เพชรลดา พูลวรลักษณ์ ประวัติ

เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมรับรู้รายได้ในปี’61 ล่าสุดส่งโอนโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ “มาเอสโตร 07 อนุสาวรีย์ชัยฯ” (Maestro 07 Victory Monument) จำนวน 171 ยูนิต มูลค่า 800 ล้านบาท ให้ลูกค้าเข้าอยู่อาศัยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทั้งนี้โครงการดังกล่าวนับเป็นคอนโดมิเนียมโครงการที่ 5 ในปีนี้ที่ได้ส่งมอบให้ลูกค้า และคาดว่าจะทยอยโอนโครงการได้หมด 100% ภายในสิ้นปีนี้ หลังจากที่ทุกโครงการที่ผ่านมาในปีนี้ที่ได้ส่งมอบให้ลูกค้าได้ปิดการโอน 100% ทั้งหมดได้แก่ มาเอสโตร01 สาทร-เย็นอากาศ, มาเอสโตร14 สยาม – ราชเทวี, มาเอสโตร03 รัชดา – พระราม 9 และเอ็ม จตุจักร

.
“มาเอสโตร 07 อนุสาวรีย์ชัยฯ ประสบความสำเร็จตั้งแต่เปิดขายโครงการ สามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว เพียง 2 วันที่เปิดขายพรีเซลส์ เนื่องจากทำเลอนุสาวรีย์ชัยฯ เป็นอีกหนึ่งทำเลที่มีความสำคัญของกรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางคมนาคมการเดินทางที่เชื่อมต่อถนนหลายสายในการเข้าเมืองหรือออกนอกเมือง ไม่ว่าจะเป็นถนนพญาไท พหลโยธิน ราชวิถี ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน ใกล้สถานที่ราชการ และใกล้กับสถานพยาบาลชั้นนำและสถาบันทางการแพทย์กว่า 20 แห่ง จึงทำให้ทำเลอนุสาวรีย์ชัยฯ เต็มไปด้วยบุคลากรทางการแพทย์มืออาชีพ ทั้งแพทย์ พยาบาล เภสัชกร อาจารย์ บุคคลากรต่างๆ ที่อยู่ประจำแต่ละสถานพยาบาลรวม รวมทั้งนักศึกษาแพทย์ที่เข้ามาเรียนในแต่ละปีการศึกษาแล้วกว่า 10,000 คน นอกจากนี้ยังมีคิง พาวเวอร์ รางน้ำ ที่เป็นจุด Checkpoint ของนักท่องเที่ยว จึงทำให้ทำเลนี้มีดีมานด์ของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นสูงขึ้นตามมาด้วยเช่นกัน

.
ทำเลอนุสาวรีย์ชัยฯ มีดีมานด์เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งจากชาวไทยและชาวต่างชาติ อย่างไรก็ดี ทำเลนี้น้อยครั้งที่จะเกิดการพัฒนาโครงการใหม่ ทำให้ซัพพลายต์มีน้อย เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นของรัฐ ไม่สามารถนำมาพัฒนาได้ ส่งผลให้ปัจจุบัน มาเอสโตร 07 อนุสาวรีย์ชัยฯ ล่าสุดราคารีเซลสูงขึ้นมาอยู่ที่ถึง 174,000 บาท/ตารางเมตร เพิ่มสูงขึ้นจากปี’59 ที่มีราคาขายอยู่ที่ 140,000 บาท/ตารางเมตร หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 20% และมีผลตอบแทนการปล่อยเช่าเฉลี่ย 4-5% ต่อปี ขณะที่ราคาที่ดินอนุสาวรีย์ชัยฯ ก็พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน โดยสูงขึ้นเฉลี่ยเกือบ 10% ต่อปี ปัจจุบันราคาอยู่ที่ 850,000 บาทต่อตารางวา” คุณเพชรลดา กล่าว

.
คุณเพชรลดา กล่าวปิดท้ายว่า “เราคาดว่ารายได้รวมปีนี้จะโตขึ้นกว่าปีก่อนที่มีรายได้รวม 3,410 ล้านบาท ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2561 บริษัทมีรายได้รวมแล้ว 2,791 ล้านบาท โดยมาจากการทยอยส่งมอบโครงการอย่างต่อเนื่องและประสบความสำเร็จปิดการโอน 100% ทุกโครงการที่ส่งมอบ เนื่องจากเราส่งมอบโครงการที่มีคุณภาพให้ลูกค้าได้ตรงต่อเวลาตามที่กำหนด จึงทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นและไว้วางใจในแบรนด์ของเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ทั้งนี้จากการที่ทยอยรับรู้ได้รายได้จากการโอนอย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจว่าปีนี้ยอดขายจะเป็นไปตามเป้าที่ 30,000 ล้านบาทแน่นอน”

.

MJD พร้อมส่งมอบ “มาเอสโตร 07 อนุสาวรีย์ชัยฯ” คาดปิดโอนหมด 100% สิ้นปีนี้ ล่าสุดราคารีเซลสูงถึง 20% ขณะที่ทำเลอนุสาวรีชัยฯ บูม ราคาที่ดินดีด 10% ต่อปี แย้มรายได้รวมปีนี้โตขึ้นกว่าปีก่อน มั่นใจปีนี้ยอดขายเป็นไปตามเป้า 30,000 ลบ.
.
เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ พร้อมส่งมอบโครงการ “มาเอสโตร 07 อนุสาวรีย์ชัยฯ” (Maestro 07 Victory Monument) จำนวน 171 ยูนิต มูลค่า 800 ล้านบาท ให้ลูกค้าเข้าอยู่อาศัยตั้งแต่วันนี้ เผยโครงการประสบความสำเร็จ Sold Out อย่างรวดเร็วเพียง 2 วันที่เปิดพรีเซลส์ ล่าสุดราคารีเซลสูงขึ้นมาอยู่ที่ 174,000 บาท/ตร.ม. เพิ่มสูงขึ้นจากปี’59 ที่มีราคาขายอยู่ที่ 140,000 บาท/ตร.ม. หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 20% คาดสิ้นปีนี้ปิดโอนได้หมด 100% ขณะที่ทำเลอนุสาวรีย์ชัยฯ บูม ราคาที่ดินพุ่งขึ้นต่อเนื่องเฉลี่ยเกือบ 10% ต่อปี ปัจจุบันแตะที่ 850,000 บาทต่อตร.ว. แย้มรายได้รวมปีนี้โตขึ้นกว่าปีก่อน ระบุครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้รวมแล้ว 2,791 ล้านบาท มั่นใจปีนี้ยอดขายเป็นไปตามเป้าที่ 30,000 ล้านบาท

27 ก.ค. 2564 เวลา 7:21 น.

เพชรลดา พูลวรลักษณ์ นำทัพ เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เปิดแผน กลยุทธ์ รับมือโควิด-19 ท้าทายธุรกิจครึ่งปีหลัง ลุยปรับแผนการพัฒนาโครงการ เปิดช่องตลาดใหม่ ควบคู่รักษาเสถียรภาพกระแสเงินสด และกระจายความเสี่ยงสู่ธุรกิจใหม่

นางสาวเพชรลดา พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทกำลังเร่งเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งจากภายในสู่ภายนอก ภายใต้กลยุทธ์ “Building A Stronger Now” ปรับตัวและพัฒนาทิศทางการทำงานของทุกองคาพยพในองค์กร เพื่อให้องค์กร พนักงาน พันธมิตร ลูกบ้าน ตลอดจนลูกค้าใหม่ ยังสามารถก้าวไปได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ภายใต้ทุกความท้าทายในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19

“ภาพรวมเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังยังคงได้รับแรงกดดันอย่างมากจากโควิด-19 ทุกธุรกิจและอุตสาหกรรมกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอน สิ่งที่เราต้องทำคือ ทำให้มากกว่า ทำให้แกร่งกว่า วางแผนพร้อมรับ Worst-case scenario ที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อให้เราสามารถควบคุมความไม่แน่นอนเหล่านั้นและรับมือทุกสถานการณ์ได้อย่างแข็งแกร่ง และไม่ใช่แค่ทำให้องค์กรแข็งแกร่งขึ้น เราต้องช่วยพนักงาน ช่วยพันธมิตร ช่วยลูกบ้าน ช่วยลูกค้า ช่วยผู้เกี่ยวข้องกับองค์กรในทุกส่วนให้แกร่งขึ้นไปด้วย เพื่อให้ทุกคนรอดพ้นจากความท้าทายครั้งนี้ไปด้วยกันอย่างยั่งยืน” นางสาวเพชรลดา กล่าว

สำหรับกลยุทธ์ Building A Stronger Now ประกอบด้วยการปรับตัวและพัฒนาการทำงานภายใต้ 3 แกนหลัก ได้แก่ 

1.Stronger Move 

เดินหน้าองค์กรให้แกร่งกว่าเดิมและเข้ากับสถานการณ์ เริ่มต้นจากด้านการพัฒนาโครงการ ด้านการพัฒนาโครงการ ปรับแผนในช่วงไตรมาส 4/2564 เน้นการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวแทนคอนโดมิเนียม โดยปรับจากแผนเดิมที่มีบ้านเดี่ยว 1 โครงการและคอนโดมิเนียม 2 โครงการ สู่การพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว 2 โครงการและคอนโดมิเนียม 1 โครงการแทน ด้านการตลาด เร่งจับมือพันธมิตรเพื่อเพิ่มช่องทางการขายใหม่ๆ และกระตุ้นให้ผู้บริโภคเข้าถึงโครงการของเครือเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ง่ายขึ้น 

อาทิ การเยี่ยมชมโครงการแบบ 360 Virtual Tour ภายใต้ Major Private Tour และจัดโปรโมชั่นกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ด้านการเงิน เร่งสำรองเงินสด และสินเชื่อพร้อมใช้ ไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจให้พร้อมรับมือความท้าทาย พร้อมทั้งได้เตรียมการในการจ่ายคืนหุ้นกู้ในปีนี้ให้ครบถ้วน ด้านการกระจายความเสี่ยง เร่งเดินหน้าธุรกิจใหม่ๆ ให้รวดเร็วขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจ HealthScape ภายใต้วิสัยทัศน์การเป็นผู้พัฒนารูปแบบการใช้ชีวิต (Lifescape Developer) คาดว่าจะได้เห็นผลิตภัณฑ์ภายใต้ธุรกิจ HealthScape ในช่วงปลายไตรมาส 3/2564 นี้

เพชรลดา พูลวรลักษณ์ ประวัติ

2.Stronger Community 

ดูแลผู้ที่เกี่ยวข้องกับเครือเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ทุกส่วนให้แข็งแกร่งกว่าเดิม ทั้งกลุ่มพนักงาน พันธมิตร ตลอดจนลูกบ้าน โดยออกแคมเปญ We’ve got your back เข้าไปดูแลให้ความช่วยเหลือผู้เกี่ยวข้องในด้านชีวิตความเป็นอยู่ อาทิ การเปิดให้ลูกบ้าน พนักงาน ครอบครัว คู่ค้า สามารถร่วมจองวัคซีนทางเลือกผ่านบริษัท การจัดส่งอาหารและของใช้จำเป็นไปมอบให้ผู้รับเหมาและแคมป์คนงาน การเปิดพื้นที่ให้ลูกบ้านสามารถโปรโมทร้านค้าของตัวเองได้บน Official Facebook Fanpage ของ Major Development การมอบพริวิเลจดูแลทั้งลูกบ้านและสัตว์เลี้ยงให้ครอบคลุมความเป็น Pet-friendly residences ขณะเดียวกัน เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางด้านการเงิน มอบ Financial Solution ดูแลทั้งลูกบ้านเดิมและลูกค้าใหม่

3.Stronger Life Journey 

เร่งศึกษาแนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภค และ Customer Journey ของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปในช่วงโควิด-19 เพื่อมาพัฒนาสินค้าและบริการทั้งในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ระดับลักซูรีและกลุ่มธุรกิจใหม่ให้ตอบโจทย์ทุกห้วงเวลาชีวิตของผู้บริโภคในอนาคต

นางสาวเพชรลดา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา บริษัทยังคงรักษาขีดความสามารถในการดำเนินการได้อย่างดี มี Backlog ณ สิ้นไตรมาส 2/2564 รวม 4,635 ล้านบาท และสามารถปิดการขายได้ถึง 3 โครงการ ในที่นี่รวมไปถึงโครงการมอลตัน ไพรเวท เรสซิเดนซ์ สุขุมวิท 31 (Malton Private Residences Sukhumvit 31) ที่ปิดโครงการได้ภายในเวลาเพียง 1 ปี การก่อสร้างและทยอยโอนกรรมสิทธิ์ของโครงการเมทริส พัฒนาการ-เอกมัย (Metris Pattanakarn-Ekkamai) ที่ทำได้ตามเป้าหมาย 

ขณะเดียวกัน มาตรการปิดแคมป์คนงาน ในช่วงเดือน ก.ค. ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานภาพรวมของบริษัทมากนัก เนื่องจากปัจจุบันมีโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างเพียงไม่กี่โครงการ เช่น โครงการมิวนีค หลังสวน (MUNIQ Langsuan) ซึ่งเดิมก่อสร้างมาได้เร็วกว่าแผนงาน และน่าจะส่งมอบได้ตามกำหนดการ การเดินหน้ากลยุทธ์ Building A Stronger Now จะเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ต่อยอดการดำเนินงานของบริษัทให้แข็งแกร่งขึ้นจากครึ่งปีแรก พร้อมรับมือทุกความท้าทายและดูแลทุกองคาพยพที่เกี่ยวข้องกับบริษัทให้ก้าวไปได้อย่างยั่งยืน
 

สำหรับ บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับลักซูรี มีธุรกิจหลักในเครืออยู่ 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่

1.กลุ่มธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย

2.กลุ่มโครงการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ เช่น ออฟฟิศและโรงแรม

3.กลุ่มธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ มีวิสัยทัศน์ในการเติบโตอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างโครงการระดับลักซูรีที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค