การส่งเรซูเม่ไปสมัครงาน มีทั้งโอกาสได้และไม่ได้ แล้วผู้สมัครก็มีจำนวนมาก บริษัทต้องใช้เวลาคัดเลือกเรซูเม่เพื่อพิจารณาเรียกสัมภาษณ์ ซึ่งเราไม่สามารถเดาได้เลยว่าจะได้งานหรือไม่ ? HR เห็นเรซูเม่เรารึยัง ? ได้แต่รอแบบเบื่อๆ ว่าทำไมเขาเงียบจัง อย่าเสียเวลารอครับ ถ้าอยากได้งานทันใจ คุณต้องติดตามงานด้วย 4 เทคนิคง่ายๆ ดังนี้ 1 ติดต่อบริษัทที่สมัคร ติดต่อบริษัทไปโดยตรงเลย สามารถดูข้อมูลการติดต่อของบริษัทที่ระบุอยู่ด้านล่างรายละเอียดตำแหน่งงานในหน้าประกาศงานที่คุณสมัคร แจ้งเขาเลยว่าต้องการสมัครงานและส่งเรซูเม่ตำแหน่งอะไร ส่งไปวันไหน แสดงถึงความตั้งใจและความต้องการทำงานกับบริษัทนั้นให้มากที่สุด ถ้าเขาตอบว่ายังไม่ได้ตรวจสอบเรซูเม่ของคุณ ก็ถามต่อให้รู้เรื่องเลยว่าต้องรออีกประมาณกี่วัน แล้วเมื่อถึงกำหนดวันตามที่แจ้ง ถ้าเขาไม่ติตต่อมา คุณก็ติตต่อไปถามอีกครั้ง ถ้าผ่านเขาก็จะนัดสัมภาษณ์ แต่ถ้าไม่ผ่านหรือคุณอาจเป็นชื่อสำรอง เขามักจะแจ้งว่าจะติดต่อกลับ ถ้าได้คำตอบแบบนี้แล้ว ก็อย่าเสียเวลารอนะครับ ยังมีงานให้คุณสมัครอีกเยอะ 2 ตรวจสอบเรซูเม่ ถ้าติดต่อบริษัทไปแล้ว ดูท่าทีเขาจะปฏิเสธ จะด้วยคำตอบอะไรก็ตาม ก่อนจะสมัครกับบริษัทต่อไป ให้กลับไปตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดในเรซูเม่อีกครั้ง ทั้งข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลการติดต่อ ถูกต้องครบถ้วนรึเปล่า และข้อมูลด้านการศึกษา ทักษะ ประสบการณ์ ต้องใส่ข้อมูลให้ HR เห็นถึงทักษะความสามารถ ที่มาจากวุฒิการศึกษาหรือประสบการณ์ที่ผ่านมา ว่าคุณจะสามารถนำมาใช้ในตำแหน่งที่สมัครได้มากขนาดไหน และเมื่อตรวจสอบจนมั่นใจว่าข้อมูลในเรซูเม่พร้อมแล้ว ก็ส่งไปสมัครใหม่เลย เช่น สมัครตำแหน่ง Call Center วุฒิม.6 มีประสบการณ์การทำงานตำแหน่ง พนักงานขายในห้างสรรพสินค้า มีหน้าที่แนะนำสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าและสร้างยอดขาย อาจระบุยอดขายสูงสุดที่เคยทำได้พร้อมระบุด้วยว่า คุณมีทักษะการขายและการสื่อสารที่ดีมาก การให้ข้อมูลเช่นนี้จะทำให้ HR ทราบว่า คุณมีทักษะที่ใช้ในตำแหน่ง Call Center ได้ นั่นก็คือการสื่อสารที่ต้องใช้พูดคุยกับลูกค้า และการขายที่สามารถใช้แนะนำสินค้าให้ตรงความต้องการลูกค้า เพียงแต่เปลี่ยนมาใช้ทักษะนั้นผ่านการให้บริการทางโทรศัพท์ แต่ถ้าบริษัทที่เคยสมัครไปติดต่อกลับมาเรียกสัมภาษณ์ แล้วคุณก็กำลังจะสัมภาษณ์บริษัทใหม่ด้วย ก็รับนัดทั้ง 2 บริษัทเลย แค่เลือกเวลาไม่ให้ชนกันก็พอ แล้วเตรียมสัมภาษณ์ให้ดีที่สุด เพราะคุณก็มีสิทธิ์เลือกครับ อ่านบทความ การเตรียมตัวสัมภาษณ์งาน คลิก >> https://www.jobbkk.com/variety/detail/5545/ 3 กดปุ่ม “ต้องการงานด่วน” จากสถิติผู้ประกอบการร้อยละ 95 มีความต้องการผู้สมัครที่พร้อมสัมภาษณ์และเริ่มงานได้ทันที และถ้าคุณคือคนนั้น รีบเข้าไปกดปุ่ม “ต้องการงานด่วน” ตอนนี้เลยครับ เพราะเมื่อกดแล้วระบบจะแจ้งให้ HR ทราบทันทีว่าเรซูเม่ของคุณมีสถานะต้องการงานด่วน ทำให้ HR เจอเรซูเม่ของคุณเร็วขึ้น ช่วยเพิ่มโอกาสให้คุณได้สัมภาษณ์และได้งานเร็วทันใจ แต่สถานะต้องการงานด่วนจะมีอายุ 7 วันเท่านั้น สามารถกดปุ่ม “ต้องการงานด่วน” นี้ได้อีกครั้งหลังจากหมดอายุนะครับ วิธีกดปุ่ม “ต้องการงานด่วน” 1 เข้าระบบใน www.jobbkk.com 2 เข้าหน้าสมาชิก 3 กดปุ่ม “ต้องการงานด่วน” 4 ค้นหา – สมัคร งานด่วน jobbkk.com ได้จัดทำระบบ “หางานด่วน” ที่จะมีเฉพาะประกาศงานของบริษัทที่เปิดรับสมัครด่วนเท่านั้นหลังจากกดปุ่ม “ต้องการงานด่วน” ในเรซูเม่แล้ว เพื่อเพิ่มโอกาสได้งานเร็วยิ่งขึ้นอีก ให้คุณเข้าสู่หน้าเว็บไซต์ jobbkk.com และคลิกที่ “หางานด่วน” แล้วเลือกประกาศงานที่สนใจและเหมาะสมกับคุณ แล้วก็ส่งเรซูเม่ไปหาบริษัทนั้นทันทีเลยครับ 4 เทคนิคนี้ ใช้ครบ ได้งานทันใจแน่นอนครับ คลิกดูอัปเดตงานใหม่กว่า 585,054 อัตรา คลิกหางานด่วน คลิก Job Fair Online ครั้งที่ 1 ธุรกิจ อาหารและเครื่องดื่ม คลิก Job Fair Online Urgent อัปเดตงานด่วน ช่วงวิกฤติขาดแรงงานกว่า 800 อัตรา คลิก สมัครเรซูเม่ด่วน สมัครงานยังไงให้เรียกสัมภาษPost: 27 พฤษภาคม 2022.. สมัครงานให้ตรงตำแหน่ง ... . อย่าเว้นตรงไหนให้ว่าง กรอกให้หมดทุกช่อง ... . กรอกประวัติการทำงาน / การศึกษาให้ชัดเจน ... . เด็กจบใหม่ไม่มีประสบการณ์ ให้กรอกตามนี้ ... . ความสามารถพิเศษ ... . เงินเดือนที่คาดหวัง ... . ใช้รูปถ่ายสุภาพ ... . ข้อมูลติดต่อ ต้องชัดเจน. ทำยังไงให้โดนเรียกสัมภาส1. สมัครงานให้ตรงตำแหน่ง ... . 2. อย่าเว้นตรงไหนให้ว่าง กรอกให้หมดทุกช่อง ... . 3. กรอกประวัติการทำงาน / การศึกษาให้ชัดเจน ... . 4. เด็กจบใหม่ไม่มีประสบการณ์ ให้กรอกตามนี้. ใส่รายละเอียดฝึกงานให้ชัดเจน ... . ใส่รายละเอียดการศึกษาให้ชัดเจน ... . ใส่กิจกรรมตอนเรียน ... . 5. ความสามารถพิเศษ. ทำไมถึงไม่ถูกเรียกสัมภาษณ์ทำไมไม่มีใครเรียกสัมภาษณ์เลย
คุณเขียนเรซูเม่ได้น่าสนใจหรือไม่ เช่น ประสบการณ์ที่ผ่านมาทำอะไรมาบ้าง ทักษะที่มี ความสำเร็จที่ได้รับ รวมถึงคุณสมบัติโดยย่อในส่วน Executive Summary ซึ่งจะทำให้คุณแตกต่างจากผู้สมัครคนอื่น ๆ
สมัครงานได้ตอนไหน3 เดือนก่อนเรียนจบ
– นี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการสมัครงานหรือการขอไปฝึกงาน การส่งใบสมัครงานของคุณอย่างถูกที่ถูกเวลามีความสำคัญพอ ๆ กันกับการมีเรซูเม่ที่โดดเด่น และมีใบสมัครงานที่ดี – ติดต่อคอนเนคชั่นที่คุณมีไม่ว่าคุณจะรู้จักพวกเขาเป็นการส่วนตัวหรือผ่านการฝึกงานเพื่อให้พวกเขารู้ว่าคุณพร้อมที่จะทำงานแล้ว
|