“ไปฝากครรภ์ ต้องเตรียมตัวอย่างไร ใช้เอกสารอะไรบ้าง สามารถเบิกประกันสังคมได้ไหม เบิกอย่างไร” เป็นสิ่งที่คู่สามีภรรยาหลายคู่สงสัย โดยเฉพาะในผู้ที่ตั้งครรภ์เป็นครั้งแรก ซึ่งในวันนี้ HDmall.co.th จะมาไขข้อสงสัยต่างๆ ให้คุณเอง! Show การฝากครรภ์นั้น ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษ คุณแม่สามารถรับประทานอาหารและเครื่องดื่มได้ตามปกติ หลังจากที่ลงทะเบียน เจ้าหน้าที่จะพาไปพบคุณหมอแล้ว ซึ่งแพทย์จะทำการซักประวัติ ตรวจร่างกาย ตรวจเลือด และตรวจปัสสาวะ แล้วทำการนัดตรวจฝากครรภ์ครั้งต่อไปนั่นเอง เอกสารที่ใช้ในการฝากครรภ์ มีอะไรบ้าง?การฝากครรภ์ครั้งแรกจะต้องทำการลงทะเบียนกับโรงพยาบาลที่ไปใช้บริการ จึงจะต้องเตรียมเอกสารต่อไปนี้
หลังจากเข้ารับการฝากครรภ์ครั้งแรกเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณหมอจะบันทึกข้อมูลลงใน “สมุดฝากครรภ์” หรือในบางโรงพยาบาลอาจเรียกว่า “สมุดบันทึกสุขภาพแม่และเด็ก” หรือ “ใบฝากครรภ์” ซึ่งเปรียบเสมือนบัตรปจำตัวของหญิงตั้งครรภ์ที่จำเป็นต้องพกติดตัวเสมอ สมุดฝากครรภ์ จะช่วยให้คุณหมอรู้ข้อมูลของมารดาและทารกในครรภ์ สามารถนำมาประกอบการประเมินในแต่ละครั้ง ทำให้ดูแลรักษาได้อย่างถูกต้องนั่นเอง เบิกประกันสังคม ฝากครรภ์ ใช้เอกสารอะไรบ้าง?ในผู้ที่มีสิทธิประกันสังคม สามารถเบิกค่าฝากครรภ์ได้สูงสุด 1,500 บาท โดยแบ่งจ่าย 5 ครั้ง ตามจำนวนการฝากครรภ์คุณภาพที่ใช้การฝากครรภ์ที่ไม่มีภาวะเสี่ยง มีรายละเอียดดังนี้
การเบิกค่าฝากครรภ์นั้น สามารถเลือกใช้สิทธิประกันสังคมได้ทั้ง “ฝ่ายชาย” หรือ “ฝ่ายหญิง” โดยสามารถเลือกใช้สิทธิได้แค่คนเดียว ไม่สามารถใช้สิทธิซ้ำได้ มาเบิกที่สำนักงานประกันสังคม ใช้เอกสารดังนี้
การฝากครรภ์เป็นสิ่งสำคัญในหญิงตั้งครรภ์ เพราะจะช่วยให้แพทย์ดูแลสุขภาพของมารดาและทารกได้อย่างใกล้ชิด ทำให้การตั้งครรภ์และคลอดบุตรเป็นไปอย่างปลอดภัย กำลังมองหาโรงพยาบาลชั้นนำเพื่อฝากครรภ์และคลอดบุตรอยู่ใช่ไหม HDmall.co.th ได้รวมรวมแพ็กเกจดีๆ มาไว้ให้คุณแล้ว กดเปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจฝากครรภ์และคลอดบุตร ของแต่ละโรงพยาบาลได้เลย หรือสอบถามแอดมินได้ที่ไลน์ @hdcoth มีโปรโมชั่นดี ผ่อนฟรี 0% ด้วยน้า เมื่อเบบี้มา คุณแม่หลายท่านคงตื่นเต้น ดีใจไม่ใช่น้อย และเตรียมพร้อมดูแลสุขภาพกันถ้วนหน้า แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ลืมไปไม่ได้เลย นั่นคือ การเช็กสิทธิประกันสังคม สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่เป็นผู้ประกันตน ซึ่งสามารถขอรับผลประโยชน์ได้ตั้งแต่ตั้งครรภ์ ไปจนถึงสิทธิในการเลี้ยงดูบุตรเลยทีเดียว สำหรับบทความนี้ จะพาตามไปใช้สิทธิ์ให้คุ้มค่า โดยเช็กว่าสิทธิประโยชน์ของประกันสังคมฉบับล่าสุด สำหรับคุณแม่ ตั้งแต่ขณะตั้งครรภ์ คลอดบุตร ไปจนถึงการดูแลบุตร จะได้รับสิทธิประโยชน์จากประกันสังคมอะไรบ้าง และเบิกได้เท่าไหร่สิทธิประกันสังคม ขณะตั้งครรภ์ประกันสังคมได้ให้สิทธิประโยชน์สำหรับคุณแม่ตั้งแต่มีเบบี้อยู่ในท้อง ซึ่งคุณแม่สามารถเบิกค่าฝากครรภ์ วงเงินรวมทั้งหมด 1,500 บาท (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2564) ตามเงื่อนไขกำหนด ดังนี้ • สามารถเบิกค่าฝากครรภ์ ได้ทั้งสามี และภรรยา ที่เป็นผู้ประกันตน โดยเลือกใช้สิทธิประกันสังคมของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่านั้น • เข้ารับการฝากครรภ์ในสถานพยาบาล หรือคลินิกตามมาตรฐานงานอนามัยแม่และเด็กกระทรวงสาธารณสุข วงเงิน 1,500 บาท เบิกได้ตามอายุครรภ์ ดังนี้
เอกสารประกอบการเบิกเงินทดแทน กรณีฝากครรภ์ มีอะไรบ้าง ? 1. แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทน สปส. 2-01 ผู้ประกันตนกรอกข้อความครบถ้วน พร้อมลงลายมือชื่อผู้ยื่นคำขอ 2.บัตรประจำตัวประชาชน ( ฉบับจริง ) 3. สำเนาสูติบัตรบุตร 1 ชุด (กรณีคลอดบุตรแฝดให้แนบสำเนาสูติบัตรของคู่แฝดด้วย) 4. สำหรับผู้ประกันตนชายให้แนบสำเนาทะเบียนสมรส กรณีไม่ได้จดทะเบียนสมรสให้แนบหนังสือรับรองของผู้ประกันตนกรณีไม่มีทะเบียนสมรส 5.กรณีเปลี่ยนชื่อ ชื่อสกุลให้แนบสำเนาเอกสารใบเปลี่ยนชื่อ ชื่อสกุลด้วย จำนวน 1 ชุด 6. สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากประเภทออมทรัพย์ของธนาคารหน้าแรกที่มีชื่อ–เลขที่บัญชี (กรณีขอรับเงินทางธนาคาร) มี 9 ธนาคาร ดังนี้ ธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) // ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) // ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)//ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) // ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) // ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) // ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย // ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน) สิทธิประกันสังคม เมื่อคลอดบุตรค่าคลอดบุตรประกันสังคม เหมาจ่าย จำนวนวงเงิน 15,000 บาท/ครั้ง นอกจากคุณแม่จะได้รับสิทธิประโยชน์ด้านการเบิกค่าฝากครรภ์แล้ว เมื่อถึงกำหนดคลอดบุตร ยังได้ค่าบริการทางการแพทย์แบบเหมาจ่าย ซึ่งใช้สิทธิประกันสังคมได้ทั้งฝ่ายสามี และภรรยา ที่เป็นผู้ประกันตน โดยเลือกใช้สิทธิประกันสังคม ค่าคลอดบุตรได้เพียงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่านั้น เงื่อนไขการใช้สิทธิประกันสังคมคลอดบุตร ดังนี้ • จะต้องเป็นผู้ประกันตน จ่ายเงินสมทบมาไม่น้อยกว่า 5 เดือน หรือภายใน 15 เดือน ก่อนครบกำหนดเดือนคลอดบุตร จึงจะสามารถเบิกค่าคลอดประกันสังคมได้ •เบิกค่าคลอดบุตรได้ โดยไม่จำกัดจำนวนบุตร/ครั้ง 1.แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทน สปส. 2-01 ผู้ประกันตนกรอกข้อความครบถ้วน พร้อมลงลายมือชื่อผู้ยื่นคำขอ 2.สำเนาสูติบัตรบุตร 1 ชุด (กรณีคลอดบุตรแฝดให้แนบสำเนาสูติบัตรของคู่แฝดด้วย) 3.สำหรับผู้ประกันตนชายให้แนบสำเนาทะเบียนสมรส กรณีไม่ได้จดทะเบียนสมรสให้แนบหนังสือรับรองของผู้ประกันตนกรณีไม่มีทะเบียนสมรส 4.สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์หน้าแรก ซึ่งมีชื่อและเลขที่บัญชีของผู้ยื่นคำขอมีธนาคาร ดังนี้ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) // ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) // ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) // ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) // ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) // ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) // ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) // ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย // ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน) นอกจากนี้หากผู้ขอรับประโยชน์ทดแทนไม่เห็นด้วยกับการสั่งจ่ายประโยชน์ทดแทนตามที่กำหนดไว้ สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง หมายเหตุ : มีผลบังคับใช้ตามสิทธิประกันสังคมคลอดบุตร 2564 นับตั้งแต่ 1 มกราคม 2564 สิทธิประกันสังคม หลังคลอดบุตร และสิทธิในการดูแลบุตรในกรณีหลังจากคลอดบุตรแล้ว คุณแม่จะได้รับสิทธิประโยชน์อีก 2 ต่อ นั่นคือ เงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตร เบิกได้ 50 % ของค่าจ้าง สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท โดยเฉลี่ยเป็นเวลา 90 วัน หรือ 3 เดือน และจะได้รับเงินสงเคราะห์บุตรเหมาจ่ายเดือนละ 800 บาท/บุตรหนึ่งคน •เงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตร จะสามารถใช้สิทธิ์ได้เฉพาะฝ่ายหญิงเท่านั้น •สามารถใช้สิทธิประกันสังคมรับเงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตร ได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ดังนั้น บุตรคนที่ 3 จะไม่ได้รับเงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตร •จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือน ก่อนวันรับบริการทางการแพทย์เพื่อการคลอดบุตร (คุ้มครองต่ออีก 6 เดือน เมื่อความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง) •กรณีกลับมาทำงานก่อนถึงครบกำหนด 90 วัน คุณแม่จะยังได้รับเงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตรตามปกติ หมายเหตุ : เอกสารประกอบการยื่นคำขอประโยชน์ทดแทน เช่นเดียวกับกรณีคลอดบุตร นอกจากสิทธิประโยชน์จากทางประกันสังคมที่คุณแม่จะได้รับ ยังมีค่าชดเชย ตามพรบ.คุ้มครองแรงงาน ที่นายจ้างต้องจ่ายเงินให้กับลูกจ้างกรณีลาคลอดบุตร 45 วัน หรือสวัสดิการอื่นๆ ในการล่าคลอดจากองค์กร หรือบริษัทที่คุณแม่ทำงาน ทั้งนี้นโยบายต่างๆ ขึ้นอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์ขององค์กร แนะนำให้คุณแม่ติดต่อ สอบถามจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในองค์กรจะเป็นการดีที่สุด และเพื่อรักษาผลประโยชน์ในการลาคลอด เงื่อนไขการมีสิทธิ์รับเงินสงเคราะห์บุตร ดังนี้ • ต้องเป็นผู้ประกันตน ตามมาตรา 33 หรือ มาตรา 39 • จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน ภายในระยะเวลา 36 เดือน ก่อนเดือนที่มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน • สงเคราะห์บุตรจำนวนเงิน 800 บาท/บุตรหนึ่งคน ตั้งแต่แรกเกิด จนถึง 6 ปีบริบูรณ์ จำนวนไม่เกิน 3 คน โดยจะต้องเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย • กรณีบุตรเสียชีวิต หรือบุตรบุญธรรม หรือบุตรซึ่งยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของบุคคลอื่น จะไม่ได้รับสิทธิเงินสงเคราะห์บุตร เอกสารประกอบการเบิกเงินทดแทน กรณีคลอดบุตร มีอะไรบ้าง? 1.แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกองทุนประกันสังคม (สปส. 2-01) 2.กรณีผู้ประกันตนเคยยื่นใช้สิทธิแล้วและประสงค์จะใช้สิทธิสำหรับบุตรคนเดิม ให้ใช้หนังสือขอใช้สิทธิบุตรคนเดิมกรณีกลับเข้าเป็นผู้ประกันตน จำนวน 1 ฉบับ 3.กรณีผู้ประกันตนหญิงใช้สิทธิ ใช้สำเนาสูติบัตรบุตร (กรณีคลอดบุตรแฝดให้แนบสำเนาสูติบัตรของคู่แฝดด้วย) จำนวน 1 ชุด 4.กรณีผู้ประกันตนชายใช้สิทธิ ใช้สำเนาทะเบียนสมรส หรือสำเนาทะเบียนหย่าพร้อมบันทึกแนบท้ายของผู้ประกันตนหรือสำเนาทะเบียนรับรองบุตร หรือสำเนาคำพิพากษา หรือคำสั่งของศาลให้เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย จำนวน 1 ชุด และสำเนาสูติบัตรบุตร (กรณีคลอดบุตรแฝดให้แนบสำเนาสูติบัตรของคู่แฝดด้วยจำนวน 1 ชุด) 5.กรณีเปลี่ยนชื่อ ชื่อสกุลให้แนบสำเนาเอกสารใบเปลี่ยนชื่อ ชื่อสกุลด้วย จำนวน 1 ชุด 6.กรณีผู้ประกันตนต่างชาติขอรับประโยชน์ทดแทนให้ใช้สำเนาบัตรประกันสังคม และสำเนาหนังสือเดือนทาง (passport) หรือสำเนาหนังสือเดินทางชั่วคราว หรือเอกสารรับรองบุคคลที่ทางราชการออกให้ จำนวน 1ชุด 7.สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์หน้าแรกที่มีชื่อ และเลขที่บัญชีของผู้ยื่นคำขอ จำนวน 1 ฉบับ ผ่านทางบัญชีธนาคารของผู้ประกันตน ดังนี้ ธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) // ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน) // ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) // ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) // ธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน) // ธนาคารทหารไทย จำกัด(มหาชน) // ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) // ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย // ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จำกัด(มหาชน) 8.เอกสารประกอบการยื่นคำขอฯ ที่เป็นสำเนาให้รับรองความถูกต้องของสำเนาทุกฉบับ และแสดงเอกสารที่เป็นต้นฉบับเมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบ กรณีเอกสารหลักฐานสำคัญต่อการพิจารณาเป็นภาษาต่างประเทศให้จัดทำคำแปลเป็นภาษาไทยและรับรองความถูกต้องให้ครบถ้วน หากคุณแม่ หรือคุณพ่อ ต้องการข้อมูลเรื่องสิทธิประโยชน์สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ หรือสอบถามเรื่องสิทธิประกันสังคมด้านอื่นๆ เพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่สำนักงานประกันสังคม หรือ www.sso.go.th หรือโทรสายด่วน 1506 ได้เลยค่ะ หรือหากมีคำถามใดๆเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ช่อง comment ด้านล่าง ได้เลยนะคะ ทาง admin จะรีบหาข้อมูลมาตอบกลับให้ค่ะ หรือคุณพ่อ คุณแม่ สามารถติดต่อไปที่สายด่วนประกันสังคมได้โดยตรงเช่นกันค่ะ ✅✅✅✅✅ หากต้องการตรวจคัดกรองดาวน์ซินโดรม และโครโมโซมครบ 23 คู่ รู้เพศ และโรคอื่นๆได้มากถึง 84 โรคกับ Brand NIFTY หรือ การตรวจ nifty และ NGD NIPS |