ใกล้จะสิ้นปีแล้ว เชื่อว่าหลายคนคงกำลังมองหางานใหม่ๆ เพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถของตัวเอง แต่เราควรเปลี่ยนงานในช่วงปีใหม่จริงๆ หรือเปลี่ยนช่วงไหนถึงจะเหมาะ มา Recheck ความพร้อมและสัญญาณเตือนว่าคุณอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้แล้วกันก่อนดีกว่า Show 1.ความสุขในการทำงานน้อยลงทุกวัน เมื่อไรทิ่เริ่มรู้สึกไม่มีความสุขกับการตื่นไปทำงาน นี่เป็นสัญญาณแรกที่เตือนว่าถึงเวลาต้อง “เปลี่ยน” ลองสำรวจตัวเองว่านอกจากความรู้สึกไม่มีความสุขแล้ว คุณยังมีอารมณ์ไหนอีกบ้าง เช่น ซึมเศร้า เบื่อ แยกตัว ฯลฯ จงยอมรับและอย่าปฏิเสธความรู้สึกของตัวเอง นี่คือจุดเปลี่ยนที่คุณจะต้องหาทางออก 2.สภาพแวดล้อมและบรรยากาศเป็นพิษ งานคือส่วนหนึ่งของชีวิต และที่ทำงานคือสถานที่ที่คุณต้องคลุกคลีใช้ชีวิตอย่างน้อยๆ วันหนึ่งก็ 8 ชั่วโมง ดังนั้นถ้าบรรยากาศในการทำงานไม่น่าอยู่ หรือคนที่คุณทำงานด้วยเริ่มปล่อยพิษ หรือทัศนคติเชิงลบต่อทุกสิ่งทุกอย่าง จนรบกวนการทำงานของคุณ และหากคุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงการทำงานร่วมกับคนเหล่านี้ได้ แน่นอนว่าพลังลบก็จะยิ่งบั่นทอนสุขภาพจิตของคุณไปเรื่อยๆ ลองชั่งน้ำหนักดูว่าคุ้มกับการอยู่ต่อหรือเปล่า 3.ที่ทำงานไม่สามารถให้ความรู้ใหม่ๆ กับคุณได้อีกต่อไป ตราบใดที่โลกยังหมุนไปเรื่อยๆ การพัฒนาตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อคุณคิดว่าตัวเองเชี่ยวชาญหรือเป็นผู้รู้ที่แท้จริงกับสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้แล้ว และไม่สามารถขยับขยายไปในตำแหน่งอื่นได้ หรือบริษัทไม่มีงบสนับสนุนให้คุณออกไปหาความรู้ อย่ามัวนิ่งนอนใจ การออกไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ เป็นสิ่งที่คุณควรทำ เพราะเมื่อวันใดที่คุณก้าวไม่ทันโลก คุณก็จะกลายเป็นของตกยุคและถูกเขี่ยทิ้งในที่สุด 4.งานไม่ท้าทายความสามารถเหมือนแต่ก่อน เชื่อว่าหลายคนที่เปลี่ยนงาน สาเหตุหนึ่งเกิดจากต้องการท้าทายความสามารถของตัวเอง ก้าวไปสู่ Step ที่ยากขึ้นในตำแหน่งที่สูงขึ้น เพราะหากยังอยู่ที่เดิม คุณก็จะย่ำอยู่กับที่ ทำแต่สิ่งเดิมซ้ำๆ จนเกิดความเบื่อหน่าย และนำไปสู่อาการหมดไฟในที่สุด 5.ค่าตอบแทนไม่คุ้มค่า นอกเหนือจากตัวงานที่น่าสนใจและตรงความสามารถแล้ว ค่าตอบแทนก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่มีความสำคัญในอันดับต้นๆ ถ้าหากเมื่อไรที่คุณรู้สึกว่าเงินเดือนไม่พอใช้ หรือต้องรบกวนทางบ้าน เพราะค่าครองชีพที่สูงขึ้น แต่เงินเดือนไม่ได้ขยับตาม หรือเงินเดือนขึ้นแบบไม่สมเหตุสมผล เช่น ปริมาณงานมากขึ้นแต่เงินเดือนขึ้นเพียงน้อยนิดแทบไม่ต่างจากเดิม ก็ต้องพิจารณาแล้วว่าถึงเวลาหรือยังที่เราจะหาลู่ทางใหม่ ไปบริษัทที่ให้ค่าตอบแทนที่ดีกว่า จาก 5 ข้อที่กล่าวมานี้ ใครที่ Say YES มากกว่า 3 ข้อ ก็ไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงปีใหม่ มาหางานใหม่กันเถอะ ยังมีงานดีๆ จากบริษัทชั้นนำรออยู่ที่ JOBBKK.COM กว่า 200,000 ตำแหน่ง สมัครพร้อมฝากเรซูเม่เพื่อใช้สมัครงานได้ที่ลิงค์นี้เลยครับ https://jobbkk.com/go/yBXcf ต้นปีแบบนี้ถือว่าเป็นฤดูแห่งการโยกย้ายงานเลยก็ว่าได้ครับ เพราะหลังจากได้รับโบนัสตอนสิ้นปีและมีเวลาพักผ่อนช่วงวันหยุดยาว หลายคนอาจจะมีเวลาตั้งคำถามกับตัวเองว่า“งานที่เราทำอยู่ตอนนี้...ตอบโจทย์เราแล้วหรือยัง” “ถ้าย้ายงานไป เงินเดือนดีกว่าเดิม แต่จะทนสังคมของที่ใหม่ได้หรือเปล่า” หลายคนคงขยาดกับการเปลี่ยนงานที่เหมือนหนีเสือปะจระเข้ อยากเปลี่ยนบรรยากาศไปที่ใหม่ ๆ ด้วยความหวังว่าจะดีกว่าเก่า แต่กลับผิดหวัง ทำให้ต้องหางานใหม่ ไป ๆ มา ๆ รู้ตัวอีกทีก็มีประวัติย้ายงานหลายที่ซะแล้ว วันนี้เราเลยมีวิธีการตั้งคำถามกับตัวเอง ก่อนที่จะเปลี่ยนงานใหม่มาเล่าสู่กันฟัง หากตัดเรื่องผลตอบแทนหรือเงินเดือนของที่ใหม่ออกไป เรายังต้องแคร์เรื่องอะไรอีกบ้าง? 1. สังคมของที่ใหม่เป็นอย่างไร? วิธีที่จะทำให้เราทราบข้อมูลเหล่านี้ได้ก็คือ การลองสืบถามจากเพื่อนหรือคนรู้จักที่เป็นคนจากวงใน ก่อนตัดสินใจเข้าทำงานที่นั่นครับ 2. เราพร้อมจะออกจาก Comfort Zone หรือยัง? แต่เมื่อเราเปลี่ยนงาน ย้ายงานไปที่ใหม่ แน่นอนว่าเราต้องเรียนรู้เนื้องานใหม่ ความรู้ใหม่ สภาพแวดล้อมใหม่ และสังคมใหม่ ๆ ต้องพิสูจน์ผลงานของตัวเองใหม่ ต้องทำให้เพื่อนร่วมงานและหัวหน้าประทับใจ... ช่วงแรกของการเปลี่ยนงานจึงเป็นช่วงที่คุณอาจรู้สึกกดดัน และเก็บไปเครียดได้ เราต้องถามตัวเองว่า “พร้อมไหมสำหรับความท้าทายใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้น” 3. เราชอบงานใหม่มากกว่าหรือเปล่า?
หรือแค่อยากหนีจากที่เก่าอย่างเดียว? วิธีเช็คว่างานที่ใหม่จะตอบโจทย์เรามากกว่าที่เก่า คือ การ “สัมภาษณ์คนที่กำลังสัมภาษณ์เรา” หรือให้ “สังเกตนัยที่ซ่อนอยู่ในคำถามสัมภาษณ์” ที่เขาถามเรา เช่น หากเขาถามว่า “คุณทำงานล่วงเวลาได้ไหม กลับดึกได้รึเปล่า” = งานที่ใหม่ต้องทำงานล่วงเวลาบ่อยแน่นอน หากเราไม่มีปัญหาเรื่องนี้ อย่าอายที่จะถามว่า มีสวัสดิการสำหรับพนักงานที่ทำงานล่วงเวลาหรือไม่ “คุณรับแรงกดดันได้ดีแค่ไหน” = งานที่ใหม่มีแรงกดดันสูง อาจต้องใช้ทักษะในการต่อรองขั้นเทพ หากเราไม่ได้ชอบงานที่ดูวุ่นวาย งานนี้ก็คงไม่เหมาะกับเรานัก “คุณทำงานหลาย ๆ อย่างในเวลาเดียวกันได้ไหม” = งานที่ใหม่ของคุณคงยุ่งมากแน่ ๆ ถึงขั้นต้องการพนักงานที่ทำงานหลายอย่างในเวลาเดียวกันได้ ถ้าเราเป็นคนชอบทำงานละเอียด งานคราฟท์ หรือโฟกัสที่งานใดงานหนึ่งมากกว่า งานนี้อาจไม่เหมาะกับเรา นอกจากนี้ การซักถามผู้สัมภาษณ์เรื่องเนื้องาน และความรับผิดชอบต่าง ๆ ที่เราจะทำอย่างละเอียด ก็จะช่วยให้เรารู้ได้ว่างานนั้นเหมาะกับเราหรือไม่ครับ 4. มองให้ไกล ๆ: ที่ใหม่ ตอบโจทย์ชีวิตเราดีกว่าที่เก่า จริงหรือ? ที่ใหม่จะช่วยพัฒนาความสามารถของเราหรือไม่ เราจะเก่งขึ้นไหม ขัดกับไลฟสไตล์เราหรือเปล่า? สุดท้าย ลองถามตัวเองดูอีกสักคำถามว่า ที่ใหม่...ตอบโจทย์ความฝันที่วางไว้หรือเปล่า เท่านี้ ก็น่าจะช่วยให้เราตัดสินใจได้แม่นยำขึ้นกว่าเดิมครับ เปลี่ยนงานตอนไหนดีโดยทั่วไปแล้ว ระยะเวลาที่เหมาะสมในการเปลี่ยนงานส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 2-3 ปี เพราะมีบางคนบอกว่า ถ้าทำงานที่เดิมๆ ไปนานกว่านี้ อาจรู้สึกหมดไฟในการทำงาน เบื่องาน และมีความสุขในการทำงานน้อยลง แต่ถ้าออกจากงานเดิมเร็วกว่านี้ ก็กลัวว่าประสบการณ์การทำงานจะยังไม่มากพอในการไปสมัครงานที่ใหม่
เวลาสมัครงาน ดูอะไรบ้างก่อนตอบรับทำงาน ผู้สมัครต้องพิจารณาอะไรบ้าง. ผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต สถานที่ตั้งของบริษัทและความสะดวกในการเดินทาง ... . ความมั่นคงและความน่าเชื่อถือ และเป้าหมายขององค์กร ... . เงินตอบแทนและสวัสดิการ ... . หน้าที่ความรับผิดชอบและโอกาสในการเติบโตก้าวหน้า ... . สภาพแวดล้อม และวัฒนธรรมในการทำงาน ... . กฎระเบียบและสัญญาจ้าง. การเปลี่ยนงานบ่อยดีไหมทราบหรือไม่ว่า การเปลี่ยนงานบ่อยๆ ไม่ส่งผลดีต่อตัวคุณเลย มันทำให้คุณไม่มีประสบการณ์ที่ต่อเนื่อง เหมือนกับว่ารู้หลายอย่างจากที่ทำงานหลายที่ แต่ก็ยังไม่ลึกซึ้งกับอะไรสักอย่าง ทุกๆ ครั้งที่ย้ายที่ทำงาน คุณก็ต้องเริ่มเรียนรู้ใหม่ และพอคุณจะเริ่มเข้าที่เข้าทาง คุณก็พบว่างานที่คุณทำอยู่นั้นไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องการ นั่นเป็น ...
สมัครงานแบบไหนดี7 เว็บไซต์หางานในไทย เรียนจบแล้วยังไม่รู้จะไปไหน ก็มานี่!. 1. Linked In. ... . 2. JobsDB. ... . 3. Jobbkk. ... . 4. Jobtopgun. ... . 5. Thaijobsgov. ... . 6. Jobthai. ... . 7. นอกจากเว็บไซต์แล้ว สิ่งที่ต้องไม่มองข้ามก็คือหน้าเว็บของเราเอง. |