เสียบหูฟังแล้วไม่มีเสียง vivo

โปรแกรมขยายเสียงช่วยให้ผู้ที่มีปัญหาในการได้ยินเข้าใจบทสนทนาในชีวิตประจำวันและเสียงที่ดังขึ้นรอบตัวได้ดีขึ้นเพียงแค่ใช้โทรศัพท์ Android และหูฟังคู่เดียวเท่านั้น ใช้โปรแกรมขยายเสียงเพื่อกรองเสียงรบกวน เพิ่มคุณภาพ และขยายเสียงรอบตัวคุณและในอุปกรณ์

พร้อมให้บริการสำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ Android 8.1 ขึ้นไป หากต้องการเริ่มใช้โปรแกรมขยายเสียง ให้เชื่อมต่อหูฟังแล้วไปที่การตั้งค่า > การช่วยเหลือพิเศษ > โปรแกรมขยายเสียง หรือการตั้งค่า > การช่วยเหลือพิเศษ > แอปที่ดาวน์โหลด

ฟีเจอร์
• ลดเสียงรบกวนที่ไม่พึงประสงค์เพื่อจดจำคำพูดได้ดียิ่งขึ้น
• โฟกัสเสียงผู้พูดในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังรบกวนด้วยโหมดสนทนา (พร้อมให้บริการสำหรับ Pixel 3 ขึ้นไป)
• ฟังบทสนทนา ทีวี หรือการบรรยาย ขอแนะนำให้ใช้หูฟังบลูทูธกับแหล่งที่มาของเสียงที่อยู่ห่างออกไป (หูฟังบลูทูธอาจส่งสัญญาณเสียงล่าช้า)
• ปรับเปลี่ยนประสบการณ์การฟังในแบบของคุณสำหรับบทสนทนารอบตัวหรือสื่อที่เล่นอยู่ในอุปกรณ์ คุณสามารถลดเสียงรบกวน รวมถึงเร่งเสียงความถี่สูงและต่ำหรือเพิ่มความดังของเสียงค่อย ตั้งค่ากำหนดสำหรับหูทั้ง 2 ข้างหรือแต่ละข้างแยกกัน
• เปิดและปิดโปรแกรมขยายเสียงโดยใช้ปุ่มการช่วยเหลือพิเศษ ท่าทางสัมผัส หรือการตั้งค่าด่วน ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปุ่มการช่วยเหลือพิเศษ ท่าทางสัมผัส และการตั้งค่าด่วนได้ที่ https://support.google.com/accessibility/android/answer/7650693
• เปิดโปรแกรมขยายเสียงได้ง่ายขึ้นโดยการเพิ่มไว้ในรายการแอป ในการตั้งค่าโปรแกรมขยายเสียง ให้เปิด "แสดงไอคอนในรายการแอป"

ข้อกำหนด
• พร้อมให้บริการสำหรับ Android 8.1 ขึ้นไป
• จับคู่อุปกรณ์ Android กับหูฟัง
• ขณะนี้โหมดสนทนาพร้อมให้บริการใน Pixel 3 ขึ้นไป

ส่งความคิดเห็นเกี่ยวกับโปรแกรมขยายเสียงโดยอีเมลมาที่ หากต้องการความช่วยเหลือในการใช้โปรแกรมขยายเสียง โปรดติดต่อเราที่ https://g.co/disabilitysupport

ประกาศเกี่ยวกับสิทธิ์
ไมโครโฟน: สิทธิ์เข้าถึงไมโครโฟนจะช่วยให้โปรแกรมขยายเสียงประมวลผลเสียงสำหรับการขยายและการกรองได้ ทั้งนี้จะไม่มีการรวบรวมหรือจัดเก็บข้อมูล
บริการช่วยเหลือพิเศษ: เนื่องจากแอปนี้เป็นบริการช่วยเหลือพิเศษ จึงสังเกตการดำเนินการของคุณได้ รวมถึงดึงเนื้อหาในหน้าต่างและสังเกตข้อความที่พิมพ์

คุณฟังสื่อต่างๆ อย่างเพลง วิดีโอ หนังสือเสียง และพอดแคสต์ได้ด้วยหูฟังเอียร์บัดดิจิทัลแบบ USB-C ของ Pixel หากใช้โทรศัพท์หรืออุปกรณ์อื่นๆ คุณจะกดปุ่มเพื่อขอความช่วยเหลือจาก Google Assistant ได้ด้วย

ก่อนใช้หูฟังเอียร์บัด

หูฟังแบบ USB-C ของ Pixel ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้มากมาย ซึ่งรวมถึงโทรศัพท์ หากคุณใช้หูฟังเอียร์บัดกับอุปกรณ์อื่น ให้ทำดังนี้

  • ตรวจสอบว่าอุปกรณ์มีพอร์ต USB-C
  • ตรวจสอบว่าอุปกรณ์ใช้ระบบเสียงดิจิทัลแบบ USB-C ซึ่งจะทราบได้ด้วยการดูรายละเอียดด้านเทคนิคของอุปกรณ์หรือสอบถามผู้ผลิต
  • ตรวจสอบการตั้งค่าเสียงของอุปกรณ์ ในอุปกรณ์บางเครื่อง คุณต้องเปิดเสียงผ่านพอร์ต USB-C และในอุปกรณ์บางเครื่อง คุณจะรับสายโดยใช้หูฟังเอียร์บัดไม่ได้ด้วย
  • หากใช้โทรศัพท์ โปรดตรวจสอบว่าอุปกรณ์ใช้ Android เวอร์ชันล่าสุดอยู่ ดูวิธีอัปเดตเวอร์ชัน Android

ปรับให้พอดี

คุณปรับลักษณะของหูฟังเอียร์บัดให้พอดีกับหูของคุณยิ่งขึ้นได้ โดยค่อยๆ ดึงสายออกมาตรงๆ เหนือหรือใต้หูฟังเอียร์บัดแต่ละข้าง

ดูวิธีปรับหูฟังเอียร์บัดให้พอดีกับหู

เสียบหูฟังแล้วไม่มีเสียง vivo

เปลี่ยนระดับเสียงหรือเล่นสื่อ

หูฟังเอียร์บัดจะมีแถบควบคุมที่สาย เมื่อใส่หูฟังเอียร์บัดและกำลังฟังอะไรอยู่ คุณใช้แถบควบคุมเพื่อทำดังนี้ได้

  • เพิ่มระดับเสียง: กดส่วนบนของแถบควบคุม
  • ลดระดับเสียง: กดส่วนล่างของแถบควบคุม
  • เล่นหรือหยุดชั่วคราว: กดปุ่มกลาง
  • ข้ามไปที่เพลงถัดไปหรือกรอไปข้างหน้า: กดปุ่มกลาง 2 ครั้ง
  • เริ่มเพลงเดิมอีกครั้งหรือย้อนกลับ: กดปุ่มกลาง 3 ครั้ง

ขอความช่วยเหลือจาก Google Assistant

สำคัญ: คุณส่งคำขอเหล่านี้ได้ในโทรศัพท์ที่ใช้ Android เวอร์ชัน 9.0 ขึ้นไป ดูวิธีตรวจสอบและอัปเดตเวอร์ชัน Android

ตั้งค่า Google Assistant

  1. เสียบหูฟัง Pixel แบบ USB-C กับโทรศัพท์
  2. เริ่มการตั้งค่าดังนี้
    • หากเห็นการแจ้งเตือน "เชื่อมต่อหูฟัง Pixel แบบ USB-C แล้ว" ให้แตะสิ้นสุดการตั้งค่า
    • หากไม่เห็นการแจ้งเตือน ให้กด "หน้าแรก"
      เสียบหูฟังแล้วไม่มีเสียง vivo
      ค้างไว้ จากนั้นแตะสิ้นสุดการตั้งค่าหูฟัง
  3. ทำตามขั้นตอนในหน้าจอ

ขอข้อมูลหรือความช่วยเหลือจาก Google Assistant

  1. กดปุ่มกลางบนแถบควบคุมค้างไว้
  2. ถามคำถามหรือส่งคำขอ ตัวอย่างเช่น "อากาศเป็นอย่างไรบ้าง" หรือ "เล่าเรื่องตลกให้ฟังหน่อย"
  3. ยกนิ้วขึ้น
  4. คุณจะได้ยินเสียงกระดิ่งตามด้วยคำตอบ และจะไม่เห็นข้อมูลใหม่ๆ บนหน้าจออุปกรณ์

ฟังการแจ้งเตือนและแปลสิ่งที่คุณพูด

ฟังการบอกเวลาและการแจ้งเตือนล่าสุด

หากต้องการฟังการบอกเวลาและการแจ้งเตือนล่าสุด ให้กดส่วนบนของแถบควบคุมค้างไว้ 2-3 วินาที

หากไม่ได้ยินเสียงพูดการแจ้งเตือนเมื่อกดค้างไว้ ให้ทำดังนี้

  1. ในโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต Android ให้พูดว่า "Ok Google เปิดการตั้งค่า Assistant" 
  2. แตะอุปกรณ์ 
    เสียบหูฟังแล้วไม่มีเสียง vivo
     หูฟัง Pixel แบบ USB-C
  3. ไม่บังคับ: หากต้องการฟังข้อมูลแม้หน้าจอจะล็อกอยู่ ให้เปิดอนุญาตการตอบกลับขณะโทรศัพท์ล็อกอยู่
  4. แตะเปิดการเข้าถึงการแจ้งเตือน
    เสียบหูฟังแล้วไม่มีเสียง vivo
     Google
  5. เปิดอนุญาตการเข้าถึงการแจ้งเตือน
    • ไม่บังคับ: เลือกแอปอื่นๆ ที่คุณต้องการฟังการแจ้งเตือน

แปลการสนทนา 2 ภาษา

สำคัญ: ก่อนที่จะเสียบปลั๊กหูฟัง ให้ตรวจดูว่าได้เพิ่มระดับเสียงโทรศัพท์แล้ว

ขั้นตอนที่ 1: เปิด Google แปลภาษา

  1. ดาวน์โหลดและเปิดแอป Google แปลภาษา หากยังไม่ได้ทำ จากนั้นทำตามขั้นตอนการตั้งค่าที่แสดงขึ้นมา
  2. พูดว่า "Ok Google" หรือแตะ "หน้าแรก"
    เสียบหูฟังแล้วไม่มีเสียง vivo
    ค้างไว้
  3. ขอให้ Google Assistant แปลคำพูดของคุณเป็นอีกภาษาหนึ่ง เช่น พูดว่า "ช่วยฉันพูดเป็นภาษาสเปน" แอป Google แปลภาษาจะเปิดขึ้นมา

ขั้นตอนที่ 2: พูดกับคนอื่นเป็นภาษาอื่น

  1. กดปุ่มกลางบนแถบควบคุมของหูฟังค้างไว้
  2. พูดด้วยภาษาที่แสดงไว้เหนือไอคอนหูฟัง
  3. เมื่อพูดเสร็จแล้ว ให้ปล่อยปุ่มกลาง
  4. คุณจะได้ยินคำแปลดังขึ้นจากลำโพงโทรศัพท์ของคุณ ซึ่งอีกฝ่ายจะได้ยินด้วยเช่นกัน

ขั้นตอนที่ 3: ฟังการตอบกลับ

เคล็ดลับ: หากไม่ได้ยินคำแปล ให้เพิ่มระดับเสียง คุณอาจต้องดึงปลั๊กหูฟังเอียร์บัดออกก่อน จึงจะเพิ่มระดับเสียงได้

เลิกฟัง Google Assistant จากหูฟังเอียร์บัด

  1. ในโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต Android ให้พูดว่า "Ok Google เปิดการตั้งค่า Assistant" 
  2. แตะอุปกรณ์ 
    เสียบหูฟังแล้วไม่มีเสียง vivo
     หูฟัง Pixel แบบ USB-C
  3. ปิดรับความช่วยเหลือจาก Google

บทความที่เกี่ยวข้อง

  • ฟังเพลง คุยโทรศัพท์ และฟังเสียงอื่นๆ ในโทรศัพท์
  • สิ่งที่บรรจุมาในกล่องพร้อมกับโทรศัพท์
  • ใช้ "Ok Google" ใน Android
  • สิ่งที่ถาม Google Assistant ได้
  • แปลการสนทนา 2 ภาษา

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร