Show เป็นที่ทราบกันดีว่าสภาพอากาศบ้านเราในตอนนี้ทั้งฝุ่นและควันพิษในอากาศมีปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และขนาดของฝุ่นนั้นก็เล็กลงขึ้นด้วยตัวอย่างเช่น PM2.5 แม้หน้ากากดักฝุ่นที่เราใส่ก็ยังไม่สามารถดักจับฝุ่นที่มีขนาดเล็กขนาดนี้ได้ ดังนั้นอีกวิธีในการแก้ปัญหาอีกวิธีหนึ่ง คือการเลือกซื้อ “เครื่องฟอกอากาศ” มาใช้งานเพื่อที่จะช่วยลดฝุ่นและกำจัดเชื้อโรคในบ้านของเราได้ แต่ว่า เครื่องฟอกอากาศคืออะไร หลักการทำงานของมันเป็นยังไง วันนี้เราจะมาหาคำตอบกัน เครื่องฟอกอากาศ
คืออะไร? เครื่องฟอกอากาศ มีระบบการทำงานอย่างไร? 2.Electrostatic
Precipitator (ESP) 3.Gas-Phase air filters 4.Ozone generator 5.UV Light เครื่องฟอกอากาศแบบพกพากำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก เนื่องจากสามารถป้องกันเชื้อไวรัสและมลพิษอื่นๆได้และมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พกพาง่ายและราคาค่อนข้างถูก ตามที่ Amazon ได้อ้างว่ามันสามารถกำจัดเชื้อรา ฝุ่นและเชื้อไวรัสในอากาศ ดังรูปภาพข้างล่างนี้ แม้แต่ประธานาธิบดี Duterte ของประเทศฟิลิปปินส์ก็ใช้เครื่องฟอกอากาศแบบพกพานี้โดยการคล้องไว้ที่คอในระหว่างการประชุมและขณะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศอินเดีย แต่คำถามสำคัญคือ : เครื่องฟอกอากาศแบบพกพาเหล่านี้ใช้งานได้จริงไหม เครื่องฟอกอากาศแบบพกพา : มันคืออะไรเครื่องฟอกอากาศแบบพกพาทำงานต่างจากเครื่องฟอกอากาศทั่วไป บ่อยครั้งเครื่องฟอกอากาศทั่วไปจะใช้เทคโนโลยีการปล่อยประจุไฟฟ้าในการกรองมลพิษในอากาศ ในทางกลับกันเครื่องฟอกอากาศตามบ้านส่วนใหญ่ใช้เทคโนโลยีแผ่นกรอง HEPA ในการกรองมลพิษทางอากาศ ซึ่งทุกๆนาที เครื่องฟอกอากาศแบบพกพาที่มีตัวปล่อยประจุไฟฟ้าจะปล่อยไอออนปริมาณหลายพันตัวไปในอากาศ ไอออนที่ถูกปล่อยออกมาเหล่านี้จะไปจับตัวกับมลพิษในอากาศ ทำให้เกิดไฟฟ้าสถิต ซึ่งก็เหมือนกับลูกโป่งที่ลอยติดอยู่บนกำแพงเมื่อมีประจุไฟฟ้าสถิต อนุภาคที่มีไฟฟ้าสถิตมีแนวโน้มที่จะเกาะติดกับสิ่งที่อยู่ใกล้พวกมันที่สุด เครื่องฟอกอากาศส่วนตัว : พวกมันสามารถป้องกันเชื้อไวรัสและมลพิษอื่นๆได้หรือไม่จากการค้นคว้าของนักวิทยาศาสตร์ในประเทศจีนและรัฐแคลิฟอเนียร์ได้ทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องฟอกอากาศแบบพกพาที่บรรจุตัวปล่อยไอออนทั้ง 4อัน โดยทดสอบดังนี้ วางเครื่องฟอกอากาศแบบพกพาแต่ละเครื่องไว้ในห้องขนาด 0.46 ตารางเมตร ซึ่งมีขนาดประมาณบ้านสุนัข และทดสอบว่าพวกมันสามารถกำจัดมลพิษในอากาศได้ดีขนาดไหน ผลลัพธ์ก็คือ 3 ใน 4 ของเครื่องฟอกอากาศแบบพกพาที่บรรจุตัวปล่อยไอออนสามารถกำจัดมลพิษที่อยู่ห่างออกไป 20 ซม. ได้น้อยมากเพียง10% การป้องกันเพียงแค่ 10%ไม่เพียงพออย่างแน่นอน เพราะมันต่ำกว่าการสวมหน้ากากอนามัยที่ป้องกันไวรัสได้ถึง 95% มากไปกว่านั้น การทดสอบเครื่องฟอกอากาศแบบพกพานี้เกิดขึ้นในห้องห้องปิดขนาดเล็กเพียง 0.46 ตารางเมตรโดยไม่มีอากาศเคลื่อนที่ ซึ่งเป็นไปได้ว่า มันจะทำงานแย่ลงไปกว่านี้อีกเมื่อเราคล้องมันไว้ที่คอในชีวิตประจำวัน ข้อมูลข้างต้นแสดงให้เห็นถึงเครื่องฟอกอากาศแบบพกพาที่ทำงานโดยตัวปล่อยประจุไอออนนั้นไม่มีประสิทธิภาพในการฟอกอากาศได้ดีพอ แต่ อะไรล่ะคือความอันตราย ได้รับการป้องกันเชื้อไวรัส 10% จากเครื่องฟอกอากาศแบบพกพา ดีกว่าไม่ได้รับเลยนั้นดีจริงหรือ ตัวปล่อยประจุไอออนเป็นอันตรายต่อร่างกายคุณ นอกเหนือกจากการค้นคว้าที่แสดงให้เห็นว่าเครื่องฟอกอากาศแบบพกพานั้นไม่สามารถกำจัดมลพิษหรือเชื้อไวรัสได้ มันยังมีอีกหลายสิ่งที่น่ากังวลอีกดังนี้ 1. เครื่องฟอกอากาศแบบพกพานั้นสร้างก๊าซโอโซนหลายการศึกษาได้นำเสนอว่าเครื่องฟอกอากาศแบบพกพาสร้างก๊าซโอโซนในชั้นบรรยากาศเนื่องจากมีการใช้ตัวปล่อยประจุไอออนแทนการใช้แผ่นกรองHEPA ก๊าซโอโซนเป็นอันตรายต่อมนุษย์และทำลายปอดอย่างรุนแรง ซึ่งปริมาณก๊าซโอโซนเกิดจากเครื่องฟอกอากาศแบบพกพาเป็นจำนวนมาก เพียงแต่ผู้บริโภคไม่ทันได้ตระหนักถึงมันเท่านั้นเอง และปริมาณก๊าซโอโซนที่เกิดขึ้นจากตัวปล่อยประจุไอออนแต่ละชนิดอาจมีความแตกต่างกัน แต่มีแค่บางตัวเท่านั้นที่แสดงให้เห็นว่าเป็นระดับที่เป็นอันตราย ความเข้มข้นของโอโซน [ผลิตโดยเครื่องกรองแบบพกพา] ที่ระดับการหายใจของมนุษย์อาจเป็นอันตรายอย่างมาก หากใช้เครื่องฟอกอากาศแบบพกพาที่มีตัวปล่อยไอออนภายใต้สภาพอากาศที่อยู่นิ่ง Shi et al. (2016). ประสิทธิภาพของเครื่องฟอกอากาศที่ทำงานโดยการปล่อยประจุไอออนแบบพกพา: การปล่อยโอโซนและการกำจัดอนุภาค นักการตลาดบางคนพยายามเสนอการขายว่าก๊าซโอโซนที่มาจากตัวปล่อยไอออนมีความแตกต่างกับก๊าซโอโซนที่ถูกปล่อยจากอย่างอื่น ดังนั้นมันจึงไม่เป็นอันตราย ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ผิด โดยอ้างอิงจาก EPA ที่ได้อธิบายไว้ว่า นักการตลาดบางคนอ้างว่าก๊าซโอโซนในหมอกควันภายนอกอาคารและโอโซนที่ผลิตโดยอุปกรณ์เหล่านี้มีความต่างกัน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมันไม่ต่างกันเลย สำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐอเมริกา 2. เครื่องฟอกอากาศแบบพกพาเข้ามามีบทบาทในผลิตภัณฑ์บำรุงก๊าซโอโซนที่เกิดขึ้นจากเครื่องฟอกอากาศแบบพกพานั้นอาจเป็นเหตุนำไปสู่ความอันตรายต่อสุขภาพ จากการศึกษาพบว่าก๊าซโอโซนสามารถทำปฏิกิริยากับเทอร์พีนในผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย เช่น โลชั่น น้ำหอม เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่มีกลิ่นหอม ปฏิกิริยาโอโซนเหล่านี้สามารถส่งผลให้เกิดสารอินทรีย์ระเหยง่าย ( VOC )ที่เป็นอันตราย เช่น ฟอร์มาลดีไฮด์ และฝุ่นละออง PM2.5 ซึ่งทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นในภูมิภาคหลักๆ 3. เครื่องแบบพกพาอาจทำให้มลพิษติดอยู่ที่ใบหน้าหรือเสื้อผ้าของคุณตัวปล่อยไอออนทำงานโดยการกำจัดมลพิษออกจากอากาศให้ไปติดกับพื้นผิวบริเวณใกล้เคียง แต่สิ่งที่เป็นปัญหาก็คือ หากพื้นผิวบริเวณใกล้เคียงเหล่านั้นเป็นร่างกายของคุณล่ะ เมื่อเราแขวนเครื่องฟอกอากาศแบบพกพาที่มีตัวปล่อยไอออน ใบหน้า ร่างกายและเสื้อผ้าก็ทำหน้าที่เสมือนแม่เหล็กดึงดูดมลพิษให้มาติดกับ ซึ่งนี่คือผลลัพธ์ที่ทำให้เสื้อผ้าและผิวหนังเต็มไปด้วยมลพิษ หรือแม้แต่คุณอาจหายใจเอามลพิษเข้าไปมากกว่าปกติด้วยซ้ำ สรุปเครื่องฟอกอากาศแบบพกพาไม่มีประสิทธิภาพในการฟอกอากาศแต่อย่างใด แถมมันยังผลิตก๊าซโอโซนที่มีผลเสียต่อร่างกายอีกด้วย Smart Air เกี่ยวกับ Smart AirSmart Air เป็นธุรกิจเพื่อสังคมที่ได้รับการยอมรับโดย B corp ซึ่งเป็นการรับรองมาตรฐานการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงมิติทางสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน มีความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับตำนานที่บริษัทใหญ่ๆที่หวังเพิ่มราคาอากาศบริสุทธิ์ อุตสาหกรรมเครื่องฟอกอากาศนั้นเต็มไปด้วยความต้องการที่จะทำให้อากาศบริสุทธิ์ซับซ้อนและมีราคาแพงเกินความจำเป็น แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น อากาศบริสุทธิ์เป็นสิ่งที่ไม่ซับซ้อนเลย เพราะสิ่งเดียวที่ต้องการคือพัดลมและแผ่นกรองอากาศ บริษัทใหญ่ๆไม่สามารถได้กำไรจากความเรียบง่าย ดังนั้นพวกเขาจึงเพิ่มลูกเล่นที่ไม่จำเป็นลงไปในเครื่องจักรของเขา Smart Air ผลิตเครื่องฟอกอากาศแบบเรียบง่ายที่มีการแจกจ่ายข้อมูลอย่างเปิดเผยรองรับการทำงานของเครื่องฟอกอากาศและประสิทธิภาพการทำงานของมันโดยการตัดลูกเล่นทางการตลาดที่แปลกใหม่ออกไป เช่น เครื่องสร้างประจุไอออนและหลอด UV ที่อาจทำให้อากาศของคุณแย่ลง เราสามารถทำให้มีอากาศสะอาดมากขึ้นโดยที่ค่าใช้จ่ายนั้นมีราคาเพียงเศษเสี้ยวของค่าใช้จ่ายที่ “พวกบริษัทใหญ่” จะเรียกเก็บเงินจากคุณ ติดตามและเพิ่มเราเป็นเพื่อนบนโซเชียลมีเดียเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม |