�ѭ������Ǵ����㹻Ѩ�غѹ Show 㹻Ѩ�غѹ����Ǵ��������繸����ҵ� ������㹻�������㹷�ͧ�����������١����������ҡ��鹠 㹢�����ǡѹ����Ǵ�����ҧ�Ѳ������ (������������ҧ���)� ��Ѻ������᷹�ҡ������ӴѺ� ��駹�����ͧ�ҡ㹻Ѩ�غѹ�ӹǹ��Ъҡ�����������������ҧ�Ǵ���Ǡ �ա�û�д�ɰ���оѲ������������ӹ�»���ª���������������ҡ��鹠 �Ũҡ��÷��������Ǵ�������¢ͺࢵ���ҧ��ҧ�ҡ��鹠 ����觼š�з��µç��͡�ô�ç������С���դس�Ҿ���Ե���բͧ������ ���ͻ�ͧ�ѹ�ѭ�Ҵѧ����Ƿء���֧��ͧ���˹ѡ�֧�ѭ�������ѹ� ���֡�Ҷ֧�ѡɳТͧ�ѭ����мš�з�����Դ��鹠
��ʹ����ǧ���Ƿҧ㹡�û�ͧ�ѹ������ѭ�� Ref : http://ebook.nfe.go.th/ebook/html/011/118.htm �13/02/2008 คำว่าสิ่งแวดล้อม ถ้าให้แต่ละคนนึก บางคนก็อาจจะนึกถึงสภาพสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกันออกไป เช่น บางคนอาจจะนึกถึงน้ำในแม่น้ำลำคลองที่เน่าเสีย น้ำขุ่นข้นด้วยโคลนตมและขยะมากมาย จะใช้อาบหรือใช้ดื่มกินเหมือนแต่ก่อนนั้นไม่ได้ บางคนอาจจะบอกว่า ปัจจุบันดินที่ใช้ปลูกพืชนั้นเสียเพาะปลูกพืชก็ไม่เจริญเติบโต บางคนอาจจะนึกถึงอากาศที่หายใจในชุมชนที่แออัด ไม่สดชื่นเหมือนในชนบทในที่ที่มีทุ่งนา ป่า
เขาโล่งกว้าง ที่มีผู้คนอยู่กันไม่มากนัก เพราะกลิ่นที่ไม่สดชื่นนั้น มีกลิ่นเหม็นของขยะที่มนุษย์นำมากองสุมกันไว้ และยังมีกลิ่นเหม็นจากควันรถยนต์และจักรยานยนต์ นอกจากนั้นก็มีเขม่าและควันไฟจากปล่องของโรงงานอุตสาหกรรมอีกมากมาย เหล่านี้เป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเรา มนุษย์เราช่วยกันสร้างมลพิษขึ้นมา จนกระทั่งทำลายสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติให้เสียไปใช่หรือไม่ ถ้าใช่ แล้วใครจะเป็นผู้แก้ไขสภาพแวดล้อมที่เสียไป ให้กลับคืนสู่สภาพที่ดีขึ้นได้ คำตอบที่ทำได้และทำง่ายที่สุดก็คือ
ทุกคนจะต้องช่วยกันแก้ไขเสียตั้งแต่วันนี้ จะทำให้ปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นพิษลดลงได้มากในวันข้างหน้า ถ้าทุกคนเห็นด้วย พร้อมและเต็มใจที่จะช่วยกันลดมลพิษในสิ่งแวดล้อม จงปฏิบัติดังต่อไปนี้ สิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเราที่มีปริมาณมากมายมหาศาลสุดที่จะนับได้ ได้แก่ ดิน น้ำ อากาศ พืช สัตว์ คน และสารต่าง ๆ ซึ่งมีมากมายหลายชนิดที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตประจำวันของมนุษย์ นอกจากนั้นยังมีสิ่งที่มนุษย์มองไม่เห็น แต่ก็สามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ ได้แก่ พลังงานต่าง
ๆ เช่น พลังงานความร้อน แสง เสียง และแม่เหล็กไฟฟ้า เป็นต้น สารมลพิษ หมายถึงสารต่าง ๆ ที่มีอยู่ในดิน ในน้ำ และในอากาศ มีปริมาณมากกว่าปกติ ทำให้เกิดผลกระทบต่อการดำรงชีพของมนุษย์ พืชและสัตว์ ถ้าแยกประเภทสารมลพิษออกตามสถานะจะมีอยู่ 3 กลุ่ม คือ สภาวะที่เป็นพิษและที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ 1. อากาศที่หายใจไม่บริสุทธิ์ มีเขม่า ควัน ปะปนมา ตลอดจนมีกลิ่นเหม็น และมีก๊าซที่ เป็นอันตรายต่อระบบหายใจของมนุษย์ การเกิดมลพิษในสิ่งแวดล้อม 1. มลพิษที่เป็นก๊าซ ของเหลว และของแข็ง จะเกิดขึ้นจากธรรมชาติ จากการเผาไหม้ ของเชื้อเพลิง จากการตัดไม้ทำลายป่า และจากการปนเปื้อนแทรกซึมของสารสังเคราะห์บางชนิดที่มนุษย์เราผลิตใช้กันมากขึ้น การควบคุมและการป้องกันแก้ไขปัญหามลพิษ
ดวงอาทิตย์ศูนย์กลางของระบบสุริยจักรวาลเป็นต้นกำเนิดของพลังงานอันมหาศาล ได้ส่งรังสีแม่เหล็กไฟฟ้ามายังโลกของเรา แต่เนื่องจากมีบรรยากาศห่อหุ้มโลกอยู่หลายชั้น และมีองค์ประกอบต่าง ๆ โดยเฉพาะกลุ่มเมฆและไอน้ำ รังสีดวงอาทิตย์ (solar radiation) ประมาณครึ่งหนึ่งเท่านั้นที่จะผ่านบรรยากาศลงมาถึงพื้นผิวโลกได้ รังสีแม่เหล็กไฟฟ้าจากดวงอาทิตย์ ประกอบด้วยรังสีที่อยู่ในช่วงคลื่นสั้นร้อยละ 95-99 ซึ่งได้แก่ รังสีคอสมิก รังสีแกมมา และรังสีเอกซ์ ส่วนรังสีคลื่นยาวได้แก่ คลื่นวิทยุ รังสีที่อยู่ในช่วงคลื่นสั้นเป็นรังสีที่มองเห็นได้ (visible rays) ร้อยละ 45 รังสีอินฟราเรด (infrared) ร้อยละ 46 และรังสีอัลตราไวโอเลต (ultraviolet) ร้อยละ 9 การที่บรรยากาศห่อหุ้มโลกอยู่หลายชั้นนั้น มีประโยชน์ต่อการดำรงชีพของสิ่งที่มีชีวิตเป็นอันมาก เช่น บรรยากาศชั้นบน ช่วยกรองรังสีหลายอย่างที่เป็นอันตราย เช่น รังสีเอกซ์ และรังสีอัลตราไวโอเลต ส่วนบรรยากาศชั้นล่างจะดูดซึมรังสีอินฟราเรดซึ่งโลกสะท้อนกลับ นอกจากนั้นยังช่วยเก็บรักษาความร้อนที่ผิวโลกไว้ ไม่เช่นนั้นอากาศที่ผิวโลกจะเยือกเย็นถึง -40o ซ. โดยเฉลี่ยแทนที่จะเป็น 15o ซ. ดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เมื่อโลกได้รับรังสีจากดวงอาทิตย์ โลกจะแผ่รังสีสะท้อนกลับสู่บรรยากาศเรียกว่า รังสีโลก (terrestrial radiation) ความยาวคลื่นจะขึ้นอยู่กับอุณหภูมิ อุณหภูมิเฉลี่ยบนผิวโลก 150 ซ. รังสีจากโลกเป็นรังสีอินฟราเรดในช่วงคลื่นยาว ซึ่งแตกต่างจากรังสีอินฟราเรดจากดวงอาทิตย์ซึ่งเป็นช่วงคลื่นสั้น ตามปกติแล้ว ไอน้ำและคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศจะมีปริมาณพอเหมาะและสามารถดูดซึมพลังงานส่วนนี้ไว้ ทำให้โลกเก็บความร้อนไว้อยู่ในระดับที่เหมาะสมต่อการดำรงชีวิตของคน สัตว์ และพืช สารมลพิษและบทบาทต่อความร้อนของโลก สารมลพิษส่วนใหญ่เกิดขึ้นในบรรยากาศชั้นล่างคือ ชั้นโทรโพสเฟียร์ เช่น มีเทน
(CH4) ไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) คาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) คลอโรฟลูออโรคาร์บอน (chlorofluorocarbons) และโอโซน เป็นต้น เป็นที่น่าสังเกตว่าก๊าซโอโซนในบรรยากาศชั้นโทรโพสเฟียร์นี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและถือเป็นสารมลพิษ โดยทั่วไปไม่ควรนำไปปะปนกับก๊าซโอโซนในชั้นสตราโทสเฟียร์ เพราะบรรยากาศในสองชั้นนี้มักไม่ใคร่ผสมปนเปกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีชั้นโทรโพพอสคั่นอยู่ สารมลพิษอื่น ๆ
ก็เช่นกัน มักไม่ใคร่มีโอกาสขึ้นไปสูงถึงชั้นสตราโทสเฟียร์ ยกเว้นแต่เมื่อ การทำลายโอโซนในชั้นสตราโทสเฟียร์ โอโซนถูกทำลายได้ด้วยสารประกอบ 3 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ คลอรีน ออกไซด์ของไฮโดรเจน และออกไซด์ของไนโตรเจน มลพิษเก็บกักรังสีโลกหรือความร้อน โลกสะท้อนพลังงานที่ได้รับจากดวงอาทิตย์ออกสู่บรรยากาศในรูปของรังสีอินฟราเรด (คลื่นยาว) ตามปกติไอน้ำและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งมีอยู่ตามธรรมชาติ
โดยเฉพาะในชั้นบรรยากาศที่ห่อหุ้มโลกอยู่อย่างใกล้ชิด จะดูดซึมรังสีโลกไว้ ผลกระทบเมื่อก๊าซโอโซนในบรรยากาศชั้นสตราโทสเฟียร์ถูกทำลาย เมื่อก๊าซโอโซนในบรรยากาศชั้นสตราโทสเฟียร์ถูกทำลาย จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อเนื่อง 2
กรณี คือ จากกรณีทั้งสองดังกล่าว จะมีผลกระทบต่อภูมิอากาศได้หลายอย่าง เช่น ผลกระทบต่อโลกเมื่ออุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Environment Programme-UNEP) ได้รายงานเกี่ยวกับปริมาณของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศดังนี้
โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติได้วิเคราะห์และคาดว่าในปี ค.ศ. 2030 (พ.ศ. 2537) อุณหภูมิจะเพิ่มขึ้น 1.5-3o ซ. และจะมีผลกระทบอย่างกว้างขวางดังต่อไปนี้ 2. ทำให้ภูมิอากาศเกิดความปรวนแปร จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาพบว่า พายุไซโคลนซึ่งเคย เกิดขึ้น 3.1 ครั้ง ในคาบ 10 ปี คือ ตั้งแต่ ค.ศ. 1940 (พ.ศ. 2483) และได้เพิ่มเป็น 15 ครั้งในปี ค.ศ. 1980 (พ.ศ. 2523) ดังนั้นจึงเกรงว่าถ้าอุณหภูมิของโลกเพิ่มขึ้น จะทำให้ลมมรสุมในคาบสมุทร >เอเซียแปซิฟิกเพิ่มกำลังแรงมากขึ้น และจะพัดเลยขึ้นเหนือไป ทำให้ฝนไปตกในท้องถิ่นกันดาร และในทางตรงกันข้ามจะทำให้เกิดความแห้งแล้งในที่ที่มีฝนตกชุก ตลอดจนจะส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันขึ้นในบางแห่ง บางแห่งจะเกิดปัญหาน้ำเซาะดินพังทลายลง และตะกอนซึ่งมากับน้ำขุ่นตามทางน้ำ ก็จะทำให้แหล่งน้ำตื้นเขินด้วย 3. แหล่งน้ำใช้ในการชลประทานจะผันแปรไปด้วย จากการคาดคะเนหากว่าอุณหภูมิของ โลกเพิ่ม 1.5-4.50 ซ. ปริมาณน้ำฝนจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 7-15 ทั่วโลก แต่มิได้กระจายไปทุกแห่งอย่างทั่วถึง ในแหล่งที่มีน้ำมากและที่มีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้นนั้น พืชก็อาจจะเร่งการสังเคราะห์แสงขึ้น ดังนั้นจึงต้องใช้น้ำมากขึ้นเป็นเงาตามตัวและจำเป็นต้องมีการจัดสรรน้ำเพื่อการชลประทานเป็นพิเศษกว่าเดิมด้วย 4. ต้องพัฒนาและปรับปรุงการเกษตรกรรม ให้เหมาะสมกับกับการเปลี่ยนแปลงทาง สภาพภูมิอากาศ และน้ำที่ใช้ในการเพาะปลูก ซึ่งอาจจะต้องแสวงหาพืชพันธุ์ใหม่ที่เหมาะสมกับสภาพของสิ่งแวดล้อม มีการวางแผนการเพาะปลูกและการจำหน่ายที่มีคุณภาพ มิฉะนั้นแล้วจะส่งผลกระทบต่อสภาพสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองในสภาวะปัจจุบันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 5. แหล่งพลังงานได้รับผลกระทบ เนื่องจากการแปรปรวนของภูมิอากาศ เช่น การเกิดลม มรสุมต่าง ๆ อย่างรุนแรง เคยทำให้เรือขุดเจาะน้ำมันคว่ำ เกิดการเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนขัดขวางการแสวงหาแหล่งพลังงานใหม่ ๆ การผลิตไฟฟ้าด้วยพลังน้ำ พลังลม และพลังนิวเคลียร์ ก็อยู่ในข่ายที่จะได้รับผลกระทบจากความแปรปรวนทางภูมิอากาศด้วยเช่นกัน การควบคุมมลพิษที่ทำให้โลกร้อนขึ้น การควบคุมมลพิษที่ทำให้โลกร้อนขึ้น อาจทำได้ดังนี้ ปัญหาสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ พลังงานเป็นพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศ เพราะต้องใช้ในการผลิตสินค้าให้ได้มากเพื่อให้ต้นทุนต่ำและทำกำไรสูงสุด นอกจากการอุตสาหกรรมจำเป็นต้องใช้พลังงานเพื่อผลิตสินค้าแล้ว การเกษตรกรรมแผนใหม่ยังหันมาพึ่งพาเครื่องทุ่นแรง เช่น รถแทรกเตอร์ ใช้สารเคมีต่าง ๆ มากกว่าเดิม และเพิ่มเติมกรรมวิธีเก็บรักษาถนอมอาหาร ตลอดจนบรรจุหีบห่อเพื่อส่งไปขายในตลาดต่างประเทศ ดังเช่นในกรณีประเทศไทยส่งมะม่วงไปฮ่องกง เป็นต้น จึงเป็นอุตสาหกรรมเกษตรกลาย ๆ และอาศัยพลังงานมากยิ่งขึ้นไปอีก ดังนั้นจึงต้องเสาะแสวงหาเชื้อเพลิงเพื่อผลิตพลังงานให้เพียงพอ และการก่อปัญหาสิ่งแวดล้อมข้ามพรมแดนสืบเนื่องจาก ก. การขนส่งน้ำมันดิบ การขนส่งน้ำมันดิบ เมื่อเกิดอุบัติเหตุในระหว่างการขนส่งน้ำมันดิบ เชื้อเพลิงนับ ล้าน ๆ แกลลอนไหลทะลักลงสู่พื้นน้ำ ในปี พ.ศ. 2521 เรืออโมโคคาดิซ (Amoco Cadiz) ปล่อยน้ำมัน 68 ล้านแกลลอนลงแถบชายฝั่งทะเลของฝรั่งเศส อีก 11 ปีต่อมา เรือขนส่งน้ำมันดิบ เอกซอน วาลเดซ (Exxon Valdez) แล่นออกนอกเส้นทางเดินเรือจนเกยหินโสโครก ระบายน้ำมัน 11 ล้านแกลลอนลงอ่าวในมลรัฐอลาสก้า สหรัฐอเมริกา น้ำมันบางส่วนลอยแผ่กระจายปกคลุมผิวหน้า แต่บางส่วนละลายหรือจมลงสู่ท้องน้ำ ร้อยละ 25 ของปริมาณทั้งหมดระเหยเป็นไอ แสงแดดช่วยทำให้ร้อน น้ำมันจึงระเหยเร็วขึ้น และอาจเกิดปฏิกิริยาต่อเนื่องต่าง ๆ คลื่นลมจะพัดปั่นฝ้าน้ำมันให้เข้ากับน้ำจนฟูเป็นฟองฟอด ในชั้นนี้จะใช้แพลูกบวบหรือทุ่นกวาดรวบรวมหรือกระจายออกด้วยผงซักฟอกได้ยาก แต่เมื่อมีเศษเล็กเศษน้อยเข้าปะปนฟอง น้ำมันจะจมลงสู่พื้นแล้วคงตัวเช่นนั้นอยู่นานนับปี ส่วนที่เหลือจับเข้าเป็นก้อน (tar balls) ถ้าไม่จมลงกระแสลมจะพัดพาเข้าฝั่ง คาดว่าในรัฐอลาสก้า น้ำมันดิบจากเรือเอกซอน วาลเดซ ทำความเสียหายให้แก่ชายฝั่งทะเลยาว 1,200 ไมล์ นกตาย 100,000 ตัว รวมทั้งนกอินทรีที่หาได้ยาก 150 ตัว และนากทะเลไม่น้อยกว่า 1,000 ตัว ทำให้อุตสาหกรรมประมง โดยเฉพาะปลาแซลมอนตกอยู่ในภาวะล่อแหลม ในอ่าวเปอร์เซียนั้น น้ำมันดิบอาจมีผลต่อป่าชายเลนอย่างกว้างขวาง คือ ทำลายบึงหญ้าสำหรับนก ตลอดจนแหล่งเพาะเลี้ยงกุ้ง และแหล่งประมงของประเทศซาอุดิอาระเบีย มีรายงานว่านกทะเลรับพิษภัยและตายไปหลายพันตัว ความเสียหายเหล่านี้นับว่ารุนแรงมากกว่าสถานที่อื่นเพราะน้ำในอ่าวตื้นเพียง 110 ฟุต โดยเฉลี่ย และกระแสน้ำหมุนเวียนอยู่ในเวิ้งจำกัดนั้นถึง 200 ปี ประเทศต่าง ๆ ใช้น้ำทะเลหล่อเย็นและทำเป็นน้ำจืด คราบน้ำมันอาจทำให้เครื่องจักรและอุปกรณ์เหล่านี้เสียหายได้ การผลิตกระแสไฟฟ้า การผลิตกระแสไฟฟ้านั้นหลายประเทศพึ่งพาพลังงานปรมาณูเพื่อการพัฒนา เมื่อโรงผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์เชอร์โนบิลในสหภาพโซเซตเกิดระเบิดอย่างรุนแรงในเดือนเมษายน พ.ศ. 2529 นั้น ถือกันว่าเป็นอุบัติภัยร้ายแรงที่สุด แรงระเบิดและความร้อนขับมลพิษให้พวบพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าสูงถึงห้ากิโลเมตร สารมลพิษเหล่านี้ ได้แก่ ยูเรเนียมออกไซด์ ซีเซียม 137 และไอโอดีน 131 เป็นต้น อีกสิบวันต่อมากลุ่มเมฆหมอกเคลื่อนตัวขึ้นทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ แล้วย้อนลงทางทิศใต้และทิศตะวันออกโปรยสารกัมมันตรังสีลงประเทศสวีเดน เดนมาร์ก นอรเว ฟินแลนด์จนถึงกรีซ ถึงแม้มีผู้เสียชีวิตทันทีเพียง 31 ราย แต่ได้ประมาณการไว้ว่าภายในสามสิบปีข้างหน้าในรอบรัศมีชั้นใน 30 กิโลเมตร ประชาชนจำนวน 100-200 คน จะตายด้วยโรคมะเร็ง เลยอาณาบริเวณชั้นในนี้ออกไปเป็นภาคตะวันออกของรัสเซียและทวีปยุโรปอาจจะมีผู้ล้มป่วยจนถึงแก่ชีวิตอีก 5,000-75,000 ราย ทุ่งหญ้าสำหรับเลี้ยงปศุสัตว์ย่อมได้รับกัมมันตรังสี สารมลพิษผ่านนมวัวในรูปไอโอดีน 131 เข้าสู่เด็ก ภายในสองสามวันต่อมาจึงตรวจพบรังสีเกินขนาดในต่อมไทรอยด์ ดังนั้นร่างกายจึงควบคุมการเปลี่ยนอาหารเป็นพลังงาน (หรือระบบเมตาโบลิซึม) ไม่ได้ดีเท่าที่ควร ไขกระดูกเป็นส่วนสร้างเม็ดเลือด เมื่อรังสีเกมมาทำลายส่วนสำคัญนี้ระบบเลือดจึงปกติ โดยทั่วไปแล้วรังสีสามารถทำให้เกิดการกลายพันธุ์ ทำลายโครโมโซม ตลอดจนภูมิต้านทานโรค พืชผลและเรือกสวนไร่นาโดยรอบถูกทอดทิ้งเพราะมีรังสีปนเปื้อนเนื้อสัตว์ นม เนย และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ จากการเลี้ยงปศุสัตว์ก็เช่นกันในน้ำมีกัมมันตภาพรังสีเกินขนาด ไม่เว้นแม้แต่น้ำบาดาล ดินและอากาศไม่เอื้ออำนวยต่อสิ่งมีชีวิต พื้นที่นั้นจึงรกร้างตราบจนคนและธรรมชาติได้ร่วมกันฟื้นฟูบูรณะสภาพให้กลับดีได้อีกครั้งหนึ่งในอนาคต การทำสงคราม เมื่อกองทัพอิรักพยายามรุกรานและเผาทำลายบ่อน้ำมันทั่วประเทศคูเวตใน พ.ศ. 2534 ได้เกิดเปลวไฟลุกโชติช่วงเหนือปากบ่อ 600 บ่อ แพร่กระจายควันและก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ฯลฯ
ในควันดำมีเขน่าและสารประกอบอื่น ๆ ซึ่งอาจเป็นสารก่อมะเร็ง สารทำให้กลายพันธุ์หรือสารทำให้ตัวอ่อนในครรภ์เกิดผิดปกติ ชาวคูเวตและบาห์เรนจึงล้มป่วยเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะเด็ก คนชราและผู้ป่วย หรือผู้ที่มีอาการของโรคบางโรค เช่น โรคหัวใจ โรคภูมิแพ้ โรคหลอดเลือด โรคถุงลมโป่งพอง โรคเกี่ยวกับหลอดลมและระบบทางเดินหายใจอื่น ๆ เป็นต้น ลมได้พัดพาสารมลพิษไปถึงประเทศปากีสถาน คาดว่าอาจเกิดอาการผิดปกติในชนชาติตามทางผ่านเช่นกัน การควบคุมปัญหา 1. เตรียมมาตรการฉุกเฉินเพื่อควบคุมปัญหาได้ทันท่วงที หากปล่อยปละละเลยจะเกิด ความสูญเสียเพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัว ที่มา : รวบรวมจาก สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เล่มที่ 15 ลิงค์ที่มาข้อมูล : https://web.ku.ac.th/schoolnet/snet6/envi3/en-sakol/sakoln.htm ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สําคัญมีอะไรบ้างปัญหาสิ่งแวดล้อมที่มนุษย์กำลังประสบอยู่ในปัจจุบันที่สำคัญ ได้แก่ ปัญหาการลดลงของทรัพยากรธรรมชาติ ปัญหาสารพิษ และปัญหาของระบบนิเวศ ซึ่งปัญหาที่สำคัญเหล่านี้มาจากปัญหาย่อยๆหลายปัญหา เช่น มลพิษทางน้ำ มลพิษทางอากาศ มลพิษทางเสียง ขยะมูลฝอยและสิ่งปฏิกูล เป็นต้น ปัญหาเหล่านี้ถ้าไม่รีบป้องกันแก้ไข อาจส่งผลกระทบต่อวิวัฒนาการของ ...
สาเหตุใดสำคัญที่สุดที่ทำให้เกิดปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อม *สาเหตุของการเกิดมลพิษสิ่งแวดล้อม
มลพิษสิ่งแวดล้อม เป็นผลสืบเนื่องจากการเกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งเกิดจากสังคมมนุษย์ มีสาเหตุสำคัญ 2 ประการ คือ 1) การเพิ่มของประชากร (Population Growth) ปัจจุบันการเพิ่มขึ้นของประชากรมนุษย์ มีแนวโน้มมากขึ้นในอัตราทวีคูณ ทำให้ความต้องการบริโภคทรัพยากรมากขึ้นตาม เช่น อาหาร
ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากธรรมชาติ มีอะไรบ้าง1. ปัญหาการสูญเสียพื้นที่ป่าไม้ เนื่องจากการขยายพื้นที่เพาะปลูก พื้นที่อุตสาหกรรมและที่อยู่อาศัยของราษฎร ตลอดจนการลักลอบตัดไม้ของนายทุนและชาวบ้าน ทำให้พื้นที่ป่าไม้ลดลงส่งผลกระทบต่อปัญหาอื่น ๆ เช่น การพังทลายของดิน ปัญหาโคลนถล่ม หรือปัญหาน้ำป่าไหลหลาก ตลอดจนปัญหาดินขาดความอุดมสมบูรณ์ สภาพอากาศร้อนแห้งแล้ง เป็นต้น
ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการใช้ทรัพยากรมีอะไรบ้างปัญหาและผลกระทบจากการใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่เกิดขึ้นในสิ่งแวดล้อมด้านต่างๆ ได้แก่ การเกิดปัญหาและผลกระทบด้านดิน น้า อากาศ ป่าไม้ พืชพันธุ์และสัตว์ป่า แร่ธาตุ และพลังงาน ขยะมูล ฝอย รวมถึงมลพิษด้านต่างๆ เช่น มลพิษทางดิน มลพิษทางน้า มลพิษทางอากาศ มลพิษทางเสียง มลพิษ ทางกลิ่น มลพิษขยะมูลฝอย และสารพิษต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อ ...
|