พบกับ Minor III และสัมผัสประสบการณ์เสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของ Marshall โดยไม่เกะกะ เพลิดเพลินกับเวลาเล่นไร้สาย 25 ชั่วโมงและอิสระในการฟังโดยไม่ต้องใช้สายโดยไม่มีปัญหาเรื่องเสียง หูฟังไร้สายเหล่านี้ทำทุกอย่างเพื่อคุณ สิ่งที่คุณต้องทำคือหยิบเพลงแล้วไป Show จับคู่และเล่น Minor III นำเสนอเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของ Marshall ที่ไม่มีใครเทียบได้โดยไม่มีความเกะกะเพิ่มเติม หูฟังเหล่านี้ทำทุกอย่างเพื่อคุณ สิ่งที่คุณต้องทำคือจับคู่กับอุปกรณ์และเล่น อิสระจากสายไฟ Minor III เป็นระบบไร้สายอย่างแท้จริง ให้คุณมีอิสระอย่างแท้จริงในการฟังโดยไม่ต้องใช้สาย ในขณะที่ให้เสียงที่ทรงพลังเช่นเดียวกัน Minor III มาพร้อมกับ Bluetooth 5.2 ซึ่งช่วยให้มั่นใจว่าหูฟังเอียร์บัดสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไดรเวอร์ปรับแต่งที่ทรงพลัง Minor III จะทำให้คุณประทับใจด้วยไดรเวอร์ปรับแต่งขนาด 12 มม. ที่ให้เสียงที่ดังและคมชัด ระบบควบคุมแบบสัมผัสที่ใช้งานง่าย Minor III มาพร้อมกับเอียร์บัดไวต่อการสัมผัสแบบมิเรอร์ คุณจึงใช้หูฟังแบบใดก็ได้เพื่อควบคุมเพลงและการโทร การถอดและใส่หูฟังเอียร์บัดจะเป็นการเริ่มคุณสมบัติหยุดชั่วคราวและเล่นอัตโนมัติ ดังนั้นคุณจะไม่พลาดแม้แต่จังหวะเดียว เวลาเล่นไร้สาย 25 ชั่วโมง คุณไม่ต้องการที่จะติดอยู่โดยไม่มีเพลงเมื่อคุณต้องการมากที่สุด ดังนั้น Minor III จึงบรรจุเวลาเล่นไร้สายทั้งหมด 25 ชั่วโมงเพื่อให้คุณเคลื่อนไหวได้ เอียร์บัดอยู่ได้ 5 ชั่วโมง และเคสชาร์จแบบพกพามีการชาร์จเพิ่มเติมสี่ครั้ง คุณจึงสามารถใส่เอียร์บัดเข้าไปในเคสเพื่อรับพลังพิเศษเมื่อจำเป็น คุณสามารถชาร์จเคสแบบไร้สายหรือด้วยสาย USB-C ได้อย่างง่ายดาย ** รูปและข้อมูลในคอนเทนต์เป็นเพียงภาพรวมของสินค้าเท่านั้น กรุณาตรวจสอบ ณ จุดวางจำหน่ายก่อนสั่งซื้อ
หาซื้อ หูฟังไร้สาย Marshall Earbud TWS Minor III Black ได้ที่ร้าน Banana สาขาที่เปิดจำหน่าย สามารถช้อปสินค้า IT อีกมากมาย พร้อมรับโปรโมชั่นดี ๆ ได้ที่ Banana Online หรือเลือกช้อปผ่าน Call Center โทร. 02-017-7770 (ตั้งแต่เวลา 09.00-19.00 น.) และบริการ Chat&Shop ช้อปง่าย สะดวกสบาย! 5 ช่องทาง ได้ที่ Facebook: Bananaitshop, Studio7 และ Line @bnnonline, @bananaitshop, @studio7 มีบริการจัดส่งด่วน 3 ชั่วโมง หากพูดถึงอุปกรณ์เครื่องเสียงอย่าง "หูฟัง" ในปัจจุบันต้องบอกเลยว่าปฏิเสธไปไม่ได้เลยว่าถือเป็นอีกอุปกรณ์สำคัญที่แทบทุกคนต้องมีเอาไว้ติดตัว ไม่ว่าจะเป็นหูฟังแบบมีสาย หรือหูฟังแบบไร้สายก็ตาม โดยมีให้เลือกมากมายหลากหลายราคาทั้งราคาไม่แพงไปจนถึงราคาระดับ Hi-End หลายหมื่นถึงหลายแสนบาท ซึ่งช่วงราคาก็เป็นตัวกำหนดได้อีกจุดว่า Headphones นั้นๆ จะมาพร้อมฟังก์ชันอัดแน่นเพียงใด วัสดุและการออกแบบระดับพรีเมียมแค่ไหน และแน่นอนว่าเรื่องเสียงที่ยอดเยี่ยมครบถ้วนตามราคาของสินค้า ซึ่งหลักๆ ไม่ว่าจะเป็น Headphone ราคาใด ฟังก์ชันครบครันมากเพียงใด ก็ปฏิเสธไปไม่ได้เลยว่า การใช้งานจะเป็นการพกพาไว้ติดตัวเพื่อฟังเพลงเวลาเดินทางหรือเวลาว่าง ทั้งการเชื่อมต่อแบบมีสายที่แม้ว่าด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันที่เหล่าบรรดา Smartphone ตัดช่องเชื่อมต่อ AUX/3.5 mm. ออกไป ทำให้การใช้งานนั้นยากขึ้นเพราะจำเป็นจะต้องมี Dongle แปลงหัวสายในการใช้งาน แต่ก็ยังมีการใช้งานอีกประเภทนั่นคือใช้กับเครื่องเล่นเพลงต่างๆ ที่ยังมีช่องเชื่อมต่อแบบมีสายอยู่ทำให้ หูฟังมีสาย ยังคงได้รับความนิยมอยู่ และการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่ช่วยให้การใช้งานสะดวกขึ้นไปอีกขั้นเพราะนอกจากจะใช้การเชื่อมต่อแบบไร้สายที่ไม่เกะกะแล้ว ในปัจจุบันหูฟังไร้สายยังมีอีกหลายระดับให้เลือกตั้งแต่ไร้สายแบบที่ยังมีสายเชื่อมต่อกันอยู่ ไปจนถึงไร้สาย True Wireless ที่ปราศจากสายจากกันซ้ายขวาอีกด้วย หูฟัง หรือ Headphones มีกี่ประเภท?หากจะพูดถึงเหล่าบรรดาประเภทของ Headphones ทั้งหมดที่มีในตอนนี้ก็ต้องบอกเลยว่ามีหลากหลายประเภทให้ได้เลือกซื้อและเลือกใช้ตามความต้องการมาก ซึ่งทั้งหมดสามารถแบ่งประเภทหลักออกไปได้เป็น 3 ประเภท และในประเภทหลักยังมีประเภทย่อยออกไปอีก โดยแบ่งตามการเชื่อมต่อที่มีทั้งมีสายและไร้สายรวมถึงแบ่งตามสิ่งที่มาควบคู่กับหูฟังแบบที่ขาดไปไม่ได้เช่นกัน นั่นก็คืออุปกรณ์เสริมหูฟังนั่นเอง โดยทั้งหมดสามารถแบ่งออกได้ดังนี้ 1. หูฟังไร้สาย หูฟังบลูทูธสำหรับหูฟังไร้สายก็คือ Headphone ที่ใช้การเชื่อมต่อแบบไร้สาย หลักการเชื่อมต่อของหูฟังไร้สายนั้นก็ไม่ได้ซับซ้อนใดๆ เพราะเน้นในเรื่องของการออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่ายและสะดวกเท่านั้น โดยจะใช้การส่งสัญญาณไร้สายผ่านสัญญาณ Bluetooth ที่ ในปัจจุบันได้พัฒนามาถึง Version 5.2 หลักการทำงานก็คือตัวอุปกรณ์เครื่องเล่นเพลงและตัว Headphones ต้องจับคู่กัน จากนั้นเมื่อจับคู่กันแล้วทั้ง 2 อุปกรณ์ก็จะจดจำกันได้ตลอดไป ครั้งต่อไปที่ใช้เพียงเปิดหูฟังและเปิดเครื่องเล่นเพลงเท่านั้นทั้ง 2 อุปกรณ์ก็จะเชื่อมต่อกันโดยอัตโนมัติและพร้อมใช้งานในทันที โดยทั้ง 2 อุปกรณ์จะเชื่อมต่อกันอยู่ตลอดจนกว่าจะปิดอุปกรณ์ใดอุปกรณ์หนึ่ง หรือออกห่างจากกันเกินกว่าระยะสูงสุดที่กำหนดเอาไว้ โดยหูฟังไร้สายยังสามารถแบ่งประเภทย่อยออกไปได้อีกตามการเชื่อมต่อ ดังนี้ หูฟังที่เชื่อมต่อกับเครื่องเล่นเพลงแบบไร้สาย โดยที่ตัวหูฟังทั้งข้างซ้ายและขวายังเชื่อมต่อกันอยู่ ซึ่งก็จะมีทั้งแบบ Full Size ไร้สายทั้ง Over-Ear และ On-Ear, หูฟังแบบ Bone Conduct ไร้สาย และหูฟังขนาดเล็กเช่น In-Ear ไร้สาย และ EarBud ไร้สายเป็นต้น เทคโนโลยีที่พัฒนาต่อมาจาก หูฟังไร้สาย โดยโดดเด่นในเรื่องของการเชื่อมต่อที่เป็นอิสระจากกันทั้งหมด โดยที่ไม่ต้องมีสายเชื่อมต่อกันให้วุ่นวายทั้งเชื่อมต่อกับเครื่องเล่นเพลง และเชื่อมหูฟังข้างซ้ายและขวาเข้าด้วยกัน โดยปัจจุบันเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมมากๆ ด้วยข้อดีในเรื่องการใช้งานที่สะดวกไม่มีสายมากวนใจนั่นเอง 2. หูฟังมีสายแม้การใช้งาน หูฟังมีสาย กับ Smartphone ในปัจจุบันจะยุ่งยากมากขึ้นเพราะ Smartphone รุ่นเรือธงส่วนใหญ่นั้นถูกถอดช่องเชื่อมต่อ AUX/3.5 mm. ออกไปทำให้ต้องมองหา Dongle มาแปลงหัวเชื่อมต่อ แต่ก็ยังมี Smartphone รุ่นรองลงมาที่บางรุ่นก็ยังมีช่องเชื่อมต่อ 3.5 mm. อยู่ รวมถึงการใช้งานฟังเพลงคุณภาพสูงจากเครื่องเล่นเพลงก็ยังคงจำเป็นต้องใช้ รวมถึงข้อจำกัดในเทคโนโลยีการเชื่อมต่อไร้สายที่อาจจะไม่สามารถส่งสัญญาณเสียงได้เต็มคุณภาพเท่าที่ต้องการ โดยการเชื่อมต่อมีสายสามารถแบ่งประเภทออกไปได้อีก ดังนี้ หรือที่หลายๆ คนชอบเรียกว่า หูฟังสอดหูโดยที่ปลายหูฟังจะมีโฟมหรือจุกยางใช้ยัดเข้าไปในรูหู และเป็นหูฟังที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็ว่าได้เนื่องจากมีขนาดเล็ก พกพาสะดวก แถมกันเสียงรบกวนภายนอกได้ดีมาก ส่วนในด้านราคาก็มีตั้งแต่หลักร้อยจนไปถึงระดับหมื่นก็มีเช่นกัน เป็นหูฟังที่หลายๆ คนคุ้นเคยกันดี ถ้าจะพูดให้เห็นภาพคือหูฟังไอโฟนรุ่นเก่าๆ ที่ใส่โดยการเอาเข้าไปวางในรูหู ปัจจุบันได้รับความนิยมในหมู่คนที่ชอบ Headphone ที่ใส่สบายไม่อึดอัดเนื่องจากต้องยัดเข้าไปในหูแบบ In-Ear เป็นหูฟังที่สวมใส่แบบคาดหูและมีขนาดใหญ่ มีก้านคาดหูพร้อมกับขนาดของ Earcup หูฟังที่ครอบปิดใบหูได้ โดย Over-Ear ตัวครอบหูจะมีขนาดใหญ่กว่าใบหูตอบโจทย์การสวมใส่ให้สามารถวางหูฟังปิดรอบใบหูได้ หูฟังแนบหู จะมีขนาดเล็กลงมาและจะมีขนาด Earcup ที่แนบสนิทกับปิดรอบใบได้หูพอดี ซึ่งแม้จะมีขนาดที่เล็กกว่าแต่ก็สามารถให้เสียงได้เต็มอิ่มจุใจไม้แพ้กัน เหมาะกับการพกพาและการสวมใส่ในชีวิตประจำวันได้มากกว่าเพราะไม่ทำให้อึดอัดหรือร้อนหู 3. อุปกรณ์เสริมหูฟังอุปกรณ์เสริม Headphones หรือก็คืออุปกรณ์ส่วนเสริมสำหรับใช้งานกับหูฟังต่างๆ ที่จะช่วยให้ตัวหูฟังสามารถขับเสียงได้ดีขึ้นหรือใช้งานได้ยอดเยี่ยมขึ้นนั่นเอง โดย อุปกรณ์เสริมหูฟัง นั้นประกอบไปด้วย
อุปกรณ์เสริมหูฟัง ที่หลายๆ คนอาจจะไม่คิดว่าอุปกรณ์เล็กๆ หรือส่วนประกอบของหูฟังเล็กๆ นี้จะช่วยในเรื่องของเสียงให้ยอดเยี่ยมขึ้นกว่าเดิมได้ ซึ่งในการใช้งานจริงปฏิเสธไปไม่ได้เลยว่าตัวหูฟังนั้นหากได้รับการเปลี่ยนฟองน้ำหรือจุกแล้วนอกจากช่วยในเรื่องการสวมใส่ที่สบายขึ้นตามการออกแบบแล้ว เรื่องเสียงยังสามารถปรับเปลี่นไปตามการออกแบบของฟองน้ำและจุกอีกด้วย หูฟัง In-Ear ที่มาในรูปทรงของ IEM หรือ In-Ear Monitor นั้นส่วนใหญ่จะสามารถถอดเปลี่ยนสายได้อย่างอิสระเพื่อตอบโจทย์การอัพเกรดเสียง เพราะสายหูฟังที่ปกติทางแบรนด์ให้มานั้น ส่วนใหญ่จะรับเสียงได้ยอดเยี่ยมในระดับหนึ่ง แต่ด้วยข้อจำกัดด้านราคาของตัวสินค้าทำให้วัสดุและคุณภาพของสายนั้นอาจจะทำงานได้ไม่เต็มที่หรือรับเสียงได้ยอดเยี่ยมพอ ทำให้ในปัจจุบันมีสายสำหรับอัพเกรดหูฟังออกมาให้เลือกมากมายและก็มีหลายระดับราคาให้เลือกตั้งแต่ระดับหลักร้อย หลักพัน ไปจนถึงหลักหมื่น อุปกรณ์เสริมหูฟัง ที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อช่วยในเรื่องของการขับเสียง แต่ออกแบบมาสำหรับการถนอม หูฟัง Headphone ตัวโปรดให้ไม่ต้องวางไว้บนโต๊ะซึ่งจะเสี่ยงต่อรอยกระแทกหากวางไว้ไม่ระวัง รวมถึงช่วยประหยัดพื้นที่การใช้งานบนโต๊ะอีกด้วย ขาตั้งหูฟัง ก็มีหลายรูปแบบหลายราคาเช่นกัน ตามการออกแบบและวัสดุที่เลือกใช้ หูฟังไร้สายเสียงดีเทียบเท่ากับแบบมีสายหรือไม่ ?โดยตามหลักการทางวิทยาศาสตร์แล้วการส่งสัญญานผ่าน Bluetooth จะมีการสูญเสียข้อมูลบางส่วนไปในระหว่างการส่งสัญญาน ทำให้ หูฟังไร้สาย อาจมีคุณภาพเสียงที่ลดทอนลงไปบางส่วน แต่ก็ไม่ได้เป็นการยืนยันว่าแบบมีสายเองจะมีคุณภาพดีกว่า เพราะการใช้งานสายสัญญานที่มีคุณภาพต่ำก็อาจทำให้เกิดการสูญเสียข้อมูลระหว่างการส่งสัญญาณได้เช่นกัน รวมถึงในปัจจุบันก็มีเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ๆ ที่ช่วยให้คุณภาพเสียงและการเชื่อมต่อทำได้ดีกว่าเดิม สำหรับ Bluetooth เองก็ได้รับการพัฒนามาอยู่ในรุ่นที่ 5.2 แล้ว ทำให้สามารถส่งสัญญาณได้ไม่ต่างกับการส่งสัญญาณผ่านสาย รวมถึงยังมีเทคโนโลยี Codec ไร้สายต่างๆ ที่ช่วยให้คุณภาพของเสียงอยู่ในระดับ Hi-Res ทั้ง LDAC จาก Sony หรือ aptX ต่างๆ จึงสามารถสรุปได้ว่าการใช้งานแบบไร้สายหรือมีสายนั้นไม่อาจเป็นตัวชี้วัดคุณภาพของเสียงที่ออกมาได้อย่างเต็มที่ ยังคงมีปัจจัยอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้องแต่สิ่งที่สามารถยืนยันได้คือเทคโนโลยีการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ในอนาคตยิ่งจะมีโอกาสได้เห็น หูฟังไร้สาย ที่มีคุณภาพสูงมากกว่าเดิม แนะนำแบรนด์ชั้นนำ หูฟัง (มีสาย)สำหรับแบรนด์ชั้นนำของ หูฟังมีสาย ในปัจจุบันก็มีมากมายหลากหลายแบรนด์ด้วยกันไม่ว่าจะเป็น รวม หูฟัง (มีสาย) รุ่นยอดนิยมในส่วนของ Headphone มีสาย มีหลายแบรนด์ เช่น beyerdynamic Sennheiser หรือรุ่นยอดฮิตที่เป็นตำนานแม้จะเปิดตัวและวางขายมาเป็นเวลานานหลายปีก็ตาม แต่ก็ยังคงได้รับความนิยมอย่างสูงมาจนถึงปัจจุบัน โดยมีรุ่นเด่นที่ได้รับการยอมรับกันในวงการนักฟังเพลงดังนี้ แนะนำแบรนด์ชั้นนำของหูฟังไร้สาย (Wireless headphone)ในตอนนี้มีหลายๆ แบรนด์ที่มีสินค้าเด่น โดยแบรนด์ที่ถูกจัดอันดับเป็นเบอร์ต้นๆ ของวงการก็จะโดดเด่นทั้งด้านรูปร่างหน้าตาที่หรูหราและทันสมัย เทคโนโลยีและฟังก์ชันการใช้งานที่ล้ำสมัยและครบถ้วนจัดเต็ม แนวเสียงที่โดดเด่นฟังสนุก ฟังแล้วติดใจได้ง่ายๆ เรียกได้ว่าถ้ามองหาหูฟังไร้สายให้มองหาแบรนด์เหล่านี้ก่อนได้เลย แนะนำ Headphones ไร้สายรุ่นยอดฮิตหากใครกำลังมองหา หูฟังไร้สาย รุ่นยอดฮิตที่ให้เสียงดี เชื่อมต่อเสถียร ฟังก์ชันครบถ้วน และได้รับการจัดอันดับเป็นหูฟังไร้สายที่ยอดเยี่ยมเป็นอันดับต้นๆ ของวงการก็ห้ามพลาดรุ่นเหล่านี้ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน |