การฝึกขับร้องเพลงที่ดีควรปฏิบัติอย่างไร

-ในการขับร้องเพลง สิ่งแรกที่ทำให้ผู้เกิดความสนใจ คือ เสียง การร้องเพลงผู้ขับร้องต้องรู้จักวิธีการเปล่งเสียงเพื่อให้ได้เสียงที่มีคุณภาพออกมา การเปล่งเสียงร้องที่ดีต้องอาศัยการฝึกฝนเป็นขั้นตอน ดังนี้
การฝึกขับร้องเพลงที่ดีควรปฏิบัติอย่างไร
1.1 การฝึกออกเสียง เป็นการเริ่มต้นการฝึกหัดร้องเพลง เพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับระดับเสียงดนตรี โดยเทียบกับเสียงของเครื่องดนตรี

การฝึกขับร้องเพลงที่ดีควรปฏิบัติอย่างไร
1.2 การฝึกการบังคับเสียง เป็นการบังคับเสียงให้ออกมาโดยถูกทิศทางชึ่งอาจต้องใช้อวัยวะภายในปากเป็นส่วนช่วยในการเปล่งเสียง ได้แก่ คอ ลิ้นปี่ เพดาน ปุ่มเหงือก ไรฟัน ลิ้น คากและปาก เป็นต้น

การฝึกขับร้องเพลงที่ดีควรปฏิบัติอย่างไร
1.3 การฝึกกล้าเนื้อคอ เพื่อให้เกิดความแข็งแรง สามารถบังคับกล้ามเนื้อให้เปล่งเสียงตามที่ต้องการ มักจะใช้กับการร้องที่ต้องการเสียงที่อ่อนพลิ้ว สั่นระรัว เช่น การครั่นเสียง เป็นต้น

การฝึกขับร้องเพลงที่ดีควรปฏิบัติอย่างไร
1.4 การฝึกกล้ามเนื้อหน้าท้อง การฝึกกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องเพื่อให้แข็งแรงจะเป็นประโยชน์ในการขับร้องเพลงที่มีเสียงสูง ซึ่งในขณะเปล่งเสียงสูงผู้ร้องต้องเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องแล้วค่อย ๆ เปล่งเสียงออกมา โดยให้ลมบริเวณหน้าท้องเลื่อนขึ้นมา เสียงที่เปล่งออกมามีน้ำหนัก ดังลึก ทำให้ช่วยยืดเสียงได้ยาวต่อไป การฝึกด้วยวิธีนี้บ่อย ๆ จะทำให้เกิดเสียงใส น้ำเสียงมีพลัง การร้องจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การฝึกขับร้องเพลงที่ดีควรปฏิบัติอย่างไร
การฝึกไล่เสียง
การฝึกขับร้องเพลงที่ดีควรปฏิบัติอย่างไร

หลังจากที่ได้ฝึกการเปล่งเสียงร้องจนมีความชำนาญแล้ว ควรฝึกการไล่เสียงร้อง เพื่อให้ถูกต้องตรงตามระดับเสียงดนตรีโดยเริ่มจากเสียงต่ำไปหาสูง เมื่อสามารถร้องได้ตามเสียงที่ต้องการแล้ว จึงเริ่มฝึกร้องให้ได้เสียงที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ จะหยุดร้องที่ระดับเสียงเดียวไม่ได้ให้ฝึกร้องไปจนกว่าจะถึงระดับเสียงสุดท้ายที่กำลังร้อง

การฝึกขับร้องเพลงที่ดีควรปฏิบัติอย่างไร
การใช้ลมหายใจ
การฝึกขับร้องเพลงที่ดีควรปฏิบัติอย่างไร

การหายใจ ผู้ขับร้องจะต้องจำตำแหน่งที่ใช้สำหรับหายใจของเพลงแต่ละเพลงไว้ให้ได้เพราะลมหายใจในการร้องเพลง มีส่วนในการร้องเพลง มีส่วนช่วยในการร้องเพลงให้เกิดความไพเราะน่าฟัง ในการร้องเพลงทุกประเภท การรู้จักใช้ลมหายใจให้ถูกต้องนั้นจะทำให้การร้องเพลงนุ่มนวล อ่อนหนาวแข็งกระด้างหรือเสียงขาดเป็นช่วง ๆ อีกทั้งเป็นการช่วยผ่อนแรงในการร้อง

การฝึกขับร้องเพลงที่ดีควรปฏิบัติอย่างไร
การใช้คำในการขับร้อง
การฝึกขับร้องเพลงที่ดีควรปฏิบัติอย่างไร

คำต่าง ๆ ที่อยู่ในบทร้องเพลงไทย ผู้ชับร้องต้องนำคำต่างๆ เหล่านั้นมาใช้ออกเสียงใน ๒ ลักษณะ คือ
1.การเอื้อน เป็นสิ่งที่สำคัญมากในการขับร้องเพลงไทย ผู้ขับร้องต้องรู้จักการใช้เสียงในการเอื้อน ซึ่งมีอยู่หลายวิธีหลายเสียง การออกเสียงเอื้อนจำเป็นต้องอาศัยพยัญชนะ สระและเสียงวรรณยุกต์ที่แตกต่างกันออกไป
2.การออกเสียงคำร้อง การออกเสียงได้ถูกต้องตามอักขรวิธีชัดถ้อยชัดคำ รวมทั้งการแบ่งคำร้องและการแบ่งวรรคตอนในขณะทำการขับร้องได้เหมาะสม เป็นสิ่งที่ผู้ขับร้องทุกคนต้องปฏิบัติ

การแบ่งวรรคหายใจ เอาง่ายๆเลยคือหายใจก่อนที่จะร้องและเก็บลมขณะร้องไว้จนจบประโยค ถ้าลมยังเหลือให้ร้องท่อนต่อไปได้เลย ท่อนไหนที่มีการเว้นวรรคสามารถหายใจได้ เพื่อเตรียมตัวร้องท่อนต่อไป เช่น ท่อนที่ร้องว่า มีวาฬตัวหนึ่งลอยว่ายน้ำมา (หายใจ) ดูเจ็บช้ำทรวงอุรากว่าที่เคย ถ้าแบ่งวรรคหายใจไม่ถูกต้องจะทำให้เกิดการติดขัดและฟังไม่ลื่นไหลของประโยคทันที เช่น มีวาฬ (หายใจ) ตัวหนึ่งลอยว่ายน้ำมา ดูเจ็บช้ำทรวงอุรากว่าที่เคย เป็นต้น

7. ยืนร้อง อกผาย ไหล่ผึ่ง ลักษณะท่าทางขณะร้องเพลงต้องดูดี

รูปประกอบโดยเจ้าของบทความรูปประกอบโดยเจ้าของบทความ

บุคลิกถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ เพราะบุคลิกที่ดีนอกจากจะน่ามองแล้ว ยังทำให้ผู้ฟังเห็นถือความตั้งใจของเราที่จะร้องให้ผู้ฟังได้ฟังกันอีกด้วย ท่าทางการร้องที่ดีควรจะ ยืนร้อง อกผาย ไหล่ผึ่ง ไม่ยืนหลังค่อม หรือลักษณะท่าทางที่ไม่น่ามอง ทำท่าทางประกอบด้วยก็ได้ เช่น ถ้าในเพลงร้องว่า “ใจสู้หรือหรือเปล่าว” อาจจะทำไม้ทำมือแสดงออกให้ผู้ฟังรู้มีกำลังใจ หรือลองยืนร้องหน้ากระจกดูแล้วสังเกตว่าแบบไหนที่ดูดีและน่ามอง ถ้าเรามีบุคลิกที่กล่าวมาจะทำให้เรามั่นใจในขณะร้องมากขึ้นอีกด้วย

8. Dynamic ของแต่ละท่อนต้องร้องให้แตกต่างกัน

Dynamic เป็นตัวแสดงถึงความแตกต่างในแต่ละท่อนเพลง ในแต่ละท่อนเพลงจะใช้ Dynamic ที่แตกต่างกัน ขณะกำลังร้องก็ควรจะร้องให้มี Dynamic ด้วย เช่น ท่อน Verse ไม่ต้องร้องดังมาก ท่อน Pre chorus ให้ร้องดังขึ้น และท่อน Hook ให้ร้องดังกว่าทุก ๆ ท่อน ถ้าทำตามลักษณะที่กล่าวมานี้ เพลงที่เราร้องจะไม่แบน และจะฟังไพเราะมากยิ่งขึ้น

9. รูปปากสำคัญมากๆ ควรอ้าปากกว้างๆ

รูปประกอบโดยเจ้าของบทความรูปประกอบโดยเจ้าของบทความ

ตอนร้องต้องอ้าปากกว้าง ๆ เพื่อให้เสียงกังวาน ไม่ใช่ร้องงึมงัม ๆ จะทำให้ผู้ฟังเขาฟังเราไม่รู้เรื่อง อ้าปากกว้าง ๆ เหมือนตอนเราตะโกน แต่ไม่ต้องตะโกนนะ ให้อ้าปากกว้างๆเหมือนตอนเราตะโกนแต่น้ำเสียงยังนุ่มและน่าฟังอยู่ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับบทเพลงที่เรากำลังร้องด้วยนะครับ ถ้าเพลงเร็ว รูปปากอาจจะแคบกว่าแต่ก็ยังคงไว้ถึงความชัดเจนและความก้องกังวานอยู่ด้วยครับ

10. ซ้อมร้องและแก้ไขข้อผิดพลาดของตัวเองทุกวัน

รูปประกอบโดยเจ้าของบทความรูปประกอบโดยเจ้าของบทความ

การแก้ไขข้อผิดพลาดเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญสำหรับการร้องเพลงให้เกิดความไพเราะมากยิ่งขึ้น เพราะถ้าหากเราไม่ฝึกซ้อมตามที่ได้กล่าวมา ก็จะไม่สามารถทำให้เราร้องเพลงเพราะขึ้นได้เลย เมื่อเรารู้ตัวว่าท่อนไหนยังไม่ดีให้รีบแก้ เช่น มีปัญหาเรื่องของการออกเสียงคำควบกล้ำ ก็ให้เริ่มจากการอ่านคำนั้นให้ชัดเจนเสียก่อน แล้วจึงใส่ทำนองลงไป แล้วซ้อมร้องให้ชัดเจนเหมือนตอนที่เรากำลังฝึกอ่าน

หลักปฏิบัติของการขับร้องเพลงมีอะไรบ้าง

1. ต้องขับร้องเพลงให้มีระดับเสียงสูงต ่าตามและการเอื้อนให้ถูกต้องตามที่ผู้ประพันธ์ได้ประพันธ์ไว้ 2. จังหวะต้องถูกต้องและแม่นย า 3. ออกเสียงให้ถูกต้องตามอักขรวิธี 4. แบ่งวรรคตอนของเนื้อร้องให้ถูกต้องได้ความหมาย 5. ใส่อารมณ์ไปตามเนื้อร้องและท านองของเพลง 6. แสดงบุคลิกภาพและท่าทางให้เหมาะสม

การขับร้องเพลงไทยควรทำท่าทางอย่างไร

1.1 การนั่งขณะการขับร้องเพลงไทย นิยมการนั่ง 2 วิธี คือ การนั่งพับเพียบกับพื้นและ การนั่งบนเก้าอี้ ท่านั่งนั้นต้องนั่งตัวตรง มือทั้งสองวางทับกันบนตัก ถ้านั่งกับพื้นควรเก็บปลายเท้าให้เรียบร้อย ถ้านั่งเก้าอี้ควรนั่งให้สำารวม ไม่แกว่งขาและเท้า 1.2 การวางสีหน้า ควรวางสีหน้าปกติ ไม่แสดงสีหน้าไม่สุภาพ

การฝึกร้องเพลงที่ถูกต้องควรฝึกอะไรก่อน

หลายคนถามครูแพมว่าขั้นตอนแรกในการฝึกร้องเพลงคืออะไร คือการผ่อนคลายร่างกายและใบหน้าค่ะ หลายคนตั้งใจฝึกมากจึงเกร็งใบหน้า คิ้วขมวด หน้าตาเครียด เกร็งคอเกร็งร่างกายจนเส้นเสียงยืดไม่ได้ ขึ้นเสียงสูงไม่ได้ หายใจไม่สบาย ขั้นตอนแรกในการฝึกร้องเพลงคือต้องผ่อนคลายร่างกายและใบหน้า เพื่อให้ใบหน้าดูสบายและเส้นเสียงสามารถยืดและขึ้น ...

การร้องเพลงให้ไพเราะควรปฏิบัติตนอย่างไร

วีธีร้องเพลงเบื้องต้น.
หาเพลงที่ชอบมาฟังหลายๆรอบ.
ฮัมเพลงให้ถูกตามจังหวะและทำนอง โดยไม่สนความถูกต้องของเนื้อเพลง.
ฝึกการจำเนื้อเพลง ด้วยการอ่าน การร้องตาม.
เมื่อร้องได้แล้ว ให้ใส่อารมณ์และความรู้สึกแทรกเข้าไปในบทเพลงด้วย.