รายละเอียดคำแถลงนโยบายการจัดการศึกษา ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) คนใหม่ นางสาวตรีนุช เทียนทอง ณ ห้องประชุมราชวัลลภ อาคารราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2563 (โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com) 1 พฤศจิกายน 2565, สตูดิโอ OBEC Channel / นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มอบนโยบายการเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 แก่ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) และผู้อำนวยการสถานศึกษาสังกัด สพฐ. โดยมีครูและบุคลากรทางการศึกษาเข้าร่วมผ่าน OBEC Channel รมว.ศธ. กล่าวว่า ขอเน้นย้ำกับผู้บริหาร สพท. และสถานศึกษาในสังกัด สพฐ. ในการเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 ถึงแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายการศึกษาที่สำคัญในการดูแลพัฒนาการของนักเรียน ไม่ว่าจะเป็นความปลอดภัยในสถานศึกษา ซึ่ง ศธ.ได้พัฒนาระบบแจ้งเหตุความไม่ปลอดภัยขึ้น คือ ศูนย์ “MOE Safety Center” ทั้งการเดินทางมาโรงเรียนของนักเรียน การจัดสภาพแวดล้อมสถานศึกษาให้ปลอดภัย การดูแลด้านโภชนาการ และสุขภาพ การป้องกันภัยธรรมชาติ ที่สำคัญคือ การป้องกันภัยจากยาเสพติดทุกชนิด โดยเฉพาะกัญชา รวมทั้งภัยจากอาวุธปืน ซึ่งต้องไม่เกิดขึ้นในสถานศึกษาอย่างเด็ดขาด และต้องปฏิบัติอย่างเข้มข้น ตามหลัก 3 ป. คือ ป้องกัน ปลูกฝัง และ ปราบปราม ซึ่งนักเรียน ครู และประชาชนทุกคนสามารถแจ้งเหตุได้ 4 ช่องทาง ผ่านแอปพลิเคชัน MOE Safety Center เว็บไซต์ ไลน์ หรือสายด่วน 02-126-6565 ขณะนี้มีผู้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพื่อการใช้งานแล้ว มากกว่า 1 ล้านราย ซึ่งต้องชื่นชมทุกหน่วยงานที่ช่วยขับเคลื่อน พร้อมช่วยประชาสัมพันธ์ให้ครู นักเรียน ผู้ปกครอง รวมถึงประชาชนทั่วไปเข้าใช้ระบบเพิ่มมากขึ้น เพื่อสร้างความปลอดภัยให้นักเรียน ครู และบุคลากรทุกคน โดยนำการเรียนการสอนรูปแบบ Active Learning มาใช้ช่วยให้ผู้เรียน เรียนอย่างมีความสุข มีทักษะการคิด ซึ่งจะทำให้เรียนรู้ได้เร็วและนำไปใช้ในชีวิตจริงได้และป้องกันเด็กนักเรียนหลุดออกจากระบบการศึกษา ซึ่งโครงการพาน้องกลับมาเรียน ยังเป็นนโยบายสำคัญที่เดินหน้าต่อเนื่อง โดยติดตามเด็กกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาให้ได้มากที่สุด และทำให้การออกกลางคันเป็นศูนย์ (Zero Drop Out) ในปีการศึกษา 2565 นี้ นอกจากนี้ยังมีแพลตฟอร์ม School Mental Health ที่เป็นคอยคัดกรองดูแลช่วยเหลือนักเรียนและครูในสถานศึกษา ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รวมทั้งจะมีแผนเผชิญเหตุและผู้ให้คำปรึกษา เพื่อตรวจสภาพจิตใจของเด็กและครู ซึ่งสถานศึกษาทั่วประเทศสามารถประสานกับหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อขอรับคำปรึกษาและความช่วยเหลือเกี่ยวกับสุขภาพจิตได้
|