เพศศึกษามีความสำคัญต่อผู้เรียนอย่างไร

เพศวิถีศึกษา กระบวนการ เป็ศึกษาที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ตั้งแต่เกิดจนตาย เป็นกรรมวิธีที่จะให้บุคคลได้เรียนรู้ธรรมชาติ ความเป็นจริงของชีวิตและสังคม เพื่อให้บุคคลมีความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมที่ถูกต้องในเรื่องเพศ ตลอดจนสามารถปรับตัวตามพัฒนาการชีวิตได้อย่างเหมาะสม

เพศวิถีศึกษา มิใช่การสอนเรื่องเพศสัมพันธ์ แต่เป็นการให้ความรู้และสอนให้รู้จักบทบาทและคุณค่าของ

ความเป็นชายและหญิงในสังคม

เพศวิถีศึกษา จึงมีความสำคัญต่อเด็กและเยาวชนไทยในการสร้างความเข้าใจและเห็นคุณค่าของตนเอง ครอบครัวมีทักษะในการดำเนินชีวิตสามารถรู้เท่าทันภัยของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โรคเอดส์ และการป้องกันการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร การให้ความรู้ที่ถูกต้องจะช่วยให้เด็กและเยาวชนซึ่งเป็นกำลังของชาติมีอนาคตที่ดี ไม่ก่อให้เกิดปัญหาต่อสังคม

สาเหตุที่ต้องเรียนรู้เรื่องเพศวิถีศึกษา

สาเหตุที่ต้องเรียนรู้เรื่องเพศวิถีศึกษา คือ

1. เรื่องเพศเป็นความจําเป็นที่จะต้องได้ทราบภายในขอบเขต เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตของคนทุกคน.โดยเฉพาะความเจริญทางจิตใจนั้น จะควบคู่กันไปกับความเจริญทางเพศ ความรู้สึกในเรื่องเพศย่อมมี อิทธิพลอย่างมากมายต่อสภาพของจิตใจ และเป็นที่ยอมรับว่าความแตกต่างเกี่ยวกับบุคลิกลักษณะย่อมจะมาจากสาเหตุอันหนึ่งคือแรงผลักทางเพศ ดังนั้นการศึกษาเรื่องเพศและเรื่องจิตใจจําเป็นจะต้องดําเนินควบคู่กันตลอดไป

2. ความลี้ลับหรือการปกปิดในเรื่องเพศ อาจนําไปสู่ความเข้าใจผิด เช่น เคร่งครัด โดยเข้าใจว่าเรื่องเพศนั้นเป็นของหยาบโลนไม่ควรพูดถึงเลย หรือในทางตรงกันข้ามก็ละเลยจนเกินไป ไม่มีการควบคุมมารยาททาง เพศ เป็นต้น ทั้งนี้อาจนําไปสู่ลักษณะผิดปกติทางจิตใจได้ นอกจากนั้นการที่เห็นอวัยวะเพศเป็นสิ่งซึ่งผิดแปลกกว่าอวัยวะอื่นของร่างกาย ก็เป็นข้อบกพร่องอย่างสําคัญยิ่งในเรื่องสุขวิทยาโดยทั่วไป

3. เพศศึกษายังนําไปสู่ความสมบูรณ์ในทางศีลธรรมและวัฒนธรรมของประชาชน เมื่อทุกคนรู้จักให้เกียรติและการปฏิบัติระหว่างเพศที่ถูกต้อง รู้จักประพฤติตนให้อยู่ในขอบเขตในความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน

4. ปัจจุบันความเจริญทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ.อย่างยิ่ง ด้านการสื่อสารสามารถพูดคุยติดต่อและทราบข้อมูลต่าง ๆ ได้ทั่วโลกภายในพริบตา จนทําให้โลกของเรา แคบลงทุกวัน ดังนั้นข้อมูลข่าวสารต่างๆ ทั้งที่เหมาะสมและไม่เหมาะสมกับวัฒนธรรมของเรา สามารถแพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง จนไม่สามารถจะหาวิธีการใดมาสกัดกั้นเอาไว้ได้ ดังนั้น จึงควรให้ความรู้เรื่องเพศศึกษาที่ถูกต้องแก่เยาวชนของเรา ก่อนที่เขาจะรับรู้จากแหล่งอื่นที่มีลักษณะยั่วยุและเร้าอารมณ์มุ่งไปทางด้านการค้าและกําไร โดยไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อเป็นการเตรียมเยาวชนให้ฉลาด รู้จักการเลือกคิด เลือกตัดสินใจ และเลือกปฏิบัติแต่ในทางที่ถูกที่ควร และเป็นที่ยอมรับของสังคมไทย

แนวคิดหลักในการพัฒนาการเรียนรู้เรื่องเพศวิถีศึกษา

แนวคิดหลักในการพัฒนาการเรียนรู้เรื่อง “เพศศึกษา” ตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุขมี 7 ด้าน คือ

1. พัฒนําการทางเพศ (Human sexual development) หมายถึง ความรู้ความเข้าใจในเรื่องการเจริญเติบโตและพัฒนาการทางเพศตามวัย ทั้งทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม

2. สุขอนามัยทางเพศ (Sexual health) หมายถึง ความรู้ความเข้าใจและสามารถดูแลสุขภาพอนามัยทางเพศได้ตามวัย เช่น การดูแลรักษาอวัยวะในระบบสืบพันธุ์ อนามัยการเจริญพันธุ์ ความเข้าใจต่าง ๆ ในเรื่องเพศ

3. พฤติกรรมทางเพศ (Sexual behavior) หมายถึง การแสดงออกถึงพฤติกรรมทางเพศที่เหมาะสมกับเพศและวัย

4. สัมพันธภาพ (Interpersonal relation) หมายถึง การสร้างและรักษาความสัมพันธ์กับบุคคลในสังคม การสร้างและรักษาสัมพันธภาพกับเพื่อนเพศเดียวกัน และต่างเพศ การเลือกคู่ การเตรียมตัวก่อนสมรส และการสร้างครอบครัว

5. ทักษะส่วนบุคคล (Personal and communication skills) หมายถึง ความสามารถในการจัดการสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเพศ เช่น ทักษะการสื่อสาร ทักษะการปฏิเสธ ทักษะการขอความช่วยเหลือ ทักษะการจัดการกับอารมณ์ ทักษะการตัดสินใจและแก้ปัญหาที่เกี่ยวกับเรื่องเพศ

6. สังคมและวัฒนธรรม (Society and culture) หมายถึง ค่านิยมในเรื่องเพศที่เหมาะสมสอดคล้องกับสังคมและวัฒนธรรมไทย และการปรับตัวต่อกระแสการเปลี่ยนแปลงของสังคม โดยเฉพาะจากสื่อที่ยั่วยุต่าง ๆ

7. บทบาททางเพศ (Gender role) หมายถึง การสร้างเอกลักษณ์ทางเพศที่เหมาะสมความเสมอภาคทางเพศ และบทบาททางเพศที่ช่วยเหลือเกื้อกูลกันในสังคมอย่างสมดุลการสอนเพศศึกษาในแต่ละช่วงอายุดังนั้นการให้ความรู้จึงต้องเริ่มให้ความรู้ตอนวัยรุ่นก็อาจจะสายเกินไป

ความสำคัญของการจัดทำโครงงานเพศวิถีศึกษา

การจัดทำโครงงานเพศวิถีศึกษา เป็นการเริ่มต้นกิจกรรมดูแลรักษาสุขภาพ รู้คุณค่าของตนเองด้านเพศ ของผู้เรียนในโรงเรียนด้วยการใช้กระบวนการทำโครงงาน เพื่อฝึกให้ผู้เรียนใช้ทักษะการคิดอย่างมีเหตุผลในการแก้ปัญหา และดูแลรักษาสุขภาพอนามัยของตนเอง โดยเริ่มต้นจากการสำรวจตนเอง เพื่อนในโรงเรียน และชุมชน หรือปัญหาสภาพสิ่งแวดล้อมในโรงเรียน และมีครูผู้สอนเป็นแรงสนับสนุน และกระตุ้นความสงสัย จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่สะกิดใจให้ผู้เรียนเกิดความสงสัยอยากรู้ อยากแก้ปัญหา

การทำโครงงานจะส่งเสริมผู้เรียนดังต่อไปนี้

1. ส่งเสริมการเรียนรู้ตามความถนัดและความสนใจ

2. ส่งเสริมการทำงานร่วมกัน

3. ส่งเสริมการทำงานอย่างเป็นระบบ

5. ฝึกการบูรณาการความรู้ในศาสตร์ต่างๆ เข้าด้วยกัน

6. ฝึกการสร้างองค์ความรู้ใหม่

7. ฝึกการเรียบเรียงผลงานทางวิชาการ

ขั้นตอนในการดำเนินงาน มีดังนี้

1. คิดและเลือกหัวข้อเรื่องโครงงานที่สนใจ

2. ศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้อง

3. จัดทำเค้าโครงในการจัดทำโครงงาน (Proposal)

 การจัดทำเค้าโครงในการจัดทำโครงงาน

หลังจากที่ผู้เรียนได้หัวข้อเรื่องทำโครงงานที่พอใจ และได้ศึกษาเอกสารอ้างอิงต่างๆ อย่างเพียงพอขั้นตอนต่อไปคือ การเขียนเค้าโครงสำหรับการทำโครงงานเสนอต่ออาจารย์ผู้สอน เพื่อขอความเห็นชอบก่อนดำเนินการขั้นตอนต่อไป

เค้าโครงย่อของโครงงานโดยทั่วๆ ไปจะเขียนขึ้นเพื่อแสดงแนวความคิด แผนงาน และขั้นตอนของการทำโครงงานนั้น ซึ่งควรประกอบด้วยหัวข้อต่อไปนี้

เรื่องเพศศึกษามีความสำคัญอย่างไร

เพศศึกษาเป็นองค์ความรู้พื้นฐานที่สําคัญในการดําเนินชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตและพัฒนาการ ทางเพศในวัยรุ่น ทั้งนี้สาระอาจเป็นเรื่องทั่วไปอย่างการดูแลสุขภาพอนามัยทางเพศหรือเป็นการอบรมสั่งสอนเรื่อง พฤติกรรมทางเพศที่เหมาะสม รวมไปถึงเรื่องการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยทําให้วัยรุ่นเข้าใจบทบาทของตนเอง สามารถ ดูแลตนเอง ...

เพศศึกษามีประโยชน์อย่างไรต่อผู้เรียนและสังคม

1. การจัดการเรียนรู้เพศวิถีศึกษา ช่วยส่งเสริมให้คนในชุมชนและสังคมเกิดความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมทางเพศ ของสมาชิกในชุมชนและสังคมที่มีความแตกต่างกัน 2. ก่อให้เกิดการยอมรับ และเคารพในสิทธิส่วนบุคคล ของสมาชิกในสังคมที่มีอัตลักษณ์ทางเพศและเพศวิถีที่ แตกต่างกัน

ทำไมเราต้องเรียนเพศศึกษา

ดังนั้นการให้ความรู้ทางเพศศึกษาที่ถูกต้อง จะเป็นการปิดกั้นโอกาสในการเบี่ยงเบนทางเพศ และพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการติดโรคทางเพศสัมพันธ์ รวมทั้งป้องกันปัญหาที่จะเกิดจากความไม่สมดุลของความต้องการทางเพศในชีวิตคู่อีกด้วย ซึ่งจะทำให้สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข และเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน

ข้อใดคือความหมายของเพศศึกษา

เพศศึกษา หมายถึง ความรู้ทั่วไปที่ควรให้เด็กได้ศึกษาเล่าเรียน ภายในขอบเขตที่ เหมาะสมของแต่ละวัย โดยการศึกษาปัญหาชีวิตเกี่ยวกับเรื่องเพศ และพฤติกรรมทางเพศในด้าน ความรู้ ทัศนคติและการปฏิบัติ เพื่อก่อให้เกิดความรับผิดชอบและความสัมพันธ์อันดีระหว่างเพศ