ใครได้ฤกษ์งามยามดีเปลี่ยนกระเป๋าสตางค์ใหม่บ้างคะ? นอกจากเลือกทรงกระเป๋า และสีกระเป๋าสตางค์ที่ถูกโฉลกได้แล้ว (อ่านวิธีเลือกสีกระเป๋าให้ถูกโฉลก ที่นี่) Moonli Leather ยังมีเทคนิคการเก็บ “เงินก้นถุง” ตามปีเกิดนักษัตรไทย เพื่อช่วยเรียกทรัพย์ เป็นโชคลาภเรียกเงินเข้ากระเป๋าได้อีกทางหนึ่งด้วยค่ะ เลือกธนบัตร “เงินก้นถุง” ตามปีเกิด ปีชวด ควรจะพกธนบัตร 20 บาท ที่ลงท้ายด้วยเลข 7 ปีฉลู ควรจะพกธนบัตร 50 บาท ที่ลงท้ายด้วยเลข 2 ปีขาล ควรจะพกธนบัตร 20 บาท ที่ลงท้ายด้วยเลข 5 ปีเถาะ ควรจะพกธนบัตร 100 บาท ที่ลงท้ายด้วยเลข 6 ปีมะโรง ควรจะพกธนบัตร 50 บาท ที่ลงท้ายด้วยเลข 3 ปีมะเส็ง ควรจะพกธนบัตร 100 บาท ที่ลงท้ายด้วยเลข 4 ปีมะเมีย ควรจะพกธนบัตร 20 บาท ที่ลงท้ายด้วยเลข 6 ปีมะแม ควรจะพกธนบัตร 50 บาท ที่ลงท้ายด้วยเลข 1 ปีวอก ควรจะพกธนบัตร 20 บาท ที่ลงท้ายด้วยเลข 4 ปีระกา ควรจะพกธนบัตร 20 บาท ที่ลงท้ายด้วยเลข 9 ปีจอ ควรจะพกธนบัตร 100 ที่ลงท้ายด้วยเลข 0 ปีกุน ควรจะพกธนบัตร 50 ที่ลงท้ายด้วยเลข 4
"อิติบูชา จะมะหาราชา สัพพะสเน่หา อะระหังสัมมา สัมพุทโธมามา ยาตรายามดี วันชัยมารศรี สวัสดีราโพ นะโมพุทธายะ" ทำยังไง...ให้กระเป๋าสตางค์เรียกทรัพย์ (7.53 MB) ~ Free Download ทำยังไง...ให้กระเป๋าสตางค์เรียกทรัพย์ (05:29 Min) mp3 and mp4 ~ Download lagu mp3 & mp4 ทำยังไง...ให้กระเป๋าสตางค์เรียกทรัพย์ for free, fast and easy on MP3 Music Download. Select one of the working servers :Server 1 [mp3/Audio]: Server 2 [mp3/Audio]: Organizing Wallet for Good Luck หลายคนอยากเปลี่ยนกระเป๋าสตางค์ มีความเชื่อจากหนังสือ ชีวิตมั่งคั่ง ด้วยกระเป๋าสตางค์ใบเดียว ผู้แต่งชาวญี่ปุ่นที่บอกไว้ว่า แค่เปลี่ยนกระเป๋าสตางค์ด้วยกฎ 200 เท่า ก็สามารถทำให้เฮง ๆ รวย ๆ ใครอยากเป็นเศรษฐี ??? ฉันนะสิ ฉันนะสิ ปี 2022 นี้ได้เวลาที่สาว ๆ จะต้องเปลี่ยนกระเป๋าสตางค์ใบใหม่แล้วล่ะค่ะ แต่จะเปลี่ยนทั้งทีขอพึ่งพิงความเชื่อหน่อยนึง วันนี้เรามีศาสตร์แปลก ๆ จากญี่ปุ่นเกี่ยวกับการเปลี่ยนกระเป๋าสตางค์ด้วยกฎ 200 เท่า มาฝากสาว ๆ กัน ซึ่งกฎการเปลี่ยนกระเป๋าสตางค์นี้มาจากหนังสือ ชีวิตมั่งคั่ง ด้วยกระเป๋าสตางค์ใบเดียว ที่ผู้แต่งเป็นชาวญี่ปุ่น เค้าได้อธิบายเกี่ยวกับการใช้เงิน เป็นการสอนให้เห็นคุณค่าของเงิน ว่าแต่จะมีอะไรพิเศษที่เราเอามาฝากกันบ้าง ไปดูกันเลยจ้าาา แนวคิด “กฏเปลี่ยนกระเป๋าสตางค์ 200 เท่า”ขอเกริ่มก่อนว่าความเชื่อนี้มาจากผลวิจัยที่พบว่า “คนส่วนใหญ่มักมีรายได้ต่อปีเท่ากับ 200 เท่าของราคากระเป๋าสตางค์” วิธีคิดคำนวณง่าย ๆ คือให้เราเอาราคากระเป๋าสตางค์ x 200 = รายได้ทั้งปีของเรา สมมติถ้าใช้กระเป๋าสตางค์ใบละ 10,000 บาท รายได้ต่อปีของคุณ ก็คือ 10,000 * 200 ดังนั้น ถ้าอยากจะมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ให้เปลี่ยนมาใช้กระเป๋าสตางค์ที่แพงขึ้น เพราะทันทีที่ได้จับกระเป๋าสตางค์ราคาแพง จิตใต้สำนึกของคุณจะมุ่งถึงการสร้างรายได้ให้ได้ 200 เท่าของราคากระเป๋าสตางค์ทันทีค่ะ ความเชื่อเรื่อง กฎเปลี่ยนกระเป๋าสตางค์ 200 เท่า มาจากไหน? หลายคนอาจจะงงว่าเอ๊ะ แล้วความเชื่อเรื่องกฎ 200 เท่านี่มาจากไหนกันนะ? บอกเลยว่าทริคนี้ที่ประเทศญี่ปุ่นกำลังมาแรงมาก ๆ เพราะว่ากฎเหล่านี้มาจากหนังสือ “ชีวิตมั่งคั่ง ด้วยกระเป๋าสตางค์ใบเดียว” โดยผู้แต่ง คะเมะดะ จุนอิชิโร จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเนื้อหาในหนังสือไม่ได้สอนให้รวยในพริบตา แต่จะเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเงิน และสอนให้คุณเป็นคนรวยที่มีความสุขค่ะ แต่เราต้องเชื่อก่อนว่า เงินนั้นเป็นสิ่งที่มีชีวิต มันต้องการได้รับการเอาใจใส่ และกระเป๋าสตางค์ก็คือ บ้านของเงินค่ะ ทริคลับ “เปลี่ยนกระเป๋าสตางค์รับทรัพย์” คนหาเงินเก่งมักใช้กระเป๋าสตางค์ทรงยาว วิธีการเช็กคือ ต้องกระเป๋าสตางค์ทรงยาวที่สามารถเอาธนบัตรใส่ได้แบบไม่ต้องพับ แยกกระเป๋าใส่ธนบัตร และกระเป๋าใส่เหรียญ วิธีนี้เหมือนเป็นการจัดการระบบ เวลาเราใช้เงินในจำนวนน้อย ๆ ก็สามารถหยิบเหรียญมาจ่ายได้ จัดระเบียบกระเป๋าทุกวัน เรียกว่า “วัน เดย์ เคลียริ่ง” เพราะเงินไม่ชอบกระเป๋าที่อ้วน ให้จัดระเบียบกระเป๋าทุกวัน เคลียร์ของอะไรที่ไม่จำเป็นอย่างพวกใบเสร็จก็สามารถทิ้งไปได้ แล้ว “วัน เดย์ เคลียริ่ง” ต้องทำอะไรบ้าง? ก่อนนอน ทำความสะอาดกระเป๋าให้สะอาด จัดเรียงธนบัตรให้สวยงาม เรียงไปในทางเดียวกัน และเรียงจากแบงค์มูลค่าน้อยไปมาก (มูลค่ามากเอาไว้ข้างในสุด) ไม่พกบัตรสะสมแต้ม เพราะการที่เราพกบัตรสะสมแต้ม จะทำให้เราใช้จ่ายเงินเก่งมากยิ่งขึ้น Special Tip : ให้ใส่เงินก้อนโตในกระเป๋าสตางค์ใบใหม่ เพื่อให้กระเป๋าสตางค์คุ้นชิน แบ่งเงินในกระเป๋าสตางค์ออกเป็น 3 ประเภทซึ่งในหนังสือได้มีการสอนเรื่องของการแบ่งจำพวกการใช้จ่ายเงินในกระเป๋าด้วยค่ะ เพื่อเป็นการนึกตลอดว่า เงินที่เราจะใช้จ่ายไปนั้น จำเป็นมากน้อยขนาดไหน ไปดูกันค่ะว่า เค้ามีทริคในการแบ่งเงินอย่างไรบ้าง 1. ใช้จ่ายแบบบริโภค คือเงินที่ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เพื่อการดำรงชีพ 2. ใช้จ่ายแบบการลงทุน คือการใช้จ่ายเพื่อให้มีหลักประกันอะไรบางอย่างในอนาคต 3 .ใช้จ่ายแบบผลาญ คือการใช้จ่ายเรื่อย ๆ โดยไม่คิดอะไร และไม่ได้อะไรเลย ไม่เกิดมูลค่าในอนาคต และก่อนที่เราจะควักสตางค์ในกระเป๋าออกไปจ่าย ให้ตอบคำถามตนเองว่า นี่เป็นค่าใช้จ่ายประเภทใด จะได้รู้ว่าสิ่งที่เราจะจ่ายไปนั้น จำเป็นแค่ไหนค่ะ อ่านบทความนี้จบมีสาว ๆ คนไหนอยากลองเปลี่ยนกระเป๋าสตางค์ใบใหม่ พร้อมรวยรับทรัพย์กันหรือยังค้าาา และข้อมูลที่เราเอามาฝากสาว ๆ กันวันนี้ หวังว่าจะทำให้สาว ๆ เห็นคุณค่าของเงินที่ใช้จ่ายไปนะคะ และกฎ 200 เท่าที่เราเอามาบอกต่อ สาว ๆ ก็ลองทำดู ได้ผล ไม่ได้ผลยังไงบ้าง ก็มาแบ่งปันข้อมูลให้ฟังกันด้วยน้าาา ครั้งหน้า Wongnai Beauty จะเอาสาระความรู้อะไรมาฝากสาว ๆ อีก คอยติดตามได้เลยค่ะ |