Ipad แต่ละรุ่นต่างกัน ยัง ไง

Ipad แต่ละรุ่นต่างกัน ยัง ไง

iPad

เปรียบเทียบ iPad 9, iPad mini 6, iPad Air 5 และ iPad Pro 2021 ซื้อรุ่นไหนดี?

หลายๆคนสงสัยว่า เอ๊ะ เราควรซื้อ iPad รุ่นไหนดี กลัวซื้อมาแล้วไม่ตอบโจทย์หรือซื้อมาแล้วจะไม่คุ้มเพราะเกินความจำเป็น ในบทความนี้เรามีคำตอบมาให้

หลังจาก Apple เปิดตัว iPad Air 5 ที่มาพร้อมกับชิป M1, รองรับ 5G และเปลี่ยนกล้องหน้าใหม่ให้สอดคล้องกับรุ่นอื่นๆในราคาที่เอื้อมถึงได้เหมือนเดิมก็อาจทำให้ใครหลายๆคนอาจจะสงสัยว่าสุดท้ายแล้วจะซื้อ iPad รุ่นไหนดีไม่ว่าจะเป็น iPad 9, iPad mini 6, iPad Air 5 หรือจบที่ iPad Pro ไปเลยเพราะกลัวซื้อมาแล้วไม่ตอบโจทย์

ในวันนี้เราจึงได้รวบรวมข้อมูลของไลน์อัป iPad ทั้งหมดในปัจจุบันเพื่อเป็นข้อมูลประกอบในการตัดสินใจของทุกคนกันแล้วว่าสุดท้ายจะซื้อรุ่นไหนดี

เปรียบเทียบ iPad 9, iPad mini 6, iPad Air 5 และ iPad Pro 2021

iPad 9 iPad mini 6 iPad Air 5 iPad Pro 2021
จอแสดงผล Retina Display Liquid Retina Display Liquid Retina Display Liquid Retina XDR
(เฉพาะขนาด 12.9 นิ้ว)
ขนาดหน้าจอ 10.2 นิ้ว 8.3 นิ้ว 10.9 นิ้ว 11 และ 12.9 นิ้ว
ความละเอียด 2160 x 1620
(264 pi)
2266 x 1488
(326 pi)
2360 x 1640
(264 ppi)
2388 x 1668 และ 2732 x 2048
(264 ppi)
ชิป A13 Bionic A15 Bionic M1
กล้องหลัง Wide: 8MP, f/2.4 Wide: 12MP, f/1.8 แฟลช True tone Wide: 12MP, f/1.8 2 ตัว พร้อมแฟลช True tone

• Wide: 12MP, f/1.8

• Ultra-Wide: 10MP, f/2.4 มุมกว้าง 125 องศา

กล้องหน้า Ultra-Wide: 12MP, f/2.4 มุมกว้าง 122 องศา Ultra-Wide: 12MP, f/2.2 มุมกว้าง 122 องศา
ถ่ายวีดีโอ สูงสุดที่ 1080P @30fps สูงสุด 4K @60fps
ลำโพง เดี่ยว สเตอรีโอ
5G ไม่รองรับ รองรับแบบ Sub-6
พอร์ตชาร์จ Lightning USB-C
Apple Pencil รุ่นที่ 1 รุ่นที่ 2
ช่องเสียบหูฟัง มี ไม่มี
ปลดล็อคแบบไบโอเมตริกซ์ Touch ID ที่ปุ่มโฮม Touch ID ที่ปุ่มเพาเวอร์ Face ID
แบตเตอรี่ 32.4 Wh
ใช้ได้สูงสุด 10 ชั่วโมง
19.3 Wh
ใช้ได้สูงสุด 10 ชั่วโมง
28.6 Wh
ใช้ได้สูงสุด 10 ชั่วโมง
28.65 Wh และ 40.88 Wh
ใช้ได้สูงสุด 10 ชั่วโมง
น้ำหนัก Wi-Fi: 487 กรัม
Wi‑Fi + Cellular: 498 กรัม
Wi-Fi: 293 กรัม
Wi‑Fi + Cellular: 297 กรัม
Wi-Fi: 461 กรัม
Wi‑Fi + Cellular: 462 กรัม
466 - 684 กรัม
ขนาดตัวเครื่อง (มม.) 250.6 x 174.1 x 7.5 195.4 x 138.4 x 6.3 247.6 x 178.5 x 6.1 247.2 x 178.5 x 5.9
และ
280.6 x 214.9 x 6.4
ความจุ 64GB / 256GB 128GB
256GB
512GB
1TB
2TB
สี เทา, เงิน เทา, ชมพู, ม่วง, ทอง เทาสเปซเกรย์, สตาร์ไลท์, ชมพู, ม่วง, ฟ้า เทา, เงิน
ราคาเริ่มต้น 11,400 บาท 17,900 บาท 20,900 บาท 27,900 บาท

iPad 9 – ประชุม, ทำงาน, เรียนออนไลน์

เริ่มต้นกันด้วยน้องเล็กสุดในซีรี่ส์อย่าง iPad 9 ที่พร้อมกับชิป A13 Bionic ที่ประสิทธิภาพไม่เป็นสองลองใครเมื่อเทียบกับแท็บเล็ตแบรนด์อื่นๆในตลาด ซึ่งด้วยสเปคแบบนี้ถ้าหากนำมาใช้งานทั่วไปเช่น เล่นเกมเบา ดูวีดีโอ แต่งรูปนิดๆหน่อยๆก็ไม่มีปัญหาแน่นอน

นอกจากนี้ iPad 9 ยังมาพร้อมกับกล้องหน้าที่ความละเอียด 12MP เลนส์อัลร้าไวด์พร้อมฟีเจอร์ Center Stage ที่จะจัดให้เราอยู่ตรงกลางเสมอในระหว่างการวีดีโอคอลในแอปที่รองรับบน iPadOS 15 จึงทำให้การนำ iPad 9 มาเรียนออนไลน์ ประชุมงานหรือวีดีโอคอลดูมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้นแม้ตัวเครื่องจะมีราคาเริ่มต้นเพียงแค่ 11,400 บาทเท่านั้น

Ipad แต่ละรุ่นต่างกัน ยัง ไง

อย่างไรก็ตามไม่ใช่ว่ามันจะไม่มีข้อเสียเลยโดย iPad 9 ยังคงเป็นลำโพงแบบเดี่ยวเท่านั้นซึ่งหากใครที่ชอบดูหนังหรือซีรี่ส์บนสตรีมมิ่งต่างๆแล้วละก็อาจจะขัดใจกับตรงนี้ได้เนื่องจากไม่สามารถแยกเสียงซ้ายขวาได้นั่นเอง

iPad mini 6 – สเปคจัดเต็มสำหรับคนที่ชอบพกพา

สำหรับ iPad mini 6 นั้นมาพร้อมกับชิป A15 Bionic ที่เป็นตัวเดียวกับบน iPhone 13 ทำให้มั่นใจได้ว่ามันจะมีประสิทธิภาพในการทำงานแบบเหลือๆอย่างแน่นอนไม่ว่าจะใช้งานแนวไหนก็ตาม รวมถึงการรองรับ 5G, กล้องหน้า Ultra-Wide รองรับ Center Stage และอื่นๆจึงทำให้มันเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย

Ipad แต่ละรุ่นต่างกัน ยัง ไง

อย่างไรก็ตามไฮไลน์ที่สำคัญที่สุดสำหรับ iPad mini 6 เลยก็คือเรื่องของขนาดเพราะมันมาพร้อมกับหน้าจอ 8.3 นิ้วทำให้ผู้ใช้งานสามารถพกพาไปทำงานที่ไหนมาไหนได้อย่างสะดวกกว่าเมื่อเทียบกับ iPad ที่เหลือแน่นอน

iPad Air 5 – เรียน, ทำงาน, เล่นเกม, ดูซีรี่ส์ครบจบในเครื่องเดียว

มาถึง iPad รุ่นใหม่ล่าสุดที่ Apple เพิ่งเปิดตัวกันไปเร็วๆนี้กับ iPad Air 5 ที่ในรอบนี้มาพร้อมกับชิป M1 ที่เป็นตัวเดียวกับ iPad Pro และ MacBook ซึ่งแน่นอนด้วยชิป M1 นี้เรียกได้ว่าไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องประสิทธิภาพเลยทีเดียวโดยหากให้ว่ากันจริงๆแล้วบน App Store น่าจะยังไม่มีแอปไหนรีบประสิทธิภาพมันออกมาได้แบบสุดๆเสียด้วยซ้ำ

iPad Air 5 ยังได้รับการอัปเกรดในด้านอื่นๆให้เทียบเท่ากับ iPad mini 6 อีกด้วยไม่ว่าจะเป็นกล้องหน้า Ultra-Wide รองรับ Center Stage, รองรับ 5G และอื่นๆทำให้มันเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยสำหรับคนที่อยากได้ iPad ที่ครบจบในราคาที่ไม่สูงจนเกินไป

Ipad แต่ละรุ่นต่างกัน ยัง ไง

นอกจากนี้ iPad Air 5 ยังสามารถใช้งาน Magic Keyboard (ต้องซื้อแยก) ที่มาพร้อมกับ Track Pad ได้อีกด้วย ทำให้สามารถใช้งานเป็นโน๊คบุ๊คขนาดย่อมๆได้โดยไม่ต้องเปิดโน๊ตบุ๊คให้เสียเวลาเลย

iPad Pro 2021 – สำหรับคนที่ต้องการความสุดในทุกทาง

iPad Pro 2021 มาด้วยกันทั้งหมด 2 ขนาดที่ 11 และ 12.9 นิ้ว ทั้งคู่มาพร้อมกับชิป M1 ที่ถูกเป็นตัวเดียวกับบน Mac จึงทำให้แน่ใจได้เลยว่าประสิทธิภาพของมันจะแรงแบบสุดๆแบบที่ว่าโน๊ตบุ๊คบางแบรนด์ก็ยังสู้ไม่ได้

มาพร้อมกับจอ ProMotion 120Hz ที่ทำให้การสัมผัสจอแต่ละครั้งให้ความรู้สึกลื่นไหลติดนิ้วมากขึ้นและยังทำให้ประสบการณ์การใช้งาน Apple Pencil ดีขึ้นกว่า iPad รุ่นอื่นๆอีกด้วยทำให้มันเหมาะกับคนที่ต้องการซื้อมันมาวาดรูปหรือตัดต่อวีดีโอแบบจริงจัง

และสำหรับขนาด 12.9 นิ้วมันยังได้รับการตีบวกเรื่องหน้าจอไปอีกขั้นเพราะมันเปลี่ยนมาใช้จอชนิด mini-LED ซึ่งมันมีคุณสมบัติคล้ายกับจอ OLED ทำให้การรับชมคอนเทต์ต่างๆบนรุ่นนี้เรียกได้ว่าสุดจริงๆ

Ipad แต่ละรุ่นต่างกัน ยัง ไง

อย่างไรก็ตามถ้าว่ากันตรงๆ iPad Pro ปี 2021 เหมือนจะไม่ค่อยน่าซื้อแล้วในปัจจุบันยิ่งกับขนาด 11 นิ้วยิ่งเข้าไปใหญ่เพราะมันมีราคาต่างกับ iPad Air 5 ถึง 7,000 บาทแต่ความแตกต่างของมันกลับไม่มากเหมือนราคาทำให้ทางเราคิดว่าหากอยากได้ iPad Pro จริงๆให้รอรุ่นต่อไปจะดีกว่า

สรุปเลือกรุ่นไหนดี?

  • iPad 9: เหมาะกับคนงบไม่สูงมากนำมาประชุมงาน เรียนออนไลน์ในขณะที่จอไม่เล็กจนเกินไป
  • iPad mini 6: เหมาะกับคนที่ชอบพกพาไปไหนมาไหนในขณะที่ยังคงมีเสปคที่จัดเต็มอยู่
  • iPad Air 5: เหมาะกับคนที่อยากได้เครื่องที่ครบจบในเครื่องเดียวไม่ว่าจะเรียน ทำงาน เล่นเกมในราคาที่ไม่สูงจนเกินไป
  • iPad Pro 2021: เหมาะกับคนที่อยากได้เครื่องที่สุดในตลาดแท็บเล็ต ทำได้ทุกอย่างที่แท็บแล็ตเครื่องนึงจะสามารถทำได้ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยราคาที่เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน

Ipad แต่ละรุ่นต่างกัน ยัง ไง