เทคนิค การ สัมภาษณ์ งาน ยุค ใหม่

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การสัมภาษณ์งาน หรือ Job Interview เป็นอีกหนึ่งกระบวนการที่สำคัญมาก ๆ ในขั้นตอนการหางาน ที่ผู้สมัครหลายท่าน วิตกกังวล ไม่แน่ใจ ไม่รู้จะเตรียมตัวอย่างไร หรือหลายท่านคิดว่า ไม่ต้องเตรียมตัวอะไร ขอเพียงแค่มั่นใจในตนเองก็เพียงพอแล้ว ซึ่งบอกได้เลยว่า กระบวนการคัดสรรบุคลากร ที่จะมาทำงานในตำแหน่งงานที่องค์กรชั้นนำค้นหา มีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนในการเลือกคนทำงานที่ดีที่สุด มาทำงานในตำแหน่งที่เปิดรับ ดังนั้น การสัมภาษณ์งานที่ดี

Show

การที่สามารถตอบคำถามได้อย่างตรงประเด็น สามารถแสดงศักยภาพ ความสามารถของตนเอง ทั้งในด้านสายงานของตน และวิสัยทัศน์การทำงาน ที่ถูกต้อง จะทำให้การสัมภาษณ์งานเป็นไปอย่างราบรื่น โดยปัจจัยที่จะให้เราได้งานที่สูงมากขึ้น คือการสัมภาษณ์งาน ต้องมีการเตรียมตัวสัมภาษณ์งานที่ดี ตั้งแต่ “วิธีการแนะนำตัวเอง”, “การเข้าใจธุรกิจของบริษัทที่เราสมัคร”, “ตำแหน่งงานที่เราสมัคร เทียบกับประสบการณ์งานของเรา” และมากไปกว่านั้นยังมี “เทคนิคการสัมภาษณ์งาน” อีกมากมายที่ผู้สมัครงานจะต้องทำการบ้าน และเตรียมตัวให้ดีเยี่ยม เพื่อที่จะคว้างานในฝันของตนเอง ครับ

วันนี้พี่เบ็นขอแชร์ หนึ่งใน “เทคนิคการสัมภาษณ์งาน” ที่ควรรู้อย่างยิ่ง นั่นก็คือ การเก็งคำถามสัมภาษณ์งาน และคำตอบ ที่เราจะต้องเจอนั่นเอง และนี่คือ “5 คำถามยอดฮิตสัมภาษณ์งาน ยอดฮิต” ที่ผู้สมัครงานพบเจอ

เทคนิค การ สัมภาษณ์ งาน ยุค ใหม่

คำถามสัมภาษณ์งาน ที่ 1: ช่วยแนะนำตัวเองด้วย ครับ/ค่ะ (Tell me about yourself)

คำถามสัมภาษณ์งานคำถามนี้ จะเป็นคำถามแรก ที่ผู้สมัครงานทุกคนแทบจะต้องเจอ จากการเริ่มสัมภาษณ์งานของเรา กับผู้สัมภาษณ์งาน ซึ่งก็คือ ฝ่ายบุคคล HR และ หัวหน้างาน โดยคำถามนี้จะเป็นคำถามที่เราสามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้สัมภาษณ์งานได้อย่างมาก ถ้าเราสามารถตอบคำถามสัมภาษณ์นี้ ได้อย่างดีเยี่ยม หรือ เกินความคาดหมายของผู้สัมภาษณ์งาน และในอีกมุม ก็อาจเป็นคำถามสัมภาษณ์งาน ที่ทำให้ผู้สัมภาษณ์ ไม่อยากสัมภาษณ์งานเราต่อเลยเช่นกัน แค่สัมภาษณ์เป็นพิธี ให้จบกระบวนการสัมภาษณ์งาน

ดังนั้น พี่เบ็น ขอแชร์ 3 ทิป ที่จะทำให้ การแนะนำตัวเอง ได้ดียิ่งขึ้น และประทับใจผู้สัมภาษณ์งาน

ทิปที่ 1 ให้พูดถึง ”ตำแหน่งงาน” ที่เราสมัคร

โดยการแนะนำตัวเอง เราจะต้องวางแผนการนำเสนอตนเอง โดยพูดถึง ตำแหน่งงาน ที่เราสมัครในการแนะนำตัวเองเลยตั้งแต่ต้น เพื่อที่ทำให้ผู้สัมภาษณ์เห็นว่า เราเรียงลำดับความสำคัญได้ถูกต้อง และสามารถพูดถึง
✔️ หน้าที่ความรับผิดชอบของเนื้องาน ในตำแหน่งงานที่สมัคร ว่าทำไมเราถึงสนใจ และ
✔️ ประสบการณ์งานเรา เทียบกับ ตำแหน่งงานที่สมัคร ว่าประสบการณ์ของเราสามารถทำงาน ในตำแหน่งที่สมัครได้อย่างไร

ทิปที่ 2 ไม่พูดเรื่องส่วนตัว

ในการแนะนำตัวเองผู้สมัครงาน หลายท่านพลาดตรงที่ คิดว่าการแนะนำตัวเองในการสัมภาษณ์งาน คือการแนะนำตัวเองแบบเจาะลึกถึงเรื่องส่วนตัว และอยากสร้างความประทับใจ โดยการเล่าเรื่องส่วนตัว ให้ผู้สัมภาษณ์งานรู้จักตนเองมากขึ้น แต่ในการแนะนำตัวเองในช่วงสัมภาษณ์งาน โค้ชเบ็นขอให้ผู้สมัครไม่พูดถึงเรื่องส่วนตัว แต่ให้ไปเน้นถึง ประวัติการศึกษา ประสบการณ์ฝึกงาน หรือ ประสบการณ์ทำงาน และความสามารถเฉพาะทาง ในการทำงานตำแหน่งงานที่ตนมาสมัครงาน

ทิปที่ 3 นำเสนอ Personal Brand

การแนะนำตัวเอง ในช่วงสัมภาษณ์งาน เราสามารถสร้างความประทับใจ ได้อีกขั้นนึงให้กับผู้สัมภาษณ์งาน โดยการนำเสนอ บุคลิคภาพการทำงานของเรา หรือที่เรียกว่า Personal Brand ของตัวเองในการทำงานออกไป อาจยกตัวอย่าง เช่น เราเป็น คนทำงานที่

  • ขยัน
  • ละเอียดในเนื้องาน
  • สื่อสารเก่ง
  • ชอบงานท้าทาย
  • ซื่อสัตย์
  • ปรับตัวกับเนื้องานที่เปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว
  • ทำงานหนัก
  • ให้กำลังใจทีมงานเสมอ
  • ทำงานอย่างมีแรงบันดาลใจ เป็นต้น

และมากไปกว่านั้น เพื่อที่จะ ตอบคำถามสัมภาษณ์งาน “ช่วยแนะนำตัวเอง” ให้ดีที่สุดกด้วยการสร้างความประทับใจกับผู้สัมภาษณ์งาน โค้ชเบ็นได้แบ่งคำตอบของ คำถามสัมภาษณ์งาน นี้เป็น 2 กลุ่ม คือ

  1. วิธีแนะนำตัวเองใน 3 นาที ตอนสัมภาษณ์งาน แบบคนมีประสบการณ์งาน และ
  2. วิธีแนะนำตัวเองใน 3 นาที ตอนสัมภาษณ์งาน แบบนักศึกษาจบใหม่

ตัวอย่างคำตอบ คำถามสัมภาษณ์งาน ที่ 1

แบบที่ 1 สำหรับ คนมีประสบการณ์งานให้ตอบเป็น 3 ท่อน นั่นคือ

ท่อน 1 พูดถึงประสบการณ์ทำงาน +
ท่อน 2 พูดถึงตำแหน่งงานที่เราสมัคร +
ท่อน 3 ทำไมต้องจ้างเรา

“ผมเริ่มอาชีพฝ่ายด้านฝ่ายขาย 6 ปีที่แล้วด้วยตำแหน่ง Sales Executive กับบริษัท ABC ซึ่งผมรับผิดชอบยอดฝ่ายขายต่อเดือน ต่อ Quarter (ไตรมาส) และ ต่อปี ผมยังออกบูทฝ่ายขายตามงานต่าง ๆ และทำเอกสารประมูล เพื่อประมูลยอดฝ่ายขายให้บริษัท และในช่วง 3 ปีหลัง ผมเป็น ที่ 1 ในทีมฝ่ายขายของบริษัท และ ได้รับรางวัลพนักงานดีเด่น ด้วยครับ”

“วันนี้ ผมมมาสมัครงานตำแหน่ง “ผู้จัดการฝ่ายขาย” ครับ ตามประกาศของบริษัทที่มองหาบุคลากรที่มีจุดแข็งทางด้าน   ฝ่ายขาย   บริหารทีม    พื้นที่รับผิดชอบในเขตกรุงเทพ และห้างสรรพสินค้า “

“ดังนั้น ด้วยประสบการณ์ฝ่ายขายชองผม จากบริษัท ABC และผลงานที่พิสูจน์ได้ในเขตกรุงเทพและห้างสรรพสินค้า ผมมั่นใจมากว่าผมจะเป็นบุคลากรที่มีความสามารถตรงกับตำแหน่งนี้และบริหารทีมให้บริษัทได้อย่างแน่นอนครับ”

แบบที่ 2 สำหรับ นักศึกษาจบใหม่ให้ตอบเป็น 3 ท่อน นั่นคือ

ท่อน 1 พูดถึง ประวัติ และความสนใจของเรา” +
ท่อน 2 พูดถึง ‘บอกจุดแข็งของเรา และยกตัวอย่าง” +
ท่อน 3 พูดถึง “ตำแหน่งงานที่มาสัมภาษณ์ ถึงเหตุผลที่เราอยากได้รับโอกาส”

“สวัสดีครับ ผมชื่อณรงฤทธิ์ หรือ ริทครับ ผมเป็นคนลำปางและจบการศึกษาจากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ครับ ผมใฝ่ฝันที่จะเป็นนักการตลาดมืออาชีพในวงการ FMCG เพราะผมชอบคิดผลิตภัณฑ์ใหม่ๆให้เพื่อนๆและครอบครัวใช้ และผมยังเคยชนะรางวัลวิจัยและผลิตสบู่ OTOP สูตรกากกาแฟในช่วงเรียนมหาวิทยาลัยปีที่ 3 ด้วยครับ”

“ผมเป็นคนขยันและชอบงานท้าทาย และทำงานเลิกดึกได้ครับ ในกิจกรรมมหาวิทยาลัยผมเป็นประธานนำเชียร์รุ่น และมากไปกว่านั้นผมจัดงานการกุศลระดมทุนหารายได้ช่วยเหลือคนน้ำท่วมในจังหวัดภาคอีสานได้เงินมากกว่า 500,000 บาทครับ ผมเป็นคนทุ่มเทและให้ใจเกิน 100% สำหรับทุกกิจกรรมที่ผมร่วมครับ”

“วันนี้ผมมาสมัครงานตำแหน่ง Brand Executive ฝ่ายการตลาดครับ เพื่อที่จะพิสูจน์ตัวเองว่าผมสามารถช่วยองค์กรในการขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ความคิดสร้างสรรค์ออกมา เพื่อที่จะทำให้ผู้บริโภคใช้ผลิตภัณฑ์นี้ ร่วมกับทีมงานที่ผมทำงานด้วยในองค์กรนี้ครับ ผมจะนำความรู้ทั้งหมดที่เรียนมาพร้อมกับความมุ่นมั่นของผมในการพิสูจน์ตำแหน่งงานนี้ครับ”


เทคนิค การ สัมภาษณ์ งาน ยุค ใหม่

คำถามสัมภาษณ์งาน ที่ 2: ทำไมถึงอยากจะทำงานที่นี่? (Why do you want to work here?)

คำถามนี้ เป็นอีกหนึ่งคำถาม ที่เราจะต้องนำเสนอตัวเองให้ตรงประเด็น และทำให้ผู้สัมภาษณ์งานเห็นถึงความตั้งใจที่เราอยากจะร่วมการทำงานกับบริษัท โดยโค้ชเบ็น ขอแชร์ 3 ทิป สำหรับ คำถามสัมภาษณ์งาน ทำไมถึงอยากจะทำงานที่นี่ ไว้ดังนี้

ทิปที่ 1 ให้ตอบโดยเน้น Job Description (ความรับผิดชอบในตำแหน่งงาน)

การตอบโดยเน้น JD เป็นหลัก จะเป็นการเน้นย้ำ ให้ผู้สัมภาษณ์เห็นว่า เราอยากมาทำงานให้เขา เพราะเนื้องาน ตำแหน่งงานที่เราสามารถทำให้ได้ และจะทำให้ตอบโจทย์กับความต้องการของบริษัท ที่อยากจ้างคนทำงาน โดยเน้นการทำงานในตำแหน่งงานนี้ นั่นเอง

ทิปที่ 2 ให้ตอบโดยใส่ Passion ลงไป

ผู้สมัครงานหลายท่าน เจอผู้สมัครงานในตำแหน่งานเดียวกัน ที่มีความสามารถคล้าย ๆ กัน ประสบการณ์ทำงาน เหมือน ๆ กัน ดังนั้นจุดที่จะทำให้ ผู้สัมภาษณ์งาน เลือกเรา คือ ถ้าเราสามารถนำเสนอ Passion ในการทำงานตำแหน่งนี้ลงไปในคำถามสัมภาษณ์งานได้นั่นเอง ก็จะเป้นการสร้างความโดดเด่น และแตกต่างให้กับตัวเรา

ทิปที่ 3 เสนอสิ่งที่เราจะทำให้บริษัทได้ ในตำแหน่งงานนั้น ๆ

ในการนำเสนอว่า เราจะทำงานในตำแหน่งงานนี้ ด้วยแผนงาน หรือวิธีการทำงานอย่างไร จะสร้างความประทับใจให้ผู้สัมภาษณ์งานแน่นอนครับ เพราะจะทำให้บริษัทเห็นว่า เรามีการเตรียมตัวที่ดี ทั้งในเนื้องาน และตำแหน่งงาน จนถึงทำให้บริษัทมองเห็นที่ผลผลิตในอนาคต หากได้ร่วมงานกับเรา

ตัวอย่างคำตอบ คำถามที่ 2

“จากที่ผมศึกษา Job Description (JD) หรือ หน้าที่ความรับผิดชอบของตำแหน่งนี้ ผมมั่นใจมากว่าความรู้, ความสามารถ ที่พิสูจน์ได้ของผมในฝ่ายขายจะทำงานในตำแหน่งนี้ได้ครับ และ ผมรู้สึกได้เลยว่าจะเป็นการเริ่มต้นในตำแหน่งงานใหม่กับบริษัท ที่สนุก ท้าทาย และ ผมรอที่จะมีโอกาสทำงานกับบริษัท มานานแล้วครับ มากไปกว่านั้นจากที่ผมศึกษาการบริการของบริษัทที่ได้รับคำชมจากลูกค้าที่ดีมาก ๆ และนี่คือเหตุผลที่ผมอยากทำงานกับบริษัทมาก เพราะผมต้องการเป็นอีกคนที่ขับเคลื่อนบริษัทให้เป็นที่ประทับใจของลูกค้าในแผนกฝ่ายขายครับ”

เทคนิค การ สัมภาษณ์ งาน ยุค ใหม่

คำถามสัมภาษณ์งาน ที่ 3:จุดแข็งของคุณคืออะไร? (What are your strengths?)

คำถามสัมภาษณ์งาน จุดแข็งของคุณคืออะไร จะเป็นคำถามที่ ผู้สัมภาษณ์อยากรู้ถึงจุดเด่นของเรา ที่ต่างจากผู้สมัครงานท่านอื่น และมุมมองของเราที่มองตนเองด้วย โค้ชเบ็นสรุปเป็น 3 ทิป ให้ ก็คือ

ทิปที่ 1 ให้ตอบจุดแข็ง เน้น “จริง” และ “พิสูจน์ได้”

คำตอบที่จริง และ สามารถพิสูจน์ได้ จะเป็นคำตอบที่น่าเชื่อที่สุด

ทิปที่ 2 ยกตัวอย่างจุดแข็ง 3 ข้อ

ให้ยกตัวอย่าง จุดแข็ง มากกว่า 1 ข้อ อาจถึง 3 ข้อ เป็นเทคนิคที่ทำให้เรามองตัวเองว่า เรามีจุดแข็งหลายข้อ ในการทำงานตำแหน่งงานที่สมัคร ให้พยายามเลือกจุดแข็งที่ตอบโจทย์ กับหน้าที่ของตำแหน่งงานที่เราสมัคร

ทิปที่ 3 กล่าวถึงสิ่งที่ทำให้เราแตกต่างจากผู้สมัครท่านอื่น

ถ้าเราสามารถบอกคำตอบกับกรรมการได้ว่า เราในฐานะผู้สมัครงาน มีความสามารถที่แตกต่างจากผู้สมัครงานท่านอื่นอย่างไร จะเป็นการสร้างความได้เปรียบในการสัมภาษณ์งาน ทั้งนี้ขอให้ผู้สมัคร ระวัง และ นำเสนอในมุมมองของการทำงาน ไม่ดูก้าวร้าว และดูถูกผู้สมัครงานท่านอื่น แต่เป็นการเน้นความสามารถในเนื้องาน และ ประสบการณ์งานของตน

ตัวอย่างคำตอบ คำถามที่ 3

ผมขออนุญาตบอกจุดแข็ง 3 ข้อ ของผมครับ
1. ผมเป็นคนทำงานขยันด้วยนิสัยของผมครับ
2. ผมเป็นคนมองทุกสิ่งมุม + ในทุก ๆ สถานการณ์
3. ผมรักที่จะช่วยเหลือเพื่อนร่วมงาน และช่วยพัฒนาศักยภาพเพื่อนในทีมงานครับ

สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกเลยว่าทำให้ผมต่างจากคนทำงานคนอื่น ๆ คือ “ผมไม่หยุดพัฒนาความสามารถตัวเองในทุก ๆ งานที่ได้รับมอบหมาย”  ตัวอย่างครับ: – การประเมินงานปีที่แล้วของผมได้รับความเห็นจากหัวหน้าให้พัฒนา “การนำเสนองาน Presentation” ให้ดีขึ้น …ผมจึงไปสมัครเรียนด้วยตนเอง คอร์สการทำ Presentation และการพูดสื่อสารในระดับผู้บริหาร …หลังจากผมจบคอร์สนี้ ผมปรับใช้กับการทำงานของผม และการประเมินงานล่าสุด หัวหน้างานผมแปลกใจกับศักยภาพการนำเสนองานของผมมาก และประเมินงานให้ผมดีเยี่ยมครับ”

เทคนิค การ สัมภาษณ์ งาน ยุค ใหม่

คำถามสัมภาษณ์งาน ที่ 4:คุณรับมือกับความกดดันของงานอย่างไร? (How do you handle stress?)

หลากหลายอาชีพ อาทิ พนักงานฝ่ายขาย, คนทำงานในธุรกิจโรงแรม หรือ ตำแหน่งงานที่ต้องรับมือกับความกดดันทั้งจากฝั่งทีมงาน และฝั่งลูกค้า จะต้องมีความสามารถ ในการรับมือ ความกดดันในที่ทำงาน ได้อย่างดี โค้ชเบ็นสรุปเป็น 4 ทิป คือ

Tip 1 ยกตัวอย่างชัดเจน ถึงเหตุการณ์ที่กดดันและวิธีแก้ปัญหา

ให้เสนอตัวอย่าง จากเหตุการณ์ที่เราเจอ และการรับมือกับความกดดัน ว่าเราทำได้อย่างไร จะเป็นการทำให้ผู้สัมภาษณ์งาน เห็นภาพได้ชัดเจน และเข้าใจวิธีการทำงานของเรา

Tip 2 ใช้เทคนิคการเล่าแบบมีกลยุทธิ์

โดยเล่าเป็นเสต็ปคือ Situation👉 Action👉 Result แบบมีชั้นเชิง ให้เข้าใจง่าย โดยเริ่มจาก สถานการณ์ความกดดันในที่ทำงานที่เราเจอ และตามด้วย ว่าเรารับมือและแก้ไขอย่างไร? พร้อมทั้งบอกผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากวิธีการรับมือในเหตการณ์ นั้น ๆ

Tip 3 ไม่แสดงว่าเรา “เครียด” กับสิงที่เจอ

ให้แสดงออกกับผู้สัมภาษณ์งาน ว่า การเจอสถานการณ์ความกดดันในที่ทำงาน ถือเป็นเรื่องปกติ ที่เราสามารถรับมือ และทำงานต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Tip 4  ตอบในรูปแบบของ “ความสำเร็จ”

ให้เน้นย้ำ ถึงความสำเร็จในการรับมือความกดดัน จากเนื้องาน ในตำแหน่งงานที่เราทำ

ตัวอย่างคำตอบ คำถามที่ 4

“ทุกครั้งผมจะเน้นการรับมือกับ “สถานการณ์ที่เกิดขึ้น” มากกว่า “ความกดดัน” ซึ่งจะช่วยทำให้ผมควบคุมสถานการณ์ได้ดี โดยไม่ให้ความกดดันมารบกวนงานที่ผมทำ ยกตัวอย่างครับ: เวลาผมต้องเจรจากับลูกค้าที่ไม่น่ารัก, เอาแต่ใจ ผมจะมองไปที่ “สิ่งที่ลูกค้าต้องการและทำความเข้าใจเสมอ” มากกว่าให้ความเอาแต่ใจของลูกค้ามาทำให้ผมรู้สึกกดดัน 👉 และด้วยศักยภาพในการสื่อสารที่ดีของผม สามารถแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าได้ และ ลูกค้าที่ไม่น่ารักก็ยินดีกับสิ่งที่เขาต้องการจากงานของผมด้วยครับ”

เทคนิค การ สัมภาษณ์ งาน ยุค ใหม่

คำถามสัมภาษณ์งาน ที่ 5:คุณเห็นตัวเองอย่างไรในอีก 5 ปีข้างหน้า? (Where do you see yourself next 5 years?)

คำถามนี้ ผู้สัมภาษณ์ต้องการอยากทราบถึง แผนของผู้สมัครงาร ในการตั้ง Career Goal ของตนเอง ว่าจะอยู่กับเขาเป็นระยะเวลานานเท่าไร หรือความหมายแฝง ของคำถามว่า คุณเห็นตัวเองอย่างไรในอีก 5 ปี ข้างหน้า ก็คือ “คุณจะยังทำงานกับบริษัทเราหรือไม่ใน 5 ปีนี้?” โค้ชเบ็น ขอสรุป 3 ทิปด้วยกัน คือ

ทิปที่ 1 อย่าตอบ ว่า จะย้ายงานใหม่ในอีก 2-3 ปี (รวมถึงขอย้ายแผนกในองค์กร)

บริษัทต้องการคนที่ทำงานได้อย่างจริงจัง กับตำแหน่งที่บริษัทเปิดรับ แต่ถ้าเรานำเสนอตนเองว่า เข้ามาทำงานตำแหน่งนี้ เพื่อที่จะย้ายไปทำงานตำแหน่งอื่นตั้งแต่ต้น จะเป็นการนำเสนอตนเองที่ผิดจังหวะ และเวลา

ทิปที่ 2 อย่าตอบ ท้าทาย หัวหน้างาน

ผู้สมัครงานหลายท่าน ตอบว่า อยากทำงานในตำแหน่งของหัวหน้างาน ซึ่งอาจจะต้องระวังให้มาก ณ จุดนี้ เพราะ หลายองค์กร ในตำแหน่งงานหัวหน้างาน อาจเป็นตำแหน่งงานที่สูงที่สุดแล้ว หรือหัวหน้างานอาจเข้าใจเราผิด ในมุมมองที่จะทำงานแบบท้าทายหัวหน้า ก็เป็นไปได้

ทิปที่ 3 ตอบเน้น loyalty ต่อบริษัท

ทิปก็คือ อาจจะนำเสนอตนเอง ว่าเราจะช่วยองค์กรในการก้าวไปด้วยกันข้างหน้า ได้อย่างไรบ้าง เราจะมีบทบาทในการทำงาน ด้วยตำแหน่งงานของเรา ขะช่วยองค์กรได้อย่างไร

ตัวอย่างคำตอบ คำถามที่ 5:

ผมขอตอบให้กระชับที่สุดครับ คือ ผมอยากทำงาน “ตำแหน่งนี้” ให้ดีเยี่ยม และได้รับการยอมรับจากทีมงาน, หัวหน้างาน, เพื่อนร่วมงานแผนกอื่น และทำงานให้มีความสุขให้มากที่สุดครับ ถ้ามีโอกาสใด ๆ ในบริษัทให้ผมก้าวขึ้นในองค์กรผมจะยินดีมากครับ อย่างไรก็ตามผมวางแผนที่จะอยู่กับบริษัทในระยะยาว ถ้าผมได้รับเลือกในการทำงานตำแหน่งนี้ครับ”


ตาของคุณแล้ว

ลองใช้เวลาเตรียมตัวด้วยการฝึกฝน ตอบคำถามสัมภาษณ์งาน ทั้ง 5 ข้อด้านบน อาจจะเริ่มด้วยการเขียนลงในกระดาษ และใส่รายละเอียด ทิปต่าง ๆ ให้ครบ โดยพยายามปรับข้อมูลของตัวเองให้ relate ไปกับตำแหน่งงานที่สมัคร

อย่าลืมฝึกฝน คำตอบสัมภาษณ์งานเหล่านี้นะครับ โค้ชเบ็นอวยพรให้ทุกคนได้งานในฝันครับ 😊