ราคา iphone 11 apple store

Photo Credit : Apple

ไอโฟน 11 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นเล็กในซีรีส์ที่ได้รับการปรับปรุงจากรุ่นเดิม ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพ กล้องถ่ายรูป และที่สำคัญสุดคือราคาที่ถูกปรับลดลงจากเดิม เรียกได้ว่าถูกอกถูกใจสาวก Apple iPhone กันถ้วนหน้า โดยสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ได้เปิดตัวราคาอยู่ที่ 24,900 บาทเท่านั้น แต่สเปคครบครันเกินราคา และในตอนนี้ ไอโฟน 11 ราคาล่าสุดก็ยิ่งถูกลงไปอีก แต่สิ่งที่จะได้ก็คุ้มค่า เพราะมีหน่วยประมวลผลอย่างชิป CPU A13 Bionic ทำงานลื่นปรื๊ดไม่มีสะดุด กล้องหลังมาพร้อมกับกล้องคู่แบบเลนส์ Ultra-Wide เก็บภาพได้คมชัดสมจริง ดีไซน์สวยงามหรูหรา หน้าจอขนาดใหญ่เต็มตากว้าง 6.1 นิ้ว ที่พิเศษกว่านั้นคือสีของบอดี้ที่สดใสตะมุตะมิ หากยังลังเลว่าจะซื้อตอนนี้คุ้มไหม งั้นลองไปส่องสเปคเครื่องแบบเต็ม ๆ กันดีกว่าว่าโดดเด่นอย่างไรบ้าง

ซื้อไอโฟน 11 ตอนนี้ คุ้มไหม ?

สาวก Apple ที่ยังใช้ iPhone 6 อยู่ และต้องการเปลี่ยนมาใช้รุ่นใหม่กว่า แต่ราคาไม่สูง ตอนนี้อาจถึงเวลาเปลี่ยนมาใช้ iPhone 11 กันดูบ้าง เพราะรุ่นนี้ก็มีความเจ๋งแบบที่ยังคงคุ้มค่า ใช้งานได้ดี และนี่ก็เป็นเหตุผลที่คุณต้องลองสักเครื่อง

สเปคที่ดีขึ้น

iPhone 11 เหมาะสำหรับกลุ่มผู้ใช้งานรุ่นเก่าที่ถึงเวลาเปลี่ยนมาใช้เครื่องใหม่ เช่น iPhone 6s และ iPhone 7 แน่นอนว่าปัจจัยสำคัญคือเรื่องสเปคที่ต้องปรับให้เข้ากับการใช้งานหลาย ๆ แอปในปัจจุบัน แถมบางเครื่องพบปัญหาเรื่องแบตเตอรี่กวนใจไม่น้อย ประกอบกับราคาเริ่มต้นที่เป็นมิตรมากขึ้น ยิ่งทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจยิ่งขึ้น ส่วนสเปคที่ให้มาไม่ได้น้อยหน้า มีชิปประมวลผลที่ใช้ Apple A13 รุ่นเดียวกันกับรุ่นโปรด้วย จิ๋วแต่จี๋ดสุด ๆ

ราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น

สำหรับซีรี่ส์ iPhone 11 ทำออกมาได้ดีมาก ๆ โดยเฉพาะราคาที่อาจมีปัจจัยเรื่องของค่าเงินบาท ทำให้จับต้องได้ง่ายขึ้น ในความจุเริ่มต้น 64 GB เปิดตัวมา 24,900 บาท พอ ๆ กับมือถือรุ่นท็อปฝั่ง Android หลาย ๆ รุ่น แถมยังถูกกว่าหลายรุ่นเสียด้วยซ้ำ หลาย ๆ คนจึงเปลี่ยนมาใช้รุ่นนี้กันเยอะมาก และถ้ายอมบวกเพิ่มอีกสักนิดก็ได้อัพความจุเพิ่ม 128 GB แล้ว เรียกว่าคุ้มค่าสุด ๆ เป็นการวางราคาที่ช่วยทำให้คนตัดสินใจยอมจ่ายเพิ่มง่ายขึ้น

กล้องพัฒนาจากเดิม

ที่ผ่านมา กล้องถ่ายรูปของ Apple ตามหลังมือถือฝั่ง Android มานาน ทั้งในแง่ของฟีเจอร์ที่น้อยกว่า และคุณภาพของรูปถ่ายที่ยังทำได้ไม่ดี ในรุ่น iPhone 11 เรียกได้ว่าทำการบ้านเป็นอย่างดี และตามโลกมากขึ้น ส่วนฮาร์ดแวร์ได้เพิ่มเลนส์อัลตร้าไวด์เข้ามาจนเทียบเท่ามือถือฝั่ง Android หลาย ๆ รุ่น กล้องหน้าก็มีการปรับปรุงรายละเอียดในบางจุด ทำให้กล้องถ่ายรูปรุ่นนี้สร้างเสียงฮือฮาได้ดี รวมถึงการจัดวางกล้องหลังที่โดดเด่น สมฐานะเจ้าแห่งนวัตกรรม

Ecosystem สมบูรณ์กว่าเดิม

สิ่งที่เป็นจุดแข็งของ Apple มาโดยตลอดก็คือ Ecosystem ทั้งในส่วนของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ถ้าลองใช้ iPhone 11 กับผลิตภัณฑ์หรือบริการ Apple อื่น ๆ จะได้รับความสะดวก และสามารถทำงานด้วยกันได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็น Apple TV+ ที่เปิดใช้งานบนโทรศัพท์แล้วก็ดูจากอุปกรณ์ Apple เครื่องอื่น ๆ ได้อย่างสะดวก หรือการการ copy ข้อความข้ามอุปกรณ์ ก็ทำได้ในรุ่นนี้ การเชื่อมต่อหูฟัง AirPods แยกในแต่ละเครื่อง รวมถึงการซิงค์รหัส Wi-Fi ข้ามเครื่อง

ชิปเซ็ตแรง เล่นเกมลื่น

จุดเด่นอีกอย่างคือการเล่นเกมที่ไหลลื่น ด้วยทั้งในแง่ของฮาร์ดแวร์ที่มีประสิทธิภาพสูงในระดับต้น ๆ ประกอบการที่ผู้ผลิตเกมสามารถปรับแต่งตัวเกมให้รีดประสิทธิภาพจาก iPhone ได้ง่ายกว่า จึงทำให้แทบไม่ต้องเป็นห่วงในแง่ของการเล่นเกมบน iPhone 11 ได้เลย ดังนั้นถ้าอยากจะหามือถือมาเพื่อเน้นเล่นเกมโดยเฉพาะ การเลือกเจ้าเครื่องนี้ก็ยังเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ลงตัวอยู่เช่นเคย โดยเล่นเกมยอดนิยมได้หลายเกมเลยทีเดียว

ประหยัดแบตเตอรี่

แม้ว่าจะยังล้าหลังกว่ารุ่นใหม่ ๆ อย่างซีรีส์ iPhone 13 ก็ตาม แต่ด้วยแบตเตอรี่ 3,000mAh นิด ๆ ใช้งานได้นานกว่า iPhone XR อีก 1 ชั่วโมง ซึ่ง iPhone XR เองก็เคยได้รับการขนานนามว่าเป็น iPhone ที่แบตอึดมาก ๆ รุ่นหนึ่งเลย และก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะจากการใช้งานเป็นเครื่องหลัก ปรับหน้าจอแบบ auto เชื่อมต่อทั้ง 4G และ Wi-Fi สลับเป็นช่วง ๆ มีเปิด Line Facebook Twitter IG เปิดเว็บ ถ่ายรูป ฟังเพลง บางวันมีการเล่นเกมระหว่างวันด้วย ก็สามารถใช้งานจนข้ามไปอีกวันได้สบาย

ไอโฟน 11 กับการออกแบบและดีไซน์ สวยขนาดไหน ?

สิ่งที่หลาย ๆ คนจะสังเกตเห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือ ไอโฟน 11 มีบอดี้สีสันที่สดใสกว่ารุ่นก่อนมาก จนเป็นรุ่นที่ผู้ใช้ทุกเพศทุกวัยถูกอกถูกใจกันสุด ๆ แต่นอกจากนั้นก็ยังมีรายละเอียดที่น่าสนใจดังนี้

การออกแบบ

ด้วยความที่ตัวเครื่อง ไอโฟน 11 ไม่ได้เล็กหรือใหญ่จนเกินไปจึงทำให้จับได้ถนัดมือ โดยขนาดรอบตัวเครื่องอยู่ที่ 150.9 x 75.7 x 8.3 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 194 กรัม ตัวเครื่องที่ใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียม ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เมื่อพลิกมาที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ด้านบนซ้ายจะมีกล้องคู่, ไฟแฟลช, และไมโครโฟนอีกตัวหนึ่ง ด้านล่างของตัวเครื่องมีช่องสำหรับไมโครโฟน, พอร์ตเชื่อมต่อ Lightning, และเสียบหูฟัง ข้าง ๆ กันคือช่องลำโพงตัวหลัก ในส่วนสีสันของบอดี้จะมีให้เลือกถึง 6 สีด้วยกัน ได้แก่ สีดำ สีเขียว สีเหลือง สีม่วง สีแดง และสีขาว

จอแสดงผล

หน้าจอแสดงผลใช้เทคโนโลยี IPS แบบ Liquid Retina HD ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 1792 x 828 พิกเซล 361 ppi สามารถปรับความความสว่างสูงสุด 625 นิต รองรับการแสดงผลแบบ True Tone และ HDR มีการเคลือบสารกันรอยนิ้วมือ Oleophobic Coating และรองรับการแสดงผลหลายภาษาและตัวอักษรหลายแบบพร้อมกัน บนหน้าจอบริเวณรอยบากเป็นพื้นที่สำหรับกล้องหน้า, ลำโพงสนทนา, และเซ็นเซอร์ต่าง ๆ นอกจากนี้ตัวเครื่องด้านซ้าย มีปุ่มสำหรับเพิ่ม-ลดเสียง และสวิตช์สำหรับเปิด-ปิดเสียง ปรับให้เข้ากับการใช้งานได้สะดวก

ไอโฟน 11 สเปคเป็นอย่างไร ?

ถึงแม้จะเป็นรุ่นน้องของซีรี่ส์ แต่ไอโฟน 11 ก็มาพร้อมความเร็วระดับโปร เนื่องจากใช้ชิปตัวเดียวกันกับรุ่นโปร แต่จะเหมือนหรือแตกต่างกันตรงไหนบ้าง มาตามหาคำตอบพร้อม ๆ กันเลย

ชิปเซ็ต และหน่วยความจำ

สรุป iPhone 11 สเปคภาพรวม ใช้ชิปเซ็ต Apple A13 Bionic (7 nm+) CPU แบบ Hexa-core พร้อมหน่วยประมวลผลกราฟิก GPU Apple GPU (4-core graphics) จับคู่มากับ RAM 4GB โดยมีตัวเลือกหน่วยความจำได้แก่ 64GB, 128GB และ 256GB นอกจากนี้ก็ยังมาพร้อมกับ Neural Engine แบบ 8 core ที่มอบความเร็วขึ้นสูงสุด 20% และใช้พลังงานน้อยลงสูงสุด 15% ทำงานได้รวดเร็วในทุกสถานการณ์ ซึ่งช่วยจัดการพลังงานให้ใช้งานได้นานยิ่งขึ้น

ระบบปฏิบัติการ

ตัวเครื่องมาพร้อมระบบปฏิบัติการ iOS 15 ที่มีการอัพเดทให้ใช้ Dark Mode ได้ด้วย ทำให้สามารถใช้งานแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ด้วยพื้นหลังสีดำในเกือบทุกแอป ช่วยถนอมสายตาไปในตัว มี Face ID ที่สามารถสแกนได้รวดเร็วขึ้น 30% ทำให้สามารถปลดล็อคเพื่อใช้งานได้อย่างรวดเร็วและทันใจมากขึ้น และยังสามารถอัพเดท iOS ให้เป็นเวอร์ชั่นใหม่ ๆ ได้ คาดว่าทาง Apple จะยังคงให้มีการอัพเดทเรื่อย ๆ ไปอีกหลายข้างหน้าเลยทีเดียว

แบตเตอรี่

ในส่วนของแบตเตอรี่มีการพัฒนาขึ้นเยอะ โดยมาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 3,110 มิลลิแอมป์ ที่สามารถใช้งานได้นานยิ่งขึ้น รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 18W โดยสามารถชาร์จจาก 0 - 50 เปอร์เซ็นต์ได้ภายในเวลา 30 นาทีเท่านั้น นอกจากนี้ก็ยังรองรับการชาร์จแบบไร้สาย Qi Wireless Charging ด้วย ตอบโจทย์การใช้งานคนยุคนี้สุด ๆ เรียกได้ว่า iPhone 11 คือรุ่นที่นำเอาเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาให้สาวกได้ตื่นเต้นกันไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะ

การเชื่อมต่อ

รุ่นนี้ยังคงสามารถใช้ AirDrop สำหรับการรับส่งไฟล์ข้ามอุปกรณ์ ผ่านการเชื่อมต่อแบบไร้สายได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งสามารถใช้ส่งได้ตั้งแต่รูปภาพ ไปจนถึงไฟล์ขนาดใหญ่หลัก GB โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องติดตั้งแอปอะไรเพิ่มเติมเลย แชร์ได้ตั้งแต่สมาร์ทโฟน, แท็บแล็ต และโน๊ตบุ๊ตของ Apple ทุกรุ่น ช่วยเพิ่มความสะดวกในการส่งไฟล์ข้ามเครื่องแบบไม่ต้องใช้อินเตอร์เน็ต ส่วนการเชื่อมต่อหูฟังก็ใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น และยังซิงค์ข้อมูลการใช้ Wi-Fi ที่ช่วยลดเวลาในการเชื่อมต่อด้วย

การเล่นเกม

  • เกม Call of Duty Mobile ในช่วงแรกที่เกมออกจะปรับเฟรมเรตได้แค่ Very High ล่าสุดก็เป็น Max เรียบร้อย เกมเพลย์ก็ลื่นไหล ขนาดตัวเครื่องและการวางปุ่มต่าง ๆ ก็ถนัดในการเล่นได้เลย ไม่ต้องปรับตัวให้ยุ่งยาก ประสิทธิภาพก็ล้นเหลือ เล่นต่อเนื่องนาน ๆ ก็สบาย
  • เกม Asphalt 9 ก็ทำได้ดีไม่แพ้กันแต่ทีเด็ดก็คือบน iOS นั้นจะปรับเฟรมเรตได้สูงถึง 60fps ในขณะที่บน Android จะมีเพียงไม่กี่รุ่นที่เลือกปรับได้ แถมปรับแล้วก็ลื่นไหลไม่เจออาการกระตุก ความลื่นไหลนั้นต่างกันพอควรเลยระหว่าง 30fps กับ 60fps นะ เหมาะกับคอเกมกราฟิกมาก

ไอโฟน 11 กับกล้องหน้าและหลัง มีลูกเล่นอะไรใหม่บ้าง ?

Apple iPhone 11 มีความโดดเด่นเรื่องกล้องที่ไม่แพ้รุ่นพี่ มาพร้อมกล้องหลังคู่ 2 ตัว ที่เพิ่มเลนส์อัลตร้าไวด์เข้ามาด้วย จะใช้งานได้ดี ถ่ายรูปสวยได้หลายมุมมองหรือเปล่า มาดูพร้อม ๆ กันเลย

กล้องเซลฟี่

กล้องหน้าเป็นเลนส์ TrueDepth มีความละเอียดที่เพิ่มขึ้นจากเดิมเป็น 12 ล้านพิกเซล ทำให้สามารถเซลฟีได้คมชัดกว่าที่เคย สามารถถ่ายรูปในโหมดภาพถ่ายบุคคลพร้อมโบเก้ที่สมจริง และการควบคุมระยะชัดลึกหรือโหมด Portrait ได้ พร้อมการจัดแสงถ่ายภาพบุคคลด้วยเอฟเฟ็กต์ 6 แบบ ถ่ายรูปได้สวยสมจริง ในโหมด Portrait ยังสามารถปรับเป็นภาพเซลฟี่มุมกว้างได้ โหมดที่เพิ่มเข้ามาก็คือการถ่าย Slo-Mo ด้วยกล้องหน้า หรือที่เรียกว่า Slofie เอาไว้ใช้งานเก๋ ๆ ได้อยู่

กล้องหลัง

กล้องหลังมีสองตัว คือ กล้องระยะ Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด ƒ/1.8 และกล้องระยะ Ultra Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด ƒ/2.4 และมุมมองภาพ 120° สามารถใช้งานถ่ายภาพได้ดีในทุกสภาพแสง และเลนส์ Ultra-wide ที่เพิ่มเข้ามาก็ช่วยให้คุณเก็บภาพความทรงจำได้กว้างและรายละเอียดเยอะมากขึ้น สามารถถ่ายรูปในโหมดภาพถ่ายบุคคลที่น่าสนใจ ด้วยโบเก้ที่สมจริง อีกทั้งยังโหมดกลางคืนที่ทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อใช้งานกล้องในที่มืดหรือที่มีแสงน้อย

การถ่ายวิดีโอ

สำหรับการถ่ายวิดีโอก็ใช้บันทึกวิดีโอความคมชัดระดับ 4K ได้ และยังสามารถปรับแต่งวีดีโอได้เหมือนกับในรูปภาพอีกด้วยเลนส์อัลตร้าไวด์รองรับทั้งการถ่ายภาพนิ่งและถ่ายวิดีโอแทบทุกโหมด ยกเว้นโหมด Portrait เท่านั้น ส่วนอีกข้อจำกัดของเลนส์อัลตร้าไวด์ ก็คือ มันไม่สามารถใช้งาน Night mode ที่จะใช้ได้ก็มีเพียงเลนส์ไวด์ปกติเท่านั้น แต่ก็ถือว่าเพียงพอ ส่วนโหมด HDR อัจฉริยะก็ช่วยให้ถ่ายสวยงามในทุกสภาพแสงด้วย

ทำไมถึงต้องเลือก iPhone 11 แทนรุ่น 11 Pro ?

  • ชนิดและขนาดหน้าจอ : ถ้าไม่ซีเรียสเรื่องสีสันและความละเอียดมากนัก iPhone 11 ก็ดีเพียงพอแล้ว มอบสีสันที่เป็นธรรมชาติมากกว่า ส่วน AMOLED บนรุ่น Pro มีความคมชัด ดูหนังและเล่นเกมได้อย่างสมูท ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าอยากให้เห็นสวยจกตากว่าบอกเลยว่าตัว Pro ยังไงก็ดีกว่า

  • กล้อง : กล้องของทั้งสองรุ่นใช้ตัวเดียวกัน แค่ในรุ่นธรรมดาไม่มีเลนส์เทเลซึ่งเอาไว้ใช้ในการถ่าย Portrait หน้าชัดหลังเบลอเท่านั้น กล้องที่มีมาให้ก็เอาไว้ใช้ถ่ายภาพกลางวัน กลางคืนได้สวยเหมือนเดิม ไม่มีนอยส์มากวนใจ ซูมได้ไกล มีลูกเล่นเยอะ ถ้าไม่ใช่สายถ่ายแบบจริงจังก็ไม่ได้จำเป็นนัก

  • แบตเตอรี่ : iPhone 11 มีแบตเตอรี่ที่เยอะกว่าเล็กน้อย โดยรวมใช้งานต่อชาร์จหนึ่งครั้งไม่ได้ต่างจากกันมากนัก สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานตลอดวัน ไม่ต้องเสียเวลาชาร์จบ่อย ๆ เพราะมีตัวชิปเซ็ตที่ช่วยประหยัดพลังงาน โดยรวมแล้วถือว่าดีเลยทีเดียว

  • วัสดุและการกันน้ำ : ในรุ่นธรรมดาจะหรูหราน้อยกว่านิดนึงเพราะวัสดุด้านหลังของ Pro จะมีการขัดด้าน จับถือแล้วดูพรีเมียมกว่า รวมถึงการกันน้ำของรุ่น Pro ก็จะกันได้ลึกถึง 4 เมตร เรียกว่าอุ่นใจขึ้นเยอะเวลาตกน้ำไป แต่ถ้าตกไปไม่ว่าจะลึกแค่ไหนแล้วน้ำเข้าเครื่องเจ๊ง ประกันก็ยังไม่รับเคลมอยู่ดี

ไอโฟน 11 ซื้อที่ไหน ?

โดยปกติแล้ว iPhone 11 รวมทั้งอุปกรณ์อื่น ๆ ของ Apple สามารถตามหาได้ที่ Apple Store, ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป, และร้านค้าอุปกรณ์ไอทีทั่วประเทศ สำหรับใครที่ไม่อยากเสี่ยงเดินทางไปร้านไกล ๆ แต่กลับไม่ได้ของติดมือเพราะของหมดสต็อกแบบพอดิบพอดี แถมยังไม่สามารถหามาแทนได้แบบทันทีทันใด มาลองพิจารณาแพลตฟอร์มเปรียบเทียบราคาสินค้าออนไลน์อย่าง iPrice Thailand กันดูก่อน เพราะเราได้รวบรวมสินค้ามากมายจากหลายร้านค้าออนไลน์ชั้นนำทั่วประเทศไทยมาไว้ในที่เดียว ให้คุณได้ช้อปสนุก เพลิดเพลินไปกับส่วนลดและโปรโมชันต่าง ๆ ในทุกครั้งที่ช้อป และที่คุ้มที่สุดคือคุณสามารถเลือกเช็คและเปรียบเทียบราคาไอโฟน 11 ได้ตลอดเวลา และกดสั่งได้ทันที ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็กดคลิกได้ง่ายเพียงแค่ปลายนิ้ว ซื้อโทรศัพท์ครั้งหน้าอย่าลืมเปรียบเทียบก่อนทุก ๆ ครั้ง ที่นี่เท่านั้น!

ไอโฟน 11 เป็นโทรศัพท์ที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งานจริง ๆ ชิปเซ็ตตัวเด็ดทำงานได้เร็วแรงไม่มีสะดุด กล้องถ่ายรูปสวยงามคมชัดในทุกมุมมอง แบตเตอรี่อึดทน ไม่ต้องพกพาวเวอร์แบงค์ให้หนักกระเป๋า ถ้าเปรียบเทียบกับรุ่นโปรก็เรียกว่ามาในราคาเบา ๆ สาวกตัวจริงต้องไม่พลาด! หากใครที่ต้องการสั่งซื้อ สามารถเช็คราคาล่าสุดได้แล้วที่เว็บไซต์ของเรา มาลองเช็ค iPhone 11 ราคาที่ดีที่สุดจากร้านค้าออนไลน์ชั้นนำทั่วประเทศ พร้อมเปรียบเทียบราคา และรับส่วนลดโปรโมชั่นใหม่ ๆ โดนใจก่อนใครได้ที่ iPrice Thailand

________________________________________________________________

นาดิยา ยะสีงอ (หยง)

iPrice Phones & Tablet Writer

จบการศึกษาเอกภาษาไทยจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ คลั่งไคล้เทคโนโลยีมากพอ ๆ กับการเขียน เธอเชื่อมั่นในพลังของเทคโนโลยีที่จะทำให้ชีวิตดีขึ้น สามารถเชื่อมผู้คนจากที่ต่าง ๆ ให้ใกล้ชิดกัน เธอจึงมุ่งมั่นที่จะแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับโทรศัพท์และแท็บเล็ตเพื่อช่วยให้ผู้คนตัดสินใจเลือกซื้อได้ดีขึ้น