การใช้คอมพิวเตอร์มีผลเสียต่อสุขภาพอย่างไร

       คอมพิวเตอร์กับสุขภาพ

          การใช้คอมพิวเตอร์ในการทำงานเพื่อความสะดวกสบายโดยการอยู่หน้าเคื่องคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ อาจทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ ในการใช้งานคอมพิวเตอร์หากเราคำนึงถึงข้อนี้ จะช่วยป้องกันอันตรายจากการใช้คอมพิวเตอร์ได้ ทำให้ใช้ประโยชน์จากคอมพิวเตอร์สูงสุดและปลอกภัยต่อสุขภาพ

     การใช้คอมพิวเตอร์เพื่อความปลอดภัยในสุขภาพ

ในการใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ อาจส่งผลกระทบต่อร่างกาย เช่น ปวดตา ปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดข้อมทอ ปวดนิ้วมือ 

เคล็ดลับการใช้งานคอมพิวเตอร์อย่างปลอดภัย

1.ควรตั้งจอคอมพิวเตอร์ห่างจากระดับสายตา อย่างน้อย 2 ฟุต

2.ควรพักสายตาอย่างน้อย 15 นาที แล้วค่อยมาใช้งานคอมพิวเตอร์ต่อ ไม่ควรใช้ติดต่อกันเกิน 1-2 ชม

3.คีย์บอร์ดและเมาส์ควรอยู่ระดับเอวหรือระดับหน้าตักพอดี

4.ปรับเก้าอี้ให้แขนขนานกับเก้าอี้ขณะทำงานและแขนควรอยู่สูงจากต้นขา 2 นิ้ว

5.ใต้โต๊ะควรเป็นพื้นที่ว่างเปล่าเพื่อยืดเท้า

5 โรคร้าย ที่เกิดจากการใช้ “คอมพิวเตอร์” และ “มือถือ”

ยุค 4.0 นี้เป็นยุคสมัยที่จะขาด มือถือ และ คอมพิวเตอร์ ไปไม่ได้เลย เรียกได้ว่าเป็นปัจจัยที่ 6 ของ

ประชากรโลกไปเสียแล้ว แต่หารู้ไม่ว่าสิ่งที่เราขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวันนั้น หากใช้ทั้ง 2 สิ่งนี้มากเกินไป

หรือเกือบจะตลอดเวลาจะมีผลเสียอะไรต่อเราบ้างไปดูกันค่ะ กับ 5 โรคร้ายจากการใช้คอมพิวเตอร์

การใช้คอมพิวเตอร์มีผลเสียต่อสุขภาพอย่างไร

โรคเกี่ยวกับสายตา 

แน่นอนล่ะอันดับต้นๆที่จะส่งผลกระทบคือ “ดวงตา”  เวลาที่เราต้องจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ

จะมีอาการตาพร่ามัวหรือปวดตา  บางคนอาจมีอาการน้ำตาไหล ปวดศีรษะ และตาแดงร่วมด้วย นั่นเป็นสิ่ง

ที่เตือนว่าเราใช้คอมพิวเตอร์และมือถือนานเกินไป  เราควรพักสายอย่างน้อยทุกๆ หนึ่งชั่วโมงด้วยการนั่ง

หลับตาซักพัก หรือ มองไปทางอื่นให้ไกลๆเพื่อปรับโพกัสของสายตาสักพักแล้วค่อยกลับมามองหน้าจอ

อีกครั้ง

โรคการกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือ

อาการของโรคนี้คือจะปวดร้าวบริเวณข้อมือ ฝ่ามือ และนิ้วมือ บางคนอาจมีอาการชาร่วมด้วย กำมือแน่นๆ

ไม่ได้ หยิบจับของแล้วทำร่วงหล่นตลอด สาเหตุของโรคนี้เกิดจากท่าทางการวางมือขณะที่เราจับเมาส์

และแป้นคีย์บอร์ดด้วยความเคยชิน ทำให้เกิดอาการข้อมืออักเสบขึ้นและมีความเสี่ยงเป็นโรคนี้ตามมา

การใช้คอมพิวเตอร์มีผลเสียต่อสุขภาพอย่างไร

อาการปวดหลัง

อาการปวดหลังมักเกิดจากการนั่งผิดท่าเป็นเวลานาน รวมถึงเก้าอี้ที่นั่งเวลาใช้คอมพิวเตอร์ด้วยค่ะ สาวๆ

หลายคนชอบนั่งไขว่ห้างเวลาใช้คอมพิวเตอร์รู้หรือไม่ว่าการนั่งท่านี้ทำให้ปวดหลังเอามากๆ  ถ้าไม่อยาก

ปวดหลัง เราต้องนั่งในท่าที่ถูกต้องในการใช้คอมพิวเตอร์ค่ะ คือนั่งหลังตรง เก้าอี้ได้มาตราฐานและความ

สูงของเก้าคือการที่เรานั่งลงไปแล้วสายตาเราอยู่ระดับเดียวกับหน้าจอ

การใช้คอมพิวเตอร์มีผลเสียต่อสุขภาพอย่างไร

อาการปวดหัว 

อาการปวดหัวส่วนมากมักเกิดจากปัญหาอาการปวดตาเวลาใช้คอมพิวเตอร์ค่ะ เพราะฉะนั้นเราต้องเริ่มจาก

การดูแลดวงตาของเราก่อนค่ะ อย่าลืมปรับแสงหน้าจอให้สว่างพอเหมาะ อย่าเพ่ง/จ้องหน้าจอนานเกินไป

ปรับตัวหนังสือให้มีขนาดพอดี พักสายตาบ้างเมื่อดวงตาอ่อนล้า โดยการมองไปยังทิศทางอื่นที่สายตาสา

มารถโพกัสได้ไกลเพื่อปรับจุดโพกัสสายตา

การใช้คอมพิวเตอร์มีผลเสียต่อสุขภาพอย่างไร

โรคนอนไม่หลับ

นอกจากปัญหาของอาการปวดหัวและปัยหาอื่นๆแล้ว ปัญหาการนอนไม่หลับจากการใช้คอมพิวเตอร์ก็เป็น

อีกหนึ่งโรคที่หลายคนเป็นอยู่แต่อาจจะไม่รู้ตัวค่ะ มีการวิจัยพบว่าความสว่างของหน้าจอมีผลต่อการนอน

ไม่หลับด้วย และบางคนเล่นคอมพิวเตอร์จนเพลินไม่ยอมกินข้าวกินน้ำ นั่งเพลินไม่ยอมลุกไปเข้าห้องน้ำ

ไม่ยอมดื่มน้ำเนี่ย เป็นการทำร้ายร่างกายอย่างมากเลยนะคะ ดีไม่ดีจะได้โรคต่างๆเพิ่มขึ้นมาได้อีกนะคะ

การใช้คอมพิวเตอร์มีผลเสียต่อสุขภาพอย่างไร

อย่างไรก็ตามควรใช้คอมพิวเตอร์และมือถืออย่างพอดี ไม่มากเกินไปไม่น้อยเกินไป เพื่อรักษาสุขภาพ

ดวงตาและส่วนอื่นๆของร่างกาย เพราะร่างกายเราหาอะไหล่ไม่ได้ง่ายๆเหมือนคอมพิวเตอร์และมือถือนะ

คะ

การใช้คอมพิวเตอร์มีผลเสียต่อสุขภาพอย่างไร

  

การใช้คอมพิวเตอร์มีผลเสียต่อสุขภาพอย่างไร

ทีมแพทย์สตาร์คลินิก มีประสบการณ์ด้านผิวพรรณและ

ศัลยกรรมความงาม มากกว่า 10 ปี

เปิดบริการทุกวัน เวลาทำการ 11.00 - 21.00น

ปรึกษาสอบถามโปรโมชั่น โทร. 088-004-0005

การใช้คอมพิวเตอร์มีผลเสียต่อสุขภาพอย่างไร

อันตรายจากการใช้งาน คอมพิวเตอร์

• การใช้งาน คอมพิวเตอร์ เป็นเวลานานเกินไปโดยไม่พัก อาจส่งผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และเสี่ยงต่อการเกิดโรคอื่นๆ ตามมาในภายหลัง ดังนั้น เราควรป้องกันตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อลดอัตราเสี่ยงจากผลกระทบดังกล่าว


การใช้คอมพิวเตอร์มีผลเสียต่อสุขภาพอย่างไร

นับได้ว่าคอมพิวเตอร์เป็นปัจจัยหลักในการทำงาน เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน และเป็นอุปกรณ์ที่เราหลีกเลี่ยงการใช้งานไม่ได้เลยสำหรับยุคนี้ อย่างไรก็ตามสำหรับการนั่งทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ โดยไม่ได้พัก อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายขึ้นได้ วันนี้เราได้จัดอันดับ 5 โรคเสี่ยงจากการใช้คอมฯ เป็นเวลานานมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันค่ะ จะมีอะไรบ้างตามมาดูกันเลย!

ภัยที่ 1 โรคตาที่เกิดจากคอมพิวเตอร์ (Computer Vision Syndrome : CVS) เป็นกลุ่มอาการที่เกิดกับสายตาและการมองเห็น เกิดจากการใช้สายตามองจอคอมพิวเตอร์นานๆ รวมถึงรังสีที่แผ่ออกมาบริเวณหน้าจอคอมพิวเตอร์ ก็มีผลกระทบต่อดวงตาเช่นกัน

อาการ อาจจะรู้สึกแสบตา ไม่สบายตา เกิดอาการระคายเคืองตา เจ็บตา ตาพร่ามัวจากการจ้องมองที่ไม่ค่อยกระพริบตา เป็นผลให้มีอาการตาแห้ง ซึ่งเป็นอาการเพียงชั่วคราว แต่หากเป็นอยู่บ่อยๆ และนานขึ้น อาจจะเกิดอันตรายได้ เช่น กระจกตาอักเสบแห้ง มีการเปลี่ยนแปลงเป็นสายตาสั้นชั่วคราว ประมาณร้อยละ 32 นอกจากนี้ อาจจะมีอาการปวดศีรษะ ปวดต้นคอ ไหล่ ปวดหลัง จากบริบทการนั่งทำงานที่ไม่เหมาะสมร่วมด้วย

การรักษา อาจจำเป็นต้องใช้น้ำตาเทียมหยอดตาบ่อยๆ หรือยาหยอดตาชนิดที่ยับยั้งการคั่งของเลือดบริเวณตา

การใช้คอมพิวเตอร์มีผลเสียต่อสุขภาพอย่างไร

การป้องกัน
-ไม่ควรใช้คอมพิวเตอร์ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานเกินไป เนื่องจากจะทำให้สายตาเกิดความเมื่อยล้า ฉะนั้นจำเป็นต้องพักสายตา เช่น หลับตาทุก 10 นาที ต่อการทำงาน 1 ชั่วโมง หรือพักทุก 15 นาที ต่อการทำงานต่อเนื่อง 2 ชั่วโมง เป็นต้น ผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์ต่อเนื่องนานเกิน 2 ชั่วโมง ติดต่อกัน พบว่ามีอาการ CVS ร้อยละ 88 ด้วยค่ะ

-ควรจัดสถานที่ตั้งคอมพิวเตอร์ในที่ที่มีแสงสว่างพอเหมาะ โดยเฉพาะจอภาพ แป้นพิมพ์ และที่วางเอกสาร เป็นต้น จะช่วยให้สบายตา หรืออาจใช้หลอดไฟโซเดียมเพื่อให้แสงสว่าง

-ควรใช้แผ่นกรองแสงเพื่อลดแสงจ้า และแสงสะท้อน จะช่วยลดความล้าของสายตาลงได้

ภัยที่ 2 โรคพังผืดกดทับเส้นประสาทที่ข้อมือ หรือ Carpal Tunnel Syndrome (CTS) เกิดขึ้นเนื่องจากเกิดพังผืดที่หนาตัวขึ้นบริเวณข้อมือด้านฝ่ามือ และไปกดทับถูกเส้นประสาทมีเดียน ซึ่งอยู่ผ่านช่องข้อมือแขนงไปยังนิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง และนิ้วหัวแม่มือ จะทำให้มีอาการปวดและชาตามนิ้ว ถ้าเส้นประสาทถูกกดทับนานๆ ก็จะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณฝ่ามือด้านนิ้วหัวแม่มือลีบเล็กลง เกิดจากการใช้งานข้อมือในท่าเดิมๆ ของคนที่ทำงานกับคอมพิวเตอร์ที่ต้องใช้เมาส์ โดยใช้ข้อมือเป็นจุดหมุน กดแป้นคีย์บอร์ด การเย็บผ้า การถักนิตติ้ง เป็นต้น

อาการ จะปวดมากขึ้นเมื่อมีการใช้งานในลักษณะเกร็งนานๆ ในท่าเดิม มักจะมีอาการชาที่นิ้วมือ โดยเฉพาะที่นิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้ นิ้วกลาง และบางส่วนของนิ้วนางตามแนวของเส้นประสาท บางรายที่ถูกกดทับนานจะเริ่มมีอาการอ่อนแรงของมือ เช่น จะรู้สึกว่าไม่ค่อยมีแรงเวลากำมือ โดยเฉพาะการใช้มือหยิบของเล็กๆ จะทำได้ลำบาก

การใช้คอมพิวเตอร์มีผลเสียต่อสุขภาพอย่างไร

การรักษา ปรับการใช้ข้อมือในการทำงานและชีวิตประจำวัน โดยการปรับอุปกรณ์การทำงานให้ถูกตามหลักสุขลักษณะ หลีกเลี่ยงการใช้งานมือในลักษณะเกร็งนานๆ ในงานที่ต้องใช้ข้อมือกระดกขึ้น งอข้อมือนานๆ รวมถึงงานที่มีการสั่นกระแทกจนทำให้ความดันในโพรงข้อมือสูงขึ้นด้วย

ภัยที่ 3 โรคอดทนรอไม่ได้ อาการของโรคนี้จะเกิดกับคนที่ชอบเล่นอินเตอร์เน็ต เวลาที่หน้าเว็บไซต์โหลดช้า หรือการดาวน์โหลดต้องใช้เวลานาน จะทำให้ผู้ใช้หงุดหงิด กระวนกระวาย ใจร้อน ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้บ่อยๆ อาจทำให้เป็นโรคประสาทได้เหมือนกัน รุนแรงน่าดูนะคะสำหรับโรคนี้

การรักษา ต้องรู้จักควบคุมอารมณ์ของตัวเองให้มาก หรือหากิจกรรมอื่นๆ ทำระหว่างการนั่งรอโหลดหน้าเว็บไซต์ หรือดาวน์โหลดงานต่างๆ เช่น การเล่นเกม หรืออ่านหนังสือควบไปด้วย เพราะถ้าควบคุมอารมณ์ไม่ได้ งานก็จะไม่เดิน เพื่อนร่วมงานก็อาจจะหนีหน้าเอาได้

ภัยที่ 4 โรคภูมิแพ้ สำหรับโรคนี้นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยสตอก โฮล์ม ในสวีเดน พบว่า สารเคมีจากจอคอมพิวเตอร์ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้ สารนี้มีชื่อว่า Triphenyl Phosphate ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ทั้งในจอวิดีโอ และคอมพิวเตอร์ สามารถก่อให้เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ เช่น คัน คัดจมูก และปวดศีรษะ ผลวิจัยพบว่า เมื่อจอคอมพิวเตอร์ร้อนขึ้นจะปล่อยสารเคมีดังกล่าวออกมา โดยเฉพาะหากสภาพภายในห้องทำงานมีเนื้อที่จำกัด เครื่องคอมพิวเตอร์อาจจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้ ดังนั้น อากาศที่ดีในบริเวณที่ทำงาน หรือที่อยู่อาศัยจึงจำเป็นอย่างยิ่ง

การรักษา โรคนี้คงยากสักหน่อยสำหรับผู้ที่อยู่ในบ้าน หรือออฟฟิศที่มีพื้นที่จำกัด แต่อาจจะเปิดพัดลมเป่าจอคอมพิวเตอร์ไปด้วยในระหว่างที่ใช้ จัดห้องให้อากาศถ่ายเทสะดวกที่สุดก็น่าจะพอหลีกเลี่ยงได้บ้าง หรือหาต้นกระบองเพชรต้นเล็กๆ มาวางไว้ใกล้ๆ เพราะต้นกระบองเพชรจะช่วยดูดรังสีได้

การใช้คอมพิวเตอร์มีผลเสียต่อสุขภาพอย่างไร

ภัยที่ 5 โรคนอนไม่หลับ นอกจากปัญหาของความเครียดและอาการปวดหัวแล้ว ปัญหาการนอนไม่หลับจากการใช้คอมพิวเตอร์ก็เป็นอีกหนึ่งโรคที่หลายคนเป็นอยู่แต่อาจไม่รู้ตัว มีผลการวิจัยพบว่าความสว่างของหน้าจอมีผลต่อการนอนไม่หลับจริง แล้วไม่ใช่แค่การใช้คอมพิวเตอร์เท่านั้น แต่รวมถึงการใช้สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตต่างๆ ด้วย

เมลาโทนิน (Melatonin) คือ ฮอร์โมนที่ช่วยควบคุมการนอนหลับและเวลาตื่นของมนุษย์ จากการศึกษาของนักวิจัยพบว่า การที่เราสัมผัสกับแสงของหน้าจอคอมพิวเตอร์ต่างๆ ทำให้จำนวนของเมลาโทนินลดลง นอกจากนี้การใช้คอมพิวเตอร์ในช่วงกลางคืนยังทำให้ร่างกายรู้สึกตื่นตัว และยังทำให้นาฬิกาชีวิตเปลี่ยนแปลงด้วยค่ะ นี่คือสาเหตุที่ทำให้เรานอนไม่หลับนั่นเอง

ถึงแม้ว่าคอมพิวเตอร์จะมีประโยชน์มาก และกลายเป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวัน แต่โทษของการใช้งานเป็นเวลามากเกินไปโดยไม่ระมัดระวัง ก็อาจก่อให้เกิดโทษและส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคุณเองได้ ดังนั้น ควรดูแลตัวเองตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อสุขภาพที่ดีในอนาคตนะคะ

การใช้คอมพิวเตอร์มีผลเสียต่อสุขภาพอย่างไร

เรียบเรียงโดย : น้องแว่น

เดิมเป็นคนไม่ค่อยรู้เรื่องเทคโนโลยีมากเท่าไหร่ แต่ด้วยความชื่นชอบในมือถือและไอที จึงทำให้เริ่มศึกษาค้นคว้าหาความรู้ กลายเป็นคนอัพเดทกระแสข่าวไอที พร้อมกับมีแว่นหนาเตอะขึ้นทุกวัน

คอมพิวเตอร์มีผลกระทบต่อสุขภาพอย่างไร

1. ส่งผลต่อดวงตา กล้ามเนื้อและระบบประสาท 2. เสี่ยงต่อการเป็นหมัน 3. เกิดอาการปวดข้อ 4. โรคที่เกิดจากสารเคมีที่เกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์ การใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานท้าให้ปวดตา จึงควรหยุดพักเป็นระยะ ผลกระทบจากคอมพิวเตอร์ที่มีต่อสุขภาพ

การใช้คอมพิวเตอร์มากๆส่งผลต่อสุขภาพผู้ใช้อย่างไร

ส่งผลเสียในด้านสายตา เช่น ตาแห้ง กล้ามเนื้อตาทำงานหนัก หรือจอรับตาที่ผิดปกติ ส่งผลเสียต่อกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ เช่น ปวดคอ บ่าไหล่ แขน นิ้วล็อค สมองตอบสนองกับการเล่นสมาร์ทโฟน กระตุ้นให้สมองเกิดความสุข ทำให้เกิดโรคติดสุข อยากเล่นมากขึ้นเรื่อย สมาธิสั้นลง ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน

โรคที่เกิดจากทำงานโดยใช้คอมพิวเตอร์มีอาการอย่างไรบ้าง

5 โรคร้าย ที่เกิดจากการใช้ “คอมพิวเตอร์” และ 5 โรคร้าย ที่เกิดจากการใช้ “คอมพิวเตอร์” และ “มือถือ”.
5 โรคร้าย ที่เกิดจากการใช้ “คอมพิวเตอร์” และ “มือถือ”.
โรคเกี่ยวกับสายตา.
โรคการกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือ.
อาการปวดหลัง.
อาการปวดหัว.
โรคนอนไม่หลับ.

โรคที่มีสาเหตุจากการใช้คอมพิวเตอร์นาน ๆ คือข้อใด

Computer Vision Syndrome (CVS) คือ กลุ่มอาการทางตาและการมองเห็นที่เกิดจากการใช้งานคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน โดยความรุนแรงจะเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาของการใช้งาน จากการศึกษาประเทศอเมริกา รายงานว่าพบภาวะนี้ได้ถึง 90% ของผู้ใช้คอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นเวลา 3 ชม. โดยไม่หยุดพัก