หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข


 �����ŷ����㹡�û����ż����͡�� 2 ��Դ ���
      1) �����ŷ���繵���Ţ (Numeric Data)
���¶֧ �����ŷ����᷹�ӹǹ�������ö�� 令ӹdz�� ������Ẻ�����¹�������ٻẺ ���
          �. �Ţ�ӹǹ��� ���¶֧ ����Ţ�������ըش�ȹ��� �� 12, 9, 137 , 8319 , -46
          �. �Ţ�ȹ��� ���¶֧ ����Ţ����ըش�ȹ��� ����Ҩ�դ���繨ӹǹ��� �� 12 �����繨ӹǹ�������ɷȹ������� �� 12.763
      �Ţ�ȹ���Ẻ�������ö��¹�� 2 �ٻẺ���
          �. Ẻ�����ѹ����� �� 12., 9.0 ,17.63, 119.3267 , -17.34
          �. Ẻ�����ҹ�ҧ�Է����ʵ�� ��
                   123. x 104        ���¶֧ 1230000.0
                   13.76 x 10-3      ���¶֧ 0.01376
                   - 1764.0 x 102    ���¶֧ -176400.0
                   - 1764.10-2       ���¶֧ -17.64

      2) �����ŷ���繵���ѡ��� (Character Data) ���¶֧ �����ŷ�� �������ö�� 令ӹdz�� ���Ҩ������§�ӴѺ�� �� ������§�ӴѺ����ѡ�� �������Ҩ�繵��˹ѧ��� ����Ţ ��������ͧ����� � �� COMPUTER, ON-LINE, 1711101,&76

    �������ͧ������
��Ҩ�ṡ�������͡�繻����� �����͡�� 2 �������˭� � ���
     1. �����Ż������ (Primary Data)���¶֧ �����ŷ����ҡ����Ǻ��� ���ͺѹ�֡�ҡ���觢������µç ����Ҩ����ҡ����ͺ��� ��������ɳ� ������Ǩ ��С�è��ѹ�֡ ��ʹ����èѴ���Ҵ�������ͧ�ѡ��ѵ��ѵ� �� ����ͧ��ҹ������ ����ͧ��ҹᶺ�������
     2. �����ŷص������ (Secondary Data)���¶֧ �����ŷ���ռ������Ǻ������������� �ҧ�����Ҩ�ա�û����ż����������ʹ�� �� ʶԵԨӹǹ��Ъҡ����Шѧ��Ѵ ʶԵԡ�ù��Թ������ ��С�����Թ����͡ �繵�



หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
 
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
 

มีความรู้ความเข้าใจชนิดข้อมูล ตัวแปร ค่าคงที่ ตัวดำเนินการและนิพจน์

 
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
 
1. บอกชนิดของข้อมูลพื้นฐานของภาษาซีได้
2. บอกขั้นตอนการใช้ตัวแปรและประกาศตัวแปรได้
3. บอกวิธีการใช้ค่าคงตัวและค่าคงที่ได้
4. อธิบายการใช้ตัวดำเนินการและนิพจน์ในการเขียนโปรแกรมได้
5. บอกลำดับการคำนวณของตัวดำเนินการในนิพจน์ได้
 
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
 
 
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข

หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
ชนิดของข้อมูลพื้นฐาน (Basic Types) ในภาษาซี มีอยู่ 5 แบบ ดังนี้

หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
3.1.1 ข้อมูลแบบบูลีน (Boolean)

หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
เรียกว่าแบบ bool
หมายถึง ข้อมูลที่มีค่าเป็น 0 ถือว่าเป็นเท็จ (False) หรือมีค่าเป็น 1
ถือว่าเป็นจริง (True)

หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
3.1.2 ข้อมูลแบบตัวอักษร (Character)

หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
เรียกว่าแบบ char
หมายถึง ข้อมูลที่มีค่าเป็นตัวอักษรหนึ่งตัว อยู่ในเครื่องหมายสัญประกาศ (Apostrophe) เช่น 'A'

หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
3.1.3 ข้อมูลแบบตัวเลขจำนวนเต็ม (Integer)

หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
เรียกว่าแบบ int
หมายถึง ข้อมูลที่มีค่าเป็นตัวเลขจำนวนเต็ม แบ่งได้เป็น

แบบเก็บค่าได้ทั้งเป็นบวกและลบ
(Signed Integer Types)
แบบเก็บค่าได้เฉพาะบวก
(Unsigned Integer Types)
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
signed char
 
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
unsigned char
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
short int
หรือ signed short int
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
unsigned short int
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
int
หรือ signed int
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
unsigned int
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
long int
หรือ signed long int
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
unsigned long int
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
long long int
หรือ signed long long int
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
unsigned long long int

หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
3.1.4 ข้อมูลแบบเลขจำนวนจริง (Real Floating Types)

หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
เรียกว่าแบบ float หมายถึง ข้อมูลที่เป็นตัวเลขจำนวนจริง แบ่งได้เป็น

หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
- float หมายถึง ตัวเลขแบบ Single precision (ทศนิยมถูกต้อง 6 ตำแหน่ง)

หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
- double หมายถึง ตัวเลขแบบ Double precision (ค่าทศนิยมถูกต้อง 15 ตำแหน่ง)

หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
- long double
หมายถึง ตัวเลขที่มีค่าได้มากกว่าแบบ double และค่าทศนิยมถูกต้อง
18 ตำแหน่ง

หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
3.1.5 ข้อมูลแบบไม่มีค่า (Empty)

หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
เรียกว่าแบบ void
หมายถึง ข้อมูลที่ไม่ต้องการกำหนดค่า

 
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
ตารางแสดงค่าที่ใช้ได้ของข้อมูลแบบต่าง ๆ ตามมาตรฐาน C99
 
แบบข้อมูล ค่าข้อมูลต่ำสุด ค่าข้อมูลสูงสุด
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
bool
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
0
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
1
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
char
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
1 ตัวอักษร
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
1 ตัวอักษร
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
signed char
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
-127
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
127
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
unsigned char
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
0
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
255
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
short int
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
-32,767
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
32,767
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
int
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
-32,767
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
32,767
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
unsigned short int
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
0
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
65,535
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
unsigned int
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
0
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
65,535
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
long int
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
-2,147,483,647
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
2,147,483,647
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
unsigned long int
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
0
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
4,294,967,295
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
long long int
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
-9,223,372,036,854,775,807
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
9,223,372,036,854,775,807
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
unsigned long long int
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
0
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
18,446,744,073,709,551,615
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
float
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
1.175494E-38
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
3.402823E+38
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
double
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
2.225074E-308
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
1.797693E+308
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
long double
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
3.3621E-4932 (32 bits)
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
1.189731E+4932 (32 bits)
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หมายเหตุ :
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
-
ตัวแปลภาษาซี หลายตัวยังไม่รองรับมาตรฐาน C99 ค่าที่ใช้ได้อาจต่างไปจากตารางนี้
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
- เลขแบบวิทยาศาสตร์ (Scientific Notation) "E" หมายถึง คูณด้วย 10 ยกกำลัง
 
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
 
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
 

หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
ตัวแปร (Variable) หมายถึง ชื่อที่ผู้เขียนโปรแกรมตั้งขึ้นแทนตำแหน่งบนหน่วยความจำ สำหรับเก็บข้อมูลระหว่างการประมวลผล ซึ่งอาจเป็นข้อมูลนำเข้า ข้อมูลที่เกิดจากการดำเนินการ หรือข้อมูลผลลัพธ์

หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
การตั้งชื่อตัวแปร จะต้องเป็นไปตามหลักการตั้งชื่อของภาษาซี และชื่อที่เหมาะสม ควรเป็นชื่อที่สื่อความหมาย ซึ่งกฎในการตั้งชื่อ มีดังนี้

หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
1. ต้องประกอบขึ้นจากตัวอักษร ตัวเลข และเครื่องหมายขีดเส้นใต้ (underscore) เท่านั้น

หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
2. อักขระตัวแรกจะต้องเป็นตัวอักษร หรือเครื่องหมายขีดเส้นใต้ (underscore) เท่านั้น

หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
3. อักขระตัวพิมพ์ใหญ่และตัวพิมพ์เล็ก ถือเป็นตัวอักษรคนละตัวกัน เช่น A และ a เป็นชื่อที่แตกต่างกัน เป็นต้น

หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
4. ชื่อตัวแปรตามมาตฐาน ANSI C จะมีความยาวไม่จำกัด แต่คอมไพเลอร์ตามมาตรฐาน ANSI C
จะต้องสามารถจำแนกชื่อที่แตกต่างกันได้อย่างมาก 31 อักขระแรก

หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
5. ชื่อตัวแปรต้องไม่ซ้ำกับคำสงวน

 
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
คำสงวน (Reserved Words) หมายถึง คำที่สงวนไว้สำหรับเรียกใช้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้เฉพาะ เช่น คำที่ใช้ในคำสั่งควบคุมและชนิดของข้อมูล เป็นต้น คำสงวนในภาษา C มีดังนี้
 
auto double int struct
break else long switch
case enum register typedef
char extern return union
const float short unsigned
continue for signed void
default goto sizeof volatile
do if static while
 
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
 
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
 
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
ตัวแปร
ที่ใช้ในภาษาซี จะต้องมีการประกาศชนิดของตัวแปรให้สอดคล้องกับข้อมูลที่จะเก็บในตัวแปรนั้น และจะต้องประกาศชนิดของตัวแปรไว้ก่อน จึงจะเรียกใช้ตัวแปรนั้น ๆ ได้ ชนิดของตัวแปรมีดังนี้
 
ชื่อชนิดของตัวแปร ความหมายชนิดของตัวแปร
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
int
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
ใช้ประกาศตัวแปร ให้เก็บค่าที่เป็นเลขจำนวนเต็ม
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
float
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
ใช้ประกาศตัวแปร ให้เก็บค่าที่เป็นเลขจำนวนจริง
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
short
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
ใช้ประกาศตัวแปร ให้เก็บค่าที่เป็นเลขจำนวนเต็ม
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
ที่มีค่าน้อยกว่าค่าของตัวแปรที่ประกาศเป็นชนิด int
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
long
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
ใช้ประกาศตัวแปร ให้เก็บค่าที่เป็นเลขจำนวนเต็มหรือ
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
จำนวนจริง ที่มีจำนวนบิตมากเป็น 2 เท่า
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
double
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
ใช้ประกาศตัวแปร ให้เก็บค่าที่เป็นเลขจำนวนจริง
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
ที่มีจำนวนบิตมากเป็น 2 เท่าของ float
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
unsigned
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
ใช้ประกาศตัวแปร ให้เก็บค่าที่เป็นเลขจำนวนเต็มบวกเท่านั้น
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
char
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
ใช้ประกาศตัวแปร ให้เก็บค่าที่เป็นตัวอักขระ
 
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
ในภาษาซี สามารถประกาศตัวแปร ได้ตามรูปแบบคำสั่งดังนี้
 
 
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
 
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
 
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
ค่าคงตัว (literal constant) หมายถึง ข้อมูลที่ระบุเป็นอย่างใดอย่างหนึ่งในโปรแกรม และมีชนิดของข้อมูล ตามค่าของข้อมูลนั้น ๆ เช่น
   
10 เป็นค่าคงตัวชนิดจำนวนเต็ม
15.85 เป็นค่าคงตัวชนิดจำนวนจริง
10.00 เป็นค่าคงตัวชนิดจำนวนจริง
'A' เป็นค่าคงตัวชนิดอักขระ
"ABC" เป็นค่าคงตัวชนิดสายอักขระ
 
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
นอกจากการใช้ค่าคงตัวแล้ว ยังสามารถกำหนดชื่อตัวแปร เพื่อใช้แทนค่าคงตัวในโปรแกรมได้ด้วย
ซึ่งจะเรียกชื่อตัวแปรนี้ว่า ค่าคงที่ (constant) โดยใช้คำสั่งตัวประมวลผลก่อนซี #define
 
 
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
 
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
 
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
ตัวดำเนินการ ในโปรแกรมภาษาซี มีการใช้ตัวดำเนินการอยู่ 3 ชนิดใหญ่ ๆ ดังนี้
 
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
3.5.1 ตัวดำเนินการคำนวณ (Arithmetic Operators) คือ เครื่องหมายที่ใช้ในการคำนวณบวก
ลบ คูณ หาร ค่าต่าง ๆ เครื่องหมายที่ใช้มีดังนี้
 
ตัวดำเนินการ ความหมาย ตัวอย่าง
+
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
การบวก
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
A + B
-
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
การลบ
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
A - B
*
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
การคูณ
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
A * B
/
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
การหาร

หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
A / B

%
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
การหารเอาแต่เศษไว้ (Modulus)
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
7 % 5 = 1 เศษ 2
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
จะเก็บเฉพาะเศษ 2 เอาไว้
--
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
การลดค่าลง ครั้งละ 1 เสมอ
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
A-- จะมีความหมายเหมือนกับ
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
A = A - 1
++
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
การเพิ่มค่าขึ้น ครั้งละ 1 เสมอ
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
A++ จะมีความหมายเหมือนกับ
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
A = A + 1
 
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
3.5.2 ตัวดำเนินการเปรียบเทียบ (Relational and Logical Operators) หมายถึง เครื่องหมายที่ใช้ในการเปรียบเทียบและตัดสินใจ ซึ่งผลที่ได้จากการดำเนินการ จะได้ 2 กรณี คือ จริง จะให้ค่าเป็น 1 และ เท็จ จะให้ค่าเป็น 0 เครื่องหมายที่ใช้มีดังนี้
 
ตัวดำเนินการ ความหมาย ตัวอย่าง
>
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
มากกว่า
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
A > B (A มากกว่า B)
>=
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
มากกว่าหรือเท่ากับ
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
A >= B (A มากกว่าหรือเท่ากับ B)
<
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
น้อยกว่า
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
A < B (A น้อยกว่า B)
<=
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
น้อยกว่าหรือเท่ากับ

หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
A <= B (A น้อยกว่าหรือเท่ากับ B)

==
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
เท่ากับ
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
A == B (A เท่ากับ B)
!=
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
ไม่เท่ากับ
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
A != B (A ไม่เท่ากับ B)
 
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
3.5.3 ตัวดำเนินการตรรกะ (Logical Operators) หมายถึง ตัวดำเนินการที่ใช้ในการเปรียบเทียบและตัดสินใจ โดยนำเงื่อนไขตั้งแต่ 2 เงื่อนไข มาเปรียบเทียบกัน ผลที่ได้จากการดำเนินการ จะได้ผลเป็น 2 กรณี คือ จริง จะให้ค่าเป็น 1 และเท็จ จะให้ค่าเป็น 0 เช่นเดี่ยวกับตัวดำเนินการเปรียบเปรียบเทียบ ตัวดำเนินการที่ใช้มีดังนี้
 
ตัวดำเนินการ ความหมาย ผลของการดำเนินการ
&&

AND หมายถึง การนำเงื่อนไข 2 เงื่อนไข มาดำเนินการกัน แล้วจะได้ผลของการดำเนินการ ดังแสดงในตาราง >>>

P Q P && Q
0 0 0
0 1 0
1 0 0
1 1 1
||

OR หมายถึง การนำเงื่อนไข 2 เงื่อนไข มาดำเนินการกัน แล้วจะได้ผลของการดำเนินการ ดังแสดงในตาราง >>>

P Q P || Q
0 0 0
0 1 1
1 0 1
1 1 1
!

NOT หมายถึง การนำเงื่อนไขมาดำเนินการกัน แล้วได้ผลของการดำเนินการ ดังแสดงในตาราง >>>

 
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
 
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
 
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
นิพจน์ (Expression) หมายถึง การนำตัวแปร ค่าคงที่ มาสัมพันธ์กันโดยใช้ตัวดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดเป็นตัวเชื่อม
 
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
3.6.1 นิพจน์ แบ่งออกได้เป็น
 
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
1. นิพจน์ทางคณิตศาสตร์ (Arithmetic Expression)
 
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
นิพจน์ทางคณิตศาสตร์
หมายถึง การนำตัวแปร ค่าคงที่ มาสัมพันธ์โดยใช้ตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์ เป็นตัวเชื่อม ผลลัพธ์ที่ได้ จะเป็นตัวเลข
 
นิพจน์คณิตศาสตร์ นิพจน์ภาษาซี
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
5z
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
5*z
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
3x + 5y
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
3*x + 5*y
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
x2 - y2
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
x*x - y*y
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
(a + b)
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
c
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
(a + b) / c
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
3x - 8xy + 15y2
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
3*x - 8*x*y + 15*y*y
 
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
2. นิพจน์ทางตรรกะ (Logical Expression)
 
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
นิพจน์ทางตรรกะ
หมายถึง การนำตัวแปร ค่าคงที่ หรือนิพจน์ มาสัมพันธ์กัน โดยใช้ตัวดำเนินการเปรียบเทียบและตัวดำเนินการตรรก เป็นตัวเชื่อม ผลที่ได้จะเป็น จริง หรือ เท็จ คือ จะให้ค่าเป็น 1 หรือ 0 ออกมาเป็นผลลัพธ์ สามารถนำผลไปคำนวณต่อได้
 
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
ถ้า x มีค่าเป็น 4 , y มีค่าเป็น 7 , z มีค่าเป็น 4 หากนำมาเขียนเป็นนิพจน์จะได้ผลดังตาราง
 
 
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
3.6.2 กฏเกณฑ์ในการเขียนนิพจน์
 

หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
1. ห้ามเขียนตัวแปรติดกัน โดยไม่มีตัวดำเนินการเชื่อม
เช่น ab ในภาษาซี ต้องเขียน a*b จะเขียนเป็น ab ไม่ได้ เพราะโปรแกรมจะถือว่าเป็นชื่อตัวแปรเดียว (ชื่อ ab ไม่ใช่ a คูณ b)

 
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
2. ถ้าเขียนนิพจน์ โดยมีชนิดของตัวแปรหรือค่าคงที่ต่างชนิดกัน ในนิพจน์เดียวกัน
ภาษาซี จะเปลี่ยนชนิดของข้อมูลที่มีขนาดเล็ก ให้เป็นชนิดข้อมูลที่ใหญ่ขึ้น เช่น
 
ถ้าใช้ จะเปลี่ยนเป็น
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
char short
กับ
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
int
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
int
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
int
กับ
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
float
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
float
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
float
กับ
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
double
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
double
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
int
กับ
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
long
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
long
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
int
กับ
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
double
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
double
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
int
กับ
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
unsigned
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
unsigned
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
long
กับ
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
double
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
double
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
long
กับ
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
double
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
double
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
อะไร
กับ
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
long
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
long
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
อะไร
กับ
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
long double
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
long double
 

หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
ตัวอย่าง

หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
int i;

หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
float f;

หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
double d;

หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
นิพจน์
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
i*f
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
จะได้ผลลัพธ์เป็น float

หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
นิพจน์
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
d/f + i*f
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
จะได้ผลลัพธ์เป็น double

 
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
3. การหาร
จะได้ชนิดข้อมูล ดังนี้
Integer
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
Integer = Integer
Float
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
Float = Float
Float
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
Integer = Float
Integer
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
Float = Float
 

หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
ตัวอย่าง

หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
int x = 10;

หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
int y = 4;

หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
float z = 4.0;

หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
นิพจน์
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
x/y
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
จะได้ผลลัพธ์
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
2

หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
นิพจน์
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
x/z
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
จะได้ผลลัพธ์
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
2.500000

 
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
3.6.3 ขั้นตอนการทำงานของนิพจน์
 
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
นิพจน์ในภาษาซี
จะทำงานตามลำดับของระดับความสำคัญ ของตัวดำเนินการ ตัวดำเนินการที่มีระดับความสำคัญสูงกว่า จะดำเนินการก่อน หากในนิพจน์มีตัวดำเนินการระดับความสำคัญเท่ากัน จะเริ่มทำตัวดำเนินการจากซ้ายไปขวา
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
ตารางแสดงตัวดำเนินการ
โดยเรียงจากบรรทัดบนสุดไปล่างสุด เป็นระดับความสำคัญสูงสุดไประดับความสำคัญต่ำสุด ตัวดำเนินการในบรรทัดเดียวกันจะมีระดับความสำคัญเท่ากัน
 
ตัวดำเนินการ ความหมาย
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
( )
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
ทำในวงเล็บก่อน โดยทำเรียงลำดับความสำคัญตามตารางนี้
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
-
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
ตัวดำเนินการเอกภาคลบ
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
* , / , %
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
ตัวดำเนินการคำนวณคูณ หาร และมอดูลัส (หารเอาเศษไว้)
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
+ , -
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
ตัวดำเนินการคำนวณบวก ลบ
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
< , <= , > , >=
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
ตัวดำเนินการเปรียบเทียบน้อยกว่า น้อยกว่าหรือเท่ากับ
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
มากกว่า มากกว่าหรือเท่ากับ
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
== , !=
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
ตัวดำเนินการเปรียบเทียบเท่ากับ ไม่เท่ากับ
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
+= , -= , *= , /= , %=
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
ตัวดำเนินการคำนวณกำหนดค่าเชิงประกอบ
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
(ชนิดข้อมูล)
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
ตัวดำเนินการแปลงชนิดข้อมูลแบบชั่วคราว
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
++ , --
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
ตัวดำเนินการคำนวณเพิ่มค่า ลดค่า
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
&&
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
ตัวดำเนินการตรรกและ
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
||
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
ตัวดำเนินการตรรกหรือ
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
=
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
ตัวดำเนินการกำหนดค่า
 

ตัวอย่างที่ 1

หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
นิพจน์
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
2 + 2 * 2 - 2

วิธีคิด เนื่องจากระดับความสำคัญตัวดำเนินการ์ * มีสูงกว่า + กับ - จึงทำ * ก่อน ส่วน ตัวดำเนินการ +
กับ - มีระดับความสำคัญเท่ากัน จึงทำเรียงจากซ้ายไปขวาตามลำดับ ดังนี้ (คำตอบ 4)

หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข


ตัวอย่างที่ 2

หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
นิพจน์
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
x/y*z

วิธีคิด เนื่องจากระดับความสำคัญตัวดำเนินการ * และ / มีค่าเท่ากัน จึงทำเรียงจากซ้ายไปขวาตามลำดับ ดังนี้

หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข

ตัวอย่างที่ 3

หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
นิพจน์
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
i * j + k / m - n

วิธีคิด

หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข

ตัวอย่างที่ 4

หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
นิพจน์
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข
a * b >= 8 - c || d - 3 == e / (2 - f) && g < h

วิธีคิด

หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข

 
 
หากนักเรียนต้องการกำหนดชนิดของข้อมูลเป็นตัวเลข