โยนิโสมนสิการ คือ การทำในใจให้แยบคายวิธีคิดอย่างรอบคอบ โดยสืบค้าหาเหตุผลไปตามลำดับจนถึงต้นเหตุแยะแยกจนสามารถเห็นความสัมพันธ์ระหว่างเหตุปัจจัยกับผลที่เกิดขึ้น เป็นวิธีการแห่งการใช้ปัญญาในการแก้ปัญหา Show วิธีคิดแบบโยนิโสมนสิการ โยนิโสมนสิการมีหลายวิธีที่ใช้ประโยชน์ได้ทั้งกำจัดอวิชชาและบรรเทาตัณหาไปพร้อมกันได้
แบ่งได้ ๑๐ วิธี กล่าวคือ ๑. วิธีคิดแบบสืบสาวเหตุปัจจัย ๑.วิธีคิดแบบสามัญลักษณะ วิธีคิดแบบสามัญลักษณะ คือ วิธีคิดแบบไตรลักษณ์ ไตรลักษณ์ แปลว่า สามัญลักษณะหรือลักษณะทั่วไปของสิ่งทั้งปวง ๓ ประการ ได้แก่ ๑.อนิจจตา ๒.ทุกขตา ๓.อนัตตตา ๑.อนิจจาตา เป็นภาษาบาลี แปลว่า ความไม่เที่ยง ตัวอย่างในแง่ของมนุษย์ เช่น มนุษย์ในสภาพเบื้องต้นจากการเป็นเด็กทารกแล้วเติบโตจนเป็นวัยผู้ใหญ่ ตัวอย่างในแง่สิ่งไม่มีชีวิต เช่น บ้านหลังนี้เมื่อสร้างเสร็จทาสีสวยงาม ครั้นเวลาผ่านไปกลายเป็นบ้านเก่า ๒.ทุกขตา หรือ ทุกข์ ความหมายถึง ความคงทนอยู่ไม่ได้ อันเนื่องมาจากความไม่สมบูรณ์ในตนเอง มนุษย์คนเราไม่สามารถบังคับให้คงอยู่สภาพเดิมอยู่ได้ เพราะร่างกายล้วนเป็นสิ่งไม่เที่ยง เช่น จากผมดำกลายเป็นผมหงอก ๓.อนัตตตา แปลว่า ความไม่ใช่ตัวตนและความไม่มีตัวตนที่แท้จริง ความไม่ใช่ตัวตนในแง่มนุษย์ ดูได้จากร่างกายของมนุษย์ว่าเกิดขึ้นมาจากการประกอบกันของอวัยวะ เช่น แขน ขา ศีรษะ ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า “สิ่งนั้นไม่ใช่ของเรา เราไม่ใช่สิ่งนั้น สิ่งนั้น (จึง)มิใช่ตัวตนที่แท้จริงของเรา” ๒.วิธีคิดแบบเป็นอยู่ในปัจจุบัน วิธีคิดแบบเป็นอยู่ในปัจจุบัน หมายถึง วิธีคิดเฉพาะเรื่องปัจจุบัน ไม่ไปยึดติดและใส่ในในเรื่องของอดีตที่มันผ่านมาแล้ว และไม่พะวงถึงอนาคตที่ยังไม่เกิดขึ้น เช่น กำลังอ่านหนังสืออยู่ใจก็จะอยู่ที่หนังสือไม่คิดเรื่องอื่น วิธีการฝึกสติเพื่อการเจริญปัญญาโยนิโสมนสิการ หมายถึง การคิดของบุคคลที่ต้องมีสติปัญญาเป็นตัวกำกับ ซึ่งทำให้บุคคลสามารถคิดเป็น วิเคราะห์เป็น โดยคิด และวิเคราะห์ได้อย่างถูกวิธี มีระบบ มีระเบียบ ต่อเนื่องจากเหตุสู่ผล เชื่อมโยงกันภายใต้พื้นฐานของคุณธรรมที่จะนำไปสู่การปฏิบัติ และการแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสม อย่างนี้ เรียกว่า การคิดแบบมีเหตุผลจนทำให้เกิดปัญญา • โยนิโสมนสิการ มาจาก 2 คำ คือ โยนิโส + มนสิการ การทำใจให้แยบคาย เป็นปัจจัยในการรับรู้ผัสสะจากภายนอก อันจะเป็นตัวกั้นกระแสความคิดไม่ให้ปรุงแต่งตามตัณหา ความทะยานอยากที่เป็นองค์ประกอบภายในของของตนเอง ทำให้พิจารณาสิ่งๆอย่างถูกต้องเหมาะสม ดังนั้น โยนิโสมนสิการ จึงมีความหมายของการคิดที่เป็นระบบ คิดเป็นระเบียบ และคิดมีเหตุผล ความหมายโยนิโสมนสิการจากบุคคลต่างๆ กิตติ พัฒนตระกูลสุข กล่าวถึง โยนิโสมนสิการว่า เป็นการสอนให้รู้จักคิดเป็นคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล คิดในทางที่จะเข้าถึงความจริงทั้งหลาย คิดในทางที่จะทำให้รู้จักใช้สิ่งทั้งหลายให้เป็นประโยชน์ ความสำคัญของโยนิโสมนสิการ ดังนั้น บุคคลที่คิดแบบเป็นโยนิโสมนสิการจะมีกระบวนการคิดวิเคราะห์ภายใต้พื้นฐานเหตุ และผล นั่นคือ การเกิดสภาวะผู้มีปัญญา ด้วยการใช้ความคิดวิเคราะห์ไตร่ตรองในเหตุ และผล นำไปสู่การรับรู้ความจริง และการหาแนวทางในการแก้ปัญหาที่เหมาะสม วิธีการคิดแบบโยนิโสมนสิการ 2. ปัจจัยภายใน เป็นปัจจัยที่เกิดขึ้นจากอารมณ์ และความนึกคิดของตัวบุคคลภายใต้พื้นฐานที่ไม่นำความรู้สึกที่คล้อยตามตัณหาของตนเข้าเกี่ยวข้อง ทำให้บุคคลนั้นๆ รู้จักมอง รู้จักพิจารณาในเหตุตามสภาวะความเป็นจริง วิธีคิดแบบโยนิโสมนสิการไว้ 10 วิธี 2. วิธีคิดแบบแยกส่วน •
ข้อพิจาณาประกอบการคิดแบบแยกส่วน 3. วิธีคิดแบบสามัญลักษณ์ 4. วิธีคิดแบบอริยสัจ มีวิธีการปฏิบัติ 4 ขั้นตอน คือ 5.
วิธีคิดแบบอรรถธรรมสัมพันธ์ 6. วิธีคิดแบบพิจารณาคุณโทษ และหาทางออก 7. วิธีคิดแบบรู้คุณค่าแท้ – คุณค่าเทียม 8. วิธีคิดแบบอุบายปลุกเร้าคุณธรรม 9. วิธีคิดแบบอยู่กับปัจจุบัน 10. วิธีคิดแบบวิภัชชวาท ดังนั้น การที่จะเกิดวิธีคิดแบบโยนิโสมนสิการได้นั้น ต้องอาศัยทั้งปัจจัยภายนอก และปัจจัยภายในมาสนับสนุนซึ่งกันและกัน ซึ่งสิ่งสำคัญ คือ การมีกัลยาณมิตรที่ดีที่เป็นปัจจัยภายนอก ที่จะมาช่วยเสริมสร้างศรัทธาให้เกิดขึ้นในทางที่ถูกต้อง เพื่อให้เกิดปัจจัยภายในตามมา คือ วิธีการคิดแบบโยนิโสมนสิการซึ่งทำให้ผู้นั้นเกิดการคิดเป็น และคิดในสิ่งที่ถูกต้อง โดยใช้การคิดในพื้นฐานของปัญญาอย่างมีระเบียบแบบแผน และครอบคลุมในประเด็นทุกมิติที่เกี่ยวข้อง แต่ต้องมองทุกแง่ทุกอย่างเชื่อมโยงเป็นขั้นตอน เพื่อพัฒนาสัมมาทิฐิที่จะนำคนไปสู่การประพฤติปฏิบัติตนในชีวิตประจำวันที่ถูกต้องหรือมีวิถีการดำเนินชีวิตที่ดีงามในสังคม การสอนแบบโยนิโสมนสิการ รูปแบบกิจกรรมการเรียนตามแนวโยนิโสมนสิการ การสร้างเจตคติที่ดีต่อครู
วิธีการเรียน และบทเรียน 2. การสร้างความสัมพันธ์ 3. การเสนอสิ่งเร้า และแรงจูงใจ ตัวอย่างขั้นการสอนเพื่อให้แก้ไขปัญหา วิธีคิดแบบโยนิโสมนสิการนำไปสู่การพัฒนาด้านใดมากที่สุดเพราะโยนิโสมนสิการเป็นการฝึกใช้ความคิด ให้การรู้จักคิดหรือคิดอย่างถูกวิธี คิดอย่างมีระบบ ระเบียบ วิเคราะห์แยกแยะสิ่งต่าง ๆ อย่างครอบคลุมรอบคอบ ทำให้เกิดความรู้ความเข้าใจอันจะ นำไปสู่การพัฒนาปัญญาในที่สุด
การคิดแบบสามัญลักษณะมีวิธีการคิดแบบใด3. วิธีคิดแบบสามัญลักษณ์ เป็นวิธีคิดแบบรู้เท่าทันความเป็นไปของธรรมชาติ การคิดอย่างรู้เท่าทันและยอมรับความจริง แก้ไขและทำการไปตามเหตุและปัจจัย บรรยายโดย น.ท.หญิง ดร. ภัทรภรณ์ ภัทรโยธิน อาจารย์ วิทยาลัยพยาบาลทหารอากาศ ควบคุมการผลิต โดย …
|