คำสั่งเลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่ง (if-else) จากคำสั่ง if ที่ผ่านมาจะใช้ในการเขียนโปรแกรมที่ใช้บอกว่าจะเลือกทำหรือไม่ ถ้าเงื่อนไขเป็นจริงจะทำตามคำสั่งหรือ statement หลัง if ในกรณีที่คอมพิวเตอร์จะต้องเลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งโดยตรวจสอบเงื่อนไขที่กำหนด จะใช้คำสั่ง
if-else โดยถ้าเงื่อนไขเป็นจริงจะทำคำสั่งหลัง if แต่ถ้าเงื่อนไขเป็นเท็จจะทำคำสั่งหลัง else โดยมีรูปแบบดังนี้ ตัวอย่าง โปรแกรมคำนวณราคาต้นทุนสินค้า ถ้าหากผลิตมากกว่า 10 ชิ้นจะราคาชิ้นละ 7 บาท แต่ถ้าไม่เกิน 10 ชิ้นจะราคาชิ้นละ 8 บาท ตัวอย่างโปรแกรมคำนวณต้นทุนสินค้าด้วยคำสั่ง if-else โปรแกรมตรวจสอบว่าเป็นเลขคู่หรือเลขคี่ โดยใช้คำสั่ง if-elseจากโปรแกรมตรวจสอบเลขคู่เลขคี่ จะสังเกตเห็นได้ว่าการตรวจสอบเงื่อนไขนั้นสามารถเขียนเป็นนิพจน์ได้ คำสั่งเลือกทำที่มีมากกว่าสองทางเลือก (if-else if -else) การใช้คำสั่งเลือกทำแบบหลายทางเลือก การทดสอบเงื่อนไขจะทดสอบตั้งแต่บนลงล่าง ตัวอย่างเช่น ถ้ามีข้อมูลอยู่ในตัวแปร x , y , z เครื่องจะแจ้งว่าค่าใดเป็นค่าที่มากที่สุด โดยในขั้นตอนแรกจะเปรียบเทียบว่า x มากกว่า y และ x มากกว่า z หรือไม่ ถ้าจริงคอมพิวเตอร์จะบอกว่า x มีค่ามากที่สุด ถ้าไม่ใช่ จะเปรียบเทียบว่า y มากกว่า x และ y มากกว่า z หรือไม่ ถ้าจริงคอมพิวเตอร์จะบอกว่า y มีค่ามากที่สุด ถ้าไม่ใช่คอมพิวเตอร์จะบอกว่า z มีค่ามากที่สุด ตัวอย่างโปรแกรมคิดผลการสอบ คำสั่ง 2 ทางเลือกเป็นพื้นฐานของคำสั่งเงื่อนไขในภาษาคอมพิวเตอร์นั้น คำสั่งประเภทนี้จะต้องมีเงื่อนไขการตัดสินใจ เพื่อใช้หาคำตอบว่าจะไปทางไหน ถ้าเงื่อนไขเป็นจริงก็จะไปทำคำสั่งทางหนึ่ง แต่ถ้าเงื่อนไขเป็นเท็จก็จะไปทำคำสั่งอีกทางหนึ่ง ผังการทำงานของคำสั่ง 2 ทางเลือก If…else คำสั่ง if…else นี้ จะต้องใช้เงื่อนไขเพื่อใช้เลือกว่าจะทำคำสั่งไหน ตามรูปที่ 6-4 แสดง ผังการทำงานของคำสั่ง if…else ถ้าเงื่อนไขเป็นจริงก็จะไปทำคำสั่งที่ 1 แต่เงื่อนไขเป็นเท็จก็จะไปทำคำสั่งที่ 2 ซึ่งไม่มีโอกาสที่จะทำทั้งสองคำสั่งได้เลย มีรูปแบบบางอย่างที่ผู้ใช้จะต้องจำให้ได้ สำหรับคำสั่ง if…else ซึ่งมีดังนี้
if (i= =3) a++; a–; รูปที่ 6-5 แสดงตัวอย่างของคำสั่ง if…else
If(i==3) If (i==3) { Else If คำสั่ง if ก็คือ คำสั่ง if…else แต่ที่ไม่มี else เพราะคำสั่งทางเป็นเท็จไม่มี หรือจากรูปที่ 6-4 ไม่มีคำสั่งที่ 2 นั่งเอง ซึ่งก็คือจะต้องเป็นจริงเท่านั้นจึงจะทำคำสั่งได้ จากรูปที่ 6-7แสดงให้ เห็นการเปลี่ยนจากคำสั่ง if…else เป็นคำสั่ง if Nested if เป็นคำสั่ง if…else มีคำสั่ง if…else หรือคำสั่ง if ซ้อนอยู่ด้านในอีกทีหนึ่งผังการทำงานของ Nested if และชุดคำสั่งได้แสดงในรูปที่ 6-8 ซึ่งการซ้อนนั้นสามารถมีได้ไม่จำกัด แต่ถ้ามีมากกว่า 3 ชั้น จะทำให้การทำความเข้าใจในโปรแกรมนั้นยาก if(เงื่อนไขที่ 1) else if(เงื่อนไขที่ 2) ก. ผังการทำงาน ข. ข.ชุดคำสั่ง โปรแกรม 6-4 คำสั่ง Nedsted if ปัญหาของคำสั่ง else ก ชุดคำสั่ง ข. ผังการทำงาน ก. ชุดคำสั่ง ข. ผังการทำงาน คำสั่งใดที่ใช้สำหรับสร้างเงื่อนไขแบบทางเลือกเดียวคำสั่ง if ใช้สำหรับให้ทำคำสั่ง เฉพาะกรณีที่เงือนไขทางเลือก เป็นจริง และไม่ต้องทำอะไร เมื่อเงื่อนไขเป็นเท็จ มีรูปแบบดังนี้ รูปแบบคำสั่ง if. if (เงื่อนไขทางเลือก)
คำสั่งใดที่ใช้ในการทำงานแบบทางเลือกโดยโครงสร้างแบบทางเลือก ประกอบด้วย คำสั่ง if คำสั่ง if-else และคำสั่ง switch ส่วนโครงสร้างแบบวนซ้ำ ประกอบด้วย คำสั่ง for คำสั่ง while และ คำสั่ง do-while โครงสร้างทั้งสองแบบจะช่วยให้นักเขียนโปรแกรมสามารถเขียนโปรแกรมเพื่อแก้ปัญหาที่มีเงื่อนไขที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้โครงสร้างแบบลำดับเพียงอย่างเดียว
คำสั่งใดที่ใช้สำหรับสร้างเงื่อนไขแบบหลายทางเลือกคำสั่ง if else เป็นคำสั่งมีการเพิ่มเงื่อนไข else if เข้ามาสำหรับการสร้างเงื่อนไขแบบหลายทางเลือก นั่นหมายถึงในบล็อคของคำสั่งจะทำงานเมื่อเงื่อนไขไม่ต้องกับเงื่อนไขก่อนหน้าแต่ตรงกับเงื่อนไขปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีคำสั่ง else ซึ่งเป็นบล็อคของคำสังที่จะทำงานถ้าหากไม่มีเงื่อนไขใดเป็นจริงเลย มาดูตัวอย่างของการใช้คำสั่ง if-else.
ข้อใดคือคำสั่งทำซ้ำLoop. คำสั่งวนลูป ความหมายของลูป(loop) ลูป(loop)ในที่นี้มีความหมายว่า การวนซ้ำซึ่งการวนซ้ำในทางภาษาคอมพิวเตอร์ คือ การทำคำสั่งหรือชุดคำสั่งนั้นซ้ำกันหลายๆครั้ง
|