การดูแลรักษาและทำความสะอาดบ้านมีความสำคัญอย่างไร

สำหรับคนมีบ้าน ที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง หรือ กำลังจะซื้อบ้านใหม่สักหลัง แน่นอนว่า การทำบ้านให้น่าอยู่นั้น ก็เป็นเรื่องที่จำเป็น และควรใส่ใจดูแล เพราะบ้านก็เปรียบเสมือนหัวใจสำคัญ ที่ทำให้ครอบครัวได้อยู่ร่วมกัน จึงต้องดูแลรักษาให้ดี ให้มีความสวยงาม และคงทนอยู่กับเราไปนานๆ ซึ่งหากเกิดส่วนไหนที่ชำรุด เสียหาย เราก็ต้องรีบหาวิธีแก้ และทำให้กลับมาดูดีเหมือนเดิม ดังนั้น จะทำให้บ้านน่าอยู่ทั้งที มันต้องมีวิธีดูแลรักษา ซึ่งคุณเองก็ทำได้ไม่ยาก มาดูกันเลย ว่ามีวิธีใดบ้าง!!

 

9 วิธีดูแลบ้านให้น่าอยู่

การดูแลรักษาและทำความสะอาดบ้านมีความสำคัญอย่างไร

1. ขยันทำความสะอาด อย่าปล่อยให้บ้านของคุณต้องเต็มไปด้วยฝุ่น ขยะ และข้าวของที่กระจัดกระจาย การรักษาความสะอาดบ้าน จะช่วยให้บ้านดูเรียบร้อยกว่า ควรเริ่มต้นทำความสะอาดชั้นบนก่อน เพราะถ้าทำชั้นล่าง และกลับไปชั้นบน ฝุ่นอาจจะลงมาชั้นล่างอีกรอบได้ ที่สำคัญ ผ้าปูที่นอน หมอน ผ้าห่ม ควรนำไปซัก ตากแดดบ่อยๆ อย่าให้สะสมเชื้อโรค แบคทีเรีย และฝุ่น

การดูแลรักษาและทำความสะอาดบ้านมีความสำคัญอย่างไร

2. ห้องครัวต้องสะอาด เพราะแหล่งสะสมเชื้อโรค และสัตว์ตัวเล็ก ตัวน้อยอย่าง มด หนู แมลงสาบที่ไม่พึงประสงค์ต่างๆ มักมาอาศัยอยู่ หากห้องครัวรก ไม่สะอาด มีทั้งเศษอาหาร และกลิ่นสะสม โดยอุปกรณ์ในห้องครัวต้องสะอาด เช็ดทั้งเตา คราบน้ำมันออกให้หมด รวมถึงกำจัดขยะและของเน่าเสีย หมดอายุในตู้เย็นไปทิ้ง

การดูแลรักษาและทำความสะอาดบ้านมีความสำคัญอย่างไร

3. งานประปาอย่าให้รั่วซึม ทุกคนในบ้าน จำเป็นต้องใช้น้ำประปาทุกวัน และส่วนใหญ่มักพบปัญหาระบบท่อ ข้อต่อต่างๆ ที่ทำให้หลุด รั่วซึมได้ จึงควรหมั่นตรวจเช็คบ่อยๆ หากชำรุดเสียหาย ควรแจ้งช่างมาเปลี่ยน หรืออุดให้เรียบร้อย

4. สวนและต้นไม้ร่มรื่น หากบ้านใครมีสวน และปลูกต้นไม้มากๆ อย่าปล่อยให้หญ้ารก หรือกิ่งไม้ยื่นไปทั่ว อาจทำให้มีสัตว์มาอาศัยได้ ควรหมั่นตัดแต่งกิ่งก้าน ให้ดูดี เรียบร้อย รดน้ำต้นไม้ทุกวัน ให้ชุ่มชื่น ไม่เหี่ยวเฉา บ้านก็จะร่มรื่นน่าอยู่

5. หมั่นเช็คระบบไฟฟ้า นี่เป็นส่วนสำคัญที่ต้องดูแลรักษา เพราะใช้ไฟทุกวัน ก็ต้องมีการเสื่อมสภาพของอุปกรณ์ ต้องเช็คทั้งสายไฟ ปลั๊กไฟ หลอดไฟ ถ้าชำรุดเสียหาย ต้องเปลี่ยน เพื่อความปลอดภัย ป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร

6. หลังคาบ้านไร้รอยรั่ว อีกจุดหนึ่งที่ต้องดูแล อย่าให้มีรอยรั่วซึม ซึ่งจะทำให้ฝ้าเพดาน มีคราบ เกิดตะไคร่น้ำ และของในบ้านเปียก ถ้าอยากให้วัสดุอยู่นานๆ ก็ต้องเช็ค อุดรอยรั่ว หรือเปลี่ยนกระเบื้องและฝ้าเพดานดีๆ เพื่อไม่ให้เกิดการรั่วซึมได้

7. พื้นกระเบื้องต้องแห้งเสมอ อย่าปล่อยให้มีน้ำขัง หรือพื้นเปียก เพราะนอกจากจะมีตะไคร่มาจับแล้ว ยังทำให้พื้นลื่น เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายอีก จึงควรขัดทำความสะอาด และเช็ดให้แห้งเสมอ

การดูแลรักษาและทำความสะอาดบ้านมีความสำคัญอย่างไร

8. ป้องกันปลวก บ้านทุกหลังมีสิทธิ์ที่ปลวกมาเยือนได้ หากไม่ป้องกันให้ดี ควรตรวจสอบปลวก ทุกๆ 4 เดือน หากตรวจพบ ควรแจ้งบริษัทกำจัดปลวก มาฉีดยาป้องกัน และให้รับประกันปลวกขึ้นบ้านด้วย โดยเฉพาะเสาบ้าน และคาน ซึ่งต้องแข็งแรงและไม่ควรเสียหายเพราะปลวก

9. เช็คสภาพทั้งหมดของบ้าน ตรวจสภาพบ้านโดยภาพรวม ไม่ว่าจะเป็นสี พื้นคอนกรีต ท่อน้ำอุดตัน รอยร้าว หากพบปัญหา ควรรีบซ่อมแซมทันที

 

และเนื่องจาก ช่วงนี้ หน้าฝน มีฝนตกบ่อยๆ เราต้องมาดู วิธีดูแลบ้านช่วงหน้าฝน ช่วยเสริมให้บ้านแข็งแรง น่าอยู่กันสักหน่อย

การดูแลรักษาบ้าน หน้าฝน มีวิธีดังนี้

การดูแลรักษาและทำความสะอาดบ้านมีความสำคัญอย่างไร

  1. อย่าให้มีรอยแตกร้าว ต้องหมั่นสำรวจทุกส่วนภายในบ้านให้ดี พวกผนัง ฝ้าเพดาน หลังคาบ้าน ถ้ามีรอยแตกร้าว รั่วซึม ต้องรีบซ่อมแซมทันที เพราะเมื่อฝนตกจะทำให้บ้านเสียหายได้ง่ายๆ
  2. เช็ครางระบายน้ำ ช่วงที่ฝนตกลงมาหนัก รางระบายน้ำต้องไร้สิ่งกีดขวาง หากมีกิ่งไม้ เศษใบไม้ เศษขยะ อาหารต่างๆ ตกค้างอยู่ ให้เคลียร์ออกทันที เพื่อไม่ให้มีน้ำขังและไหลกลับเข้าบ้านของเรา รวมถึงท่อระบายน้ำอย่าให้อุดตัน
  3. ย้ายเฟอร์นิเจอร์ ควรย้ายเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ที่อยู่กลางแจ้ง หรือกลางสนาม ที่ไม่มีหลังคาบัง ถึงแม้จะทนทาน แต่เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ได้นานๆ ก็ไม่ควรโดนน้ำฝนมากเกินไป
  4. ต่อเติมกันสาด เมื่อถึงฤดูฝน หากเรามีกัดสาด บริเวณ ประตู หน้าต่าง ผนังภายนอกจะดีมาก ไม่ให้น้ำฝนสาดมาโดน เพราะอาจทำให้เกิดคราบเหลือง ตะไคร่น้ำได้
  5. คว่ำภาชนะน้ำขัง ฝนตกแบบนี้ ควรคว่ำน้ำที่ขังออกให้หมด ทั้งในกระถาง และภาชนะต่างๆ ที่น้ำขังได้ เพื่อสุขภาพที่ดีในครอบครัว ป้องกันการแพร่ของลูกน้ำยุงลายด้วย
  6. ป้องกันปลั๊กไฟ น้ำฝนมีโอกาสกระเด็นโดนปลั๊กไฟ ที่อยู่ติดผนังได้ ทางที่ดีควรใช้ปลั๊กไฟที่มีฝาปิด ก็จะช่วยป้องกันไฟมากขึ้น
  7. พื้นและสีบ้าน อย่าปล่อยให้พื้นมีน้ำขัง ต้องรีบเช็ดให้แห้ง ป้องกันเชื้อรา และคราบน้ำ ส่วนผนัง ควรทาสีที่ป้องกันความชื้นได้  ไม่ให้เกิดเชื้อราเช่นกัน
  8. ตัดกิ่งต้นไม้ใหญ่ออก หากที่บ้านมีต้นไม้ใหญ่ และหักง่าย ควรตัดกิ่งก้านที่ยื่นถึงหลังคาบ้าน หรือส่วนต่างๆ ของบ้านออก เพื่อป้องกัน การโค่นล้มจากพายุฝน จนโดนบ้านเสียหาย

การดูแลบ้านในช่วงหน้าฝน ไม่ใช่เรื่องยากเลย ถ้าเราใส่ใจดูแล และหากใครที่กำลังสนใจทำเลบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ร่มรื่น น่าอยู่ ขอแนะนำบ้านย่านนนทบุรี บางบัวทอง ติดถนนบางกรวย ไทรน้อย โครงการบ้าน “บุหงา แอสเซท” ตอบโจทย์การใช้ชีวิตสำหรับคนที่กำลังอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง ตัดเข้าเมืองกรุงฯ ไม่ยาก ใช้ทั้งรถไฟฟ้าสายสีม่วง และถนนเส้นกาญจนาภิเษกได้เลย 

ที่นี่มีโครงการ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น The Prime มีพื้นที่ใช้สอยในบ้านตั้งแต่ 136-189 ตรม. ใกล้ CENTRAL WEST GATE, IKEA บางใหญ่, MACRO ไทรน้อย, INDEX LIVING MALL พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก และความปลอดภัยครบครัน สร้างด้วยการออกแบบที่ผสานความทันสมัย โดยทีมงานผู้ชำนาญการกว่า 30 ปี และยังมีโครงการ บ้านเติมรัก ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นที่มีให้เลือกครบตามสไตล์บ้านชานเมืองเช่นกัน สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม และรับโปรโมชั่นพิเศษ โทร 082-341-8888 หรือ Line: