เมนส์ มาก่อน กํา หน ด 1 อาทิตย์

  1. หน้าหลัก
  2. บทความสุขภาพ
  3. ตั้งครรภ์แน่ๆ หรือแค่จะมีประจำเดือน

Show

ตั้งครรภ์แน่ๆ หรือแค่จะมีประจำเดือน

เมนส์ มาก่อน กํา หน ด 1 อาทิตย์

HIGHLIGHTS:

  • อาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย อยากอาหารมากขึ้น เป็นเรื่องปกติของผู้หญิงใกล้มีประจำเดือน ซึ่งเป็นอาการเดียวกับการตั้งครรภ์ซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วง 8 – 10 สัปดาห์แรก
  • การปวดศีรษะ อาเจียน ก่อนมีประจำเดือน 1-3 วัน เกิดจากฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ลดลง หากมีอาการรุนแรงอาจส่งผลให้อาเจียน ซึ่งอาจทำให้เข้าใจผิดคิดว่าเป็นอาการแพ้ท้อง
  • หากยังไม่พร้อมหรือยังไม่ต้องการที่จะตั้งครรภ์ ควรมีการวางแผนป้องกันการตั้งครรภ์ด้วยการรับประทานยาคุมกำเนิดหรือใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์

การตั้งครรภ์สำหรับบางคนคือความยินดีที่จะมีสมาชิกใหม่ในครอบครัว แต่สำหรับบางกรณี การตั้งครรภ์กลับสร้างปัญหา โดยเฉพาะสาวโสดที่ยังไม่พร้อม หลังมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน ความกังวลใจจะเริ่มตามมา ยิ่งถ้าเมื่อร่างกายไม่เหมือนเดิม ซึ่งบางครั้งอาการต่าง ๆ อาจเกิดจากความวิตกกังวล ความเครียด หรืออาจเป็นเพียงเพราะประจำเดือนครั้งใหม่กำลังจะมาเท่านั้น ซึ่งผู้หญิงแต่ละคนจะมีสัญญาณบ่งบอกที่แตกต่างกันไป

อาการคล้ายการตั้งครรภ์

อาการก่อนมีประจำเดือน กับอาการก่อนตั้งครรภ์ บางครั้งอาจมีอาการคล้ายกันจนทำให้เกิดความเข้าใจผิด ถ้ามีอาการเหล่านี้ และสงสัยว่าใช่การตั้งครรภ์หรือเปล่า สาว ๆ ควรใช้ที่ตรวจครรภ์หรือควรปรึกษาแพทย์ เพื่อตรวจการตั้งครรภ์ต่อไป

  • มีการเปลี่ยนแปลงของเต้านมและหัวนม อาการคัดเต้านมและเจ็บบริเวณหัวนม ซึ่งอาจเป็นอาการเตือนก่อนมีประจำเดือนหรือการตั้งครรภ์ในระยะสามเดือนแรก
  • ประจำเดือนมาน้อย ในช่วงที่มีการฝังตัวของไข่ในมดลูก อาจทำให้มีเลือดออกเล็กน้อยคล้ายมีประจำเดือน หรืออาจจะเป็นประจำเดือนจริงๆ ก็เป็นได้ การที่ประจำเดือนมากระปิดกระปอยอาจเกิดจากความเครียดหรือวิตกกังวล
  • อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย บางกรณีอาจอยากอาหารมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องปกติของผู้หญิงใกล้มีประจำเดือน แต่ก็เป็นอาการเดียวกับการตั้งครรภ์ซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วง 8 – 10 สัปดาห์แรก เนื่องจากกระบวนการเผาผลาญพลังงานเกิดความเปลี่ยนแปลง
  • ปวดศีรษะ อาเจียน ก่อนมีประจำเดือน 1-3 วัน ฮอร์โมนเอสโตรเจนจะลดลงส่งผลให้รู้สึกปวดศีรษะ หากมีอาการรุนแรงอาจส่งผลให้อาเจียน ซึ่งสาวๆ อาจตกใจคิดว่าแพ้ท้องก็เป็นได้
  • หงุดหงิด งุ่นง่าน และงี่เง่า เป็นอารมณ์ที่ทุกคนรู้ดีว่าเกิดกับผู้หญิงที่ใกล้มีประจำเดือนหรือกำลังมีประจำเดือน แต่ก็เป็นอารมณ์เหวี่ยงที่พบบ่อยในหญิงตั้งครรภ์ เช่นกัน เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนนั่นเอง
  • ท้องผูก เป็นเรื่องจริงที่ว่าหญิงตั้งครรภ์มักท้องผูก เนื่องจากระบบขับถ่ายมีประสิทธิภาพน้อยลง ซึ่งเป็นผลมาจากฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้นในช่วงตั้งครรภ์ หรืออาจจะเป็นเพียงท้องอืดเนื่องจากใกล้จะมีประจำเดือนก็เป็นไปได้เช่นกัน
  • ประจำเดือนขาด ซึ่งถือเป็นสัญญาณแรกที่บอกว่าเกิดการตั้งครรภ์ขึ้นแล้ว แต่การที่ประจำเดือนขาดก็อาจหมายถึงอีกไม่กี่วันประจำเดือนก็จะมาตามปกติ โดยเฉพาะในหญิงที่มีประจำเดือนคลาดเคลื่อนหรือไม่ตรงเวลา

เมนส์ มาก่อน กํา หน ด 1 อาทิตย์

การตรวจเพื่อยืนยันการตั้งครรภ์

  • ใช้ชุดตรวจการตั้งครรภ์ด้วยปัสสาวะ (Pregnancy Test) เพื่อทดสอบหาฮอร์โมน HCG (Human chorionic gonadotropin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ถูกสร้างจากรกของตัวอ่อน ซึ่งสามารถตรวจได้ตั้งแต่วันที่ประจำเดือนควรจะมาแต่ไม่มา ซึ่งจะมีความแม่นยำมากขึ้นหากตรวจหลังจากปฎิสนธิได้ 10 – 14 วัน
  • การตรวจเลือด หากตรวจด้วยชุดตรวจการตั้งครรภ์แล้วผลออกมาว่าไม่ตั้งครรภ์ แต่ไม่แน่ใจ อาจใช้วิธีไปพบแพทย์เพื่อตรวจเลือด ซึ่งเป้นการตรวจที่ให้ผลแม่นยำ 100% และสามารถตรวจได้ตั้งแต่ประจำเดือนขาดไปเพียง 1 วัน
  • การตรวจอัลตราซาวน์ ทางช่องคลอด เมื่ออายุครรภ์ 5 – 6 สัปดาห์

ปัจจุบันการมีเซ็กซ์ในคนโสดอาจเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมสำหรับสังคมไทยหากก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่เมื่อใดก็ตามที่มีเพศสัมพันธ์โดยลืมป้องกันการตั้งครรภ์ ก็มักตามมาด้วยความวิตกกังวล จนบางครั้งกลายเป็นความกดดันและความเครียด จนไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

ดังนั้นหากยังไม่พร้อมหรือเป็นสาวโสดที่ไม่ต้องการตั้งครรภ์โดยไม่ตั้งใจ  ควรมีการวางแผนป้องกันการตั้งครรภ์ด้วยการรับประทานยาคุมกำเนิดหรือใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ หรือหากไม่แน่ใจ ก็ควรพบแพทย์เพื่อตรวจครรภ์ให้ได้ผลที่ชัดเจน และหากตั้งครรภ์จริงก็เตรียมตัวฝากครรภ์เสียแต่เนิ่นๆ เพื่อความแข็งแรง ปลอดภัยของทั้งแม่และลูก

เมนส์ มาก่อน กํา หน ด 1 อาทิตย์

นพ. เทวินทร์ เดชเทวพร

สาขาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา

อนุสาขาเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์

ดูประวัติ

  • ไทย
    • English
    • 中文 (中国)
  • ติดต่อเรา
    • @beyondivf
    • Facebook Messenger
    • โทร +66991090022
    • ขอเส้นทาง

Skip to content

  • หน้าแรก
  • บริการของเรา
    • รักษาปัญหามีบุตรยาก
    • ปรึกษามีบุตรยาก ฟรี!!
    • เด็กหลอดแก้ว IVF
    • ทำอิ๊กซี่ ICSI (โอกาสสำเร็จสูง)
    • IUI การฉีดเชื้ออสุจิเข้าสู่โพรงมดลูก
    • ฝากไข่
    • ตรวจอสุจิ
    • ตรวจและฝากครรภ์
    • ตรวจและป้องกันมะเร็งปากมดลูก
  • ทีมแพทย์
    • นายแพทย์พูนศักดิ์ สุชนวณิช (หมอต้น)
    • แพทย์หญิงกิตติยา ดีวงกิจ (หมอตาล)
  • เคสสำเร็จ
  • เมนส์ มาก่อน กํา หน ด 1 อาทิตย์
  • โปรโมชั่น
    • อิ๊กซี่ ICSI ราคา
    • ฝากไข่ ราคา
    • IUI ราคา
    • ตรวจอสุจิ ราคา
  • ข่าวสารและกิจกรรม
    • ข่าวสาร
    • กิจกรรม
    • รวม VDO Youtube ให้ความรู้
  • เกี่ยวกับเรา

เลือดล้างหน้าเด็ก มาตอนไหน? สัญญาณเตือนที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรรู้

เลือดล้างหน้าเด็ก มาตอนไหน? สัญญาณเตือนที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรรู้

เมนส์ มาก่อน กํา หน ด 1 อาทิตย์

เลือดล้างหน้าเด็ก คืออะไร

เลือดล้างหน้าเด็ก (Implantation bleeding) คือ สัญญาณเตือนเตรียมตั้งครรภ์อีกอย่างหนึ่ง จะเกิดขึ้นเฉพาะกับคุณแม่บางคนเท่านั้น ไม่ใช่คุณแม่ทุกคนที่จะเจอกับอาการนี้ ซึ่งเลือดล้างหน้าเด็กจะเป็นเลือดจางๆ ที่ออกมาจากทางช่องคลอด มักจะมาก่อน 1 สัปดาห์ หรือใกล้เคียงกับประจำเดือนรอบถัดไป อาการเลือดล้างหน้าเด็กนี้จะอยู่ประมาณ 1 – 2 วัน เท่านั้น แล้วจะหยุดไปเอง

เลือดล้างหน้าเด็ก มาตอนไหน

เลือดล้างหน้าเด็กจะเกิดขึ้นหลังการปฏิสนธิของไข่และอสุจิประมาณ 7-9 วัน เราจะเห็นได้ว่าภาวะนี้เกิดขึ้นก่อนที่ประจำเดือนจะขาดประมาณ 1 สัปดาห์ เลือดที่ออกมาจะมีลักษณะแตกต่างจากประจำเดือนปกติ คือจะมีลักษณะเป็นสีชมพูออกมาเพียงเล็กน้อย หรืออาจมีอาการปวดท้องร่วมด้วย ซึ่งไม่ได้เกิดกับคุณแม่ตั้งครรภ์ทุกคน ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์บางคนอาจไม่มีอาการนี้ 

เลือดล้างหน้าเด็ก มีอาการอย่างไร

เมนส์ มาก่อน กํา หน ด 1 อาทิตย์

สัญญาณเตือนว่าตอนนี้คุณแม่กำลังจะมีอาการเลือดล้างหน้าเด็ก

  • รู้สึกเหนื่อย ปวดหัวเล็กน้อย
  • มีอาการอาเจียน จากการแพ้ท้อง
  • อารมณ์เปลี่ยนแปลงบ่อย
  • ปัสสาวะมากกว่าปกติ
  • เต้านม หรือ หัวนมบวมขึ้น

เมนส์ มาก่อน กํา หน ด 1 อาทิตย์

ปัจจัยอื่นที่ทำให้มีเลือดออกทางช่องคลอด

เมนส์ มาก่อน กํา หน ด 1 อาทิตย์

1. เลือดออกเนื่องจากการมีเพศสัมพันธ์

หากมีเพศสัมพันธ์อย่างรุนแรงหรือมีการใช้สิ่งแปลกปลอมสอดใส่เข้าไปในอวัยวะเพศขณะที่เพศสัมพันธ์ ก็อาจทำให้ภายในช่องคลอดเกิดการฉีกขาด ส่งผลให้มีเลือดออกทางช่องคลอดได้ แต่ถ้าหากเป็นผู้หญิงที่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ จะเป็นช่วงที่ฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลงจนทำให้ความต้องการทางเพศเพิ่มขึ้น และการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงนี้อาจทำให้มีเลือดออกมาจากช่องคลอดได้เช่นกัน

2. การคุมกำเนิดบางประเภท

จะมีโอกาสให้เกิดเลือดออกทางช่องคลอด หรือประจำเดือนมาผิดปกติได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากรับประทานยาคุมไม่สม่ำเสมอ ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสเสี่ยงให้เกิดเลือดออกทางช่องคลอดได้ง่ายมากขึ้น นอกจากนี้การคุมกำเนิดด้วยใช้วิธีห่วงอนามัย ก็เป็นสาเหตุได้เช่นกัน

3. ผลข้างเคียงจากโรคอื่นที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์

การทำงานที่ผิดปกติของมดลูกและโรคทางระบบสืบพันธ์ เช่น โรคกลุ่มอาการรังไข่ที่มีถุงน้ำหลายใบ (PCOS) ประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือรอบเดือนมีความผิดปกติ ก็อาจพบเลือดออกจากช่องคลอดได้

บทความอ่านเพิ่มเติม : รู้จักภาวะถุงน้ำรังไข่ (PCOS) คืออะไร? สาเหตุ อาการ มีวิธีรักษาอย่างไร 

4. การอักเสบติดเชื้อบริเวณอุ้งเชิงกราน

การติดเชื้อในบริเวณอุ้งเชิงกรานที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดเลือดออกทางช่องคลอด โดยเฉพาะโรคทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคซิฟิลิส โรคหนองใน อื่น ๆ

การตั้งครรภ์นอกมดลูก

เป็นความผิดปกติที่ค่อนข้างอันตรายทั้งกับแม่และเด็ก ซึ่งจะก่อให้เกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรงและมีเลือดออกมากผิดปกติ ถ้าหากมีอาการดังกล่าวควรรีบไปพบแพทย์ เพราะเป็นอันตรายถึงชีวิต

การแท้งลูก

อาการเลือดออกและปวดท้องอย่างรุนแรงถือเป็นสัญญาณอันตรายของภาวะแท้งที่ผู้หญิงตั้งครรภ์ทุกคนควรระมัดระวัง และหากเกิดอาการขึ้นควรรีบพบแพทย์ทันที

เลือดล้างหน้าเด็ก Vs ประจำเดือน

เมนส์ มาก่อน กํา หน ด 1 อาทิตย์

1. ระยะเวลาที่เลือดออก

เลือดล้างหน้าเด็กจะไหลประมาณ 1-2 วัน โดยจะมีช่วงก่อนประจำเดือนในรอบถัดไปมา 1 สัปดาห์ ในขณะที่ประจำเดือนจะมาประมาณ 5-7 วัน

2. ลักษณะของเลือด

เลือดล้างหน้าเด็กจะไหลแค่เล็กน้อย หรือไหลแบบกระปริดกระปรอย บางคนอาจจะไม่รู้สึกตัวหรือไม่ได้สังเกตุ ในขณะที่เลือดประจำเดือนจะมีเลือดไหลออกมาจำนวนมากกว่า

3. สีของเลือด

เลือดล้างหน้าเด็กจะเป็นสีชมพูจางๆ สีน้ำตาล หรือสีแดงอ่อนๆ ในขณะที่เลือดประจำเดือนจะเป็นสีแดงสด และสีแดงคล้ำ

บทความอ่านเพิ่มเติม : อาการก่อนเป็นประจำเดือน (PMS) มีอะไรบ้าง ต่างกับอาการคนตั้งครรภ์อย่างไร 

เลือดล้างหน้าเด็ก ตรวจครรภ์เจอไหม

เมนส์ มาก่อน กํา หน ด 1 อาทิตย์

การตรวจการตั้งครรภ์หลังพบว่ามีเลือดล้างหน้าเด็ก สามารถตรวจพบการตั้งครรภ์ได้ แต่ควรรอประมาณ 1 สัปดาห์หรือหลังจากพบเลือดล้างเด็ก 1 เดือน แล้วจึงทำการตรวจ เพื่อให้ได้ผลที่แม่นยำมากยิ่งขึ้น แต่หากต้องการผลลัพธ์ที่แน่นอน ควรเข้าพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ทำการตรวจให้

เมนส์ มาก่อน กํา หน ด 1 อาทิตย์

วิธีตรวจครรภ์มีอะไรบ้าง

  1. ที่ตรวจครรภ์แบบจุ่ม (Pregnancy Test Strip) มีลักษณะเป็นแผ่นสำหรับนำไปจุ่มลงในปัสสาวะ บางยี่ห้อจะมีถ้วยตวงขนาดเล็กมาด้วยเพื่อใช้ในการเก็บปัสสาวะ เมื่อเก็บปัสสาวะแล้วจึงค่อยนำเอาแผ่นทดสอบไปจุ่มลงในปัสสาวะประมาณ 3 วินาที แล้วเอาขึ้นมาตั้งทิ้งไว้รออ่านผลตรวจหลังจากนั้นประมาณ 5 นาที
  2. ที่ตรวจครรภ์แบบหยด (Pregnancy Test Cassette) หรือเรียกอีกอย่างว่าแบบตลับ มีอุปกรณ์มาให้ 3 อย่างได้แก่ ถ้วยตวงสำหรับเก็บปัสสาวะที่จะทำการตรวจ หลอดหยด และตลับตรวจครรภ์ วิธีการใช้คือให้นำปัสสาวะใส่ถ้วยตวงแล้วใช้หลอดหยดดูดปัสสาวะจากถ้วยก่อนจะหยด 3-4 หยดลงในตลับตรวจครรภ์ แล้วตั้งทิ้งไว้รออ่านผลตรวจหลังจากนั้นประมาณ 5 นาที
  3. ที่ตรวจครรภ์แบบปากกาหรือที่ตรวจครรภ์แบบปัสสาวะผ่าน (Pregnancy Midstream Tests) จะมีแท่งตรวจสอบการตั้งครรภ์สามารถถอดฝาครอบแล้วถือแท่งทดสอบให้ทิศทางลูกศรชี้ลง จากนั้นปัสสาวะผ่านประมาณ 30 วินาที แล้วตั้งทิ้งไว้เป็นเวลา 3-5 นาทีจะปรากฏผลการตั้งครรภ์
  4. ที่ตรวจครรภ์แบบดิจิทัล (Digital Pregnancy Test) คล้ายแบบปากกาใช้การตรวจด้วยการปัสสาวะผ่านเช่นกัน แต่จะมีหน้าจอแสดงผลแบบดิจิทัล ใช้เวลาในการรอผลประมาณ 3 วินาทีและให้ผลการตรวจที่ค่อนข้างแม่นยำแต่มีราคาสูง

การอ่านผลที่ตรวจครรภ์

  • ที่ตรวจครรภ์ขึ้น 1 ขีด กรณีที่พบขีดขึ้น 1 ขีดที่บริเวณตัว C หรือ Control Line แสดงว่า ไม่ตั้งครรภ์ ทั้งนี้อาจเกิดจากการตรวจครรภ์เร็วเกินไป แต่ถ้าไม่มั่นใจควรตรวจซ้ำโดยเว้นระยะห่างอย่างน้อย 2-3 วัน หากตั้งครรภ์จริงปริมาณฮอร์โมน HCG ก็จะสูงขึ้น การตรวจครรภ์ก็จะยิ่งแม่นยำขึ้น
  • ที่ตรวจครรภ์ขึ้น 2 ขีด บนที่ตรวจครรภ์จะมีอักษรตัว C และตัว T กำกับเอาไว้ ถ้าผลการทดสอบมีเส้นขึ้นทั้งสองขีด คือ ที่ Control Line (C) และ Test Line (T) แสดงว่า ตั้งครรภ์

เลือดล้างหน้าเด็ก อันตรายไหม

เมนส์ มาก่อน กํา หน ด 1 อาทิตย์

เลือดล้างหน้าเด็ก เป็นอาการที่ไม่อันตราย และจะมีอาการเพียง 1-2 วันเท่านั้น แต่หากมีเลือดออกติดต่อกันเกินกว่า 2 วัน และมีปริมาณมากกับสีของเลือดผิดปกติ คือเลือดออกมากหรือเลือดเป็นลิ่ม สีของเลือดมีสีแดงสดแทนที่จะเป็นสีชมพูหรือสีน้ำตาลก็ควรรีบปรึกษาแพทย์ เพราะนั่นอาจเป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นในมดลูก หรือเป็นอาการที่อันตรายต่อทารกในครรภ์ได้ เช่น การแท้ง หรือการตั้งครรรภ์นอกมดลูก เป็นต้น

คำถามที่พบบ่อย

หากมีเลือดล้างหน้าเด็ก จะมีอาการตกขาวร่วมด้วยไหม

หากมีเลือดล้างหน้าเด็ก ก็เป็นไปได้ว่ามีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ ส่วนการมีตกขาวหรือมูกไข่ตกร่วมด้วย ซึ่งตกขาวมักจะมาก่อน ระหว่าง หรือหลังการมีรอบเดือน ซึ่งผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ก็ยังสามารถมีตกขาวได้

เลือดล้างหน้าเด็ก มาตอนท้องกี่เดือน

เลือดล้างหน้าเด็กจะมาหลังการปฏิสนธิของไข่และอสุจิประมาณ 7-9 วัน ซึ่งจะเป็นช่วงก่อนที่ประจำเดือนรอบถัดไปจะมาประมาณ 1 สัปดาห์

เลือดล้างหน้าเด็ก มาเยอะสุดกี่วัน

ระยะเวลาที่เลือดออก เลือดล้างหน้าจะอยู่นานแค่ 1-2 วัน ขณะที่ประจำเดือนจะเป็นนาน 3-5 วัน แต่ไม่เกิน 7 วัน

ข้อสรุป

เลือดล้างหน้าเด็ก คือ สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณแม่กำลังตั้งครรภ์ ซึ่งจะเกิดขึ้นก่อนประจำเดือนในรอบถัดไปมาประมาณ 1 สัปดาห์ เลือดล้างหน้าเด็กไม่มีอันตรายใดๆและจะมาเพียง 1-2 วันเท่านั้น เมื่อคุณแม่แน่ใจว่ามีเลือดล้างหน้าเด็กไหลออกมาให้ลองตรงการตั้งครรภ์ แต่หากต้องการความแม่นยำแนะนำให้เข้าพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจการตั้งครรภ์ให้อย่างละเอียด ทั้งนี้หากคุณแม่ท่านไหนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Line : @beyondivf

adminnerd2022-10-12T17:27:32+07:00

นัดวันปรึกษาแพทย์

© MKC IVF CO., LTD. 2020 All rights reserved.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณเองได้โดยการคลิกตั้งค่า

เมนส์ มาก่อน กํา หน ด 1 อาทิตย์

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยการเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด

จัดการความเป็นส่วนตัว

  • ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหาให้เหมาะสมกับความสนใจของคุณ หากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาให้ตรงกับความสนใจของคุณได้
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า

เพื่อเก็บความยินยอมของ User

ใช้สำหรับเก็บจำนวนผู้เข้าชมไปยัง Google Analytic

คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

ใช้สำหรับเก็บข้อมูลไปยัง Facebook Pixel และ Google Ads