เสาวรส งานวิจัยและสรรพคุณ 16ข้อชื่อสมุนไพร เสาวรส ถิ่นกำเนิดเสาวรสเสาวรส มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้ในประเทศบราซิล ปารากวัย และอาร์เจนตินา แล้วมีการกระจายพันธุ์โดยการนำเสาวรสไปปลูกเพื่อประโยชน์ทางการค้าในหลายประเทศทั่วโลก เช่น อินเดีย นิวซีแลนด์ อินโดนีเซีย เปอร์โตริโก สาธารณรัฐโดมินิกัน สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย อิสราเอล คอสตาริกา แอฟริกาใต้โปรตุเกส รวมถึงประเทศแถบทะเลแคริบเบียนและแอฟริกาตะวันออก สำหรับในประเทศไทย เสาวรสถูกนำเข้ามาทดลองปลูกครั้งแรกในภาคเหนือ ประมาณปี พ.ศ. 2498 ปัจจุบัน พบปลูกมากในภาคเหนือ และภาคตะวันออก ในแถบจังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เพชรบูรณ์ ระยอง และชลบุรี ประโยชน์และสรรพคุณเสาวรส
เมล็ดพร้อมเยื่อหุ้มเมล็ดนำมาคั้นหรือปั่นเป็นน้ำผลไม้ดื่ม ให้รสเปรี้ยวจัด หรือปั่นผสมกับผลไม้อื่นที่มีรสหวาน เพื่อเพิ่มความหวาน อาทิ ประเทศทางแถบอเมริกาใต้นิยมนำเยื่อหุ้มเมล็ด และเปลือกมาปั่นผสมกับน้ำตาล ได้เครื่องดื่มที่เรียกว่า refresco หรือใช้ผสมกับน้ำผลไม้ชนิดอื่น เช่น น้ำแอปเปิ้ล น้ำส้ม น้ำสัปปะรด น้ำพีช เป็นต้น โดยอัตราการผสมน้ำเสาวรสประมาณ 5 หรือ 10 เปอร์เซ็นต์ เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมและรสชาติที่ดี ซึ่งเป็นที่นำยมกันอย่างแพร่หลายในต่างประเทศ เพราะนอกจากทำให้เครื่องดื่มมีกลิ่นหอมและรสชาติที่ดีขึ้นแล้ว ยังมีคุณค่าทางอาหารสูง และน้ำเสาวรสยังสามารถนำไปใช้แต่งกลิ่นและรสชาติของไอศกรีม ขนมเค้ก เยลลี่ เชอร์เบท พาย ลูกกวาด ไวน์ เป็นต้น และเยื่อหุ้มเมล็ดยังแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ อาทิ เสาวรสผง แยมเสาวรส และเยลลี่เสาวรส ส่วนเปลือกเสาวรสมีคาร์โบไฮเดรต และโปรตีน สามารถนำมาตากแห้งหรือใช้สดเป็นอาหารเลี้ยงโค กระบือ แกะ แพะ และหมู ได้
โดยปกติแล้ว มักจะนำเสาวรสสุกมาทำเป็นน้ำผลไม้หรือใช้รับประทานสดๆ ก็สามารถได้ประโยชน์จากสารออกฤทธิ์ต่างๆของเสาวรสแล้ว ส่วนในค้านการนำมาใช้เป็นสมุนไพรก็มีการมาใช้ เช่น นำรากเสาวรสไปต้มแล้วใช้ดื่มช่วยแก้ไข้ รักษาตามโรค แก้ผื่นคัน หรือนำใบมาต้มกับน้ำใช้รับประทาน สามารถใช้เป็นยาถ่ายพยาธิได้ หรือจะใช้เนื้อในของผลสุกมาทำเป็นน้ำผลไม้ดื่ม จะช่วยลดไขมันในเลือด ลดความดันโลหิตและช่วยให้ระบายได้ เป็นต้น ลักษณะทั่วไปเสาวรสเสาวรสจัดเป็นไม้เถาเลื้อยขนาดใหญ่ ส่วนโคนเป็นไม้เนื้อแข็ง อายุหลายปี สามารถเลื้อยได้ไกลถึง 12 เมตร มีมือเกาะ ใบเดี่ยว รูปคล้ายโล่ หรือรูปไข่ ออกเรียงสลับกัน ขอบใบมักเว้าลึกเป็น 3 พู ปลายใบแหลม หรือเรียวแหลม โคนใบกลม หรือรูปหัวใจเว้าตื้น เนื้อใบค่อนข้างเหนียว ขอบใบจักฟันเลื่อย มีเส้นใบ 3 เส้น ออกจากโคนใบ ก้านใบยาว 4-4.5 เซนติเมตร ที่ปลายก้านมีต่อม หูใบรูปหอก ขอบเรียบ หรือจักฟันเลื่อย ดอกเสาวรสจัดเป็นดอกสมบูรณ์เพศ สามารถผสมเกสรด้วยตนเองได้ดี ตัวดอกแทงออกเป็นดอกเดี่ยว ดอกแทงออกบริเวณซอกใบตามเถา ประกอบด้วยกลีบเลี้ยง ด้านนอกกลีบเลี้ยงมีสีเขียว ด้านในมีสีขาว และกลีบดอกสีครีมอมม่วง 5 กลีบ กลีบดอกเรียงสลับเป็น 2 ชั้น ถัดมาด้านในมีฝอยเป็นเส้นล้อมเป็นวงกลมจำนวนมาก โคนฝอยมีสีม่วง ปลายฝอยมีสีขาว ตรงกลางดอกมีเกสรตัวผู้ 5 อัน ส่วนเกสรตัวเมียมีปลายแยกเป็น 3 แฉก เมื่อบานจะส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ผลเสาวรสออกเป็นผลเดี่ยว ผลมีรูปทรงกลมหรือรูปไข่ และอวบน้ำ ขนาดผลประมาณ 5-7 เซนติเมตร มีน้ำหนักผลประมาณ 35-115 กรัม ขึ้นอยู่กับขนาดผล ส่วนสีเปลือกแตกต่างกันตามสายพันธุ์ อาทิ พันธุ์สีม่วงจะมีเปลือกสีม่วงเข้ม ส่วนพันธุ์สีเหลืองจะมีเปลือกสีเหลืองสด เปลือกผลทุกพันธุ์ค่อนข้างหนา และ เป็นมัน ภายในผลประกอบด้วยเมล็ดจำนวนมาก ส่วนพันธุ์ที่พบในประเทศไทยและนิยมปลูกกันมาก มี 3 พันธุ์
|