แนวข้อสอบ พร บ คุ้มครองเด็ก

1.พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 มีผลบังคับใช้ในวันใด

ก. พ้นกำหนดหกสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา

ข. พ้นกำหนดเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา

ค. พ้นกำหนดหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา

ง. พ้นกำหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา

2.บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์ตาม พรบ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 หมายถึงข้อใด

ก. เด็ก

ข. เยาวชน

ค. นักเรียน

ง. นักศึกษา

3. ข้อใดเป็นคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ

ก.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

ข. กระทรวงมหาดไทย

ค.กระทรวงยุติธรรม

ง.ถูกทุกข้อ

4. หน่วยงานใดมีหน้าที่พัฒนาระบบ รูปแบบ และวิธีการ ตลอดจนให้บริการด้านสงเคราะห์ คุ้มครองสวัสดิภาพและส่งเสริมความประพฤติเด็ก

ก.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

ข.กระทรวงยุติธรรม

ค. กระทรวงมหาดไทย

ง.กระทรวงศึกษาธิการ

5. ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช้อำนาจหน้าที่ของสำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่ ทำหน้าที่เป็นสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการ

ก. ปฏิบัติงานธุรการทั่วไปของคณะกรรมการ

ข. ควบคุมงบประมาณทั้งหน่วยงานในภาครัฐและเอกชน

ค. ประสานงานและร่วมมือกับส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐและเอกชน

ง. รวบรวมผลการวิเคราะห์ วิจัย ดำเนินการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติ

6. ข้อใดไม่ใช่เป็นการพ้นตำแหน่งของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ที่นอกเหนือจากการพ้นตำแหน่งตามวาระ

ก. ตาย

ข. ลาออก

ค. ล้มละลาย

ง. ไม่สบาย

7.ตามมาตราที่ 13 การประชุมคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุมอย่างน้อยกี่คน                                

ก. อย่างน้อย 10 คน

ข. ตั้งแต่ 2คนขึ้นไป

ค. ไม่ต่ำกว่ากึ่งหนึ่ง

ง. ถูกทั้ง ก และ ข

8. ในกรณีที่การประชุมมีคะแนนเสียงเท่ากันต้องทำอย่างไร

ก. รอผู้ที่ขาดประชุมมาลงคะแนน

ข. ประธานในที่ประชุมออกเสียง

ค. ทำการลงคะแนนเสียงใหม่

ง. จับฉลาก

9. บุคคลใดไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการคุ้มครองเด็กกรุงเทพมหานคร

ก. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

ข. ผู้แทนกองบัญชาการตำรวจนครบาล

ค. ผู้อำนวยการสำนักสวัสดิการสังคม

ง. ผู้แทนสำนักการศึกษา

10. บุคคลใดไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการคุ้มครองเด็กจังหวัด

ก. ผู้ว่าราชการจังหวัด

ข. ผู้แทนเขตพื้นที่การศึกษา

ค. ผู้แทนศาลจังหวัด

ง. ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด

11. ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่อำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการคุ้มครองเด็กกรุงเทพมหานครและคณะกรรมการ คุ้มครองเด็กจังหวัด

ก. เสนอความเห็นต่อคณะกรรมการเกี่ยวกับนโยบาย แผนงาน งบประมาณ และมาตรการในการ

สงเคราะห์คุ้มครองสวัสดิภาพ

ข. ให้คําปรึกษา แนะนํา และประสานงานแก่หน่วยงานของรัฐและเอกชนที่ ปฏิบัติงานด้านการศึกษา การสงเคราะห์คุ้มครองสวัสดิภาพ และส่งเสริมความประพฤติเด็ก

ค. กําหนดแนวทางการสงเคราะห์คุ้มครองสวัสดิภาพ และส่งเสริมความ ประพฤติเด็กในเขตกรุงเทพมหานครหรือเขตจังหวัด

ง. ตรวจสอบหรือเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงกรณีมีการปฏิบัติต่อเด็กโดยมิชอบแต่ไม่มีผลบังคับใช้กับกฎหมาย  

12. หน้าที่คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กที่อยู่ในเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบ ไม่ว่าเด็กจะมีผู้ปกครองหรือไม่ก็ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก ๒๕๔๖ ไม่ใช่หน้าที่ของบุคคลใด

ก. ปลัดกระทรวง

ข. ผู้ว่าราชการจังหวัด

ค. นายอําเภอ

ง.ผู้ปกครอง

13. ผู้ปกครองต้องไม่กระทำการดังต่อไปนี้ ยกเว้นข้อใด

ก. ทอดทิ้งเด็กไว้ในสถานรับเลี้ยงเด็กหรือสถานพยาบาทหรือไว้กับบุคคลที่รับจ้างเลี้ยงเด็กหรือที่สาธารณะหรือสถานที่ใดๆ โดยเจตนาที่จะไม่รับเด็กกลับคืน

ข. จงใจหรือละเลยไม่ให้สิ่งที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตหรือสุขภาพอนามัยจนน่าจะเกิดอันตรายแก่ร่างการหรือจิตใจของเด็ก

ค. ปฏิบัติต่อเด็กในลักษณะที่เป็นการเลี้ยงดูโดยมิชอบ

ง. ถูกทุกข้อ

14. ในกรณีผู้ปกครองตกอยู่ในสภาพไม่อาจให้การอุปการะเลี้ยงดูอบรมสั่งสอน และพัฒนาเด็กได้ไม่ว่าด้วยเหตุใด หรือผู้ปกครองกระทำการใดอันน่าจะเกิดอันตรายต่อสวัสดิภาพหรือขัดขวางต่อความเจริญเติบโตหรือพัฒนาการของเด็กหรือให้การเลี้ยงดูโดยมิชอบหรือมีเหตุจําเป็นอื่นใดเพื่อประโยชน์ในการสงเคราะห์หรือคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก หรือป้องกันมิให้เด็กได้รับอันตรายหรือถูกเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องดําเนินการอย่างไร

ก. ให้การสงเคราะห์และทุนการศึกษาตามพระราชบัญญัติ

ข. คุ้มครองสวัสดิและทุนการศึกษาตามพระราชบัญญัติ

ค. ให้การสงเคราะห์หรือคุ้มครองสวัสดิภาพตามพระราชบัญญัติ

ง. ให้การสงเคราะห์หรือคุ้มครองสวัสดิภาพและทุนการศึกษาตามพระราชบัญญัติ

15. พนักงานหรือเจ้าหน้าที่จะนำตัวเด็กไปซักถามข้อมูลต่างๆ ได้ไม่เกินกี่ชั่วโมง

ก. ไม่เกิน 8 ชั่วโมง

ข. ไม่เกิน 12 ชั่วโมง

ค. ไม่เกิน 16 ชั่วโมง

ง. ไม่เกิน 20 ชั่วโมง

16. ผู้ใดต่อไปนี้พึงได้รับการสงค์เคราะห์

ก. เจมส์อยู่อาศัยกับพ่อแม่ในบ้านหลังใหญ่สะดวกสบาย

ข. จอห์นอาศัยอยู่กับยายตาบอดใต้สะพานลอย

ค. โจมมีคนรับ-ส่งไปโรงเรียนทุกวัน

จอมทานอาหารเย็นที่ภัตาคารหรูทุกอาทิตย์

17. ผู้ใดพบเห็นเด็กตกอยู่ในสภาพจำต้องได้รับการสงเคราะห์หรือคุ้มครองสวัสดิภาพ ข้อใดถูกต้องที่สุด

ก. จะต้องให้การช่วยเหลือเบื้องต้น

ข. แจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่ พนักงานฝ่ายปกครอง โดยมิชักช้า

ค. แจ้งผู้มีหน้าที่คุ้มครองเด็ก

ง. แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยมิชักช้า

18.ในระหว่างที่เด็กได้รับการสงเคราะห์ หากปรากฏว่าเป็นเด็กที่เสี่ยงต่อการกระทำผิดและพึงได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพ ผู้ใดมีอำนาจสั่งให้ใช้มาตรการคุ้มครองสวัสดิภาพแก่เด็ก                                     

ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

ค. ปลัดกระทรวงหรือผู้ว่าราชการจังหวัด

ง. นายอำเภอท้องที่นั้น ๆ

19. เมื่อสถานแรกรับ สถานสงเคราะห์ หรือสถานพัฒนาและฟื้นฟูได้รับตัวเด็กไว้ ให้ผู้ปกครองสวัสดิภาพรีบสืบเสาะและพินิจเกี่ยวกับตัวเด็กและครอบครัว และเสนอความเห็นเกี่ยวกับวิธีการสงเคราะห์หรือคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กแต่ละคนพร้อมด้วยประวัติไปยังผู้ใด

ก. ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของชาติ

ข. ผู้ว่าราชการจังหวัด

ค. กระทรวงยุติธรรม

ง. ข้อ ก และ ข ถูก

20. ข้อใด ไม่ใช่ เด็กที่พึงได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพ

ก. น้อยถูกทารุณกรรมจากพ่อเลี้ยง

ข. ยายนวลเลี้ยงดูนิดโดยมิชอบ

ค. โนมีพฤติกรรมเลี่ยงจะติดยา

ง. นาเร่ร่อนอยู่ใต้สะพานลอย

21. การส่งเด็กไปสถานแรกรับ สถานพัฒนาและฟื้นฟู หรือสถานที่อื่นใดระหว่างการสืบเสาะและพินิจเพื่อหา วิธีการคุ้มครองสวัสดิภาพที่เหมาะสมให้กระทำได้ตามข้อใด

ก.  ไม่เกิน 7 วัน  ขยายได้อีกไม่เกิน 30 วัน

ข.  ไม่เกิน 10 วัน ขยายได้อีกไม่เกิน 30 วัน

ค.  ไม่เกิน 20 วัน ขยายได้อีกไม่เกิน 30 วัน

ง.  ตามที่พนักงานเจ้าหน้าที่พิจารณาเห็นสมควร

22 . ผู้ที่ฝ่าฝืนข้อกำหนดของศาลในการเข้าใกล้ตัวเด็กตามมาตรา 43 มีโทษอย่างไร                                                    

ก.  จำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ข.  จำคุกไม่เกินสองเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ค.  จำคุกไม่เกินสองเดือน หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ง.  จำคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

23. ในกรณีที่ปลัดกระทรวงหรือผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งให้ส่งเด็กเข้ารับการคุ้มครองสวัสดิภาพหรือในกรณีพนักงานเจ้าหน้าที่ออก ข้อกำหนดให้เด็กทำงานบริการสังคมหรือทำงานสาธารณประโยชน์ หากผู้ปกครองไม่เห็นด้วยให้มีสิทธินำคดีไปสู่ศาลตาม ภายในกี่วันนับแต่วันรับทราบคำสั่ง                                                        

ก. 30 วัน

ข. 60 วัน

ค. 90 วัน

 ง. 120 วัน

24. การแต่งตั้งผู้คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กให้มีระยะเวลาคราวละไม่เกินกี่ปี

ก. 1 ปี

ข. 2 ปี

ค. 3 ปี

ง. 4 ปี

25. หากจะจัดตั้งสถานรับเลี้ยงเด็ก สถานแรกรับ สถานสงเคราะห์ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ และสถานพัฒนาและฟื้นฟูต้องขอรับใบอนุญาตจากผู้ใด

ก. ปลัดกระทรวง

ข. ผู้ว่าราชการจังหวัด

ค. นายกรัฐมนตรี

ง. ข้อ ก. และ ข้อ ข. ถูก

26. บุคคลใดมีหน้าที่กำกับดูแลและส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินงานของสถานรับเลี้ยงเด็ก สถานแรกรับ สถานสงเคราะห์ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ และสถานพัฒนาและฟื้นฟูที่อยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ

ก. ปลัดกระทรวง

ข. ผู้ว่าราชการจังหวัด

ค. คณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัด

ง. ถูกทุกข้อที่กล่าวมา

27. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546

ก. “สถานพัฒนาและฟื้นฟู” หมายความว่า สถานที่ โรงเรียน สถาบัน หรือศูนย์ที่จัดขึ้นเพื่อให้การบำบัดรักษา การฟื้นฟูสมรรถภาพทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ

ข. “สถานพินิจ” หมายความว่า สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานคร สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัด และสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนของแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวในศาลจังหวัด

ค. “สถานสงเคราะห์” หมายความว่า สถานที่ให้การอุปการะเลี้ยงดูและพัฒนาเด็กที่จำต้องได้รับการสงเคราะห์ ซึ่งมีจำนวนตั้งแต่สิบคนขึ้นไป

ง. “สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ” หมายความว่า สถานที่ให้การศึกษา อบรม ฝึกอาชีพ เพื่อแก้ไขความประพฤติ บำบัด รักษา และฟื้นฟูสมรรถภาพทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจแก่เด็กที่พึงได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพ

28. สถานที่รับเด็กไว้อุปการะชั่วคราว เพื่อสืบเสาะและพินิจเด็กและครอบครัว                                                              

ก. สถานแรกรับ

ข. สถานสงเคราะห์

ค. สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ

ง. สถานพัฒนาและฟื้นฟู

29. ผู้ปกครองสวัสดิภาพองสถานคุ้มครองมีอำนาจและหน้าที่ยกเว้นข้อใดตามมารตรา 59

ก.ปกครองดูแลและอุปการะเลี้ยงดูเด็กที่อยู่ในสถานคุ้มครองสวีสดิภาพ

ข.จัดทำรายงานและความเห็นเกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่ของเด็ก

ค.จัดการศึกษา อบรมและฝึกอาชีพแก่เด็กที่อยู่ในสถานคุ้มครองสวัสดิภาพ

ง.แก้ไขความประพฤติ บำบัดรักษา แนะนำและฟื้นฟูสมรรถภาพทั้งทางร่างกายจิตใจแก่เด็กที่อยู่ในสถานคุ้มครองสวัสดิภาพ

30 .ตามมาตราที่ 60 พรบ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ผู้ปกครองสวัสดิภาพองสถานคุ้มครองมีอำนาจและหน้าที่ยกเว้นข้อใด    

ก.รับเด็กที่จำต้องได้รับการบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพด้านร่างกายหรือจิตใจ

ข.ทำการสืบเสาะและพินิจเกี่ยวกับเด็กและครอบครัวเพื่อพัฒนาและฟื้นฟูเด็กแต่ละคน

ค.จัดการศึกษา ฝึกอบรม สั่งสอน บำบัดรักษา แนะแนวและฟื้นฟูสภาพร่างและจิตใจ

ง.ให้เงินเพื่อการศึกษา อบรมและฝึกอาชีพแก่เด็กที่อยู่ในสถานคุ้มครอง

31. ข้อใดไม่ใช่สาเหตุที่โรงเรียนและสถานศึกษามีการจัดระบบงานและกิจกรรมในการแนะแนวให้คำปรึกษาและการฝึกอบรมแก่นักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง

ก. เพื่อส่งเสริมความประพฤติที่เหมาะสม

ข. เพื่อความรับผิดชอบต่อสังคม

ค. เพื่อความปลอดภัยแก่นักเรียนและนักศึกษา

ง. เพื่อส่งเสริมความรู้

32 . ข้อใดไม่เกี่ยวกับระเบียบที่นักเรียนและนักศึกษาต้องประพฤติตนตาม

ก. ระเบียบของโรงเรียน

ข. ระเบียบของสถานศึกษา

ค. ระเบียบสถานคุ้มครองสวัสดิการ

ง. ระเบียบตามที่กำหนดในกระทรวง

33. หากนักเรียนและนักศึกษาไม่ประพฤติตาม ระเบียบของเรียนหรือสถานศึกษา ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนดและมีอำนาจนำตัวไปมอบแก่ผู้ใด เพื่อดำเนินการถามและอบรมสั่งสอนหรือลงโทษตามระเบียบ

ก. ผู้อุปการะหรือผู้ดูแลของนักเรียนหรือนักศึกษานั้น

ข. ผู้สอนของนักเรียนหรือนักศึกษานั้น

ค. ผู้ปกครองของนักเรียนหรือนักศึกษานั้น

ง. ผู้บริหารโรงเรียนหรือสถานศึกษาของนักเรียนหรือนักศึกษานั้น

 34. ข้อใดมิใช่ อำนาจดำเนินการเพื่อส่งเสริมความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษาตามมาตรา 66

ก. สอบถามครูอาจารย์หรือหัวหน้าศาลศึกษา เกี่ยวกับความประพฤติการศึกษา นิสัย และสติปัญญาของนักเรียนหรือนักศึกษา

ข. เรียกให้ผู้ปกครองครูอาจารย์หรือหัวหน้าสถานศึกษาที่นักเรียนหรือนักศึกษานั้นกำลังศึกษาอยู่มารับตัวนักเรียนหรือนักศึกษาเพื่อว่ากล่าวอบรมสั่งสอนต่อไป

ค. เรียกผู้บริหารโรงเรียนหรือสถานศึกษาครู ผู้ปกครอง ตำรวจ ประชุมเพื่อว่ากล่าวอบรมสั่งสอนนักเรียนหรือนักศึกษา

ง. สอดส่องดูแลรวมทั้งรายงานต่อคณะกรรมการเกี่ยวกับพฤติกรรมของบุคคลหรือแหล่งที่จับกุมนักเรียนหรือนักศึกษาให้ ประพฤติในทางมิชอบ

35. ใครเป็นประธานกรรมการบริหารกองทุนคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546

ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

ข. ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

ง. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ

36. ตามบทบัญญัติมาตรา ๗๒ พรบ.คุมครองเด็ก พ.ศ. 2546 กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละกี่ปี

ก. 2 ปี

ข. 3 ปี

ค. 4 ปี

ง. 5 ปี

37. ในการดำเนินของกองทุนคุ้มครองเด็กจะต้องมีคณะกรรมการติดตามและประเมินผลตามมาตราที่ 75

ก. ห้าคน

ข. หกคน

ค. เจ็ดคน

ง. แปดคน

38. ข้อใดมิใช่อำนาจหน้าที่ คณะกรรมการติดตามและประเมินผลของกองทุนเด็ก

ก. ติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการดำเนินงานของกองทุน

ข. รายงานผลการปฏิบัติงานพร้อมทั้งข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการ

ค. เรียกเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับกองทุนจากบุคคลมาชี้แจงข้อเท็จจริง

ง. รายงานสถานะการเงินและการบริหารกองทุน

39. สํานักงานการตรวจเงินแผ่นดินเป็นผู้สอบบัญชีของกองทุนทุกรอบปีแล้วทำรายงานผลการสอบและรับรองบัญชีและการเงินของกองทุนเสนอต่อคณะกรรมการภายในกี่วัน นับแต่วันสิ้นปีบัญชีเพื่อคณะกรรมการเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ

ก.150 วัน

ข.160 วัน

ค.170 วัน

ง. 180 วัน

40. ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๒๖ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามเดือน หรือ ปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตรงตามมาตราใด

ก. มาตรา 76

ข. มาตรา 77

ค. มาตรา 78

ง. มาตรา 79

41. ตามมาตราที่ 83 ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ หรือกฎกระทรวง หรือระเบียบที่ออกตามความในพระราชบัญญัตินี้ ต้องระวางโทษจำคุกกี่เดือน

ก. จำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ข. จำคุกไม่เกินสองเดือนหรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ค. จำคุกไม่เกินสามเดือนหรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ง. จำคุกไม่เกินสี่เดือนหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

42. ตามมาตราที่ 85 ผู้ใดกระทำการเป็นการยุยง ส่งเสริม ช่วยเหลือ หรือสนับสนุนให้นักเรียนหรือนักศึกษา ฝื่นบทบัญญัติตามมาตราที่ 64 ต้องระวางโทษจำคุกกี่เดือน

ก. จำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ข. จำคุกไม่เกินสองเดือนหรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ค. จำคุกไม่เกินสามเดือนหรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ง. จำคุกไม่เกินสี่เดือนหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

43. ตามมาตรา 86 ข้อใดคือโทษที่ผู้พึ่งไม่อำนวยความสะดวกแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่สมควรได้รับ

ก. โทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับเงินไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ข. โทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับเงินไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ค. โทษจำคุกไม่เกิน 2 เดือน หรือปรับเงินไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ง. โทษจำคุกไม่เกิน 2 เดือน หรือปรับเงินไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

44. ตามมาตรา 89 กฎกระทรวง ข้อบังคับ ประกาศ หรือคำสั่งที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามความในคณะปฏิวัติจะไม่มีผลบังคับใช้เนื่องจากสาเหตุอะไร

ก. ผิดหลักศีลธรรม

ข. แย้งกับพระบรมราโชวาท

ค. ขัดกับพระราชบัญญัติ

ง. สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ