โครงการพัฒนาคุณภาพโรงเรียนสู่มาตรฐาน กิจกรรมพัฒนาโรงเรียนดีประจำตำบล ๑. หลักการและเหตุผล โรงเรียนเป็นองค์กรทางการศึกษาที่สำคัญที่สุดในการพัฒนาคุณภาพนักเรียน แนวคิดการพัฒนาคุณภาพโรงเรียนจึงเป็นความสำคัญสูงสุดในการปฏิบัติงานของกระทรวงศึกษาธิการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาโรงเรียนในท้องถิ่นชนบทซึ่งนักเรียน ส่วนใหญ่มักด้อยโอกาสในการได้เข้าเรียนในโรงเรียนที่มีคุณภาพ อย่างไรก็ตาม จากการรายงานของธนาคารโลก พบว่า ผลการดำเนินงานพัฒนาการศึกษาของประเทศไทยที่ผ่านมาประสบผลสำเร็จอย่างยิ่งในการขยายโอกาสทางการศึกษา ขณะที่คุณภาพของการจัดการศึกษามีแนวโน้มลดลง โดยมีโรงเรียนเฉพาะที่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครเท่านั้นที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเทียบเคียงได้กับค่าคะแนนเฉลี่ยของประเทศสหรัฐอเมริกา (The World Bank, ๒๐๐๙) แต่โรงเรียนส่วนใหญ่ที่อยู่ในเขตชนบทยังด้อยคุณภาพ ทั้งผลการวิจัยยังพบว่า การทุ่มเททำงานจัดการศึกษาอย่างมีคุณภาพเพื่อพัฒนาเด็กด้อยโอกาสในท้องถิ่นชนบทจะส่งผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (economic returns) ของประเทศอย่างยิ่ง ทั้งยังลดปัญหาสังคม และส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชากรโดยรวม (Newsweek, ๒๐๐๙:Aug ๑.) กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานตระหนักในความสำคัญดังกล่าว จึงกำหนดนโยบายการพัฒนา “โรงเรียนคุณภาพ” ในท้องถิ่นชนบทเพื่อให้มีความเพียบพร้อมที่จะเป็นต้นแบบ หรือศูนย์สาธิตการให้บริการทางการศึกษาที่มีคุณภาพ ตลอดจนเป็นศูนย์รวม หรือเป็นแหล่งการเรียนรู้ของชุมชน ทำให้ชุมชนมีส่วนร่วมและเกิดความรู้สึกเป็นเจ้าของ เชื่อมั่นและศรัทธาในการปฏิบัติงานของโรงเรียนและไม่จำเป็นต้องส่งบุตรหลานไปเรียนในเมือง นำไปสู่การลดค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง โดยโรงเรียนและชุมชนสามารถจัดกิจกรรมอันเป็นประโยชน์บริการและเชื่อมความสัมพันธ์กับชุมชนได้อย่างต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพ ๒. วัตถุประสงค์ ๒.๑ เพื่อพัฒนาโรงเรียนในท้องถิ่นชนบทให้เป็น “โรงเรียนคุณภาพ” มีความพร้อมและความเข้มแข็งทั้งทางด้านวิชาการ อาชีพ และการพัฒนาสุขภาพอนามัย สามารถให้บริการการศึกษาแก่นักเรียนอย่างมีคุณภาพ เป็นศูนย์พัฒนาครูสำหรับโรงเรียนต่าง ๆที่อยู่ใกล้เคียง และมีกิจกรรมบริการชุมชน ๒.๒ เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพสำหรับนักเรียนในท้องถิ่นชนบท ๒.๓ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือ และการมีส่วนร่วมจากชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน นำไปสู่ความเข้มแข็งของโรงเรียนและรองรับการกระจายอำนาจ ๓. เป้าหมาย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาละ ๑ โรงเรียน (ยกเว้น กทม.) รวม ๑๘๒ โรงเรียน ๔. รูปแบบการพัฒนา ความคาดหวังการพัฒนา คือ เป็นโรงเรียนดีต้นแบบระดับตำบล (๑ ตำบล ๑ โรงเรียน) หรือเป็นโรงเรียนคุณภาพของชุมชน และเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคม โดยกำหนดคุณลักษณะหรือภาพลักษณ์ของโรงเรียนที่ต้องการ คือ · เป็นโรงเรียนที่มีมาตรฐานคุณภาพระดับสูง มีความเข้มแข็งทั้งด้านวิชาการ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ดนตรี กีฬา และศิลปะ · เป็นโรงเรียนที่มีความพร้อมด้านกายภาพที่มีความสะอาด ร่มรื่น ปลอดภัย · เป็นโรงเรียน “ทำมาหากิน” ที่เน้นการพัฒนาพื้นฐานด้านอาชีพและการมีรายได้ระหว่างเรียน · เป็น “โรงเรียนของชุมชน” ที่มีความร่วมมือกับท้องถิ่นและบริการชุมชนอย่างเข้มแข็ง โดยมีแนวทางการพัฒนา ดังนี้ ๔.๑ ภาพความสำเร็จ ๑) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนอยู่ในระดับสูงไม่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน ๕ กลุ่มสาระหลัก ๒) โรงเรียนสร้างวัฒนธรรมหรือวิถีชีวิตประชาธิปไตยอย่างเข้มแข็ง และไม่มีปัญหายาเสพติด ๓) โรงเรียนมีความร่วมมือกับชุมชน ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนที่อยู่ใกล้เคียงและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอย่างเข้มแข็ง ๔) นักเรียนมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ มีสำนึกความเป็นไทย มีความรู้และทักษะพื้นฐานด้านอาชีพ มีความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ระดับสูง และมีสุขภาพพลานามัยดี ๕) นักเรียนมีความรู้ และทักษะอย่างดีด้านภาษาอังกฤษ หรือภาษาที่สองอื่น ๆ ตามความสนใจหรือความถนัด ๔.๒ กิจกรรมดำเนินการสำคัญ ๔.๒.๑ จัดกิจกรรมการเรียนการสอน และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนอย่างเข้มข้น โดยเน้น ๑) ผู้เรียนเป็นสำคัญเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยเน้นการอ่านออก เขียนได้ คิดเลขเป็น เป็นทักษะพื้นฐานของนักเรียนทุกคน ๒) การเรียนรู้จากการฝึกปฏิบัติจริงและเน้นการคิดวิเคราะห์ด้วยการเรียนแบบโครงงาน (project-based learning) หรือ การเรียนโดยการแก้ปัญหา (problem-based learning) ๓) การส่งเสริมให้นักเรียนมีการแสดงออกเชิงสร้างสรรค์โดยกระบวนการหรือกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนที่เชื่อมโยงกับการบริการหรือพัฒนาชุมชน เพื่อสร้างจิตสาธารณะ เป็นสมาชิกของชุมชนที่มีคุณภาพ นำไปสู่การรักและพัฒนาถิ่นฐานของตน ๔) การส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนนักเรียน และบุคลากรทั้งภายในประเทศ และระหว่างประเทศ ๔.๒.๒ พัฒนาปัจจัยพื้นฐาน ได้แก่ การพัฒนา จัดหาสื่อวัสดุ อุปกรณ์ และจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้เพื่อการจัดการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ ๑) อาคารสถานที่สะอาด ร่มรื่น ปลอดภัย มีสีสันสวยงาม น่าอยู่ น่าเรียน ๒) คอมพิวเตอร์ ๑ เครื่อง ต่อนักเรียน ๑๐ คน ๓) อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง อย่างน้อย ๒ Mb ๔) ห้องสมุด ๓ ดี ๕) สระว่ายน้ำ หรือ ศูนย์กีฬา (sport complex) ๖) อุปกรณ์ดนตรี กีฬา และศิลปะ ๗) ศูนย์การเรียนรู้ด้านอาชีพ ซึ่งอาจประกอบด้วยพื้นที่เพื่อการเกษตร อาคาร/โรงฝึกงานเพื่อการฝึกอาชีพตามบริบทของท้องถิ่น เช่น การสร้างหรือพัฒนาผลิตภัณฑ์ของชุมชน งานด้านบริการ การสร้างผลผลิตทางการเกษตรและการแปรรูปอาหาร เป็นต้น ๔.๒.๓ บริหารจัดการบุคลากรครู และผู้บริหารโรงเรียนดีต้นแบบระดับตำบลอย่างเหมาะสม เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานให้บรรลุเป้าหมายภาพความสำเร็จที่กำหนดไว้ตามข้อ ๔.๑ ๑) การคัดเลือกหรือพัฒนาผู้บริหารโรงเรียนให้มีความมุ่งมั่น และศักยภาพอย่างสูง ๒) โรงเรียนดีประจำตำบลควรมีครูจบวิชาเอกภาษาไทย และคณิตศาสตร์ หรือได้รับการพัฒนาให้มีศักยภาพตรงกับวิชาที่สอนอย่างน้อย ๕ กลุ่มสาระวิชาหลัก และมีความสามารถในการนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) มาใช้ในการเรียนการสอน ๓) การพัฒนาครู และบรรจุ แต่งตั้งครูใหม่
๑) บริการวิชาการสำหรับนักเรียนและครูจากโรงเรียนขนาดเล็ก
และโรงเรียนอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้เคียง เช่น การนำนักเรียนมาเรียนรวม การจัดครูเคลื่อนที่ ความร่วมมือกันในการพัฒนาครู และวางแผนการจัดการเรียนรู้ และการวัดและประเมินผลการเรียน เป็นต้น
๕. เกณฑ์การคัดเลือกโรงเรียน ๒) โรงเรียนมีบริเวณพื้นที่กว้างขวาง เพียงพอต่อการจัดหรือพัฒนากิจกรรมต่าง ๆ ตามโครงการ ๓) ผู้บริหารโรงเรียนมีความมุ่งมั่น และมีศักยภาพอย่างสูงในการบริหารโรงเรียนแบบมีส่วนร่วม ๔) โรงเรียนตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีการคมนาคมสะดวก และเป็นศูนย์กลางระหว่างโรงเรียนด้วยกัน และระหว่างชุมชน ๕) โรงเรียนมีพื้นฐานความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชน ๖. กระบวนการคัดเลือกโรงเรียนเป้าหมาย ๑. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาคัดเลือกโรงเรียนดีประจำตำบล ตามเกณฑ์การคัดเลือกโรงเรียนดีประจำตำบลดังระบุในโครงการ ๒. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาพิจารณาเลือกโรงเรียนเป้าหมายจำนวน ๑ โรงเรียน ซึ่งอาจเลือกจากโรงเรียนดีประจำตำบล (๗,๐๐๐ โรงเรียน) หรือไม่ก็ได้ โดยมีการทำ “ประชาคม” หรือมีภาคี ระหว่างโรงเรียนใกล้เคียงและชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ในการกำหนดโรงเรียนเป้าหมายและร่วมพัฒนา โดยมีแนวทางเสนอแนะดังนี้ ๒.๑ แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกโรงเรียนเป้าหมาย ประกอบด้วยภาคีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ครอบครัว ชุมชน ฝ่ายปกครอง องค์กรชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา องค์กรวิชาชีพ สถาบันสังคมอื่น ๆ เป็นต้น ๒.๒ ประชุมร่วมกับภาคีเกี่ยวกับแนวทางการแนวทางการคัดเลือกโรงเรียน เพื่อให้ได้โรงเรียนเป้าหมายที่ชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ทำชุมชนและฝ่ายปกครองเห็นพ้องที่จะดูแลช่วยเหลือโรงเรียนให้เป็นโรงเรียนคุณภาพ สามารถปฏิบัติงานได้บรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการ๓. ให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เสนอโรงเรียนที่เหมาะสม ๑ โรงเรียน พร้อมบอกเหตุผลของการคัดเลือก |