ลมมรสุมที่มีอิทธิพลต่อประเทศไทยมีกี่ชนิด อะไรบ้าง

ลมมรสุม

หลักของการเกิดลมมรสุมก็เป็นเช่นเดียวกับหลักของการเกิดลมบกลมทะเล หรือ ลมภูเขาและลมหุบเขา ซึ่งเกิดขึ้นจากความแตกต่างกันของอุณหภูมิระหว่างบริเวณสองแห่ง แต่ทว่า ระบบของการเกิดลมมรสุมปกคลุมบริเวณกว้างใหญ่กว่ามาก ซึ่งอาจจะกว้างยาวนับเป็นพันๆ กิโลเมตรได้ ความแตกต่างของอุณหภูมินี้ เป็นเหตุที่ทำให้เกิดความแตกต่างของความกดอากาศ คือ ในฤดูหนาว อุณหภูมิของทวีป จะเย็นกว่าอุณหภูมิของมหาสมุทร ความกดอากาศตามบริเวณแผ่นดิน จึงสูงกว่าความกดตามบริเวณมหาสมุทร โดยเหตุนี้ ลมในระดับต่ำๆ จึงพัดจากทวีปไปสู่มหาสมุทร ส่วนในฤดูร้อนอุณหภูมิของทวีปจะสูงกว่า อุณหภูมิของมหาสมุทร ความกดอากาศตามบริเวณแผ่นดินจึงน้อยกว่าความกดอากาศตามบริเวณมหาสมุทร โดยเหตุนี้ ลมในระดับต่ำจะพัดจากมหาสมุทรไปสู่ทวีป การพัดของลมในฤดูหนึ่งๆ นี้ เรียกว่า "ลมมรสุม"

ลมมรสุมที่มีอิทธิพลต่อประเทศไทยมีกี่ชนิด อะไรบ้าง
แบบของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ (ในทิศตามเส้นที่มีลูกศร) ซึ่งพัดผ่านประเทศไทยที่ระดับ ๖๐๐ เมตร เวลา ๑๗.๐๐ น. (เวลาประเทศไทย) วันอาทิตย์ที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๑๒

อิทธิพลของมรสุมมีมากที่สุดในทวีปเอเซีย บริเวณเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ณ บริเวณประเทศอินเดีย ปากีสถาน ไทย และแหลมอินโดจีน ในระหว่างฤดูหนาวผืนแผ่นดินใหญ่ของทวีปเอเชียจะถูกปกคลุมด้วยอากาศเย็น และมีความกดอากาศสูง ตั้งแต่ผิวพื้นไปจนถึงสูงประมาณ ๓ กิโลเมตร ส่วนตามบริเวณมหาสมุทรอินเดียจะมีความกดอากาศต่ำ ในลักษณะนี้ จะมีลมพัดจากระบบความกดอากาศสูง ไปสู่ระบบความกดอากาศต่ำ ระบบของลมในบริเวณนี้มักจะพัดจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือ สู่ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเรียกกัน ว่า "ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ" (northeast monsoon) กระแสลมนี้ค่อนข้างเย็น และมีความชื้นน้อย จึงมีฝนได้เพียงตามบริเวณชายฝั่งเท่านั้น เช่น ตามฝั่งอินโดจีน ส่วนบริเวณลึกเข้าไปในแผ่นดิน เช่น ตอนบนของประเทศไทย ฝนจะตกเป็นจำนวนน้อยมาก ฤดูนี้เรียกว่า ฤดูหนาว อยู่ในระหว่างเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนกุมภาพันธ์ ส่วนในฤดูร้อน ตั้งต้นจากเดือนมีนาคม ถึงเดือนตุลาคม อุณหภูมิบนผืนแผ่นดินใหญ่ของประเทศจีนจะร้อนกว่า และมีความกดอากาศน้อยกว่าอากาศตามบริเวณพื้นมหาสมุทรอินเดีย ในลักษณะ นี้ลมจะพัดจากมหาสมุทรอินเดียไปสู่แผ่นดินใหญ่ ลมนี้มักจะพัดจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เรียกว่า "มรสุมตะวันตกเฉียงใต้"(southwest monsoon) ลมชนิดนี้ค่อนข้างชื้น และพัดหอบไอน้ำไปได้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะลมมรสุมที่พัดผ่านประเทศไทยตอนบนขึ้นไป จะทำให้ฝนตกชุก ตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนตุลาคม จึงอาจเรียกว่า เป็นฤดูฝนได้

แบบของลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ (ในทิศตามเส้นที่มีลูกศร) ซึ่งพัดผ่านประเทศไทยที่ระดับ ๖๐๐ เมตร เวลา ๑๗.๐๐ น. (เวลาประเทศไทย) วันพุธที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๑๒
ลมมรสุมที่มีอิทธิพลต่อประเทศไทยมีกี่ชนิด อะไรบ้าง

กระแสลมอุ่น ซึ่งมีปริมาณไอน้ำสูง เมื่อพัดผ่านบริเวณภูเขาจะทำให้กระแสลมนี้ ลอยตัวขึ้น ในการลอยตัวขึ้นนี้ อากาศก็จะขยายตัว และเย็นลง ไอน้ำจะกลั่นตัวตกลงมาเป็น ฝน และพายุฟ้าคะนองอย่างหนัก ตัวอย่างของปรากฏการณ์ดังกล่าวนี้คือ ที่เมืองเชอราปุนจิ ในประเทศอินเดีย ได้เคยมีฝนตกมากถึง ๔๕๐ นิ้ว (๑๑,๒๕๐ มิลลิเมตร) ชั่วในระยะ เวลาเพียง ๔ เดือนเท่านั้น

ลมมรสุมอาจจะเกิดขึ้นในบริเวณอื่นๆ ของโลกได้ เช่น บริเวณตอนเหนือของทวีป ออสเตรเลีย บริเวณตะวันตกเฉียงใต้ ของสหรัฐอเมริกา บริเวณตะวันออกเฉียงใต้และ ตะวันตกของทวีแอฟริกา เพราะในระหว่างฤดูร้อน เมื่อผืนแผ่นดินมีอุณหภูมิ และความกดอากาศต่ำ ลมจากทะเลจะพัดเข้าหาผืนแผ่นดิน แต่ปรากฏการณ์ของมรสุมตามบริเวณ ที่ต่างๆ ของโลกดังกล่าว ยังไม่เด่นชัดเท่ากับปรากฏการณ์ของมรสุมตามบริเวณประเทศ อินเดีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งได้กล่าวมาแล้ว ซึ่งเราจะได้กล่าวถึงรายละเอียดของมรสุมในประเทศไทยต่อไปในหัวข้อภูมิอากาศของประเทศไทย

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ลมมรสุมที่มีอิทธิพลต่อประเทศไทยมีกี่ชนิด อะไรบ้าง

ภาพกลุ่มเมฆและฝนที่เกิดจากมรสุม

มรสุม เป็นการหมุนเวียนส่วนหนึ่งของลมที่พัดตามฤดูกาล คือ ลมประจำฤดู สาเหตุใหญ่ ๆ เกิดจากความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิของพื้นดิน และพื้นน้ำในฤดูหนาวอุณหภูมิของพื้นดินเย็นกว่า อุณหภูมิของน้ำในมหาสมุทร อากาศเหนือพื้นน้ำจึงมีอุณหภูมิสูงกว่า และลอยตัวขึ้นสู่เบื้องบน อากาศเหนือทวีปซึ่งเย็นกว่าไหลไปแทนที่ ทำให้เกิดเป็นลมพัดออกจากทวีป พอถึงฤดูร้อนอุณหภูมิของดินภาคพื้นทวีปร้อนกว่าน้ำในมหาสมุทร เป็นเหตุให้เกิดลมพัดในทิศทางตรงข้าม ลมมรสุมที่มีกำลังแรงจัดที่สุดได้แก่ ลมมรสุมที่เกิดในบริเวณภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปเอเชีย

การเปลี่ยนแปลงฤดูกาลในชั้นบรรยากาศ และวัฎจักรของฝน เนื่องจากความไม่เท่ากันของการรับและคายความร้อนของพื้นดินและน้ำ[1][2] โดยทั่วไปแล้วเป็นคำที่ใช้บรรยายช่วงของฤดูกาลเปลี่ยนแปลงที่มีฝนตก ในระดับโลกสามารถที่จะจำแนกมรสุมได้เป็น มรสุมแอฟริกันตะวันตก และ มรสุมเอเชียออสเตรเลีย คำว่า “มรสุม” ถูกใช้เป็นครั้งแรกในภาษาอังกฤษ ในอินเดียของบริเตน (ปัจจุบันคือ อินเดีย บังกลาเทศ และ ปากีสถาน) เพื่อสื่อถึงลมประจำฤดูกาลที่พัดจากอ่าวเบงกอล และทะเลอาหรับนำพาฝนคะนองเข้าไปสู่บริเวณอินเดียของบริเตน[3][4]

คำว่า "มรสุม" หรือ monsoon ในภาษาอังกฤษ มาจากคำว่า موسم [mausem] ในภาษาอารบิก แปลว่า ฤดูกาล

การศึกษาความเป็นมา[แก้]

ภาพถ่ายแนวภูเขากาสท์ส ของประเทศอินเดีย ถ่ายเมื่อฤดูแล้ง 28 สิงหาคม 2010

ลมมรสุมที่มีอิทธิพลต่อประเทศไทยมีกี่ชนิด อะไรบ้าง

ภาพถ่ายแนวภูเขากาสท์ส ของประเทศอินเดีย ถ่ายเมื่อฤดูฝน 28 สิงหาคม 2010

มรสุมของทวีปเอเชียมีความเป็นมาเกี่ยวข้องกับการยกตัวขึ้นของที่ราบสูงทิเบตหลังจากการชนกันของอนุทวีปอินเดียและทวีปเอเชียเมื่อ 50 ล้านปีก่อน[5] จาการศึกษาเก็บข้อมูลจากทะเลอาหรับและจากลมที่พัดฝุ่นที่ราบสูงโลเอส(อังกฤษ: en:Loess Plateau)ในประเทศจีน นักธรณีวิทยาส่วนใหญ่เชื่อว่าลมมรสุมเพิ่มความรุนแรงขึ้นเมื่อประมาณ 8 ล้านปีที่แล้ว จากการศึกษาซากดึกดำบรรพ์ของพืชในประเทศจีนและจากการเก็บข้อมูลตะกอนในทะเลจีนใต้ทำให้ทราบว่ามรสุมเริ่มเกิดขึ้นเมื่อ 15-20 ล้านปีที่ผ่านมาซึ่งเชื่อมโยงกับการยกตัวขึ้นของที่ราบสูงทิเบต[6]

มรสุมมีการเพิ่มกำลังขึ้นตามกาลเวลาโดยมีปัจจัยจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคน้ำแข็ง ไพลส์โตซีน จากการศึกษา แพลงก์ตอนทะเล พบว่า มรสุมอินเดีย เพิ่มกำลังแรงมากขึ้นเมื่อ 5 ล้านปีที่แล้ว หลังจากนั้น ในช่วงของยุคน้ำแข็งที่ระดับน้ำทะเลลดลงมีผลทำให้ร่องน้ำอินโดนีเซียปิด น้ำเย็นจากมหาสมุทรแปซิฟิกถูกกีดกวางไม่สามารถไหลไปยังมหาสมุทรอินเดียได้ จึงเป็นข้อสันนิษฐานว่าด้วยเหตุนี้ทำให้อุณหภูมิผิวน้ำของมหาสมุทรริอินเดียเพิ่มขึ้นและเป็นผลทำให้มรสุมเพิ่มความรุนแรงมากขึ้น

ผลกระทบ[แก้]

ผลกระทบของมรสุมต่อสภาพอากาศท้องถิ่นมีความแตกต่างกันออกไปตามสถานที่ ในบางแห่งเป็นเพียงการเพิ่มขึ้นหรือลดลงเล็กน้อยของปริมาณฝนที่ตก ในขณะที่บางสถานที่สามารถทำให้ภูมิประเทศที่แห้งแล้งกลับกลายเป็นสถานที่มีความเจริญงอกงามของพันธุ์พืช ยกตัวอย่างเช่น ลมมรสุมอินเดีย สามารถทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศอินเดียกลายสภาพจากแห้งแล้งกึ่งทะเลทรายให้เขียวขจี

กระบวนการเกิดมรสุม[แก้]

เมื่ออุณหภูมิของผืนดินสูงกว่าหรือต่ำกว่าอย่างมากเมื่อเปรียบเทียบกับอุณหภูมิของน้ำ ความไม่สมดุลของอุณหภูมินี้เกิดจากความสามารถในการรับความร้อนที่ต่างกัน บริเวณเหนือพื้นผิวน้ำอุณหภูมิพื้นผิวจะมีความเสถียรด้วยเหตุผลสองอย่าง อย่างแรก คือ น้ำมีค่าสัมประสิทธิ์การนำความร้อนที่สูงกว่า(3.9 ถึง 4.2 J g−1 K−1)[7] และ อย่างที่สอง จากการนำความร้อนและการพาความร้อนช่วยในการรักษาอุณหภูมิให้มีความสมดุลกับมวลน้ำที่อยู่ในระดับที่ลึกลงไป (จนถึง 50 เมตร) ในทางตรงกันข้าม พื้นดินประกอบด้วย ดิน หิน ทราย ฝุ่น ฯลฯ มีค่าสัมประสิทธิ์การนำความร้อนที่ต่ำกว่า (0.19 ถึง 0.35 J g−1 K−1),[8] และสามารถถ่ายเทความร้อนสู่พื้นโลกได้เฉพาะวิธีการนำความร้อนเท่านั้น ไม่สามารถพาความร้อนได้ จึงเป็นเหตุผลให้อุณหภูมิของน้ำมีความเสถียรมากกว่าอุณหภูมิของพื้นดินที่มีการเปลี่ยนแปลงไปมา

ลมมรสุมที่มีอิทธิพลต่อประเทศไทยมีกี่ชนิด อะไรบ้าง

ในช่วงที่มีสภาพอากาศอบอุ่น แสงแดดทำให้อุณหภูมิทั้งของพื้นดินและน้ำเพิ่มสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ดีอุณหภูมิของพื้นดินจะเพิ่มสูงขึ้นเร็วกว่า เมื่อพื้นดินมีอุณหภูมิที่สูงกว่าทำให้อากาศเหนือพื้นดินขยายตัวขึ้นเกิดเป็นบริเวณความกดอากาศต่ำ ในขณะที่อุณหภูมิเหนือผิวน้ำมีค่าต่ำกว่า ทำให้มีความหนาแน่นมวลอากาศที่สูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกัน ด้วยความแตกต่างของความกดอากาศระหว่างสองบริเวณทำให้เกิดลมทะเลซึ่งพัดจากทะเลเข้าสูงฝั่ง นำพามวลอากาศที่ชื้นเข้าสู่แผ่นดิน มวลอากาศที่ชื้นเหล่านี้จะยกตัวสูงขึ้นเมื่อเคลื่อนที่ผ่านแผ่นดิน และลอยย้อนกลับไปสู่มหาสมุทร(ในลักษณะของวงจรวัฏจักร) โดยที่มวลอากาศเมื่ออยู่เหนือแผ่นดินและลอยสูงขึ้นทำให้มีการเย็นตัวลง จึงทำให้เกิดฝนตกฝนตกขึ้นในบริเวณแผ่นดิน

ในช่วงที่มีสภาพอากาศหนาวเย็น จะเกิดวัฏจักรเช่นเดียวกันแต่เป็นในทางตรงกันข้าม กล่าวคือ พื้นดินมีอุณหภูมิที่ลดลงเร็วกว่าพื้นน้ำ รวมทั้งบริเวณเหนือพื้นดินมีความกดอากาศที่หนาแน่นมากกว่าอากาศบริเวณเหนือพื้นน้ำ มวลอากาศบริเวณเหนือพื้นดินจะเคลื่อนตัวไปยังมหาสมุทร เมื่อมวลอากาศเย็นตัวลงจึงเป็นผลทำให้เกิดเป็นฝนตกขึ้นเหนือบริเวณพื้นน้ำ หลังจากนั้นมวลอากาศที่เย็นจะลอยตัวกลับมายังแผ่นดิน เกิดเป็นวงจรวัฏจักรขึ้นเช่นเดียวกัน

มรสุมหน้าร้อนส่วนใหญ่จะเป็นลมที่พัดมาจากฝั่งตะวันตก และมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดฝนตกเป็นจำนวนมาก (เนื่องมาจากการควบแน่นของไอน้ำเมื่ออากาศยกตัวขึ้น) โดยจะมีโอกาสที่จะเกิดและระยะเวลาที่แตกต่างกันไปในแต่ละปี มรสุมหน้าหนาว ในทางตรงกันข้ามเป็นลมที่พัดมาจากทางตะวันออก มีแนวโน้มที่จะแพร่กระจายออก และ เป็นเหตุที่ทำให้เกิดความแห้งแล้ง

อ้างอิง[แก้]

  1. Trenberth, .K.E., Stepaniak, D.P., Caron, J.M., 2000, The global monsoon as seen through the divergent atmospheric circulation, Journal of Climate, 13, 3969-3993.
  2. "On Air–Sea Interaction at the Mouth of the Gulf of California", Paquita Zuidema and Chris Fairall, in Journal of Climate, Volume 20, Issue 9, May 2007, published by the American Meteorological Society
  3. Glossary of Meteorology (June 2000). "Monsoon". American Meteorological Society. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-03-22. สืบค้นเมื่อ 2008-03-14.
  4. International Committee of the Third Workshop on Monsoons. The Global Monsoon System: Research and Forecast. Archived 2008-04-08 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Retrieved on 2008-03-16.
  5. ROYDEN, L.H., BURCHFIEL, B.C., VAN DER HILST, Rob, WHIPPLE, K.X., HODGES, K.V., KING, R.W., and CHEN, Zhiliang. UPLIFT AND EVOLUTION OF THE EASTERN TIBETAN PLATEAU. Archived 2008-05-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Retrieved on 2008-05-11.
  6. P. D. Clift, M. K. Clark, and L. H. Royden. An Erosional Record of the Tibetan Plateau Uplift and Monsoon Strengthening in the Asian Marginal Seas. Retrieved on 2008-05-11.
  7. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-08-09. สืบค้นเมื่อ 2015-06-18.
  8. http://www.engineeringtoolbox.com/specific-heat-solids-d_154.html

ผมไม่รู้มากเกินไปนาจา ;))))))))))))))))))))0

ประเทศไทยได้รับอิทธิพลของลมประเภทใด

ประเทศไทยอยู่ในเขตร้อนและได้รับจากอิทธิพลของมรสุม 2 ทิศทาง คือ ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ โดยลมมรสุมตะวันตกเฉียง ใต้ จะพัดปกคลุมประเทศไทย กลางเดือนพฤษภาคมถืงเดือนตุลาคม พัดเอาความ ชุ่มชื้นจากทะเล อันดามันและมหาสมุทรอินเดียเข้าสู่พื้นทวีป ท าให้เกิดฝนตก บริเวณที่พัดผ่าน ส่วนลมตะวันออกเฉียงเหนือจะ ...

มรสุมมีผลต่อการเกิดฤดูของประเทศไทยอย่างไร

ลมมรสุมหรือลมสินค้า ที่มีอิทธิพลต่อภูมิอากาศของประเทศไทยมี 2 ลม ลมแรกคือ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งพัดปกคลุมประเทศไทยช่วงเดือนพฤษภาคม ถึง กลางเดือนตุลาคม คือฤดูฝนนั่นเอง แหล่งกำเนิดจากบริเวณความกดอากาศสูงในซีกโลกใต้ บริเวณมหาสมุทรอินเดีย เมื่อพัดออกจากศูนย์กลางเป็นลมตะวันออกเฉียงใต้ และเปลี่ยนเป็นลมตะวันตกเฉียงใต้ เมื่อ ...

ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือก่อให้เกิดผลกระทบต่อประเทศไทยอย่างไร

1. ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ เป็นลมที่พัดมาจากไซบีเรียผ่านประเทศจีน ซึ่งมีคุณสมบัติเย็นและแห้ง อีกส่วนหนึ่งผ่านทะเลจีนตอนใต้และอ่าวไทยจะนำความชุ่มชื้นมาสู่ภาคใต้ จึงทำให้ฝนตกชุกหนาแน่น ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป

เมื่อประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ จะเกิดปรากฏการณ์ใด

มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ พัดปกคลุมประเทศไทยระหว่างกลางเดีอนพฤษภาคมถึง กลางเดือนตุลาคม โดยมีแหล่งกำเนิดจากบริเวณความกดอากาศสูงในซีกโลกใต้ บริเวณมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งพัดออกจากศูนย์กลางเป็นลมตะวันออกเฉียงใต้ และเปลี่ยนเป็น ลมตะวันตกเฉียงใต้เมื่อพัดข้ามเส้นศูนย์สูตร มรสุมนี้จะนำมวลอากาศชื้นจากมหาสมุทรอินเดีย มาสู่ประเทศไทย ...