Ipad air 4 ใช้airpod รุ่นไหน

ภาษา

Ipad air 4 ใช้airpod รุ่นไหน

ภาพรวม

มหัศจรรย์ยิ่งกว่าครั้งไหนๆ

AirPods ใหม่ พร้อมมอบประสบการณ์การใช้งานหูฟังแบบไร้สายที่แตกต่างไปจากที่เคย เพียงหยิบออกมาจากเคสชาร์จ หูฟังทั้งสองข้างก็พร้อมใช้งานกับ iPhone, Apple Watch, iPad หรือ Mac ของคุณแล้ว

เพียงตั้งค่าง่ายๆ ด้วยการแตะแค่ครั้งเดียว จากนั้น AirPods ก็พร้อมทำงานได้อย่างน่ามหัศจรรย์ เพราะจะเปิดโดยอัตโนมัติและเชื่อมต่ออยู่ตลอดเวลา แถม AirPods ยังรู้ได้เองว่าเมื่อไหร่ที่อยู่ในหูคุณ และจะหยุดเล่นเมื่อคุณถอดออก

หากต้องการปรับระดับเสียง เปลี่ยนเพลง โทรออก หรือแม้แต่ถามเส้นทาง ก็ทำได้ง่ายๆ แค่พูดว่า “หวัดดี Siri” แล้วคุณก็ออกคำสั่งได้เลย แถมคุณยังเลือกได้อย่างฟรีสไตล์ว่าจะใส่ AirPods ข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง และถ้าฟังเพลงหรือพ็อดคาสท์อยู่แล้วนึกอยากกดเล่นหรือกดข้ามก็แค่แตะเพียงสองครั้ง

AirPods ให้คุณฟังได้นานถึง 5 ชั่วโมง1 และสนทนาได้สูงสุด 3 ชั่วโมงต่อการชาร์จเพียงครั้งเดียว2 อีกทั้งยังออกแบบมาให้พร้อมไปกับคุณได้ทุกที่ เพราะมีเคสชาร์จที่สามารถใช้ชาร์จได้หลายครั้ง เพื่อฟังได้นานกว่า 24 ชั่วโมง3 หรือถ้าต้องรีบใช้ก็ไม่มีปัญหา เพียงแค่ใส่ไว้ในเคส 15 นาที คุณก็ใช้ฟังได้นานถึง 3 ชั่วโมง4 หรือสนทนาได้สูงสุด 2 ชั่วโมง5

AirPods มาพร้อมกับขุมพลังจากชิพหูฟัง Apple H1 แบบใหม่หมด และมีเซ็นเซอร์ออปติคอลและอุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหวที่สามารถรับรู้ได้ทันทีเมื่ออยู่ในหูคุณ ดังนั้นไม่ว่าคุณจะใช้หูฟังทั้งสองข้างหรือเพียงข้างเดียว ชิพ H1 ก็จะส่งสัญญาณเสียงให้ออกมาที่หูฟัง พร้อมเปิดใช้งานไมโครโฟนโดยอัตโนมัติ และเมื่อคุณกำลังคุยโทรศัพท์หรือพูดกับ Siri อุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหวจากการพูดจะทำงานร่วมกับไมโครโฟนแบบบีมฟอร์มมิ่ง เพื่อกรองเสียงรบกวนภายนอกและให้ความสำคัญกับเสียงของคุณเป็นหลัก

ไฮไลท์

  • ออกแบบโดย Apple
  • เปิดอัตโนมัติ เชื่อมต่ออัตโนมัติ
  • ตั้งค่ากับอุปกรณ์ Apple ทั้งหมดของคุณได้ง่ายๆ6
  • เข้าใช้งาน Siri ได้รวดเร็วด้วยการพูดว่า “หวัดดี Siri” หรือการตั้งค่าแตะสองครั้ง
  • แตะสองครั้งเพื่อเล่นหรือข้ามไป
  • ชาร์จได้อย่างรวดเร็วในเคสชาร์จ
  • เคสสามารถชาร์จผ่านหัวต่อ Lightning
  • ให้เสียงเต็มอิ่มคุณภาพสูง ทั้งเสียงที่ได้ยินและเสียงพูด
  • สลับเปลี่ยนระหว่างอุปกรณ์ได้อย่างลื่นไหล

สิ่งที่มีมาให้ในกล่อง

  • AirPods
  • เคสชาร์จ Lightning
  • สาย Lightning เป็น USB-A

เซ็นเซอร์ของ AirPods (แต่ละข้าง)

  • ไมโครโฟนแบบบีมฟอร์มมิ่งคู่
  • เซ็นเซอร์แบบออปติคอลคู่
  • อุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหว
  • อุปกรณ์ตรวจจับเสียงพูด

ชิพ

  • ชิพหูฟัง H1

การควบคุม

  • แตะสองครั้งเพื่อเล่น ข้ามไปข้างหน้า หรือรับสายโทรศัพท์
  • พูดว่า "หวัดดี Siri" เพื่อทำสิ่งต่างๆ อย่างเล่นเพลง โทรออก หรือเรียกดูเส้นทาง

ขนาดและน้ำหนัก

  • AirPods (แต่ละข้าง): 16.5 x 18.0 x 40.5 มม. (0.65 x 0.71 x 1.59 นิ้ว)7
  • เคสชาร์จ: 44.3 x 21.3 x 53.5 มม. (1.74 x 0.84 x 2.11 นิ้ว)7
  • AirPods (แต่ละข้าง): 4 กรัม7
  • เคสชาร์จ: 38.2 กรัม7

เคสชาร์จ

  • ใช้งานได้กับหัวต่อ Lightning

พลังงาน 

  • AirPods พร้อมเคสชาร์จ: ใช้ฟังได้นานกว่า 24 ชั่วโมง3 สนทนาได้นานสูงสุด 18 ชั่วโมง8
  • AirPods (ชาร์จหนึ่งครั้ง): ใช้ฟังได้นานสูงสุด 5 ชั่วโมง1 สนทนาได้นานสูงสุด 3 ชั่วโมง2
  • เพียงใส่ในเคส 15 นาที ก็ใช้ฟังได้นานสูงสุด 3 ชั่วโมง4 หรือสนทนาได้นานสูงสุด 2 ชั่วโมง5

การเชื่อมต่อ 

  • Bluetooth 5.0

การช่วยการเข้าถึง 

คุณสมบัติ "การช่วยการเข้าถึง" จะช่วยให้ผู้พิการสามารถใช้ประโยชน์จาก AirPods ใหม่ได้อย่างสูงสุด
คุณสมบัติที่มีมาให้:

  • เสียงการฟังสด9
  • ระดับของหูฟัง
  • การช่วยปรับหูฟัง

ความต้องการระบบ

  • iPhone และ iPod touch ที่ใช้ iOS เวอร์ชั่นล่าสุด10
  • iPad ที่ใช้ iPadOS เวอร์ชั่นล่าสุด10
  • Apple Watch ที่ใช้ watchOS เวอร์ชั่นล่าสุด10
  • Mac ที่ใช้ macOS เวอร์ชั่นล่าสุด10
  • Apple TV ที่ใช้ tvOS เวอร์ชั่นล่าสุด10

การทำงานร่วมกัน

รุ่นของ iPhone

  • iPhone 14 Pro
  • iPhone 14 Pro Max
  • iPhone 14
  • iPhone 14 Plus
  • iPhone 13 Pro
  • iPhone 13 Pro Max
  • iPhone 13 mini
  • iPhone 13
  • iPhone SE (รุ่นที่ 3)
  • iPhone 12 Pro
  • iPhone 12 Pro Max
  • iPhone 12 mini
  • iPhone 12
  • iPhone 11 Pro
  • iPhone 11 Pro Max
  • iPhone 11
  • iPhone SE (รุ่นที่ 2)
  • iPhone XS
  • iPhone XS Max
  • iPhone XR
  • iPhone X
  • iPhone 8
  • iPhone 8 Plus
  • iPhone 7
  • iPhone 7 Plus
  • iPhone 6s
  • iPhone 6s Plus
  • iPhone SE (รุ่นที่ 1)

รุ่นของ iPad

  • iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 5)
  • iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 4)
  • iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 3)
  • iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 2)
  • iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 1)
  • iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว (รุ่นที่ 3)
  • iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว (รุ่นที่ 2)
  • iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว (รุ่นที่ 1)
  • iPad Pro รุ่น 10.5 นิ้ว
  • iPad Pro รุ่น 9.7 นิ้ว
  • iPad Air (รุ่นที่ 5)
  • iPad Air (รุ่นที่ 4)
  • iPad Air (รุ่นที่ 3)
  • iPad Air 2
  • iPad (รุ่นที่ 9)
  • iPad (รุ่นที่ 8)
  • iPad (รุ่นที่ 7)
  • iPad (รุ่นที่ 6)
  • iPad (รุ่นที่ 5)
  • iPad mini (รุ่นที่ 6)
  • iPad mini (รุ่นที่ 5)
  • iPad mini 4

รุ่นของ Mac

  • MacBook Air (ชิป M2, ปี 2022)
  • MacBook Air (M1, ปี 2020)
  • MacBook Air (จอภาพ Retina, รุ่น 13 นิ้ว, ปี 2020)
  • MacBook Air (จอภาพ Retina, รุ่น 13 นิ้ว, ปี 2018 - 2019)
  • MacBook Air (รุ่น 13 นิ้ว ต้นปี 2015 - 2017)
  • MacBook Air (รุ่น 11 นิ้ว ต้นปี 2015)
  • MacBook Pro (รุ่น 13 นิ้ว, ชิป M2, ปี 2022)
  • MacBook Pro (รุ่น 13 นิ้ว, M1, ปี 2020)
  • MacBook Pro (รุ่น 13 นิ้ว, ปี 2020)
  • MacBook Pro (รุ่น 13 นิ้ว, ปี 2016 - ปี 2019)
  • MacBook Pro (Retina, รุ่น 13 นิ้ว ปลายปี 2012 - 2015)
  • MacBook Pro (รุ่น 14 นิ้ว, ปี 2021)
  • MacBook Pro (รุ่น 16 นิ้ว, ปี 2021)
  • MacBook Pro (รุ่น 16 นิ้ว ปี 2019)
  • MacBook Pro (รุ่น 15 นิ้ว ปี 2016 - 2019)
  • MacBook Pro (Retina, รุ่น 15 นิ้ว กลางปี 2012 - 2015)
  • MacBook (Retina, รุ่น 12 นิ้ว ต้นปี 2015 - 2017)
  • iMac (รุ่น 24 นิ้ว, ชิป M1, ปี 2021)
  • iMac (Retina 4K, รุ่น 21.5 นิ้ว, ปี 2019)
  • iMac (Retina 4K, รุ่น 21.5 นิ้ว ปี 2017)
  • iMac (Retina 4K, รุ่น 21.5 นิ้ว ปลายปี 2015)
  • iMac (จอภาพ Retina 5K, รุ่น 27 นิ้ว, ปี 2019 - 2020)
  • iMac (Retina 5K, รุ่น 27 นิ้ว ปี 2017)
  • iMac (Retina 5K, รุ่น 27 นิ้ว ปลายปี 2014 - 2015)
  • iMac Pro (ปี 2017)
  • Mac Studio (ปี 2022)
  • Mac mini (M1, ปี 2020)
  • Mac mini (ปี 2018)
  • Mac mini (ปลายปี 2014)
  • Mac Pro (2019)
  • Mac Pro (ปลายปี 2013)

รุ่นของ Apple Watch

  • Apple Watch Series 8
  • Apple Watch SE
  • Apple Watch Ultra
  • Apple Watch Series 7
  • Apple Watch Series 6
  • Apple Watch Series 5
  • Apple Watch Series 4
  • Apple Watch Series 3
  • Apple Watch Series 2
  • Apple Watch Series 1

Apple TV รุ่นต่างๆ

  • Apple TV 4K (รุ่นที่ 2)
  • Apple TV 4K (รุ่นที่ 1)
  • Apple TV HD

รุ่นของ iPod

  • iPod touch (รุ่นที่ 7)

  1. Apple ทำการทดสอบในเดือนกุมภาพันธ์ 2019 โดยใช้ AirPods (รุ่นที่ 2) เคสชาร์จ และเคสชาร์จแบบไร้สายรุ่นก่อนการผลิตจริงพร้อมซอฟต์แวร์ ซึ่งจับคู่กับ iPhone Xs Max และซอฟต์แวร์รุ่นก่อนเปิดให้ใช้งานจริง เพลย์ลิสต์ประกอบด้วยไฟล์เสียง 358 ไฟล์ที่ไม่ซ้ำกันที่ซื้อจาก iTunes Store (เข้ารหัส AAC 256 Kbps) โดยตั้งระดับเสียงที่ 50% ในการทดสอบมีการคายประจุแบตเตอรี่ของ AirPods จนหมดขณะเล่นเสียงจนกว่า AirPods ข้างใดข้างหนึ่งจะหยุดเล่น ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าอุปกรณ์ สภาพแวดล้อม การใช้งาน และปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย
  2. Apple ทำการทดสอบในเดือนกุมภาพันธ์ 2019 โดยใช้ AirPods (รุ่นที่ 2) เคสชาร์จ และเคสชาร์จแบบไร้สายรุ่นก่อนการผลิตจริงพร้อมซอฟต์แวร์ ซึ่งจับคู่กับ iPhone Xs Max และซอฟต์แวร์รุ่นก่อนเปิดให้ใช้งานจริง โดยตั้งระดับเสียงที่ 50% ในการทดสอบมีการคายประจุแบตเตอรี่ของ AirPods จนหมดโดยทำการโทรออกด้วยโทรศัพท์มือถือจนกว่า AirPods ข้างใดข้างหนึ่งจะหยุดเล่นเสียงการโทร ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าอุปกรณ์ สภาพแวดล้อม การใช้งาน และปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย
  3. Apple ทำการทดสอบในเดือนกุมภาพันธ์ 2019 โดยใช้ AirPods (รุ่นที่ 2) เคสชาร์จ และเคสชาร์จแบบไร้สายรุ่นก่อนการผลิตจริงพร้อมซอฟต์แวร์ ซึ่งจับคู่กับ iPhone Xs Max และซอฟต์แวร์รุ่นก่อนเปิดให้ใช้งานจริง เพลย์ลิสต์ประกอบด้วยไฟล์เสียง 358 ไฟล์ที่ไม่ซ้ำกันที่ซื้อจาก iTunes Store (เข้ารหัส AAC 256 Kbps) โดยตั้งระดับเสียงที่ 50% ในการทดสอบมีการคายประจุแบตเตอรี่ของ AirPods จนหมดขณะเล่นเสียงจนกว่า AirPods ข้างใดข้างหนึ่งจะหยุดเล่น จากนั้นชาร์จ AirPods ที่แบตเตอรี่หมดให้เต็ม 100% แล้วเล่นเสียงต่อจนกว่า AirPods ข้างใดข้างหนึ่งจะหยุดเล่น และทำเช่นนี้วนไปเรื่อยๆ จนกว่า AirPods ทั้งสองข้างและเคสชาร์จจะคายประจุจนหมด ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าอุปกรณ์ สภาพแวดล้อม การใช้งาน และปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย
  4. Apple ทำการทดสอบในเดือนกุมภาพันธ์ 2019 โดยใช้ AirPods (รุ่นที่ 2) เคสชาร์จ และเคสชาร์จแบบไร้สายรุ่นก่อนการผลิตจริงพร้อมซอฟต์แวร์ ซึ่งจับคู่กับ iPhone Xs Max และซอฟต์แวร์รุ่นก่อนเปิดให้ใช้งานจริง เพลย์ลิสต์ประกอบด้วยไฟล์เสียง 358 ไฟล์ที่ไม่ซ้ำกันที่ซื้อจาก iTunes Store (เข้ารหัส AAC 256 Kbps) โดยตั้งระดับเสียงที่ 50% และการทดสอบการชาร์จ 15 นาทีเป็นการทดสอบกับ AirPods ที่แบตเตอรี่หมดและนำมาชาร์จเป็นเวลา 15 นาที จากนั้นเริ่มเล่นเสียงจนกว่า AirPods ข้างใดข้างหนึ่งจะหยุดเล่น ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าอุปกรณ์ สภาพแวดล้อม การใช้งาน และปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย
  5. Apple ทำการทดสอบในเดือนกุมภาพันธ์ 2019 โดยใช้ AirPods (รุ่นที่ 2) เคสชาร์จ และเคสชาร์จแบบไร้สายรุ่นก่อนการผลิตจริงพร้อมซอฟต์แวร์ ซึ่งจับคู่กับ iPhone Xs Max และซอฟต์แวร์รุ่นก่อนเปิดให้ใช้งานจริง โดยตั้งระดับเสียงที่ 50% และการทดสอบการชาร์จ 15 นาทีเป็นการทดสอบกับ AirPods ที่แบตเตอรี่หมดและนำมาชาร์จเป็นเวลา 15 นาที จากนั้นจึงทำการโทรออกด้วยโทรศัพท์มือถือจนกว่า AirPods ข้างใดข้างหนึ่งจะหยุดเล่นเสียงการโทร ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าอุปกรณ์ สภาพแวดล้อม การใช้งาน และปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย
  6. ต้องมีบัญชี iCloud และ macOS 10.14.4, iOS 12.2 หรือ watchOS 5.2
  7. ขนาดและน้ำหนักอาจแตกต่างกันตามการปรับแต่งและกระบวนการผลิต
  8. Apple ทำการทดสอบในเดือนกุมภาพันธ์ 2019 โดยใช้ AirPods (รุ่นที่ 2) เคสชาร์จ และเคสชาร์จแบบไร้สายรุ่นก่อนการผลิตจริงพร้อมซอฟต์แวร์ ซึ่งจับคู่กับ iPhone Xs Max และซอฟต์แวร์รุ่นก่อนเปิดให้ใช้งานจริง โดยตั้งระดับเสียงที่ 50% ในการทดสอบมีการคายประจุแบตเตอรี่ของ AirPods จนหมดโดยทำการโทรออกด้วยโทรศัพท์มือถือจนกว่า AirPods ข้างใดข้างหนึ่งจะหยุดเล่นเสียงการโทร จากนั้นชาร์จ AirPods ที่แบตเตอรี่หมดให้เต็ม 100% แล้วโทรออกด้วยโทรศัพท์มือถือต่อจนกว่า AirPods ข้างใดข้างหนึ่งจะหยุดเล่นเสียงการโทร และทำเช่นนี้วนไปเรื่อยๆ จนกว่า AirPods ทั้งสองข้างและเคสชาร์จจะคายประจุจนหมด ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าอุปกรณ์ สภาพแวดล้อม การใช้งาน และปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย
  9. ต้องมี iOS เวอร์ชั่นล่าสุด
  10. สามารถใช้ AirPods เป็นหูฟัง Bluetooth กับอุปกรณ์ Apple ที่ใช้ซอฟต์แวร์รุ่นก่อน รวมทั้งกับอุปกรณ์ที่ไม่ใช่ของ Apple แต่อาจไม่สามารถใช้งานได้ทุกฟังก์ชั่น

คุณสมบัติบางประเภทจำเป็นต้องใช้ iOS 13 หรือ iPadOS ซึ่งไม่สามารถใช้งานร่วมกับ iPhone 6 Plus, iPhone 6, iPhone 5s, iPod touch (รุ่นที่ 6), iPad Air (รุ่นที่ 1), iPad mini 3 และ iPad mini 2

วันที่เผยแพร่: 16 ก.ย. 2565