ปัญหาการส่งงานล่าช้า ของ นักเรียน

Show

        ช่วงที่ผมออกไปนิเทศโรงเรียนวินัยเชิงบวก   มีปัญหาที่ถามมาจากคุณครูหลายท่านว่า  เด็กไม่ส่งงาน  จะใช่วินัยเชิงบวกแก้ปัญหาอย่างไร  เพราะคุณครูบอกว่าดีกับเด็กทุกอย่าง  แต่เด็กก็ยังไม่ส่งงาน

 

       ผมเลยย้อนถามคุณครูไปว่า ที่เด็กไม่ส่งงาน  ต้องหาสาเหตุที่แท้จริงครับ จึงจะแก้ได้ถูก   คุณครูก็บอกว่าสาเหตุก็อยู่ที่ตัวเด็กเอง  เพราะเด็กขี้เกียจ  ไม่รับผิดชอบ   ผมก็ถามต่อไปอีกว่า  ที่เขาขี้เกียจ ที่เขาไม่รับผิดชอบ  ก็ต้องมีสาเหตนะครับ ว่าเป็นเพราะอะไร   คุณครูไม่ตอบ

 

      ปัญหาเด็กไม่ส่งงาน   ถ้ามองโลกในแง่ดี   ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่เด็กส่งมา  ว่าถึงเวลาที่ครูจะได้แก้ปัญหาให้เด็กอีกแล้ว

 

      ผมเองผมมีความเชื่อของผมเองอยู่อย่างว่า "ไม่มีเด็กคนใหนอยากโง่   ไม่มีเด็กคนใหนอยากเกเร"  เด็กทุกคนอยากเป็นคนดี  อยากเป็นคนเก่ง  แต่พฤติกรรมของเขาที่เขาไม่ส่งงาน  คงจะต้องย้อนกลับไปมองถึงสาเหตุที่แท้จริง

 

        บางทีสาเหตุก็มาจากครอบครัว  ไม่ใช่มาจากตัวเด็กเอง  เช่น

         1.  ต้องช่วยทำงานบ้านจนไม่มีเวลาทำงานโรงเรียน

        2.  พ่อแม่ทะเลาะกัน  จนไม่มีกะจิตกะใจจะทำงานโรงเรียน

        3.  สิ่งแวดล้อมรอบๆบ้าน  ที่มารบกวนสมาธิการทำงานโรงเรียน

 

         สาเหตุมาจากคุณครู  

 

         1.   กรณีเด็กเก่งแต่ไม่ทำงานมาส่ง  มักจะเป็นการเรียกร้องความสนใจ  เมื่อเด็กค้นพบว่าเขาไม่ได้รับการยอมรับจากสังคม เขาก็จะแสดงความประพฤติที่ไม่สมควรเพื่อเรียกร้องความสนใจ

 

        2.  กรณีเด็กไม่เก่ง   เป็นเพราะเขาไม่เข้าใจและทำไม่ได้  จะทำมาส่งผิดๆ   ก็กลัวจะถูกทำโทษ

 

         วิธีแก้ปัญหา   คงต้องแก้โดยใช้หลักการทางจิตวิทยาครับ  และนักจิตวิทยา ที่ผมมีความเชื่ออยู่  คือ จิตวิทยาความต้องการของมาสโลว์   นั่นคือ  คุณครูจะต้องทำทุกวิถีทางที่จะสนองความต้องการขั้นต่ำ  โดยให้เด็กทุกคนมีความรู้สึกในห้องเรียนว่า

 

        1.  ร่างกายและจิตใจ  มีความสบาย  มีความปลอดภัย  จากการถูกคุกคามด้วยคำพูด และ การกระทำ จากคุณครู

 

        2. ได้รับความสนใจและเป็นส่วนหนึ่งของห้องเรียน

 

        3. ได้รับการยอมรับจากคุณครูว่าเขาเป็นคนที่มีความสามารถ

 

        การแก้ปัญหา คงต้องหาความต้องการของเขาให้เจอ  เพราะเขาขาดเขาจึงทำ

 

       ทีนี้  ก็มาถึงวิธีการแก้ปัญหารายกรณีครับ

 

        ปัญหาที่เกิดจากครอบครัว  คงต้องแก้สองทางควบคู่กันไปครับ นั่นคือ  ต้องประสานไปทางครอบครัว ให้ช่วยกันแก้ปัญหาให้ลูกได้ทำงานมาส่ง  ขณะที่มาที่โรงเรียน  คุณครูก็คงต้องให้โอกาสเขาได้นำงานบ้านมาทำที่โรงเรียน  หรือ มอบงานไปแล้ว  ก็ให้ทำที่โรงเรียนไปเลย

 

       ปัญหาที่เกิดจากคุณครู

 

       กรณีเด็กเก่งเรียกร้องความสนใจ  นั่นเป็นเพราะเขาไม่ได้รับความสนใจจากคุณครู  คุณครูก็ควรจะให้ความสนใจในตัวเขาด้วยการแสดงความรักความเอาใจใส่  และ  ยอมรับในตัวเขา  แต่ไม่ยอมรับพฤติกรรมของเขา  ด้วยความรักความเอาใจใส่จากคุณครู  เมื่อเขารู้ว่าคุณครูรักเขา สนใจเขา  แสดงว่าเขารู้ว่าเขามีค่า  ต่อไปเขาก็จะต้องพัฒนาตัวเองด้วยการทำงานมาส่งอย่างแน่นอนครับ

 

     กรณีเด็กไม่เก่ง  คงต้องยึดเรื่องความแตกต่างระหว่างบุคคลครับ  หัวสมองเขาแค่นี้  เขาก็คงทำได้เท่านี้  จะทำให้เท่ากับคนอื่นๆ  คงไม่ได้  ที่ชอบพูดกันว่า  คนอื่นก็มีสองมือ สองขา เหมือนกัน ทำไมเขาทำได้   เป็นคำพูดที่ไม่ควรพูดครับ   เด็กที่ไม่เก่งก็คงต้องมอบงานตามความสามารถของเขาครับ  ครูต้องจัดประสบการณ์เพื่อช่วยให้เขาประสบผลสำเร็จ  โดยการแข่งกับตัวเอง  ดังนั้น  จึงเป็นควรให้งานที่เขาพอทำได้  ส่วนเกณฑ์ในการผ่าน  ก็ผ่านตามเกณฑ์ของเขา   อย่าไปเทียบกับคนอื่น

 

         หลักจิตวิทยาที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือ หลักอัตมโนทัศน์(Self - Concept)  หลักการสำคัญ คือ เด็กแต่ละคน จะแสดงพฤติกรรมตามสิ่งที่ตนคิดเกี่ยวกับตนเองว่าเป็นเช่นไร

 

      เช่น   ครูที่แสดงออกว่า เด็กคนนี้เก่ง   เขาก็จะเก่งขึ้นมาจริงๆ  ในทางตรงกันข้าม ครูที่ แสดงออกว่าเด็กคนนี้ไม่เก่ง เขาก็จะไม่เก่งตามการแสดงออกของครู

 

       ด้วยเหตุนี้  เขาจึงห้ามคุณครู  "ประทับตราเด็ก"   ว่า  "โง่"   หรือ "เกเร "

 

     เพราะไม่มีเด็กคนไหนอยากเป็นคนโง่ อยากเป็นคนเกเร

 

       ถ้าคุณครูประทับตราเขาว่าโง่หรือเกเร  เขาจะเป็นอย่างนั้นจริงๆครับ และแก้ไขได้ยาก

 

 

       เด็กที่มี Self -  Concept  ในทางบวก  จะรู้สึกว่าตนเองมีความสามารถ  มั่นใจในตนเอง  มองเห็นคุณค่าในตนเอง  จะเป็นผู้ประสบความสำเร็จในการเรียน

 

      เด็กที่มี Self -  Concept  ในทางลบ  จะรู้สึกว่าตนเองไม่มีความสามารถ  ไม่มั่นใจในตนเอง  มองไม่เห็นคุณค่าในตนเอง  จะเป็นผู้ไม่ประสบความสำเร็จในการเรียน

 

       คุณครูลองถามตัวเองด้วยคำถามต่อไปนี้ครับ

 

        1. เด็กจะรู้สึกว่าตนเป็นที่ชอบพอรักใคร่ขอผู้อื่นได้อย่างไร  ถ้าไม่ใครรักใคร่ชอบพอต่อเขา

 

       2. เด็กจะรู้สึกว่าเขาเป็นที่ยอมรับได้อย่างไร  ถ้าไม่มีใครหรือแห่งใดยอมรับเขา

 

       3. เด็กจะรู้สึกมีเกียรติได้อย่างไร ถ้าไม่มีใครยกย่องให้เกียรติเขา

 

      4. เด็กจะรู้สึกว่าตนมีความสามารถได้อย่างไร ถ้าเขาไม่เคยประสบผลสำเร็จ

 

       ครับ การไม่ส่งงาน เป็นสัญญาณเตือนคุณครู ให้ตอบคำถามและทบทวนบทบาทของคุณครู  4  ข้อดังกล่าวข้างต้นครับ  เพราะ

 

       "ไม่มีเด็กคนไหนที่อยากโง่    อยากเกเร"