อาการริดสีดวงทวารมักจะเกิดจากการขับถ่ายไม่ถูกสุขลักษณะ การอั้นหรือบ่งถ่ายเป็นเวลานานจนทำให้เกิดแผลหรือการบวมของเส้นเลือดและมีเลือดออกจากบริเวณทวารหนัก ซึ่งคุณแม่ตั้งครรภ์ก็มักจะมีอาการของริดสีดวงทวารจากฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงและการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้ขับถ่ายลำบากและเจ็บปวดบริเวณทวารหนัก ก่อให้เกิดความรำคาญและกังวลใจ แต่อาการของริดสีดวงทวารไม่ได้รุนแรงหรือเป็นอันตรายกับการตั้งครรภ์ หากคุณแม่ดูแลเรื่องการขับถ่ายให้ดีค่ะ Show
ทำไมจึงเป็นริดสีดวงทวาร?
คุณแม่ส่วนใหญ่มักจะอายไม่กล้าปรึกษาแพทย์จนอาการริดสีดวงเป็นมากขึ้น จึงควรสังเกตว่ามีอาการเหล่านี้หรือไม่ การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนที่รวดเร็วของผู้หญิงที่ตั้งครรภ์และ ปริมาณการไหลเวียนของโลหิตที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้เส้นเลือดดำที่อยู่รอบๆ ทวารหนักขยายตัว จนทำให้เกิดอาการบวม และยิ่งเฉพาะในช่วงที่มดลูกเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นตามอายุครรภ์ ก็จะทำให้เกิดภาวะเลือดคั่งในเส้นเลือดดำจนทำให้เป็นริดสีดวงตอนท้องได้ ด้วยเหตุนี้จึงส่งผลให้คุณแม่ตั้งครรภ์มักจะมีอาการริดสีดวงทวารกันในระหว่างที่ตั้งครรภ์ ซึ่งอาจสร้างความวิตกกังวลใจได้ว่าคนท้องเป็นริดสีดวงจะรักษายังไง? วันนี้เรามีคำแนะนำที่มีประโยชน์ที่จะช่วยรักษาอาการริดสีดวงในคนท้องมาฝากคุณแม่ทั้งหลาย มีอะไรบ้างไปดูกัน สารบัญเนื้อหาหลัก
ริดสีดวงในคนท้อง เกิดจากอะไร?สาเหตุของกาาเกิดริดสีดวงในคนท้อง โดยส่วนมากมักเกิดกับคนท้อง 38 สัปดาห์ขึ้นไป เนื่องจากการมีอายุครรภ์ที่เพิ่มขึ้น ทำให้มดลูกเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นเป็นทำให้เกิดภาวะเลือดคั่งในเส้นเลือดดำจนทำให้เป็นริดสีดวงระยะ 4 ตอนท้องได้ นอกจากนี้ยังมีสาเหตุของริดสีดวงในคนท้องได้แก่
อาการของริดสีดวงในผู้หญิงที่ตั้งครรภ์โดยส่วนมากอาการริดสีดวงที่มักพบบ่อยในตอนท้องหากไม่มีอาการมากนัก อาจจะมีอาการคันที่ก้นเล็กน้อย ไม่มีความรู้สึกเจ็บ และไม่มีติ่งโผล่ออกมาให้เห็น ไม่สามารถคลำเจอ แต่หากมีอาการมากมักจะมีเลือดออก ถ่ายเป็นเลือด หรือมีเลือดหยดหลังการถ่ายอุจจาระ มีเลือดติดกระดาษทิชชู่ ซึ่งเกิดจากเส้นเลือดบริเวณที่ปากทวาร มีติ่งเนื้อริดสีดวงโผล่ออกมานอกขอบรูทวาร สามารถคลำเจอได้ มีอากรบวม อักเสบ และ มีอาการปวดบริเวณริดสีดวงร่วมด้วย ในคุณแม่ท้องบางรายที่มีอาการอักเสบรุนแรงอาจปวดระบมจนนั่งลำบาก อ่านเพิ่มเติม : รวม Q&A อาการปวดริดสีดวง พร้อมตอบคำถามที่พบบ่อย คนท้องเป็นริดสีดวง ต้องรักษาอย่างไรวิธีรักษาริดสีดวงในคนท้องที่ปลอดภัย และเห็นผลการรักษาได้ชัดเจน ซึ่งสามารถทำการรักษาได้ดังนี้
คนท้องเป็นริดสีดวงกี่วันหาย?โดยส่วนใหญ่อาการริดสีดวงทวารในคนท้องมักจะหายไปภายใน 2-3 สัปดาห์หลังคลอด แต่คุณแม่ที่ตั้งครรภ์บางรายอาจมีอาการของริดสีดวงแบบเป็นๆ หายๆ ซึ่งแพทย์จะรอให้คลอดก่อนจึงจะแนะนำให้รับประทานยาริดสีดวงเพื่อรักษาริดสีดวงต่อไป คนท้องเป็นริดสีดวง ควรใช้ยาอะไรดี?
คนท้องกินยาริดสีดวงได้ไหม?จริงๆแล้ว อาการริดสีดวงทวารในกลุ่มคนท้องสามารถรักษาได้หลายวิธี โดยวิธีที่ใช้จะขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรงของอาการที่เป็น ซึ่งส่วนมากจะแนะนำให้มีการรักษาร่วมไปกับการรับประทานอาหารที่มีกากใยมากๆ ดื่มน้ำมากๆ ดูแลรักษาบริเวณริดสีดวงให้สะอาด และแห่งอยู่เสมอ รวมถึงมีการแช่น้ำอุ่นจัดเป็นประจำทุกวันติดต่อกันอย่างน้อย 7-10 วัน วันละ 15-20 นาที ควบคู่ไปกับการรับประทานยาในกลุ่มแก้ปวดและยาทาหรือใช้สเปรย์รักษาริดสีดวง แต่แนะนำให้หลีกเลี่ยงยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่ยากลุ่มสเตียรอยด์ (NSAIDs) เช่น ไอบูโพรเฟน เป็นริดสีดวงตอนท้อง อันตรายไหม?สำหรับภาวะริดสีดวงทวารที่อยู่ในระหว่าการตั้งท้อง จะไม่ส่งผลที่เป็นอันตรายใดๆ กับการตั้งท้อง และไม่มีผลเสียต่อทารกในครรภ์ แต่อาจจะสร้างความรำคาญใจให้กับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ได้ จากอาการคันรอบทวารหนัก มีอาการเจ็บ ปวด แสบ และ มีเลือดไหลในระหว่างการขับถ่าย หรือ มีเลือดหยดตามหลังถ่ายเมื่อถ่ายอุจจาระเสร็จ ซึ่งอาจมีติ่งริดสีดวงโผล่ออกมาเวลาที่มีการเบ่งถ่ายอุจจาระ และ จะหดกลับเข้าไปหลังการขับถ่าย หรือบางคนอาจเป็นก้อนอยู่ภายนอก ไม่สามารถหดกลับเข้าไปได้เอง ซึ่งจะทำให้รู้สึกเจ็บมาก ถ้าหากมีอาการบวม อักเสบที่รุนแรง มีผลทำให้เดิน นั่ง หรือทำกิจกรรมต่างๆได้ไม่สะดวก และยิ่งถ้าเกิดการเสียดสีมากๆ ก็อาจจะทำให้ริดสีดวงแตก มีเลือดออก ส่งกลิ่นเหม็นได้ การดูแลตัวเองเมื่อเป็นริดสีดวงตอนท้องการดูแลตัวเองด้วยวิธีง่ายๆด้วยตัวเองจากการเป็นริดสีดวงตอนท้อง ที่คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถทำได้ เพื่อเป็นการช่วยลดอาการของริดสีดวง และ ช่วยให้ติ่งเนื้อที่โผล่ออกมาฝ่อตัว หดกลับเข้าที่เดิมโดยไม่ต้องผ่าตัดมีดังนี้
ตอนท้องผ่าตัดริดสีดวงได้ไหม?เป็นคำถามที่พบบ่อยสำครับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ต้องเจอกับอาการของริดสีดวง ว่าถ้าเป็นหนักมากจำเป็นต้องผ่าตัดหรือไม่? โดยทั่วหากมีอาการของริดสีดวงในขณะการตั้งครรภ์ จะแนะนำให้ใช้รักษาด้วยวิธีประคับประคองอาการ โดยการแนะนำให้ปรับเปลี่ยนหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆแทน เช่นการไม่ปล่อยให้ท้องผูก การรับประทานอาหารที่มีกากใย การรักษาความสะอาดบริเวณรอบทวาร ปฏิบัติตัวให้เคร่งครัดแทนวิธีการผ่าตัด แต่ในกรณีที่ต้องมีการรักษาริดสีดวงตอนท้องด้วยการผ่าตัดได้แก่ ติ่งริดสีดวง หรือ ก้อนเนื้อที่ยื่นออกมามีขนาดใหญ่มาก จนทำให้รู้สึกเจ็บปวด ทรมานมากจนต้องให้ยาแก้ปวดอย่างแรง และไม่สามารถดันก้อนกลับได้ หรือ มีการอักเสบรุนแรง มีเลือดออกมาก ติ่งเนื้อมีอาการเน่า เนื้อตาย โดยการผ่าตัดรักษาริดสีดวงในคนท้องจะมีการหลีกเลี่ยงการดมยาสลบ เพราะอาจทำให้มีผลต่อทารกในครรภ์ได้ จะใช้การฉีดยาชาเฉพาะที่หรือการบล็อคหลังเพื่อลดความเจ็บปวดแทน สรุป เป็นริดสีดวงตอนท้องจะหายไหม?คุณแม่ที่ตั้งครรภ์มักมีความกังวลสูงมากเกี่ยวกับอาการของริดสีดวง ว่าเป็นริดสีดวงตอนทั้งแล้วจะหายไหม คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญคือ สามารถรักษาให้หายได้หากมีการดูแลตัวเอง และ ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด โดยอาการริดสีดวงทวารมักจะหายภายใน 2-3 สัปดาห์หลังคลอด ดังนั้นคุณแม่จึงควรฝึกการขับถ่ายให้เป็นเวลา เน้นการกินอาหารที่มีกากใย และ การเคลื่นไหวเช่นการเดิน หรือการออกกำลังกายเบาๆ ก็จะช่วยให้ระบบการขับถ่ายทำงานได้ดียิ่งขึ้น ริดสีดวงคนท้องหายเองไหมในกรณีที่มีการตั้งครรภ์แนะนำให้คุณแม่ตรวจสุขภาพทางทวารร่วมไปด้วย เพื่อเช็คดูว่าเป็นริดสีดวงขณะ การ ตั้งครรภ์หรือไม่ หาพบว่าเป็นริดสีดวงในขณะตั้งครรภ์ก็สามารถรักษาได้ด้วยตัวเอง โดยหากไม่มีอาการที่รุนแรงมาก อาการก็จะค่อยทุเลาลงภายใน 7-14 วันหลังการรักษา
เป็นริดสีดวงตอนท้องอันตรายไหมภาวะริดสีดวงทวารไม่เป็นอันตรายใดๆ กับการตั้งครรภ์ และไม่มีผลกับทารกในครรภ์ แต่ทำให้เกิดความรำคาญ คันรอบทวารหนัก เจ็บและมีเลือดติดปนมาเวลาถ่ายอุจจาระหรือหลังถ่าย ซึ่งริดสีดวงอาจออกมาเฉพาะเวลาที่เบ่งถ่ายและหดกลับไปหลังถ่ายเสร็จ หรือบางคนอาจเป็นก้อนอยู่ภายนอกยื่นออกมาจากทวารหนักขณะถ่ายอุจจาระ ทำให้เจ็บ
คนท้องเป็นริดสีดวงทํายังไงป้องกันอาการริดสีดวงในช่วงตั้งครรภ์ได้อย่างไร?. นอนตะแคงซ้ายทุกๆ 2-3 ชั่วโมง เพื่อลดแรงดันภายในช่องท้อง และยกขาพาดกับโต๊ะประมาณ 20 นาที ก็อาจช่วยได้. ไม่ใช้สบู่ แป้งโรยตัวหรือผ้าเช็ดทำความสะอาดผิว ( wet wipes) ที่มีส่วนผสมของน้ำหอม ล้างก้นด้วยน้ำและเช็ดให้แห้งสนิท คลายกางเกงชั้นในให้หลวม. ทำไมคนท้องชอบเป็นริดสีดวงมดลูกที่ขยายใหญ่ขึ้นจะไปกดหลอดเลือดดำในช่องท้องทำให้หลอดเลือดดำที่อยู่ปลายทาง เช่น บริเวณเท้า ขา และก้น มีการไหลเวียนกลับเข้าสู่หัวใจยากขึ้น จึงทำให้เกิดการคั่งของเลือดในบริเวณเหล่านั้นขึ้นได้ การคั่งของเลือดที่กระจุกเลือดที่บริเวณก้นจะเห็นเป็นริดสีดวงทวารขึ้นมา
|