การรีดเสื้อผ้า ให้เรียบ มี วิธีการ อย่างไร

การรีดผ้าเป็นการทำผ้าให้เรียบโดยใช้ความร้อนจากเตารีด โดยทั่วไป มี ๒ วิธี คือ การรีดทับ ซึ่งเป็นวิธีการรีดโดยใช้เตารีดยกทับผ้าที่ละส่วน วิธีการนี้จะทำให้ผ้าเรียบ เหมาะสำหรับผ้าที่พิถีพิถันและเสียรูปทรงได้ง่าย ส่วนวิธีไถ เป็นวิธีรีดผ้าโดยใช้มือไถไปมาส่วนบริเวณที่ต้องการรีด วิธีนี้จะทำให้รีดได้รวดเร็ว ถ้ารีดด้วยไฟแรงหรือรีดแรงๆ พื้นผิวของผ้าอาจเสียหายหรือเกิดรอยตำหนิได้ หรือทำให้ผ้าเป็นมันเฉพาะส่วนที่เป็นรอยพับ เช่น ปลาย

การรีดผ้าให้เรียบและมีอายุการใช้งานยาวนาน ควรยึดหลักการดังนี้

๑.      ในการรีดผ้า ควรรีดผ้าที่มีความชื้น ซึ่งจะทำให้ผ้าที่เรียบกว่าการรีดผ้าแห้ง เพราะว่าความชื้นจะทำให้เส้นใยอ่อนตัว เมื่อถูกความร้อนจึงทำให้ผ้าเรียบ

๒.    เตรียมผ้าให้พร้อม เสื้อผ้าใดที่ต้องพรมน้ำก่อนการรีดให้พรมน้ำและม้วนไว้ เพื่อจะได้สะดวกในการรีด และไม่เสียเวลาขณะการรีดผ้า

๓.     เตรียมอุปกรณ์ในการรีดผ้าให้พร้อม เช่น ไม้แขวนสำหรับแขวนเสื้อที่รีดแล้ว ที่รองแขนเสื้อ กระบอกฉีดน้ำ สเปรย์เพิ่มความแข็งของผ้าเป็นต้น

๔.     เมื่อเสียบเตาไฟฟ้าใหม่ๆ อุณหภูมิเตรีดยังไม่ร้อนมาก เราสามารถรีดผ้าบางๆ เช่น ผ้าเช็ดหน้าก่อนได้ เป็นต้น

๕.     อย่าวางเตารีดที่มีความร้อนทิ้งไว้บนผ้ารองรีด หรือบนเสื้อที่กำลังรีด เพราะจะทำให้ผ้าเกิดรอยไหม้ได้

๖.      ก่อนการีดผ้าควรปรับอุณหภูมิให้เหมาะกับชนิดของผ้า เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าไหม ผ้าลินิน ซึ่งมีเนื้อหนาปานกลางให้รีดด้วยความร้อนปานกลาง หรือผ้าใยสังเคราะห์ควรรีดด้วยความร้อนต่ำ เป็นต้น

๗.     ในการรีดผ้าสีควรรีดด้านใน เพื่อป้องกันสีซีดหรือเก่าเร็ว ผ้าชนิดใดที่รีดด้านในแล้วผ้านั้นเรียบถึงด้านนอกก็ควรรีดด้านใน เพราะจะทำให้เนื้อผ้าไม่สึกหรอ สีผ้าไม่ซีดเร็ว ผ้าบางชนิดเมื่อรีดด้านนอกบ่อยๆความร้อนจากเตารีดจะทำให้เกิดความมันเป็นแนวตามรอยตะเข็บ มองดูแล้วไม่สวยงาม

๘.     ก่อนการรีดผ้าขนสัตว์ ผ้าสักราด หรือเสื้อที่ทำด้วยไหมพรม ควรใช้ผ้าขาวปิดทับ เช่น ผ้ามัสลิน ผ้าสาลู ถ้าใช้เตาไฟฟ้าแบบธรรมดาที่ไม่ใช้เตารีดไอน้ำ ให้ชุบผ้าขาวที่บิดหมาดปิดทับด้านบนแล้วใช้เตารีดที่มีควมร้อนรีดโดยวิธีกดทับ ถ้ารีดโดยวิธีไถไปมาจะทำให้ผ้าเสียรูปทรง แต่ถ้าเป็นเตารีดไอน้ำให้ใช้ผ้าขาวปิดทับโดยไม่ต้องชุบน้ำ และเมื่อทำการรีดให้พ่นไอน้ำผ่านน้ำจะทำให้ผ้าเรียบโดยไม่ต้องชุบน้ำ

๙.      เมื่อรีดผ้า ควรรีดส่วนปรกอบทีละส่วนตามลำดับ ดังนี้

–          เมื่อรีดผ้า ควรรีดปก รีดตะเข็บ รีดตัว เสื้อด้านหน้า เสื้อด้านหลัง และแขนเสื้อ

–          การรีดกางเกง ควรรีดขอบเอว กระเป๋าขา และตัวด้านหน้าและหลัง

–          การรีดกระโปรง ควรรีดซับใน ขอบตะเข็บ และตัวระโปรงด้านหน้าและด้านหลัง

๑๐.รีดผ้าครั้งเดียวหลายชิ้นหรือรีดครั้งละมากๆจะช่วยประหยัดกระแสไฟฟ้ามากกว่าการรีดครั้งละตัวหรือน้อยชิ้น

๑๑.ถอดปลั๊กเตารีดเมื่อเสร็จแล้วทุกครั้ง โดยหลังจากถอดปลั๊กซึ่งเตารีดยังมีความร้อนอยู่ควรรีดผ้าที่ไม่ต้องการความประณีตมากนัก และสามารถรีดได้ประมาณ ๑-๒ ตัว เช่น  ผ้าใส่อยู่กับบ้าน ชุดนอน เสื้อเด็กอ่อน เป็นต้น

  ๑.)การรีดผ้าด้วยเตารีดไฟฟ้าธรรมดา  เตารีดไฟฟ้าธรรมดาเป็นเตารีดไฟฟ้าที่ใช้กันทั่วไปราคาไม่แพง วิธีการรีดด้วยเตาไฟฟ้าธรรมดาที่รีดโดยการพรมน้ำและม้วนไว้ เพื่อให้ผ้าชื้นและรีดให้เรียบได้ง่าย

๒.)การรีดผ้าด้วยเตารีดไฟฟ้าแบบพ่นไอน้ำ เตารีดไฟฟ้าแบบพ่นไอน้ำ เป็นเตารีดสมัยใหม่มีขายอยู่ทั่วไป แต่มีราคาแพงกว่าเตารีดไฟฟ้าแบบธรรมดา บางชนิดเมื่อต้องการรีดผ้าสามารถกดปุ่ม และมีไอน้ำพุ่งออกมาขณะรีดทำให้ผ้าเรียบ เตารีดไอน้ำบางยี่ห้อพัฒนาก้าวไกล สามารถรีดผ้าด้านเดียว แต่ผ้าเรียบทั้ง ๒ ด้าน เพราะไอน้ำที่พ่นจากเตาผ่านไปถึงผ้าชั้นล่างและผ่านลงไปยังที่รองรีด ซึ่งเป็นตะแกรงเหล็กไอน้ำสามารถผ่านได้เตารีดชนิดนี้นับว่าเป็นเตารีดที่มีประสิทธิภาพที่ดีมาก นอกจากนั้น ยังมีเตารีดไอน้ำบางชนิด สามารถพ่นไอน้ำสู่ผ้าที่แขวนไว้ให้เรียบได้ วึ่งนิยมใช้กันตามร้านขายเสื้อผ้าสำเร็จรูปเหมาะสำหรับรีดผ้าที่ยับจากการแขวน

หากคุณคนหนึ่งที่จะต้องรีดผ้าอยู่เป็นประจำ และต้องการรีดผ้าให้เรียบโดยให้ผ้านั้นคืนตัว แต่บางครั้งก็ไม่สามารถรีดผ้าให้เรียบได้ดั่งใจ และไม่รู้ว่าวิธีรีดผ้าที่ถูกต้องนั้นเป็นอย่างไร การศึกษาวิธีรีดผ้าที่ถูกต้องถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ผ้าของคุณนั้นเรียบไม่คืนตัว และวันนี้เราจะพาคุณมาเรียนรู้วิธีและขั้นตอนในการรีดผ้าเรียบที่ถูกต้อง ต้องทำอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลย

การรีดผ้า คือ เป็นการทำผ้าให้เรียบโดยใช้ความร้อนจากเตารีด การรีดผ้าโดยทั่วไปจะมีด้วยกันอยู่ 2 วิธี วิธีแรกคือการรีดทับ ซึ่งจะเป็นวิธีการรีดโดยใช้เตารีดยกและทับลงบนผ้าที่ละส่วน วิธีการนี้จะทำให้ผ้าเรียบเหมาะสำหรับผ้าที่ต้องการความพิถีพิถันและผ้าที่เสียรูปทรงได้ง่าย อีกหนึ่งวิธี คือ วิธีไถ เป็นวิธีรีดผ้าโดยใช้มือไถเตารีดไปมาตรงบริเวณที่ต้องการรีดวิธีนี้จะทำให้สามารถรีดผ้าได้รวดเร็ว แต่ถ้ารีดด้วยไฟแรงหรือรีดแรงๆ อาจทำให้ผิวของผ้าเสียหายหรือเกิดรอยตำหนิได้ หรืออาจทำให้ผ้าเป็นมันเฉพาะส่วน ที่เป็นรอยพับ เช่น ชายกระโปรง และปลายแขน เป็นต้น

10 เทคนิคการรีดเสื้อผ้าให้เรียบมีขั้นตอน ดังต่อไปนี้

1. ควรอุ่นเครื่องเตารีดด้วยผ้าชื้น

ควรเปิดเตารีดเตรียมพร้อมก่อนจะรีดผ้าด้วยผ้าชื้น เพราะเวลาที่เราเปิดเตารีดปกติเครื่องก็จะร้อนอยู่แล้ว แต่ถ้าจะรีดในทันทีก็คงจะทำให้ผ้านั้นเรียบยาก การที่ เราอุ่นเครื่องเตารีดด้วยผ้าชื้นก่อน จะช่วยให้เตารีดทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการทำความสะอาดเตารีดไปในตัวอีกด้วย

2. ความชื้นเป็นสิ่งสำคัญทำให้รีดผ้าเรียบนาน

ก่อนที่จะรีดผ้า ถึงแม้ว่าเราจะอุ่นเตารีดให้พร้อมสำหรับการรีดผ้าแล้ว ความชื้นของผ้าก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะความชื้นจะช่วยทำให้เตารีดไม่เกิดการเผาไหม้กับเนื้อผ้าขณะที่รีดผ้า หรือที่เราเรียกว่า เตารีดไหม้ วิธีการคือ หากผ้านั้นแห้งมากเกินไป ควรฉีดน้ำลงไปก่อน หรืออีกหนึ่งเทคนิคคือ หากบริเวณไหนของผ้าที่รีดไม่เรียบหรือไม่เป็ยกลีบก็ให้ฉีดน้ำลงไปได้อีก

3. อุณหภูมิเตารีดสำคัญอย่างมากที่จะทำให้รีดผ้าเรียบ

อุณหภูมิของเตารีดหรืออุณหภูมิที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากสำหรับการรีดผ้าให้เรียบ ซึ่งผ้าต่างชนิดก็จะใช้อุณหภูมิที่แตกต่างกันออกไป ตามความเหมาะสมของเนื้อผ้า เช่น

• ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน ควรรีดด้วยความร้อนระดับปานกลางถึงระดับความร้อนสูง เพราะเนื้อผ้ามีความหนา และผิวของเนื้อผ้าค่อนข้างหยาบ ดังนั้นควรรีดเบาๆ บนเสื้อผ้าด้านนอกที่พรมน้ำไว้ชื้นๆ
• ผ้าไหม ควรรีดด้วยความร้อนต่ำ เพราะเนื้อผ้ามีความบางและน้ำหนักเบา ดังนั้นควรรีดเบาๆ บนเสื้อผ้าด้านนอกที่พรมน้ำไว้
• ผ้าขนสัตว์ (ผ้าถัก) ให้กลับด้านในของเสื้อผ้าออกมาและรีดแบบไม่พรมน้ำ เนื่องจากเนื้อผ้ามีความหนา สามารถดูดความร้อน รวมถึงสามารถถ่ายเทความชื้นได้ดี ดังนั้นควรรีดด้วยเตารีดอุ่นๆหรือเตารีดไอน้ำ
• ผ้าคอตตอน ควรรีดด้วยความร้อนระดับปานกลางถึงระดับความร้อนสูง เนื่องจากเป็นเนื้อผ้าที่ทำมาจากเส้นใยธรรมชาติ เนื้อผ้าจะนุ่มและไม่กระด้าง

4. จัดทรงเสื้อผ้าให้พร้อมสำหรับการรีด

ก่อนรีดผ้าทุกครั้งควรจัดทรงของเสื้อผ้าให้ดีเสียก่อน หากเป็นการรีดเสื้อเชิ้ตให้เริ่มรีดจากแขนเสื้อทั้ง 2 ข้างก่อนจากนั้นรีดปกคอเสื้อและนำไปแขวนไว้ 2-3 นาที เพื่อให้เนื้อผ้านั้นคงสภาพหลังจากการรีดไว้ หลังจากนั้นค่อยนำมารีดอีกครั้ง ส่วนกางเกงควรจะจับจีบให้เรียบร้อยก่อนที่จะรีด สำหรับกระโปรงให้รีดจากบนลงล่าง กรณีถ้าต้องจับจีบให้กลับจากด้านใน

5. รีดผ้าไปทางเดียวกัน

ในการรีดผ้าแต่ละครั้งควรรีดผ้าควรรีดไปในทางเดียวกัน ไม่รีดวนไปวนมา หรือไปซ้ายบ้างขวาบ้าง การรีดผ้าในลักษณะนี้จะทำให้เนื้อผ้าอ่อนแอ และเกิดการชำรุดได้ง่ายขณะรีด

6. เลือกใช้น้ำสะอาดเป็นน้ำที่ดี

ที่บอกว่าการใช้น้ำสะอาดเป็นน้ำที่ดีนั้น เพราะในการรีดผ้าทุกครั้งไม่ควรใช้น้ำก๊อกในการรีดผ้า เพราะน้ำก๊อกนั้นมีความสะอาดที่ไม่เพียงพอ แต่ควรจะใช้น้ำกลั่นแทนจะมีความสะอาดมากกว่า ถ้าหากไม่มีน้ำกลั่นมากพอจริงๆ ก็สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการผสมน้ำกลั่นลงไปในน้ำก๊อกเพื่อลดความเข้มข้น หรืออาจจะผสมในปริมาณครึ่งต่อครึ่งก็ได้

7. ทำความสะอาดเตารีดสักนิดเพื่อผ้าเรียบนาน

หากใครที่ไม่เคยทำความสะอาดเตารีดเลย คงต้องบอกตรงๆเลยว่าจะรีดผ้าให้เรียบนั้นยากมาก เพราะมันสกปรกและความสกปรกนี้จะทำให้เตารีดทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นควรทำความสะอาดเตารีดบ้างด้วยน้ำยาทำความสะอาดเตารีดโดยเฉพาะหรือจะใช้ยาสีฟันผสมเบกกิ้งโซดาก็ได้เช่นกัน

8. เก็บรักษาเตารีดอย่างถูกวิธี

สิ่งของทุกอย่างที่มีการใช้ควรมีการเก็บรักษาที่ดี ฉะนั้นเตารีดเมื่อใช้งานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ควรจะต้องมีการเก็บรักษาที่ถูกวิธี และไม่ควรจะเก็บเตารีดไอน้ำทั้งๆที่มีน้ำอยู่ในเตารีด ควรจะต้องเทน้ำออกให้หมดก่อนเก็บเสมอ เพราะน้ำอาจจะเกิดการรั่วซึม และไปทำลายส่วนประกอบต่างๆของเตารีดได้

9. ที่รองรีดควรเปลี่ยนบ้าง

ที่รองรีดก็เปรียบเสมือนฉากที่เป็นพื้นหลัง เพราะที่รองเตารีดเป็นสิ่งที่เราเห็นทุกครั้งก่อนที่จะทำการรีดผ้าดังนั้นควรเปลี่ยนที่รองเตารีดใหม่และต้องมีการทำความสะอาดบ้าง

10. คงสภาพของเสื้อผ้าหลังการรีด

การคงสภาพของเสื้อผ้าหลังการรีดผ้า คือ เทคนิคที่สำคัญต่อให้คุณจะทำตามทุกขั้นตอนมาอย่างดี แต่ถ้าหากสุดท้ายแล้วเมื่อรีดผ้าเสร็จแล้วแต่ไม่มีการทำให้เสื้อผ้าคงสภาพ ที่ทำมาก็ไร้ความหมาย เมื่อรีดผ้าเสร็จแล้ว ควรนำเสื้อผ้าไปใส่ไม้แขวนเสื้อก่อนซักประมาณ 5 นาทีเพื่อให้ผ้าทำการเซตตัว เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ทุกคนควรต้องรู้

รีดเสื้อยืดยังไงให้เรียบ

รีดเสื้อเชิ้ตยังไงให้เรียบ

การรีดผ้าให้เรียบต้องอาศัยองค์ประกอบใด

ขั้นตอนใดทําให้เสื้อผ้ารีดง่ายและเรียบขึ้น