู่ ค ว า ม ส ำ เร็ จ ต า ม 3.สร้างทางเลอื ก จุดประสงค์และเป้าหมายได้ โดยใช้เวลา 4.การประเมนิ ทางเลือก และทรัพยากรน้อยทสี่ ุด ทักษะการร่วมทำงาน/กระบวนการกลุ่ม การทำงาน หมายถึง กิจกรรมท่ีกระทำ ข้ึน ด้วยก ำลังก ายและก ำลังใจ เพื่ อ หมายถึง การรว่ มกันทำงาน มีหลกั การดงั น้ี จุดมุ่งหมายหน่ึงท่ีเขาต้องการ เช่น เพ่ือ 1.รู้จักบทบาทหน้าทภ่ี ายในกลุม่ การดำรงชวี ิต เพ่ือความสบายใจ หรือเพ่ือ 2.มที กั ษะในการฟัง พูด เสดงความ ช่ ว ย ส่ ง เ ส ริ ม สั ง ค ม เ ป็ น ต้ น คิดเหน็ และอธิปรายในกลุม่ 3.มคี ุณธรรมในการทำงานรว่ มกัน 4.สรุป 5.นำเสนอ ทักษะแสวงหาความรู้ หมายถงึ การคน้ ควา้ หาความรู้เพ่ือใหไ้ ดข้ ้อมูลที่ สนใจหรือต้องการ สามารถปฏิบัติต่อไปนี้ 1.กำหนดปัญหาในการสบื ค้น 2.การวางแผนการสืบคน้ 3.ดำเนินการสืบคน้ 4.วเิ คราะหข์ อ้ มลู จาการสืบคน้ 5.สรปุ ทักษะการจดั การ หมายถึง ความสามารถของทุกคนท่ีสามารถจัด กระบวนการทำงาน แบง่ ออกเปน็ 2 ประเภท ดงั นี้ 1.การจดั ระบบงาน(การทำงานเด่ยี ว) 7 2.การจัดระบบคน(การทำงานกลุ่ม)

หนังสอื แบบฝกึ หัดการงานอาชพี รายวชิ า ง21101 การงานอาชพี 1 ง21102 การงานอาชพี 2 ระดบั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 ทักษะกระบวนการทำงาน การวเิ คราะห์งาน นักเรียนแตล่ ะคนหรือแต่ละกลมุ่ จะต้องศกึ ษารายละเอียด ของงานที่จะทำว่ามีลักษณะอย่างไร มีรายละเอียด ปลกี ยอ่ ยอะไรบ้าง เพื่อนำข้อมลู เหล่านไี้ ปใช้ในการกำหนด วัตถุประสงค์ การเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือใน การทำงาน พร้อมกับกำหนดวิธีการทำในขั้นการวางแผน ในการทำงาน การวางแผนในการทำงาน 4 นกั เรยี นแต่ละคนหรอื แตล่ ะกล่มุ ควรร่วมกัน วางแผนการทำงาน เพ่อื กำหนดแนวทางในการ ขัน้ ตอน ปฏบิ ัตงิ านไวล้ ว่ งหนา้ ว่าจะทำอะไร ทำเมอื่ ไร ทำวิธใี ด ใครเป็นผู้ทำ กำหนดระยะเวลาในการ กระบวนการทำงาน ทำงานเสร็จเมือ่ ใด แลว้ จงึ กำหนดภาระงาน หรือหน้าทคี่ วามรับผิดชอบของแต่ละคน ได้แก่ รายการงานทีต่ อ้ งปฏบิ ัติ เวลาปฏบิ ตั งิ าน และ ผรู้ ับผิดชอบ การปฏิบตั งิ าน การประเมินผลการทำงาน เมอ่ื นักเรียนแต่ละคนหรอื แตล่ ะกลุ่มไดร้ ับ มอบหมายหน้าท่ีและความรับผิดชอบแล้ว ให้ลงมอื ปฏบิ ตั งิ านจรงิ ตามแผนท่วี างไว้ คือการที่นักเรียนได้ประเมินผลทั้งการวางแผนก่อนการทำงาน ขณะปฏิบัติงานและเม่ืองานสำเร็จแล้ว โดยขั้นตอนในการ วางแผนก่อนการทำงาน ให้ประเมินว่าได้วางแผนไว้รอบคอบ รดั กุมหรือไม่จะต้องเตรยี มอะไรบ้าง ตรวจสอบดูแผน ท่ีวางไว้ว่า เป็นไปได้หรือไม่ ขณะปฏิบัติให้ประเมินว่าวิธีการทำงานเป็น อย่างไรบ้างมีข้อบกพร่องที่จะต้องปรับปรุงอย่างไร และเมื่องาน สำเร็จให้ประเมินวา่ ผลงานทอ่ี อกมาเป็นไปตามจุดมุ่งหมายหรือไม่ มีข้อดีข้อเสียอย่างไร เพ่ือจะได้แก้ไขและปรับปรุงผลงานของตน ให้ดขี ้นึ 8

หนงั สอื แบบฝึกหดั การงานอาชพี รายวชิ า ง21101 การงานอาชีพ 1 ง21102 การงานอาชพี 2 ระดับมธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 ใบงานที่ 1 ทกั ษะกระบวนการทำงาน การวเิ คราะหง์ าน การวิเคราะห์งานทำให้เราทราบถึงอะไร 1.ลกั ษณะงาน ............................................................. ............................................................. ............................................................... 2.คุณสมบตั ขิ องผปู้ ฏบิ ัติงาน ....................................... .............................................................. การวางแผนในการทำงาน 4 ประโยชน์ของการวางแผนการทำงานมี อะไรบ้าง ข้นั ตอน 1. ……………………………………………………………. 2. ……………………………………………………………. กระบวนการทำงาน 3. ……………………………………………………………. 4. ……………………………………………………………. 5. ……………………………………………………………. การปฏบิ ัติงาน การประเมินผลการทำงาน เพือ่ ใหต้ นเอง หรอื สมาชกิ ในกลุ่ม ปฏบิ ตั ิงานตามขนั้ ตอนควรทำเชน่ ไร การประเมนิ ผลการทำงานนัน้ ควรประเมนิ ………………………………………………………… เมอื่ งานเสร็จแล้วเท่านัน้ ถกู ตอ้ งหรือไม่ ………………………………………………………… อย่างไร .................................................................... .................................................................... ................................................................... 9

หนังสือแบบฝึกหดั การงานอาชีพ รายวชิ า ง21101 การงานอาชพี 1 ง21102 การงานอาชพี 2 ระดบั มัธยมศึกษาปที ี่ 1 กระบวนการกลุ่ม หมายถึง การทำงานร่วมกัน ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยมีวัตถุประสงค์ หรือเป้าหมายในการทำงาน เดียวกัน สมาชิกในกลุ่ม ช่วยกันทำงานตามที่ได้รบั มอบหมาย เมื่อทำงานเสร็จแล้วมีการประเมินผลวา่ เป็นไป ตามที่ตั้งเปา้ หมายไว้หรือไม่ ถา้ ไมแ่ ล้วจะกันหาทาง แกป้ ญั หา ปรบั ปรงุ หรือพฒั นาตอ่ ได้อยา่ งไรบา้ ง ลกั ษณะของการทำงานกล่มุ 6 ขัน้ ตอนกระบวนการกลมุ่ มปี ฏสิ ัมพนั ธ์กนั ระหวา่ งสมาชกิ 1 การเลือกหวั หน้ากลมุ่ หวั หน้ากลมุ่ เปน็ ผู้ทำให้งาน ภายในกลุ่มให้ ความสำคัญ สำเร็จ ตามเป้าหมายโดยอาศัยความร่วมมอื ของสมาชกิ ยอมรับ และใหเ้ กียรตกิ ัน ในกล่มุ สมาชิกในกลุ่มทำงานโดยมี 2 การกำหนดเปา้ หมาย เปา้ หมายเป็นตวั กำหนดสิ่งที่ เป้าหมายเดยี วกัน ชว่ ยเหลือกนั กลมุ่ ต้องการว่าคืออะไร สมาชิกในกลมุ่ ต้องมเี ป้าหมาย เพ่อื ใหเ้ ป้าหมายกลุม่ สำเร็จ เดยี วกนั สมาชิกในกลมุ่ ปฏิบัตติ าม 3 การวางแผนในการทำงาน เป็นการกำหนดกจิ กรรม กฎระเบียบหรอื มติ ของกลุ่ม ในการทำงานไว้ลว่ งหน้า ว่าจะทำอะไรก่อนหลัง ใครทำ สมาชิกมบี ทบาทหนา้ ท่ตี ามที่ 4 การแบง่ งานตามความสามารถ หวั หนา้ กลมุ่ จะมี ไดร้ บั มอบหมาย ตาม บทบาท ในการมอบหมายงานแกส่ มาชกิ ตาม ความสามารถ และความถนัด ความสามารถ 5 การปฏิบตั ติ ามบทบาทหนา้ ที่ สมาชิกมหี น้าที่ปฏิบตั ิ ตามแผนหรืองานทไี่ ด้รับมอบหมายและควบคุมให้ บรรลเุ ป้า 6 การประเมินผลและการปรบั ปรงุ งาน เป็นขนั้ ตอนท่จี ะ ลกั ษณะของกลุ่มที่ดี ทำใหก้ ลุ่มทราบวา่ การทำงานของกลมุ่ น้ันบรรลุตาม เป้าหมายหรอื ไม่ มีปญั หาอุปสรรคท่ีตอ้ งแกไ้ ข 1. สมาชกิ ทกุ คนรภู้ ารกิจ เป้าหมาย บทบาทหน้าที่ อะไรบา้ ง 2. หัวหนา้ มีความสามารถ กล้าคิด กล้าตัดสินใจ ทีม่ า: หนังสอื เรียนการงานอาชีพและ เทคโนโลยี ม.1 สำนกั พิมพ์ วพ. 3. สมาชกิ มีความสามารถทหี่ ลากหลาย มี ความสามารถ ในดา้ นที่เชยี วชาญ และรับผิดชอบในงานท่ไี ด้รับมอบหมาย 4. บรรยากาศในการทำงานควรผ่อนคลาย ไมเ่ ครียด 10

หนงั สือแบบฝกึ หดั การงานอาชีพ รายวชิ า ง21101 การงานอาชีพ 1 ง21102 การงานอาชพี 2 ระดับมัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 แบบทดสอบท่ี 2 เร่อื ง กระบวนการทำงานและกระบวนการกลมุ่ คำส่ัง จง เลอื กคำตอบที่ถกู ต้องท่สี ุดเพยี งคำตอบเดยี ว โดยทำเคร่อื งหมาย หนา้ ขอ้ ท่ีเลอื กตอบ 1. การศกึ ษาลักษณะของงานจะเกดิ ขึ้นในขน้ั ตอนใดของกระบวนการทำงาน ก. การวเิ คราะห์งาน ค. การประเมินผลการทำงาน ข. การวางแผนในการทำงาน ง. การปฏิบัตงิ านตามลำดับขันตอน 2. ขอ้ มลู ในขอ้ ใดทีเ่ หมาะจะนำมาใช้ในการวางแผนในการทำงานมากทส่ี ดุ ก. มีหวั ขอ้ ครบถ้วน ค. มีแหลง่ ขอ้ มูลทอ่ี า้ งองิ ได้ ข. มีความเป็นปจั จบุ ัน ง. มีความถูกต้องและเปน็ จรงิ 3. ข้อใดกลา่ วถกู ต้องที่สุดเก่ียวกับลกั ษณะการวางแผนทีด่ ี ก. มีความยดื หยนุ่ ค. มรี ายละเอยี ดครบถ้วน ข. นำไปปฏบิ ตั ไิ ด้จริง ง. มีการกำหนดหน้าท่ีและความรับผิดชอบ 4. การวเิ คราะหง์ านลักษณะงานใดสามารถทำไดด้ ว้ ยตนเอง ก. การใหต้ อบแบบสอบถาม ค. การอภปิ รายการทำงานของบุคคล ข. การสัมภาษณ์ผ้ทู มี่ คี วามรู้ ง. การศึกษาคน้ ควา้ จากอินเทอรเ์ นต็ 5. ขอ้ ใดไมจ่ ำเปน็ ต้องระบใุ นการวางแผนการทำงาน ก. งานที่ต้องปฏิบตั ิ ค. วิธกี ารประเมินผลการทำงาน ข. กำหนดระยะเวลาในการทำงาน ง. วสั ดุ อุปกรณ์ และเครอ่ื งมือทำงาน 6. การวางแผนการทำงานทีด่ ีจะส่งผลตอ่ การปฏบิ ตั งิ านอย่างไร ก. ทำงานได้อยา่ งปลอดภัย ค. ทำงานไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ และง่ายข้นึ ข. ทำงานได้อย่างละเอยี ดถี่ถ้วน ง. สามารถแก้ไขปญั หาที่เกิดขน้ึ จากการทำงานได้ 7. ธนากรลงมือทำงานตามหน้าท่ขี องตนเอง ธนากรอย่ใู นข้นั ตอนใดของกระบวนการทำงาน ก. การวเิ คราะห์งาน ค. การประเมนิ ผลการทำงาน ข. การวางแผนในการทำงาน ง. การปฏิบัติงานตามลำดับขน้ั ตอน 8. ใครมีคุณสมบตั ิเหมาะท่ีจะเลย้ี งไก่มากทสี่ ุด ก. โชค มีความรูด้ า้ นการทำแกงไก่ ค. เอก ชอบประดิษฐ์ของตกแตง่ จากขนไก่ ข. จ่ะจ๋า ชอบเพนท์ลวดลายบนเปลอื กไข่ ง. หญิงชอบศึกษาขอ้ มูลเกย่ี วกบั การดูแลและใหอ้ าหาร สัตวป์ ีก 9. ขอ้ ใดคอื ประโยชนข์ องการประเมินผลการทำงาน ก. เพ่ือใหเ้ ข้าใจลักษณะของงานมากขึน้ ค. เพ่อื ให้รู้วา่ งานที่ทำสำเร็จตามท่ีตอ้ งการหรอื ไม่ ข. เพ่อื ให้สามารถปฏิบตั งิ านได้สะดวกขึ้น ง. เพอ่ื กำหนดคณุ สมบตั ขิ องผูป้ ฏิบตั ิงานไดเ้ หมาะสมกบั งาน 10. ถ้าประเมนิ ผลหลังจากทำงานเสร็จแลว้ พบว่ามขี ้อบกพรอ่ งหลายอยา่ ง ควรแกไ้ ขอยา่ งไร ก. ปรบั ปรงุ งานทนั ที ค. ปรับปรงุ ขั้นตอนการทำงานทมี่ ีปญั หา ข. ปรับการทำงานในครงั้ ต่อไป ง. ปล่อยไว้เฉยๆเพราะไมส่ ามารถแกไ้ ขปัญหาได้ 11

หนงั สอื แบบฝกึ หัดการงานอาชพี รายวชิ า ง21101 การงานอาชพี 1 ง21102 การงานอาชีพ 2 ระดบั มัธยมศึกษาปที ี่ 1 11. ขอ้ ใดคอื ลักษณะที่สำคัญที่สุดของการทำงานกลุ่ม ก. สมาชิกมเี ปา้ หมายเดียวกัน ค. สมาชกิ ทำงานเตม็ ความสามารถ ข. หัวหน้ากลุม่ มคี วามรับผิดชอบ ง. เลขานุการเผยแพร่งานได้เป็นอย่างดี 12. ขอ้ ใดไม่ใชห่ ลกั การของกระบวนการกลุม่ ก. มีความจรงิ ใจตอ่ เพ่ือนร่วมงาน ค. ติดตอ่ ส่ือสารดว้ ยข้อความท่เี ขา้ ใจงา่ ย ข. สมาชกิ รู้จักบทบาทหนา้ ทข่ี องตนเอง ง. การสรุปผลเปน็ หน้าที่ของหวั หนา้ กลมุ่ 13. การสือ่ สารระหว่างสมาชกิ ในกลุม่ วิธีใดทำใหเ้ กดิ ความเข้าใจไดง้ ่าย ก. การใช้คำพูด ค. การแสดงภาพถ่าย ข. การแสดงทา่ ทาง ง. การเขยี นขอ้ ความยาวๆ 14. ข้อใดเปน็ คุณสมบตั ิที่สำคัญที่สดุ ของหวั หนา้ กลุม่ ก. มีความรู้ ค. มีมนุษยสัมพันธ์ ข. มคี วามอดทน ง. มคี วามริเรมิ่ สร้างสรรค์ 15. สมาชิกภายในกล่มุ ควรปฏบิ ตั ิตามคำสงั่ ของใครมาทีส่ ุด ก. หัวหน้ากล่มุ ค. ผู้ท่มี เี งนิ มาที่สุดในกล่มุ ข. เลขานุการกลุ่ม ง. ผ้ทู ม่ี อี ายุมากที่สุดในกลมุ่ 16. อมติ า เป็นผู้ที่สามารถบันทกึ การประชมุ ได้ดี ในการทำงานกลุ่ม อมิตาควรทำหน้าท่ีใด ก. หัวหน้ากลุ่ม ค. สมาชิกกลมุ่ ข. เลขานุการกลมุ่ ง. ผเู้ ชีย่ วชาญกลุม่ 17. สมโชคเป็นหวั หน้ากลุม่ จึงเป็นผู้นำในการทำกจิ กรรม จัดเป็นข้นั ตอนใดของกระบวนการกลุ่ม ก. การวางแผน ค. การแบง่ งานตามความสามารถ ข. การปฏบิ ตั ิตามบทบาทหนา้ ที่ ง. การประเมนิ ผลและการปรบั ปรงุ งาน 18. ใครมีพฤติกรรมท่แี สดงวา่ สามารถทำงานร่วมกบั กลุ่มได้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ ก. อานัต ยดึ มัน่ ในความคดิ ของตนเอง ค. สมหมาย ยอมรบั ฟงั ความคิดเห็นของผอู้ ื่น ข. สมศรี อาสาทำงานของกลุม่ ทกุ อย่าง ง. สมปอง ศกึ ษารายละเอียดของงานกอ่ นลงมือทำ 19. ข้อใดเปน็ ความสำคญั ของอุปกรณใ์ นการทำงาน ก. เกิดความสะดวกในการทำงาน ค. ทำใหผ้ ลงานทีอ่ อกมาไม่มคี ณุ ภาพ ข. เพ่ิมเวลาใหก้ ารทำงานมากขน้ึ ง. ชว่ ยประหยดั ค่าใช้จา่ ยในระยะส้ัน 20. ศรีสมร ทำดอกกุหลาบจากเกลด็ ปลาเสร็จแล้ว พบวา่ เกล็ดปลาบางชิน้ หลุด เธอจงึ ใช้กาวติดใหม่ ศรสี มร ปฏิบตั ติ ามกระบวนการทำงานขั้นตอนใด ก. การปฏิบัตงิ าน ค. การประเมนิ ผลงาน ข. การวิเคราะห์งาน ง.การวางแผนในการทำงาน จากแบบทดสอบ 20 ขอ้ ข้างตน้ นกั เรยี นตอบถกู ต้องกีข่ ้อ .............. ขอ้ แบบทดสอบขอ้ ไหนทนี่ กั เรยี นคดิ วา่ ยากทีส่ ุด คอื ขอ้ ................. เพราะอะไร .................................................................................. นกั เรียนอยากใหค้ ณุ ครูอธิบายเพ่ิมเติมในเร่อื งใด ............................................................ .......................................................................................................................................... 12

หนังสอื แบบฝกึ หดั การงานอาชพี รายวชิ า ง21101 การงานอาชีพ 1 ง21102 การงานอาชีพ 2 ระดบั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 บ้านนา่ อยู่ สาระสำคัญ การเลอื กใช้ การเกบ็ อปุ กรณ์ในการทำความสะอาดบา้ น ใบงานท่ี 2 เรือ่ ง การใช้อปุ กรณ์อำนวยความสะดวกในการทำงานบ้าน คำชี้แจง ให้นกั เรยี นจับคู่เพ่อื น และถามคำถามดังต่อไปนี้แลว้ เขียนคำตอบทเี่ พ่อื นไดต้ อบลงในช่องว่าง ในแต่ละขอ้ หากขอ้ ใดเพ่อื นตอบวา่ ไมม่ ี หรอื ไมเ่ คย ให้เขียนวา่ ไม่มี หรอื ไม่เคยในขอ้ น้ันๆ 1. คุณรหู้ รอื ไม่วา่ งานบ้าน คอื อะไร .............................................................................................................................. 2. คุณเคยช่วยพ่อแม่ ทำงานบ้าน อะไรบ้าง 1. …………………………………………………… 2. …………………………………………………… 3. …………………………………………………… 3. มงี านบา้ นอะไรบา้ งทพ่ี ่อแม่ ยงั ไมอ่ นุญาตให้คุณทำ หรอื ชว่ ยทำ 1. …………………………………………………. 2. …………………………………………………. 4. มีงานบ้านอะไรบ้างที่คุณคดิ ว่าสามารถทำไดอ้ ย่างชำนาญและปลอดภยั 1. …………………………………………………. 2. …………………………………………………. 5. บอกความรสู้ ึกของคณุ เมอ่ื แม่ใชใ้ ห้ชว่ ยงานบ้าน ....................................................................... ลงชื่อผู้สอบถาม .................................................... เลขที่ ........ 13

หนงั สือแบบฝกึ หัดการงานอาชีพ รายวิชา ง21101 การงานอาชพี 1 ง21102 การงานอาชพี 2 ระดบั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 บ้านน่าอยู่ สาระสำคญั การเลอื กใช้ การเกบ็ อปุ กรณ์ในการทำความสะอาดบ้าน ใบงานที่ 3 ร้จู กั อปุ กรณท์ ำความสะอาดบา้ น จงบอกชอ่ื และบรรยายลักษณะปรากฏของไม้กวาดแตล่ ะชนิดตอ่ ไปน้ี 1.ช่อื 2.ชอ่ื 3.ชอ่ื 4.ชอื่ 5.ช่ือ 1 6.ชอ่ื 34 6 25 ท่มี าภาพ : https://www.baanlaesuan.com อุปกรณห์ มายเลขใด ใช้ทำความสะอาดนอกบา้ น ...................... อุปกรณห์ มายเลขใด เหมาะสำหรับใช้กับพนื้ เปียก ..................... อปุ กรณห์ มายเลขใด สามารถนำมาใช้แทนกนั ได้ ..................... 14

หนังสอื แบบฝกึ หัดการงานอาชพี รายวชิ า ง21101 การงานอาชีพ 1 ง21102 การงานอาชพี 2 ระดบั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 1 บา้ นน่าอยู่ สาระสำคญั การเลือกใช้ การเก็บ อุปกรณ์ในการทำความสะอาดบ้าน ใบงานท่ี 4 อปุ กรณท์ ำความสะอาดบา้ น ใช้ถูกวิธี เก็บอยา่ งปลอดภัย จงบอกขอ้ ควรระวงั ในการใช้ และวิธกี ารเก็บรักษา วสั ดุและอุปกรณท์ ำความสะอาดต่อไปนี้ แปรงลวด ข้อควรระวงั การเก็บรกั ษา นำ้ ยาทำความสะอาด ข้อควรระวงั การเก็บรักษา ฟองนำ้ ลา้ งจาน ขอ้ ควรระวัง การเกบ็ รักษา 15

หนงั สือแบบฝึกหดั การงานอาชพี รายวิชา ง21101 การงานอาชพี 1 ง21102 การงานอาชีพ 2 ระดับมธั ยมศึกษาปที ี่ 1 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 บา้ นน่าอยู่ สาระสำคญั การเลือกใช้ การเก็บ อปุ กรณ์ในการทำความสะอาดบ้าน ใบงานที่ 5 มาทำความสะอาดห้องกัน 1) ใหน้ กั เรียนระบุช่อื อุปกรณท์ เ่ี หมาะสมกับการทำความสะอาดหอ้ ง ในตำแหน่งทก่ี ำหนดไว้ในช่องวา่ ง 2) จากขอ้ 1 นักเรยี นจะวางแผนในการทำความสะอาดหอ้ งน้อี ยา่ งไร จงระบเุ ป็นลำดับขนั้ ตอน (สามารถเพ่มิ ลด ข้ันตอนได้ตามเหมาะสม) ขน้ั ตอนท่ี 1 …………………………………………………………………………………………………………………………………… ขน้ั ตอนท่ี 2 …………………………………………………………………………………………………………………………………… ขนั้ ตอนที่ 3 …………………………………………………………………………………………………………………………………… ขัน้ ตอนที่ 4 …………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้นั ตอนที่ 5 …………………………………………………………………………………………………………………………………… ขัน้ ตอนท่ี 6 …………………………………………………………………………………………………………………………………… ขั้นตอนท่ี 7 …………………………………………………………………………………………………………………………………… ขั้นตอนที่ 8 …………………………………………………………………………………………………………………………………… ขั้นตอนท่ี 9 …………………………………………………………………………………………………………………………………… ขั้นตอนที่ 10 …………………………………………………………………………………………………………………………………… 16

หนงั สอื แบบฝกึ หัดการงานอาชพี รายวิชา ง21101 การงานอาชีพ 1 ง21102 การงานอาชีพ 2 ระดับมัธยมศกึ ษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 1 บา้ นน่าอยู่ สาระสำคัญ การจัดตกแต่งหอ้ ง ใบงานท่ี 6 คำถามชวนคดิ กับการจัดตกแตง่ บา้ น 1. การจดั ตกแต่งบ้านมคี วามสำคัญอย่างไร ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 2. เพราะเหตุใดจึงต้องจัดใหห้ อ้ งนอนมเี คร่อื งเรอื นนอ้ ยท่ีสดุ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 3. มา่ นและมู่ลี่ ช่วยประหยดั พลงั งานได้อย่างไร ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 4. ถา้ ตอ้ งการประหยดั ทรพั ยากรในการจัดและตกแต่งบา้ นตอ้ งทำอย่างไร ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................... 5. ความร้ทู างดา้ นศิลปะนำมาใช้ในการจัดและตกแต่งบา้ นไดอ้ ยา่ งไร ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 17

หนงั สือแบบฝกึ หัดการงานอาชีพ รายวิชา ง21101 การงานอาชีพ 1 ง21102 การงานอาชพี 2 ระดบั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 เนอ้ื หาชวนคิด เรอ่ื ง ศลิ ปะกับที่อยอู่ าศัย เขียนและเรียบเรยี งโดย รศ.จารนุ ันท์ เชาวนด์ ี คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่ มนุษย์เหมือนสตั ว์ทั่วไปที่ตอ้ งการสถานที่ปกป้อง คมุ้ ครองจากสิ่งแวดล้อมรอบกาย ไม่วา่ มนุษย์จะอยแู่ ห่ง ใด สถานทอ่ี ย่างไร ที่อยู่อาศัยจะสร้างขึ้น เพ่ือป้องกนั ภยั อนั ตรายจากสิ่งแวดลอ้ มภายนอกท่ีอยู่อาศัยเป็นหน่ึง ในปัจจยั ทม่ี ีความสำคัญและจำเป็นสำหรับการดำรงชวี ิตของมนุษย์ มนุษย์จึงมีการพัฒนาท่ีอยอู่ าศัยเพอื่ สนอง ความต้องการและความพอใจของแต่ละบุคคลมนุษย์ทุกคนมีการพัฒนาการในชีวิตของตนเอง มนุษย์จึงนำ พัฒนาการเหล่านี้มาใช้ให้เป็นประโยชน์ การพัฒนาที่อยู่อาศัยจึงเป็นหน่ึงในปัจจัยท่ีสำคัญสำหรับมนุษย์ที่อยู่ อาศัยในปัจจุบันถูกพัฒนาให้ทันสมัยกว่าในอดีตเน่ืองจากต้องปรับปรุงให้เหมาะสมกับสภาพการณ์และ สิ่งแวดล้อมของโลกท่ีเปล่ียนแปลง แต่ในการปรับปรุงนั้น ควรคำนึงถึงสภาพทางภูมิศาสตร์ และวัฒนธรรม ท้องถิ่นควบคกู่ นั ไปการพัฒนาทอี่ ยอู่ าศัยน้นั จงึ จะเหมาะสมและสนองความตอ้ งการอย่างแท้จริง ท่ีอยอู่ าศยั โดยเฉพาะบ้านในปจั จุบัน จะมีรูปแบบที่เรยี บง่ายใกลช้ ดิ ธรรมชาติและคำนึงถึงประโยชน์ใชส้ อย เป็นหลัก และเน้นในเรื่องเทคโนโลยีต่างๆ เพิ่มมากข้ึน เพราะเกิดการเปลี่ยนแปลงตามรสนิยมการบริโภค นอกจากนีใ้ นการจดั ตกแตง่ ภายในจะมีการผสมผสานการตกแต่งแบบตะวนั ตกและตะวันออกเข้าดว้ ยกนั ทำให้ เกดิ ผลงานการตกแต่งในรูปแบบ Contemporary และ Oriental ท่ใี ชง้ านได้สะดวกตามรูปแบบตะวันตก ปัจจัยอีกประการหนึ่งในการจัดตกแต่งภายในบ้านคือการนำหลักการทางศิลปะมาผสมผสานเข้ากับการ ตกแต่ง เพื่อให้การดำรงชีวิตภายในบา้ นสะดวกทั้งกายและใจ และแสดงออกถึงความงดงาม และมีรสนิยมของ ผ้เู ป็นเจ้าของบา้ น องคป์ ระกอบทางศิลปะจึงถูกนำมาเกยี่ วขอ้ ง องค์ประกอบทางศิลปะท่ีนำมาใช้ในการจดั แต่ง แตง่ ทีอ่ ยอู่ าศยั ได้แก่ 1. ขนาดและสดั ส่วน (Size and Proportion) ขนาดและสดั ส่วนนำมาใชใ้ นการจัดที่อยอู่ าศัย ได้แก่ • ขนาดของห้อง ในการกำหนดขนาดของหอ้ งต่าง ๆ จะขน้ึ อยกู่ ับกิจกรรมทีท่ ำ หากเป็นหอ้ งทใี่ ช้กจิ กรรม มาก เช่น ห้องอาหาร หอ้ งครัว หรือห้องรับแขก ควรกำหนดขนาดของห้องใหม้ พี ื้นที่รองรับกิจกรรมน้ัน ๆ ให้ เหมาะสม ไม่เล็กจนเกนิ ไป เพราะจะทำใหค้ ับแคบและไมส่ ะดวกต่อการทำกจิ กรรม • จำนวนของสมาชิกในครอบครัว ในการกำหนดขนาดของหอ้ งต่าง ๆ ควรคำนงึ ถึงจำนวนของสมาชกิ ว่ามี มากนอ้ ยเพยี งใด เพอ่ื จะได้กำหนดขนาดของหอ้ งใหเ้ หมาะสมกับสมาชิก • เครือ่ งเรอื น ในการกำหนดขนาดของเครือ่ งเรอื น ควรกำหนดให้มขี นาดพอดีกบั หอ้ งและสมาชิก หรอื ขนาด พอเหมาะกบั สมาชิกไมส่ งู หรือเต้ียจนใช้งานไม่สะดวก 18

หนังสอื แบบฝึกหัดการงานอาชีพ รายวชิ า ง21101 การงานอาชีพ 1 ง21102 การงานอาชพี 2 ระดับมธั ยมศึกษาปีที่ 1 2. ความกลมกลืน(Harmony) ความกลมกลนื ของศิลปะที่นำมาใช้ในการจัดตกแตง่ ทอี่ ยู่ไดแ้ ก่ • ความกลมกลืนของการตกแต่งท่ีอยู่อาศัย การนำธรรมชาติมาผสมผสานในการตกแต่ง จะทำให้เกิด ความสัมพันธ์ที่งดงามการใช้ต้นไม้ตกแต่งภายในอาคารจะทำให้เกิดบรรยากาศที่ร่มรื่น เบิกบานและเป็น ธรรมชาติ • ความกลมกลืนของเคร่ืองเรือนในการตกแต่งภายใน การเลือกเคร่ืองเรือนเครื่องใช้ที่เหมาะสมและ สอดคล้องกับการใชส้ อย จะทำใหเ้ กิดความสมั พันธใ์ นการใชง้ าน การเลอื กวัสดุที่ใช้ประกอบเครื่องเรอื นภายใน ครัว ควรเป็นวัสดุที่แข็งแรง ทนทาน ทนร้อนและทนรอยขูดขีดได้ดี เช่น ฟอร์ไมก้า แกรนิตหรือกระเบ้ือง เคลือบตา่ ง ๆ • ความกลมกลืนของสี ในการตกแต่ง ซ่ึงต้องใช้ด้วยความระมัดระวังเพราะหากใช้ไม่ถูกต้องแล้ว จะทำให้ ความกลมกลืนกลายเป็นความขัดแย้ง การใช้สีกลมกลนื ภายในอาคาร ควรคำนึงถึงวัตถุประสงค์ของห้องผู้ใช้ เคร่ืองเรือนและการตกแต่ง การใช้สีกลมกลืนควรใช้วิจารณญาณ เลือกสีให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของการ ใช้ 3. การตดั กนั (Contrast) ในการตดั กนั โดยทั่วไปของการจดั ตกแต่งที่อยู่อาศัยนิยมทำในรปู แบบของการขัดกันในการใชเ้ คร่อื งเรอื น ในการตกแต่ง เพ่ือสร้างจุดเด่นหรือจุดสนใจในการตกแต่งไม่ให้เกิดความกลมกลืนมากเกินไป การออกแบบ เครอ่ื งเรือนแบบรว่ มสมยั จึงได้รับความนยิ มเน่อื งจากสร้างความโดดเด่นของการตกแตง่ ได้เปน็ อยา่ งดี 4. เอกภาพ (Unity) ในการตกแต่งสิ่งต่าง ๆ หากขาดเอกภาพงานที่สำเร็จจะขาดความสมบูรณ์ในการตกแต่งภายใน การ รวมกลุ่มกิจกรรมเขา้ ด้วยกัน การรวมพื้นท่ีในห้องต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับกิจกรรมจึงเป็นการใช้เอกภาพในการ จัดพ้ืนท่ีที่ชัดเจน การจัดเอกภาพของเคร่ืองเรือนเคร่ืองใช้ก็เป็นสิ่งสำคัญ หากเครื่องเรือนจัดไม่เป็นระเบียบ ย่อมทำใหผ้ ้อู าศยั ขาดการใช้สอยทด่ี แี ละขาดประสิทธิภาพในการทำงาน 5. การซ้ำ (Repetition) การซ้ำและจงั หวะเปน็ ส่ิงท่ีสมั พันธ์กันการซ้ำสามารถนำมาใช้ในงานตกแต่งไดห้ ลายประเภทเพราะการซ้ำ ทำให้เกิดความสอดคล้องของการออกแบบการออกแบบตกแต่งภายในการซ้ำอาจนำมาใช้ในการเช่ือสายตา เช่น การปูกระเบ้ืองปูพื้นที่เป็นลวดลายต่อเน่ือง หรือการติดภาพประดับผนัง ถึงแม้การซ้ำจะทำให้งาน สอดคลอ้ ง หรอื ต่อเน่อื ง แตก่ ไ็ มค่ วรใช้ในปรมิ าณท่มี ากเพราะจะทำใหด้ สู ับสน 19

หนังสอื แบบฝกึ หดั การงานอาชพี รายวิชา ง21101 การงานอาชีพ 1 ง21102 การงานอาชีพ 2 ระดับมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 6. จงั หวะ (Rhythm) การจัดจังหวะของที่อยู่อาศัยทำได้หลายลักษณะ เช่น การวางผังบริเวณหรือการจัดแปลนบ้านให้มี ลักษณะท่ีเชื่อมพ้ืนท่ีต่อเนื่องกันเป็นระยะ หรือจังหวะ นอกจากน้ีการจัดพ้ืนท่ีใช้สอยภายในอาคารนับเป็นส่ิง สำคัญ เพราะจะทำให้เกิดระเบียบและสะดวกต่อการทำงาน และทำให้การทำงาน และทำให้การทำงานมี ประสทิ ธภิ าพยงิ่ ข้นึ การจัดพ้ืนทใี่ ช้สอยภายในอาคารทนี่ ิยมได้แก่ การจัดพ้ืนท่ีการทำงานของหอ้ งครวั โดยแบ่ง พนื้ ทก่ี ารทำงานให้เป็นจังหวะต่อเนอ่ื งกัน ไดแ้ ก่ พ้นื ทีข่ องการเก็บ การปรุงอาหาร การล้าง การทำอาหาร และ การเสริ ฟ์ อาหาร เปน็ ตน้ 7. การเนน้ (Emphasis) ศิลปะของการเนน้ ทนี่ ำมาใช้ในทอี่ ยู่อาศัย ได้แก่ • การเนน้ ดว้ ยสีการเนน้ ด้วยสี ได้แก่ การตกแต่งภายในหรอื ภายนอกอาคารด้วยการใช้สีตกแตง่ ที่กลมกลนื หรือโดดเด่น เพอื่ ให้สะดุดตาหรือสดชืน่ สบายตา ซ่ึงข้ึนอยู่กับวตั ถปุ ระสงค์ของการจัดน้ัน • การเนน้ ดว้ ยแสงการเนน้ ดว้ ยแสง ไดแ้ ก่ การใช้แสงสว่างเนน้ ความงามของการตกแตง่ และเคร่ืองเรือน ภายในบา้ นใหด้ โู ดดเด่น การใชโ้ คมไฟหรอื แสงสว่างตา่ ง ๆ สามารถสรา้ งความงามและให้บรรยากาศทสี่ ดชน่ื หรือสุนทรีย์ไดอ้ ย่างดี ในการใชแ้ สงไฟควรคำนงึ ถงึ รูปแบบของโคมไฟ ท่ีถูกต้องและเหมาะสมกับขนาดและ สถานท่ี ตลอดจนความกลมกลืนของโคมไฟและขนาดของห้อง • เนน้ ด้วยการตกแต่งการเนน้ ด้วยการตกแต่ง ไดแ้ ก่ การใชว้ ัสดุ เคร่อื งเรือน เครื่องใชห้ รือของตกแตง่ ต่าง ๆ ตกแตง่ ใหส้ อดคล้องสวยงามเหมาะสมกบั รปู แบบและสถานที่ตกแต่งนัน้ ๆ 8. ความสมดลุ (Balance) การใช้ความสมดุลในการจัดทพ่ี กั อาศยั ไดแ้ ก่ จดั ตกแตง่ เครอ่ื งเรือน หรือวัสดตุ า่ ง ๆ ให้มีความสมดลุ ตอ่ การใชง้ าน หรอื เหมาะสมกับสถานท่ี เชน่ การกำหนดพื้นทใ่ี ชส้ อยที่สะดวกต่อการทำงาน หรอื การจดั ทศิ ทาง ของเครือ่ งเรอื นใหเ้ หมาะสมกบั สภาพแวดล้อม และการทำงาน โดยเฉลี่ยกิจกรรมให้เหมาะสมและสมดุล 9. สี (Color) สีมีความสัมพนั ธ์กับงานศิลปะ และการตกแต่งสถานที่ เพราะสมี ีผลต่อสภาพจิตใจและอารมณข์ องมนษุ ย์ สใี ห้ผู้อยู่อาศัยอยอู่ ย่างมีความสุข เบิกบานและรน่ื รมย์ ดังนัน้ สจี ึงเปน็ ปจั จัยสำคัญของการจดั ตกแตง่ ท่ีอยูอ่ าศัย ในการใช้สตี กแต่งภายใน ควรคำนงึ ถึงสงิ่ ต่าง ๆ ดังต่อไปน้ี 1.วตั ถปุ ระสงคข์ องหอ้ งหรือสถานท่ี ในการใช้สีตกแต่งภายใน ควรคำนึงถงึ วตั ถุประสงคข์ องห้องหรือสถานทต่ี กแตง่ เพื่อจะได้ใช้สไี ดอ้ ยา่ ง เหมาะสม การใช้สตี กแต่งสถานที่ต่าง ๆ ภายในบ้าน แบง่ ออกเปน็ ห้องต่างๆ ดงั น้ี 20

หนังสอื แบบฝกึ หดั การงานอาชีพ รายวชิ า ง21101 การงานอาชีพ 1 ง21102 การงานอาชีพ 2 ระดับมัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 ห้องรบั แขก หอ้ งรบั แขกเปน็ หอ้ งท่ีใช้ในการสนทนา หรอื ตอ้ นรับผู้มาเยือน ดงั นั้นหอ้ งรับแขก ควรใชส้ ี อบอนุ่ เช่น สีครมี สีสม้ ออ่ น หรือสเี หลอื งอ่อน เพอื่ กระตนุ้ ให้เบิกบาน หอ้ งอาหาร ห้องอาหารควรมสี ที ่ีดูสบายตา เพอ่ื เพ่มิ รสชาตอิ าหาร อาจใช้สีทก่ี ลมกลืน น่มุ นวล เพราะสี น่มุ นวลจะทำให้เกิดความสบายใจ หอ้ งครัว ควรใช้สีทดี่ ูสะอาดตา และรกั ษาความสะอาดงา่ ย ห้องควรเปน็ หอ้ งที่ใช้ทำกิจกรรมจงึ ควรใช้สี กระตนุ้ ให้เกดิ ความสนใจในการทำกจิ กรรม ห้องนอน หอ้ งนอนเปน็ ห้องทีพ่ ักผอ่ น ควรใชส้ ที ่ีสบายตา อบอุ่น หรอื นมุ่ นวล แตก่ ารใชใ้ นห้องนอนควร คำนงึ ถึงผใู้ ชด้ ้วย ห้องน้ำ ห้องน้ำเป็นห้องท่ีใช้ทำกิจกรรมสว่ นตัว และตอ้ งการความสะบาย จึงควรใชส้ ีที่สบายตาเปน็ ธรรมชาติ และสดชื่น เช่น สฟี ้า สเี ขยี ว หรอื สีขาว และควรเป็นห้องที่ควรทำความสะอาดได้ง่ายทิศทาง การใช้ สตี กแต่งภายในควรคำนงึ ถึงทิศทางของห้อง ห้องทถ่ี กู แสงแดดส่องควรใช้สีออ่ น เพอ่ื สะท้อนแสง ส่วนห้องทอ่ี ยู่ ในทมี่ ืด หรืออบั ควรใช้สอี อ่ นเพือ่ ความสวา่ งเช่นกัน 2. เพศและวัย เพศชายหรือหญงิ จะใช้สใี นการตกแต่งไม่เหมอื นกัน เพศชายจะใช้สีเข้มกวา่ เพศหญิง เช่น สเี ขียวเขม้ สีฟ้า หรือเทา ส่วนเพศหญิงจะใช้สที ีอ่ ่อน และนุม่ นวลกวา่ เช่น สีครมี สีเหลือง เป็นตน้ วัย ในแต่ละวัยจะใช้สไี ม่เหมือนกนั เช่น หอ้ งเดก็ จะใช้สอี ่อนหวานนุ่มนวล ห้องผใู้ หญ่จะมีสีท่ีอบอ่นุ หอ้ ง ผูส้ ูงอายุจะใช้สที น่ี มุ่ นวล ศิลปะไม่ไดเ้ กี่ยวขอ้ งกบั การจัดตกแต่งท่ีอยู่อาศยั เพียงอย่างเดียว แต่ศิลปะยงั ช่วยจรรโลงใจให้สมาชกิ ใน ครอบครวั อย่อู ยา่ งมคี วามสุข หากต้องการความสุขในครอบครัว ปัจจัยหน่งึ ท่ีควรคำนงึ ถึงส่งิ นนั้ คอื “ศลิ ปะ” ท่ีมา : http://www.human.cmu.ac.th/home/hc/ebook/006103/lesson8/05.htm 21

หนังสือแบบฝกึ หัดการงานอาชีพ รายวชิ า ง21101 การงานอาชพี 1 ง21102 การงานอาชีพ 2 ระดบั มัธยมศึกษาปที ่ี 1 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 บ้านนา่ อยู่ สาระสำคญั การจัดตกแต่งหอ้ ง ใบงานที่ 7 สำรวจ และวางแผนจดั ตกแตง่ บา้ น ใหน้ กั เรียนสำรวจบา้ นตนเอง แลว้ เคราะหว์ า่ ห้องใด หรอื บรเิ วณใดของบ้านทต่ี อ้ งจัดและตกแต่ง เพราะอะไร โดยบันทึกลงในแบบบนั ทกึ ต่อไปนี้ หอ้ ง/บรเิ วณ เหตผุ ลที่ตอ้ งจัดตกแตง่ ใหม่ รูปแบบหรือวิธกี ารจดั ตกแต่ง ภายในบา้ น สำรวจโดย ............................................................ เลขที่ .......... สำรวจวนั ท่ี ................................. 22

หนังสือแบบฝกึ หดั การงานอาชพี รายวิชา ง21101 การงานอาชพี 1 ง21102 การงานอาชพี 2 ระดบั มัธยมศึกษาปีท่ี 1 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 บ้านน่าอยู่ สาระสำคญั การจัดตกแต่งหอ้ ง เรอ่ื ง การจดั ตกแตง่ บ้านใหห้ ่างไกลจากโรคไขเ้ ลือดออก 1. ในบา้ นหรอื บรเิ วณบ้านของนกั เรยี น มสี งิ่ ทอ่ี าจกอ่ ให้เกดิ แหล่งเพาะพนั ธล์ กู น้ำยงุ ลายหรือไม่ อะไรบา้ ง ............................................................................................................................................................... 2. นักเรียนมีแนวทางในการแกป้ ญั หา กรณที บี่ ้านหรือบรเิ วณบา้ นนักเรียนมแี หล่งเพาะพนั ธล์ ูกนำ้ ยุงลาย ดังขอ้ ที่ (1) ............................................................................................................................................................... 23

หนังสอื แบบฝกึ หดั การงานอาชีพ รายวชิ า ง21101 การงานอาชีพ 1 ง21102 การงานอาชีพ 2 ระดบั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 • ยงุ ชอบอยู่ในทมี่ ืด อบั และช้ืน เชน่ หอ้ งนอน หอ้ งนำ้ หอ้ งครวั โดยเกาะใตเ้ ฟอรน์ ิเจอรห์ รือตามเส้อื ผา้ ที่ แขวนอยู่ ม่าน ผนงั จึงควรจดั บ้านใหอ้ ากาศถ่ายเท โปรง่ มแี สงสว่างทั่วถึง • ยุงลายชอบวางไขต่ ามภาชนะท่มี ีนำ้ นิง่ และใส โดยเฉพาะน้ำฝนจะชอบท่ีสุด จึงควรควำ่ ภาชนะทนี่ ้ำขัง ได้ทกุ ชนดิ หรอื แมแ้ ต่กาบใบพืช และท่ีสำคญั มากคือ อยา่ ลมื ขดั ถูรอบ ๆ ภาชนะ เพอื่ กำจัดเศษที่เหลอื ออกให้หมด เนอ่ื งจากไขย่ ุงลายท่ีติดค้างอย่กู บั ขอบผวิ ของภาชนะจะยังมชี ีวิตอยตู่ ่อไปได้อีกเปน็ ปี • ปกปิดภาชนะใสน่ ้ำใหม้ ดิ ชิด หาฝามาปดิ หรอื ขึงด้วยตาขา่ ยไนลอ่ น ถ้าเป็นบ่อปลาหรอื อ่างบวั ก็หมั่น เปล่ยี นถา่ ยนำ้ หรือเล้ียงปลาหางนกยงู ซ่งึ เป็นปลาชนดิ เดยี วทก่ี ินลกู น้ำ • อย่าลมื ทำความสะอาดถาดรองนำ้ ท้ิงทางดา้ นหลงั ของต้เู ย็น เพราะเป็นภาชนะทีพ่ บลกู น้ำยุงลายได้บอ่ ย เน่ืองจากมนี ้ำสะอาดขงั ตลอดเวลาและอยใู่ นที่มืด • หมน่ั หยอดทรายกำจัดลูกน้ำยุงลายลงในจานรองกระถางต้นไม้ เนอื่ งจากเปน็ จุดท่ีมนี ำ้ ขังและทำให้ กลายเปน็ แหลง่ เพาะพันธุยุงได้เป็นอย่างดี แตอ่ ยา่ เผลอใส่ทรายกำจดั ลกู นำ้ ท่ีนำ้ ดม่ื หรอื ใช้กับรา่ งกาย เรานะเพราะนำ้ เหลา่ นัน้ จะนำมาด่ืมไมไ่ ด้ • ใส่เกลอื แกง น้ำส้มสายชู ผงซกั ฟอก และทรายกำจดั ลกู น้ำยงุ ลาย ลงไปในจานรองตู้กับข้าวเพือ่ กำจัด ลกู นำ้ หรอื ปอ้ งกันไม่ให้ยงุ ลายมาวางไข่ • ใชก้ ระดาษชำระหรือเศษผา้ อดุ ปากแจกันบรเิ วณรอบๆดอกไมต้ น้ ไม้ เพ่อื ปอ้ งกนั ยุงบินลงไปวางไข่ • อย่าปล่อยใหม้ ียางรถยนต์เกา่ ถกู ท้ิงไวจ้ นกลายเป็นท่รี องรับนำ้ ฝน ทำความสะอาดรางนำ้ ฝนเปน็ ประจำเดือนละคร้ัง เพ่ือไม่ใหม้ ีเศษใบไม้หรือเศษขยะตกคา้ งอยู่ • ลา้ งและเปลี่ยนถ่ายน้ำในภาชนะ แจกัน แกว้ นำ้ ท่ีต้งั ถวายศาลพระภูมิ อย่างน้อยสปั ดาห์ละ 1 ครั้ง ที่มา : https://www.dek-d.com/thaihealth/46796/ 24

หนงั สอื แบบฝกึ หดั การงานอาชพี รายวิชา ง21101 การงานอาชีพ 1 ง21102 การงานอาชีพ 2 ระดับมธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 บา้ นน่าอยู่ สาระสำคัญ การจัดตกแตง่ ห้อง เรื่อง การจดั ตกแตง่ บา้ นใหเ้ หมาะสมกับผู้สูงอายุ คำถามชวนคิด 1. ในครอบครวั ของนักเรยี นมีผู้สงู อายหุ รือไม่ ใครบ้าง ............................................................................. 2. นักเรยี นคิดว่าผสู้ ูงอายุในขอ้ ที่ (1) พกั อาศยั ในพนื้ ที่ๆปลอดภัยหรอื เหมาะสมหรือไม่ อย่างไร ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................. 3. นกั เรียนคิดวา่ ควรเพิม่ เตมิ หรือปรบั ปรงุ สว่ นใดภายในบ้านเพอื่ ใหผ้ ู้สูงอายุ สามารถใช้หรืออยู่ในบ้านได้ อย่างปลอดภยั เพราะอะไร ................................................................................................................. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… 25

หนังสอื แบบฝกึ หดั การงานอาชีพ รายวชิ า ง21101 การงานอาชีพ 1 ง21102 การงานอาชีพ 2 ระดบั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 ใบงานท่ี 8 จากหลักการจดั ตกแต่งหอ้ งท่ี ลองพจิ ารณาภาพห้องต่อไปนส้ี ิครับวา่ เป็นไปตามหลักการของการ จัดห้องทเ่ี หมาะสม หรอื ไม่ อย่างไรบา้ ง 26

หนงั สือแบบฝกึ หดั การงานอาชพี รายวชิ า ง21101 การงานอาชีพ 1 ง21102 การงานอาชพี 2 ระดับมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 แต่งกายดี มเี สน่ห์ เรอื่ ง ศิลปะกับเสื้อผ้าและการแตง่ กาย เขยี นและเรียบเรยี งโดย รศ.จารนุ นั ท์ เชาวนด์ ี คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่ เสื้อผ้าเปน็ ส่วนหนึ่งของเคร่อื งนงุ่ ห่ม หรือเคร่อื งแตง่ กาย เส้ือผ้ามไี ว้ปกปิดร่างกาย และปอ้ งกันภัยจาก สง่ิ แวดลอ้ มภายนอก และเส้อื ผ้ายงั ชว่ ยเสรมิ สร้างบุคลิกภาพให้มีภาพลกั ษณ์ทดี่ ี หากต้องการมีภาพลักษณ์ท่ีดี ผูน้ ัน้ จะต้องเลอื กแตง่ กายดี มรี สนิยม รสนิยมของการแต่งกายขึน้ อยกู่ ับ ศลิ ปะ ศิลปะในการแตง่ กายจงึ เป็นสิ่งสำคัญ ในการแต่งกายโดยท่วั ไปจะคำนึงถึงขนาด รูปรา่ ง เพศ วัย และ บุคลิกของการสวมใส่ และศิลปะจะเปน็ สว่ นเสริมเพิ่มเติมหรือประดบั ตกแต่งใหเ้ กิดรสนยิ ม ศลิ ปะจงึ มี ความสมั พันธก์ ับเส้อื ผ้าและการแตง่ กาย องค์ประกอบศลิ ปะท่ีนำมาเกีย่ วขอ้ งกบั เส้ือผ้าและการแตง่ กาย ได้แก่ 1. ขนาดและสัดส่วน (Size and Proportion) ขนาดและสดั ส่วนมคี วามสัมพันธ์กนั ขนาดเก่ยี วพันกับ สัดส่วน หากรา่ งกายมีขนาดใหญ่ สัดสว่ นจะขยายใหญ่ ดงั นน้ั ในการแต่งกาย หรอื การออกแบบเส้อื ผ้าท่แี ก้ไข ขอ้ บกพรอ่ งของสดั ส่วนของร่างกาย เช่น คนหน้าอกใหญ่ ควรสวมเส้อื ที่มีปกหรอื เส้ือคอวี เพื่อช่วยใหท้ รวงอก เลก็ ลง หรอื ผู้ทอี่ ้วนควรเลือกเสื้อผ้าชุดหลวมทไ่ี ม่เน้นบริเวณเอว หรอื คับตึง เพราะจะเนน้ ใหเ้ ห็นขนาดท่ี ชัดเจน 2. ความกลมกลืน (Harmony) ความกลมกลืนในการแตง่ กาย ไดแ้ ก่ ความกลมกลืนของสีเสือ้ ผา้ และการ ตกแต่ง การใช้สตี กแต่ง ควรมีความกลมกลืนกับบุคลิก อายุ เพศ และวัย ผู้สงู อายุควรใชเ้ สอ้ื ผ้าท่ีมสี ีเข้ม ไม่ ฉดู ฉาด เพราะจะทำให้ดอู อ่ นโยน 3. การตัดกนั (Contrast) การตดั กันในการแต่งกาย ทำได้หลายวธิ ี ท้ังในด้านการตดั กนั ด้วยขนาด ลวดลาย แบบ หรอื สี การตัดกันเพ่ือสร้างจุดเดน่ ดงั นัน้ ในการตดั กัน จึงควรคำนึงถึงผสู้ วมใส่ ว่ามีบุคลกิ ภาพท่ี เหมาะสมอย่างไร ในการตดั กันควรพจิ ารณาถงึ ปริมาณของการตดั กัน ซึง่ ไม่เกิน 80 เปอรเ์ ซน็ ตข์ องผลงาน เชน่ การใช้สีตัดกนั ของเส้อื ผา้ ควรตดั กนั ไม่เกิน 80 เปอร์เซน็ ต์ 4. เอกภาพ (Unity) เอกภาพของการแตง่ กายคล้ายกับความกลมกลืน ซึ่งเน้นในด้านความสมั พนั ธ์และ ความสอดคล้อง ในการแตง่ กายควรใหม้ ีความสอดคล้องในดา้ นแบบ สี หรือการตกแต่ง ให้ผสมกลมกลืนเปน็ กลุ่มเดยี วกัน หรือในลักษณะเดยี วกนั เพือ่ ดูเรียบร้อยสวยงาม เอกภาพในการแต่งกายไดแ้ ก่การแตง่ กายในชุด ทำงานท่มี สี ีเดยี วกัน ตกแตง่ ในแบบเรียบง่าย แต่ดูคลอ่ งแคลว่ ในการปฏบิ ตั ิงาน 27

หนงั สอื แบบฝกึ หัดการงานอาชีพ รายวชิ า ง21101 การงานอาชีพ 1 ง21102 การงานอาชีพ 2 ระดับมัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 5. การซ้ำ (Repetition) หากในการจดั อาหาร การวางแตงกวารอบขอบจานคอื การซำ้ ในการแต่งกาย การเรยี งกระดมุ ของเส้ือผา้ กค็ อื การซ้ำเช่นกนั การซำ้ ทำในลักษณะของการตกแตง่ เชน่ การติดลกู ไมร้ อบคอบ เส้ือ หรอื ชายกระโปรง หรอื การตกแตง่ ด้วยลวดลายของผ้า และสขี องการตกแต่ง เหตุที่ต้องทำซำ้ ก็เพ่ือดงึ ดูด ความสนใจ หรือเบี่ยงเบนความสนใจของส่วนบกพร่องตา่ ง ๆ ของรา่ งกายนนั่ เอง 6. จงั หวะ (Rhythm) ในการแต่งกาย จงั หวะเปรยี บเสมือนช่วงระยะของการนำสายตาที่เชอื่ มโยงหรือ ต่อเน่ืองกนั หรือการประสานต่อเนือ่ งกันของสายตาอยา่ งมจี ังหวะของสว่ นประกอบเคร่ืองแตง่ กาย เช่น ปก เส้อื เข็มขัด กระโปรงหรอื รองเท้า การออกแบบเส้อื ผ้าอยา่ งมีจงั หวะก็เพือ่ สานองค์ประกอบยอ่ ยเข้าเป็น องค์ประกอบใหญ่ เพือ่ สรา้ งจดุ เดน่ ท่ีชัดเจน การเชอ่ื มโยงสายตาอยา่ งมจี ังหวะสามารถทำไดโ้ ดยการซำ้ ของ วัสดุที่คล้ายกัน หรือต่างกัน โดยทำเป็นจงั หวะที่เหมอื นกันหรอื ตา่ งกัน ซงึ่ ข้นึ อยูก่ บั วตั ถปุ ระสงคข์ องการสรา้ ง จุดสนใจน้ัน ๆ 7. การเน้น (Emphasis) เมอ่ื จังหวะสรา้ งจดุ เด่น จุดเดน่ น้นั จะทำใหเ้ กิดการเนน้ ในการเน้นของการแต่ง กายเปน็ การอำพรางข้อบกพร่อง โดยเบี่ยงเบนความสนใจไปยังสว่ นอนื่ หรือในขณะเดียวกนั การเนน้ อาจ เรียกร้องหรือสร้างจดุ สนใจให้กบั การออกแบบน้นั ๆ ในการเน้นอาจเน้นด้วยเครอื่ งประดับ ลวดลาย หรือสสี ัน ของลวดลายผา้ 8. ความสมดลุ (Balance) ความสมดลุ ในการแตง่ กายทำได้หลายวธิ ี ในการสรา้ งความสมดุลของการ แต่งกายจะจัดแบ่งเปน็ ด้านบน และดา้ นล่าง เช่น เสื้อและกระโปรง หรือเสอื้ กบั กางเกง การทำให้สมดลุ อาจใช้ ลวดลายหรือนำ้ หนักของสเี สอื้ ผา้ ช่วยในการแบ่งนำ้ หนักได้ เชน่ ใสก่ ระโปรงสีดำ และใส่เส้อื สีขาวสลับดำ เป็น ต้น 9. สี (Color) สเี ป็นองคป์ ระกอบสำคญั สำหรับงานศิลปะ เพราะสตี ่าง ๆ จะทำใหเ้ กิดความสวยงาม นา่ สนใจ และแสดงถงึ อารมณ์ ความรู้สกึ ในการแต่งกายสีจะช่วยเสริมบุคลกิ ของผู้สวมใส และยังเป็นแรง บันดาลใจในการแสดงออกถงึ ความร้สู กึ และความน่าสนใจ ดงั นนั้ ในบรษิ ัทใหญ่ ๆ หลายบริษทั จงึ ไดจ้ ้างนัก ออกแบบเสือ้ ผา้ ออกแบบเสือ้ ผ้าและเครอ่ื งแต่งกาย โดยเลือกแบบและสเี พอ่ื สรา้ งความสนใจต่อลกู ค้าเช่น พนักงานธนาคาร พนักงานตอ้ นรบั หรอื พนกั งานขายสินคา้ จะมีสีสนั ท่ีแตกตา่ งกนั ตามวตั ถปุ ระสงคข์ องงาน ในการใชส้ ขี องเสื้อผา้ ควรใช้ในลักษณะของคา่ น้ำหนัก (Value) คือ มีการใช้สอี ่อน-แก่ เพอ่ื เกิดความแตกต่าง ของคา่ นำ้ หนกั สี เช่น สีเขียวอ่อนหรอื สเี ขียวเขม้ หรอื การใชส้ ีประสานกลมกลนื (Harmony) ทดี่ ูแลว้ นุ่มนวล เชน่ สโี ทนเดยี วกนั และหากตอ้ งการความสดชน่ื การใช้สีสดหรอื สีตดั กันในปรมิ าณทตี่ ่างกันก็อาจทำใหส้ ดชื่น ได้ 28

หนงั สือแบบฝึกหัดการงานอาชีพ รายวชิ า ง21101 การงานอาชีพ 1 ง21102 การงานอาชพี 2 ระดบั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 ในการแต่งกายทเ่ี กี่ยวข้องกบั การใช้สีทางจิตวิทยา จะมีปฏกิ ิรยิ าต่ออารมณข์ องการแตง่ กาย ดงั นี้ สีแดง เปน็ สที กี่ ระตุ้นจติ ใจเป็นอย่างดี เยา้ ยวน ร้อนแรง ผ้ทู ี่ใส่สีแดงจะตอ้ งเป็นคนที่มคี วามมนั่ ใจในตวั เอง เปดิ เผย และเป็นผู้นำ สีเหลือง เป็นสที ่ีบง่ บอกถึงความเป็นมคี นมีอารมณ์ดี รา่ เรงิ ออ่ นโยน มีพลงั ความฉลาด และจนิ ตนาการ สนใจงาน การใส่สีเหลอื งอาจลดความสดใสลงหรือใส่เป็นเสอ้ื คลุมจะทำให้ลดความเจิดจ้าลง สีเขียว เป็นสีที่แสดงออกถงึ ความสขุ มุ เยอื กเย็น เหมาะสำหรบั งานทต่ี อ้ งใชพ้ ลัง หรือความคิด เม่อื ใส่สี เขยี วจะดูเป็นคนกระฉนั กระเฉงและพฒั นาตนเอง สฟี ้า เปน็ สขี องความสงบและพกั ผ่อน มกั ใสใ่ นวนั หยดุ ในบรรยากาศท่ีผ่อนคลาย ดูสดช่ืน ควรเล่ยี งสฟี ้า หากรูส้ กึ หดหู่เพราะจะทำให้เหงามากขึ้น ควรใส่คู่กบั สสี ้มอ่อน สมี ่วง เป็นสที ี่ขรมึ สง่า เกดิ ความศรทั ธาและความสงบ หากเป็นคนที่เปิดกวา้ งจะยอมรบั สมี ว่ งได้ สีมว่ งปนแดงจะสรา้ งความม่ันใจได้ดี สขี าว เปน็ สที ี่ใสสะอาด เข้าไดก้ บั ทกุ สี ชอบค้นหาความจริงของชีวิต เปน็ สีของนักคิด เม่ือใส่ สขี าวจะทำให้ขาดอำนาจในการตดั สนิ ใจ สีดำ เป็นสีทแี่ สดงออกถงึ ความมั่นในตวั เอง ผ้ทู ใี่ ส่สีดำจะแสดงถึงการใหผ้ อู้ ืน่ นบั ถอื เป็นสที ่ีชอบอยอู่ ยา่ ง โดดเดีย่ ว สีน้ำเงิน เปน็ สีที่ควบคุมตนเองไดด้ ี มีความลกึ ซง้ึ รบั ผิดชอบ สนุกกับทุกเร่อื ง ควรใช้สนี ้ำเงนิ กับสสี ดใสต่าง ๆ จะทำให้ดูดีขึน้ การแกไ้ ขขอ้ งบกพรอ่ งดว้ ยเสือ้ ผา้ นอกจากน้หี ลักการทางศิลปะต่าง ๆ ยงั ชว่ ยแกไ้ ขปญั หา และอำพรางข้อบกพร่องตา่ ง ๆ ของรา่ งกายได้อกี ดังตวั อยา่ งท่จี ะกลา่ วตอ่ ไปน้ี 1. รูปร่างผอมสงู ถงึ แมจ้ ะมรี ูปรา่ งดี แต่หากใส่เสื้อผา้ รัดรปู มากเกนิ ไป เชน่ ใส่เสือ้ แขนกดุ หรอื ผ้ายืดบาง รดั รูปจะเน้นใหเ้ หน็ สรรี ะทผ่ี อมบางชดั เจน ควรใส่เสื้อผา้ ผา้ ที่หนา ๆ หรือจีบพองฟู เพราะจะเสรมิ ให้ดีหนาขน้ึ และมบี ุคลกิ ทด่ี ขี น้ึ 2. รูปรา่ งอ้วนเตีย้ หากคอสั้นทำให้คอดยู าวขึ้น ควรใสเ่ สอ้ื คอวี หรอื คอเชริ ท์ จะชว่ ยให้ใบหน้าดูยาวขน้ึ ไม่ ควรใส่เส้ือปิดคอจะทำให้คอสัน้ ลง ลวดลายของเสื้อผา้ ควรเป็นดอกเล็กๆ และลายตง้ั หา้ มใส่ฟองนำ้ เสริมไหล่ เพราะจะดูหนาข้นึ ไมค่ วรใสช่ ดุ ติดกนั เพราะจะเนน้ ขนาด และตดั กันอยา่ งชัดเจน นอกจากน้คี วรสวมกระโปรง และเสือ้ แยกช้นิ และมสี ีเขม้ ไม่ควรใชผ้ ้าหนาเพราะจะเพิ่มความอ้วนขน้ึ อีก 3. สะโพกใหญ่ ไม่ควรสมเส้อื เอวลอย เพราะจะเน้นสะโพกชดั เจน ควรสวมกระโปรงท่ีตัดเย็บจากผ้าน่มิ ๆ พรวิ้ ทั้งตวั สเี ขม้ เพอื่ อำพราง ไม่ควรสวมกระโปรงหรือกางเกงทรี่ ัดรปู เพราะจะเน้นความใหญข่ องสะโพก และ ควรสวมกระโปรงคลมุ เข่าเพ่อื กระชดั สะโพกมากข้ึน 4. หนา้ อกใหญ่ สวมเสอ้ื ทีม่ ปี กหรือคอวี เพราะจะทำให้ทรวงอกดเู ลก็ ลง ใส่เสื้อสีเขม้ ตัดเย็บด้วยผา้ ทบี่ าง เบา หลีกเล่ียงเสอ้ื ทม่ี ีลวดลายหรือมีกระเป๋าท่ีหน้าอกเพราะจะทำให้เกิดจุดเด่นและเพิ่มความหนาให้หน้าอกได้ 29

หนงั สือแบบฝึกหัดการงานอาชีพ รายวชิ า ง21101 การงานอาชีพ 1 ง21102 การงานอาชพี 2 ระดบั มธั ยมศึกษาปที ี่ 1 5. ไหลแ่ คบ ควรสวมเส้ือผา้ ทม่ี ีฟองนำ้ และเลือกผ้าพร้วิ บาง ไมม่ ีใครทจ่ี ะมรี ูปร่างสวย หรือสมบรู ณ์ไปทกุ อย่าง หากแต่ได้นำหลกั การทางศลิ ปะมาประยกุ ตใ์ ช้ ก็จะสามารถ ทำให้ความบกพร่องนน้ั ลดลง และมีบุคลกิ ภาพท่ดี ีข้นึ ได้ ในปจั จุบนั ไมว่ ่าสถานการณ์ของโลกจะเปลย่ี นแปลงไปอย่างไรก็ตาม แต่หลกั การทางศิลปะตา่ ง ๆ ทีก่ ล่าว มายงั คงนำมาประยุกตใ์ ชไ้ ด้เปน็ อยา่ งดี ถึงแมว้ ่าในอนาคตเทคโนโลยีจะเขา้ มามีบทบาทมากข้นึ ก็ตาม ทีม่ า : http://www.human.cmu.ac.th/home/hc/ebook/006103/lesson8/05.htm 30

หนังสอื แบบฝกึ หัดการงานอาชพี รายวชิ า ง21101 การงานอาชพี 1 ง21102 การงานอาชพี 2 ระดบั มธั ยมศึกษาปที ี่ 1 ความหมายและความสำคญั ของการดแู ลเสอื้ ผ้า การดูแลเส้ือผา้ หมายถึง การทำความสะอาดและเก็บรักษาเส้ือผ้า โดยวิธีขจัดรอยเป้ือน ซัก ตาก รีด เก็บ พับหรอื แขวนในถุงเก็บเส้ือหรอื ในตู้เสื้อผา้ สำเร็จรูปที่วางจำหน่ายท่ัวไปในปัจจุบัน มีการออกแบบและตัดเย็บ จากผ้าหลายประเภท บางครั้งตกแต่งด้วยเล่ือมลูกปัดให้ดูหรูหรา ซ่ึงการท่ีผ้าแต่ละประเภทมีคุณสมบัติ แตกตา่ งกนั และมีการตกแต่งหรหู ราส่งผลให้ต้องดูแลอยา่ งถกู วิธีและใชค้ วามประณีตร่วมดว้ ย การดูแลเสอ้ื ผา้ อยา่ งถูกวิธแี ละประณีตมีความสำคัญ ดังน้ี ๑. ทำใหเ้ ส้อื ผ้าสะอาดไมม่ ีคราบสกปรกหรอื มกี ล่ินเหมน็ จากเหงอ่ื ไคล ๒. ป้องกันไมใ่ หเ้ กดิ โรคผิวหนังอันเนือ่ งมาจากเสอ้ื ผ้าสกปรก เช่น หดิ กลาก เกลอื้ น ผดผน่ื คนั เป็นต้น ๓. ช่วยถนอมเนอื้ ผ้าให้ทนทานไม่เสื่อมสภาพ และมีอายุการใชง้ านยาวนาน ๔. ส่งเสริมบุคลกิ ภาพของผู้สวมใส่ใหด้ ูดีสง่างามเป็นท่ีชน่ื ชอบของผู้พบเห็น ๕. ผสู้ วมใส่เกดิ ความมั่นใจ และภาคภมู ิใจ ๖. ปลูกฝงั ลกั ษณะนิสัยใหเ้ ปน็ คนรกั ความสะอาดมีระเบยี บวนิ ยั ประณีตสวยงาม การซกั ตาก รดี และเกบ็ รกั ษาเสือ้ ผ้าประเภทต่าง ๆ อาจพิจารณาไดจ้ ากสัญลกั ษณ์บนเสือ้ ผา้ ซงึ่ นิยมระบไุ ว้ บนเสอื้ ผา้ บริเวณคอเสอื้ ด้านใน หรอื ข้างลำตวั เส้ือด้านใน ตวั อยา่ งภาพสญั ลักษณค์ ำแนะนำในการดูแลเสอ้ื ผ้าทร่ี ะบุไวบ้ รเิ วณคอเสอ้ื ด้านใน 31

หนงั สือแบบฝึกหดั การงานอาชีพ รายวิชา ง21101 การงานอาชีพ 1 ง21102 การงานอาชีพ 2 ระดบั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 สญั ลักษณส์ ากลของปา้ ยสำหรับการดูแลรกั ษาเส้อื ผ้า (CARE LABEL) และความหมาย ทม่ี า : https://www.rosso.co.th/article/PC/detail 32

ก่อนสวมใ ่สหนงั สอื แบบฝกึ หัดการงานอาชีพ รายวชิ า ง21101 การงานอาชีพ 1 ง21102 การงานอาชพี 2 ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 ระหว่างสวมใ ่สหนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 แต่งกายดี มเี สน่ห์ ใบงานท่ี 9 การดูแลเสอ้ื ผ้า หลังสวมใ ่สคำชแ้ี จง ให้นักเรยี นอธบิ ายขั้นตอนการดแู ลเสอ้ื ผ้าชุดนกั เรียนโรงเรยี นมหาวชิราวุธ จงั หวดั สงขลา ท่ีสวมใส่ ตามท่ีไดป้ ฏิบัติจริง โดยระบุรายละเอียดในกล่องสี่เหลี่ยมทก่ี ำหนดใหด้ ังต่อไปน้ี 33

ก่อนสวมใ ่สหนงั สอื แบบฝกึ หัดการงานอาชีพ รายวชิ า ง21101 การงานอาชีพ 1 ง21102 การงานอาชพี 2 ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 ระหว่างสวมใ ่สหนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 แต่งกายดี มเี สน่ห์ ใบงานท่ี 9 การดูแลเสอ้ื ผ้า หลังสวมใ ่สคำชแ้ี จง ให้นักเรยี นอธบิ ายขั้นตอนการดแู ลเสอ้ื ผ้าชุดนกั เรียนโรงเรยี นมหาวชิราวุธ จงั หวดั สงขลา ท่ีสวมใส่ ตามท่ีไดป้ ฏิบัติจริง โดยระบุรายละเอียดในกล่องสี่เหลี่ยมทก่ี ำหนดใหด้ ังต่อไปน้ี 34

หนังสอื แบบฝึกหัดการงานอาชีพ รายวชิ า ง21101 การงานอาชพี 1 ง21102 การงานอาชีพ 2 ระดบั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 เร่ือง การดดั แปลงเสื้อผ้า วิธีการดัดแปลงเสือ้ ผา้ แบ่งออกเป็น 2 ลกั ษณะ คอื 1. เสื้อผ้าท่ียงั มสี ภาพดี ต้องการดดั แปลงเพอ่ื หนีความจำเจ หรอื เพือ่ ให้ทนั สมยั 2. เส้ือผ้าท่ีมรี อยชำรุด จำเปน็ ต้องนำมาดดั แปลงเพื่อแก้ไขหรือหลีกเล่ียงสภาพทชี่ ำรุด ข้ันตอนการดัดแปลงเส้อื ผ้า 1. ออกแบบเสื้อ กางเกง หรือกระโปรงตัวใหม่ก่อนโดยยดึ หลักความคงทน และประโยชนใ์ ช้สอย 2. เลือกวธิ ีการดัดแปลงแกไ้ ขบางสว่ นที่เหมาะสมกบั เสือ้ ผ้า 3. เตรยี มวัสดุ อุปกรณ์ และเครอื่ งมอื ท่จี ะใช้ในการตัดเย็บและดัดแปลงเสือ้ ผา้ ให้พร้อม 4. ลงมือดัดแปลงตามแบบ 5. ตกแต่งเสื้อผ้าที่ดัดแปลงให้เรยี บร้อยสวยงาม วิธดี ัดแปลงเส้อื ผา้ 1. การตัดให้สั้น 1) เสื้อแขนยาวทำเป็นเสื้อแขนส้ัน โดยการตัดแขนท้ังสองข้างใหเ้ ทา่ กนั แล้วเย็บตะเข็บด้วยจักรเย็บ ผา้ หรือเย็บมือให้มนั่ คงแขง็ แรงสวยงาม 2) กระโปรงยาวตดั ชายให้ส้นั โดยตัดชายให้สน้ั ตามต้องการ แลว้ สอยชายใหเ้ รียบร้อย 35

หนังสอื แบบฝึกหดั การงานอาชพี รายวิชา ง21101 การงานอาชีพ 1 ง21102 การงานอาชีพ 2 ระดับมธั ยมศึกษาปีท่ี 1 3) กางเกงขายาวทำเป็นกางเกงขาสั้น นำมาตัดขาแลว้ เยบ็ ปลายขาใหเ้ ป็นกางเกงขาสั้น 2. การตอ่ ใหย้ าว ใช้ดัดแปลงกระโปรง โดยนำมาตกแตง่ ด้วยลกู ไม้ หรอื จบี ระบายที่ชายกระโปรง 3. การเปลย่ี นสดั สว่ น เสือ้ ผใู้ หญน่ ำมาเปล่ียนสดั สว่ นดดั แปลงเปน็ เส้ือเดก็ โดยออกแบบตัดเย็บหลบเลีย่ งรอย ขาด หรอื รอยตอ่ ตะเข็บของเส้ือตัวเดิม 36

หนงั สอื แบบฝึกหัดการงานอาชีพ รายวชิ า ง21101 การงานอาชพี 1 ง21102 การงานอาชีพ 2 ระดบั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 4. การแกไ้ ขบางสว่ น เช่น เส้อื ปกขาดแกเ้ ปน็ เสื้อคอกลม แขนเสื้อขาดแกเ้ ป็นไม่มแี ขน มวี ธิ ีดังน้ี 1) เลาะปกเก่าออก แล้วรดี ตะเข็บตัวเสื้อตรงรอยเลาะให้เรียบ 2) เยบ็ โดยพบั สอย หรืออาจใช้ผา้ กุ๊นรอบคอเสอื้ เพื่อให้สวยงามยงิ่ ข้นึ 5. การตกแต่งเพ่ิมเติม โดยนำมาติดโบ ติดลูกไม้ หรอื ปกั ลวดลายตา่ ง ๆ 6. การเปลี่ยนประโยชน์ใชส้ อย เส้ือผ้าที่ใสม่ านานแลว้ แต่เนอื้ ผา้ ยังดี สามารถนำมาดัดแปลงได้ 1) เสือ้ ชุดเกา่ เปลีย่ นเป็นผ้ากนั เป้ือน โดยตัดแบบผา้ กันเปอื้ นวางบนตวั เสือ้ ด้านหนา้ แล้วตัดตามแบบ นำมาเยบ็ รมิ ผ้าคลอ้ งคอ ผ้าผูกเอวตดั จากเสื้อด้านหลงั นำมาเย็บติดกนั และกุ๊นด้วยผ้าสีสวย ๆ 2) ผ้าเช็ดตัวเปลี่ยนเปน็ ผ้าจบั หกู ระทะ ผ้าเชด็ ตัวทีม่ ีรอยขาดนำมาตัดตามแบบ 4 ช้ิน นำ 2 ช้ิน ประกบกันเยบ็ ริมโดยรอบแลว้ กนุ๊ ดว้ ยผา้ สสี วย ๆ อาจตกแต่งเพม่ิ เตมิ หรือเย็บหสู ำหรับแขวนด้วยกไ็ ด้ แห3ล7่งท่มี าของเน้ือหา : สำนักพมิ พ์วัฒนาพานชิ www.wpp.co.th/

หนังสอื แบบฝึกหัดการงานอาชีพ รายวิชา ง21101 การงานอาชีพ 1 ง21102 การงานอาชพี 2 ระดับมธั ยมศึกษาปที ี่ 1 ใบงานที่ 10 การดดั แปลงเสื้อผ้า คำชแี้ จง ให้นกั เรียนระดมความคิดกบั สมาชิกภายในกล่มุ เพือ่ ออกแบบและวางแผนการดดั แปลงเสื้อผ้าตาม ขัน้ ตอนต่อไปนี้ 1. เลอื กลักษณะเส้ือผ้าต่อไปนเี้ พือ่ ดดั แปลง โดยทำเคร่อื งหมาย / ในวงกลมท่กี ำหนด 2. ระบุแนวคดิ ในการออกแบบเสื้อช้ินนี้ 3.วาดออกแบบการดัดแปลงเส้อื ผ้าที่เลอื กจากขอ้ ที่ 1 4. ระบวุ สั ด/ุ อปุ กรณท์ ่จี ำเป็นในการ ดัดแปลงเสอ้ื ช้ินน้ี 5. ประโยชน์ที่ไดจ้ ากการดัดแปลงเสอ้ื ผ้า 6. สมาชิกภายในกลมุ่ ชน้ิ นี้ 38

หนงั สอื แบบฝกึ หดั การงานอาชีพ รายวชิ า ง21101 การงานอาชีพ 1 ง21102 การงานอาชีพ 2 ระดับมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 เรอ่ื ง การซอมแซมเสื้อผา เสื้อผ้าที่เราสวมใส่เม่ือใช้ไประยะหน่ึงจะเกิดการชํารุด เช่น กระดุมหลุด เส้ือขาด กระเปาฉีกขาด ชายกระโปรงหรือชายกางเกงหลดุ เราควรซ่อมแซมเสื้อผา้ ท่ีชํารุดเหล่าน้ี ดว้ ยตนเอง เพือ่ เปน็ การประหยัดและ ใช้เวลาว่างใหเ้ ปน็ ประโยชน์ อุปกรณ์ทใี่ ชใ้ นการซอ่ มแซมเสือ้ ผ้า มีดังนี้ 1. เข็มเย็บผ้า มีหลายขนาด เช่น เข็มเบอร์ 7 มีขนาด ใหญ่ ใช้สําหรับเย็บผ้าที่มีเน้ือหนาหรอื ใช้เย็บกระดุม เข็ม เบอร์ 8 มีขนาดเลก็ ลงมา ใช้ในงานเยบ็ ทว่ั ไป เขม็ เบอร์ 9 มีขนาดเลก็ บาง เรยี กว่า เข็มสอย ใช้สําหรับ การสอยหรือ ชุนผา้ 2. เข็มหมุด เป็นเข็มท่ีไม่มีรู แต่มีหัวลักษณะกลม เพ่ือให้ หยิบจบั ได้สะดวก ใช้สําหรับกลัดผา้ ตั้งแต่ 2 ช้ิน ขึน้ ไปให้ ตดิ กันชว่ั คราว 3. ด้าย ใช้คูก่ ับเขม็ ดา้ ยมีหลายสี ถา้ ต้องการใช้ ด้าย เพื่อ เย็บผ้าชั่วคราวไม่ควรใช้ด้ายท่ีเหนียวมาก และ จะใช้สี อะไรก็ได้ แต่ถ้าเป็นงานเย็บ ปะผ้า หรือชุนผ้า ควร เลือกใชด้ า้ ยท่ีเหนยี ว ไมข่ าดง่าย และมสี เี ดยี วกับผ้า 4. กรรไกร ใช้สําหรับตัดด้ายหรอื ตดั ผา้ โดยเฉพาะ ไม่ควร นาํ ไปใชต้ ัดกระดาษเพราะจะทําให้กรรไกรไมค่ ม 39

หนงั สือแบบฝกึ หัดการงานอาชพี รายวิชา ง21101 การงานอาชีพ 1 ง21102 การงานอาชีพ 2 ระดับมัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 การซอ่ มแซมกระดุมเส้ือหลุด มกี ระบวนการทํางาน ดังนี้ 1.การวางแผน เปน็ การกาํ หนดกรอบของการซ่อมแซมกระดุมเส้ือหลดุ โดยสร้าง แผนท่ีความคิด เพื่อใหเ้ ห็น ภาพรวมของการทาํ งาน ดังน้ี 2. การปฏิบตั ิงาน โดยทาํ การซอ่ มแซมกระดมุ เสือ้ หลุดด้วยการติดกระดมุ แปบ ตามขัน้ ตอนตอ่ ไปนี้ 1) หาตําแหน่งทกี่ ระดมุ เส้ือหลุดซงึ่ จะเห็นเป็นรอยอยบู่ นเสอ้ื 2) เยบ็ กระดุมตวั ผู้ ตามวธิ กี ารดังนี้ (1) ร้อยดา้ ยยาวพอประมาณ ขมวดปมปลายด้าย (2) วางกระดุมหงายขนึ้ ตรงตาํ แหนง่ ท่ตี ้องการ ใชเ้ ขม็ แทงเขา้ ไปในชอ่ งท่ีอยรู่ มิ กระดุม (3) เยบ็ กระดมุ เหมือนขอ้ ท่ี 2 ประมาณ 6–8 ครงั้ จากนน้ั แทงเขม็ ใหท้ ะลุ ในช่อง ถัดไปของกระดมุ แล้วเย็บเช่นเดียวกบั ช่องแรกจนครบทกุ ช่อง (4) พนั ปลายเขม็ 3–4 คร้งั เพ่อื เก็บดา้ ย แลว้ ตัดด้ายทเี่ หลอื ออก 3) เยบ็ กระดมุ ตวั เมีย ตามวิธีการดงั นี้ 40

หนังสือแบบฝกึ หัดการงานอาชีพ รายวชิ า ง21101 การงานอาชพี 1 ง21102 การงานอาชีพ 2 ระดบั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 (1) รอ้ ยด้ายยาวพอประมาณ ขมวดปมท่ปี ลายดา้ ย (2) วางกระดมุ ตรงตําแหนง่ ทต่ี ้องการจะเย็บ ใช้เข็มแทงเข้าในชอ่ งท่อี ยูร่ ิมกระดุม (3) เย็บกระดุมเหมือนขัน้ ที่ 2 ประมาณ 6–8 คร้ัง จากนั้นแทงเข็มให้ทะลุในช่อง ถัดไปของกระดมุ แล้วเย็บเช่นเดียวกับชอ่ งแรกจนครบทกุ ชอ่ ง (4) พนั ปลายเข็มกับขอบกระดุม 2–3 คร้ัง เพอ่ื เก็บดา้ ยแลว้ ตดั ด้ายที่เหลือออก 3. การตรวจสอบผลงาน ตรวจดูความแน่นของกระดุมแปบที่ติดใหม่ 4. การปรับปรงุ แกไ้ ข ถ้ากระดมุ แปบตดิ ไม่แน่น หรือวางไม่ตรงกนั ตอ้ งเลาะออก แลว้ ติดใหม่ 41

หนงั สือแบบฝกึ หัดการงานอาชพี รายวชิ า ง21101 การงานอาชพี 1 ง21102 การงานอาชีพ 2 ระดบั มธั ยมศึกษาปีที่ 1 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 แตง่ กายดี มเี สน่ห์ ใบงานท่ี 11 การเย็บตดิ กระดุมเสือ้ คำชี้แจง : ใหน้ ักเรยี นฝกึ ทกั ษะการซ่อมแซมเสือ้ ผ้า กรณีกระดุมหลุด โดยตดั ชิ้นผ้าขนาดกวา้ ง 4 นิ้ว ยาว 4 นวิ้ และเยบ็ กระดุมตรงกลางผ้า คนละ 1 ชนิ้ งาน แล้วนำ ชนิ้ งานมาตดิ ในชอ่ งส่ีเหล่ียมด้านล่าง อปุ กรณ์ : กระดมุ ดา้ ย เขม็ กรรไกรตัดผ้า ดนิ สอเขียนผ้า วิธที ำ 1. เร่ิมแรกให้รอ้ ยดา้ ยเข้ารูเข็ม ดึงด้ายให้ไดค้ วามยาวตามตอ้ งการ โดยความยาวด้ายสองเส้นทบเท่ากัน 2. ขมวดปมปลายทบดา้ ย 3. ใช้ดินสอเขียนผ้าทำเครื่องหมายทจี่ ะเยบ็ กระดมุ 4. แทงเข็มข้ึนจากด้านลา่ งผา้ ตรงจุดท่ที ำเครอ่ื งหมาย 5. วางกระดมุ ตรงเครื่องหมาย แทงเข็มขึ้นรหู นง่ึ และแทงลงอีกรหู น่งึ (ถ้ากระดมุ 4 รูปทำไขว้กนั ตามภาพ) ใกล้ เคร่ืองหมาย ดงึ ด้ายให้ตึงทุกคร้งั 6. ทำซำ้ ประมาณ 5-6 คร้งั 7. แทงเข็มลงข้างกระดมุ ใต้ด้ายทีเ่ ยบ็ 8. ขมวดปมเลก็ ๆ ใกลก้ ระดมุ ให้แน่น แลว้ เยบ็ ซอ่ นปม 3 ครั้ง 9. ตดั ดา้ ยออก เปน็ อันเสร็จเรยี บรอ้ ย พ้นื ทสี่ ำหรับตดิ ชน้ิ งาน 42

หนงั สือแบบฝกึ หัดการงานอาชพี รายวชิ า ง21101 การงานอาชพี 1 ง21102 การงานอาชพี 2 ระดับมัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 การซ่อมแซมชายกระโปรงหรือชายกางเกงหลุด มกี ระบวนการทาํ งานดังนี้ 1. การวางแผน เปน็ การกําหนดกรอบการซอ่ มแซมชายกระโปรงหรอื ชายกางเกง หลดุ โดยสร้างแผนที่ ความคิด เพ่ือให้เหน็ ภาพรวมของการทาํ งาน ดงั นี้ 2. การปฏิบตั ิงาน โดยทาํ การซอ่ มแซมชายกระโปรงหรอื ชายกางเกงทีห่ ลุดดว้ ย วธิ ีการสอยผ้าตามข้ันตอน ต่อไปน้ี การสอยธรรมดา ควรปฏบิ ัตดิ งั นี้ 1) ใช้เขม็ รอ้ ยด้ายยาวประมาณ 1 ฟุต ใช้ดา้ ยเส้นเดียว ขมวดปมท่ีปลายดา้ ย พบั เก็บริมผ้าให้ เรยี บรอ้ ยประมาณ 2 ทบ แล้วแทงเขม็ ขึ้นตรงรอยพบั ดงึ ด้ายให้ตึง โดยเรมิ่ จากทางด้านขวามอื 2) แทงเขม็ ใหต้ ิดทง้ั ผ้าและรอยพบั ในแนวเฉยี ง 3) ทาํ ซ้าํ ขอ้ ที่ 1 และ 2 จนสุดปลายผา้ เก็บปลายดา้ ยใหเ้ รียบร้อย 4) เกบ็ เขม็ ดา้ ย กรรไกร เขา้ ทใ่ี ห้ เรยี บรอ้ ย 43

หนังสอื แบบฝกึ หัดการงานอาชพี รายวิชา ง21101 การงานอาชพี 1 ง21102 การงานอาชพี 2 ระดบั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 การสอยซอนด้าย ควรปฏบิ ตั ิดงั นี้ 1) ใช้เขม็ ร้อยดา้ ยยาวประมาณ 1 ฟุต ใชด้ ้ายเสน้ เดียว ขมวดปมที่ปลายด้าย พับเก็บริมผ้าให้ เรยี บรอ้ ยประมาณ 2 ทบ แลว้ แทงเขม็ ขน้ึ ตรงรอยพบั ครง้ั ท่ี 1 เรม่ิ จาก ทางด้านขวา ดงึ ดา้ ยให้ตงึ แลว้ จรดปลายเขม็ สอดเขา้ ใต้เสน้ ด้ายของเนื้อผา้ ชน้ิ ล่าง 1–2 เส้น แล้วดึงเข็มขน้ึ จนสดุ ด้าย 2) ใช้เขม็ สอดเข้าตามรอยพับยาวประมาณ 1–1.5 เซนติเมตร แล้วดงึ เขม็ ขนึ้ 3) ทาํ ซํ้าขอ้ ที่ 1 และ 2 จนสุดปลายผ้า เก็บปลายดา้ ยใหเ้ รยี บรอ้ ย 4) เกบ็ เขม็ ดา้ ย และกรรไกร เข้าทีใ่ หเ้ รียบรอ้ ย การสอยแบบก้างปลา ควรปฏบิ ัติดงั น้ี 1) ใชเ้ ข็มร้อยดา้ ยยาวประมาณ 1 ฟตุ ใชด้ า้ ยเส้นเดยี ว ขมวดปมที่ปลายด้าย พับเก็บรมิ ผ้าให้ เรียบร้อยประมาณ 2 ทบ แล้วแทงเข็มขน้ึ ตรงรอยพับ ครั้งท่ี 1 ทางดา้ น ขวาแลว้ ดงึ เขม็ จนสุดดา้ ย จากน้นั จรดปลายเขม็ สะกิดเสน้ ด้ายของเนื้อผ้าชิน้ ล่างขน้ึ มา 3–4 เส้น แล้วดึง เขม็ ขึ้นจนสุดด้าย 2) สอดปลายเข็มเข้าไปในรอยพบั ประมาณ 1 4 เซนติเมตร ดึงเขม็ ข้นึ แล้ว สอดปลายเข็มไป ตรงรอยพบั ในลกั ษณะทแยงไขว้ไปมาสลับเปน็ ระยะ 3) ทําเชน่ เดิมจนสุดปลายผ้า แล้วเก็บด้ายให้เรยี บรอ้ ย 4) เกบ็ เข็ม ดา้ ย และกรรไกร เข้าท่ใี ห้ เรียบรอ้ ย 3. การตรวจสอบผลงาน ตรวจดูความเรยี บร้อยของชายกระโปรงหรือชายกางเกง ทซี่ ่อมแซมเสร็จแล้ว 4. การปรบั ปรงุ แก้ไข ถ้าชายกระโปรงหรือชายกางเกงท่สี อยมรี อยยน่ ไม่เรยี บ ตอ้ งแกไ้ ขโดยการเลาะดา้ ย ออกแล้วสอยใหม่ 44

หนังสือแบบฝึกหดั การงานอาชีพ รายวชิ า ง21101 การงานอาชพี 1 ง21102 การงานอาชพี 2 ระดับมัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 การซอ่ มแซมเสื้อที่มีรอยขาด มกี ระบวนการทาํ งานดงั นี้ 1.การวางแผน เปน็ การกําหนดกรอบของการซ่อมแซมเส้อื ท่ีมรี อยขาด โดยสร้าง แผนทคี่ วามคดิ เพือ่ ให้เห็น ภาพรวมของการทํางาน ดังน้ี 2. การปฏบิ ตั ิงาน โดยทําการซ่อมแซมเสือ้ ท่ีมีรอยขาดดว้ ยวิธีการปะผา้ ตาม ขนั้ ตอนตอ่ ไปนี้ 1) ใชก้ รรไกรเล็มรอบ ๆ รอยขาดของเสือ้ ทีม่ ีด้ายรุ่ยออก 2) เลอื กเศษผ้าท่มี สี ีเหมือนหรอื คล้ายกันกับเสอ้ื ท่ีมรี อยขาด นํามาตัดเป็น รูปส่ีเหลี่ยมให้มี ขนาดใหญ่กวา่ รอยขาดประมาณ 2.5 เซนตเิ มตร ทาบบนรอยขาดของ เสื้อดา้ นนอก 3) พับริมเศษผ้าเข้าข้างใน แล้วใชเ้ ขม็ หมดุ กลดั โดยรอบ 4) ดึงเข็มหมุดออกทีละ 1 ตัว แล้วเนารมิ ผ้าให้รอบ 45

หนงั สือแบบฝกึ หัดการงานอาชพี รายวชิ า ง21101 การงานอาชพี 1 ง21102 การงานอาชีพ 2 ระดบั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 5) ใช้สะดึงขงึ ผา้ ให้ตึง แล้วสอยแบบธรรมดา โดยสอยถ่ี ๆ รอบเศษผ้าทีป่ ะ เสรจ็ แลว้ ดึงดา้ ย เนาออก 6) กลบั เส้ือดา้ นใน ใชก้ รรไกรขรบิ รอยขาดทเ่ี ลม็ ไวเ้ ปน็ ระยะหา่ ง ๆ 7) พบั ริมรอยขาดทเ่ี ล็มไว้เข้าดา้ นใน แลว้ เนาโดยรอบ 8) สอยแบบธรรมดา โดยสอยถี่ ๆ ติดกบั ตัวเส้ือ ขณะสอยใหส้ อดเขา้ ใต้ เส้นด้ายของตัวเส้ือ เพียง 2–3 เสน้ เสร็จแลว้ ดงึ ดา้ ยเนาออก 9) เก็บเคร่อื งมือทกุ ชนิดเข้าที่ให้เรียบร้อย และเกบ็ กวาดเศษผา้ ไปทิ้งขยะ 3. การตรวจสอบผลงาน ตรวจดูความเรียบร้อยในการปะผา้ และการสอย 4. การปรบั ปรงุ แก้ไข ถา้ พบปญหาดา้ ยที่สอยไมเ่ รียบร้อย ควรแก้ไขโดยเลาะด้าย ออกแลว้ สอยใหม่ ท่มี าแหล่งขอ้ มูล: หนังสือเรยี น รายวิชาพื้นฐาน การงานอาชพี และเทคโนโลยี ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 สำนักพมิ พ์วฒั นาพานิช จำกัด กรงุ เทพฯ 46

หนงั สอื แบบฝกึ หัดการงานอาชพี รายวชิ า ง21101 การงานอาชีพ 1 ง21102 การงานอาชีพ 2 ระดับมธั ยมศึกษาปีท่ี 1 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 แตง่ กายดี มีเสนห่ ์ ใบงานท่ี 12 การซอ่ มแซมเสอ้ื ผา้ ดว้ ยการเย็บพนื้ ฐาน การเนา การสอย การดน้ คำช้ีแจ้ง ให้นักเรียนศึกษาการการซ่อมแซมเส้ือผ้าด้วยการเย็บพ้ืนฐาน การเนา การสอย และการด้นด้วย ตนเอง และลงมือปฏิบัติในคาบเรียน โดยใช้อุปกรณ์ท่ีคณุ ครูเตรียมไว้ ภายใต้การกำกับดูแล และให้คำแนะนำ ของคุณครูผูส้ อน นักเรียนสามารถสอบถาม และดูตัวอยา่ งการสาธิตจากคุณครูได้ แล้วนำช้นิ งานมาติดในช่อง ตดิ ผลงานดังนี้ การเนา การสอย การดน้ 47

หนงั สือแบบฝกึ หดั การงานอาชพี รายวิชา ง21101 การงานอาชพี 1 ง21102 การงานอาชพี 2 ระดบั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 หน้าน้ีมไี ว้จดบันทกึ ชว่ ยจำ 48

หนงั สือแบบฝกึ หดั การงานอาชพี รายวิชา ง21101 การงานอาชพี 1 ง21102 การงานอาชพี 2 ระดบั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 หน้าน้ีมไี ว้จดบันทกึ ชว่ ยจำ 49

หนงั สือแบบฝกึ หดั การงานอาชพี รายวิชา ง21101 การงานอาชพี 1 ง21102 การงานอาชพี 2 ระดบั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 หน้าน้ีมไี ว้จดบันทกึ ชว่ ยจำ 50