หู ฟัง ที่ ใช้ กับ garmin

การฟังเพลงในขณะที่ออกกำลังกาย ช่วยให้สามารถเผาผลาญแคลอรี่ได้มากยิ่งขึ้น เนื่องจากร่างกายของมนุษย์มีการเคลื่อนไหวที่สอดคล้องกับจังหวะดนตรีอยู่เสมอ และทำให้อัตราการเต้นของหัวใจมีประสิทธิภาพขึ้น ส่งผลไปยังระบบเผาผลาญที่ทำหน้าที่ได้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง ซึ่งในสมัยอดีตจะเลือกใช้เครื่องเสียงต่างๆ เช่น เทป การเครื่องเล่นซีดีหรือ ลำโพงบลูทูธ เข้ามาใช้ในการออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย ก่อนที่จะมีการพัฒนามาเป็น หูฟังไร้สาย หรือ บางคนเรียกว่า หูฟัง bluetooth ออกกําลังกาย นั่นเอง ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะสามารถที่จะฟังเพลงได้อย่างเป็นส่วนตัวและมีอิสระในการพกพาที่สะดวกมากกว่าเดิม

อย่างไรก็ตาม หูฟังแบบทั่วไปนั้นก็อาจจะไม่ค่อยสะดวกต่อการออกกำลังกายมากนัก เนื่องจากเป็นหูฟังรูปแบบไร้สารที่สามารถเกิดความเสียหายในขณะที่ออกแรงหรือเคลื่อนไหวได้ เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมากยิ่งขึ้น อีกทั้งในบางรุ่นยังไม่สามารถกันน้ำได้จนทำให้ในระหว่างการออกกำลังกายที่มักจะมีเหงื่อก็อาจจะเกิดความเสียหายได้ ส่งผลให้มีการผลิต “ หูฟังออกกําลังกาย ” ออกมาเป็นทางเลือกในการเสริมสร้างความสนุกและให้คุณสะดวกในการฟังเพลง เป็น หูฟัง bluetooth ออกกําลังกาย ที่สามารถเชื่อมต่อผ่านทาง Bluetooth หูฟังออกกําลังกายเต็มไปด้วยความเสถียรและสะดวกในการเคลื่อนไหวที่คล่องตัวมากยิ่งขึ้น

แล้ว หูฟังบลูทูธออกกำลังกาย มีวิธีการเลือกซื้ออย่างไร สำหรับใครที่กำลังสนใจอยากซื้อ หูฟังวิ่ง เรามีคำแนะนำทั้งเรื่องของการเลือกซื้อและ 10 หูฟังออกกำลังกาย รุ่นยอดฮิตที่รับรองเลยว่าจะช่วยให้คุณสนุกสนานและออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่แน่นอน

แนะนำ 10 หูฟัง bluetooth ออกกําลังกาย ยี่ห้อไหนดี แห่งปี 2022

1. Bose SoundSport Wireless
2. Bose SoundSport Free Wireless In-Ear
3. Plantronics BackBeat Fit Bluetooth
4. Beats PowerBeats Pro Bluetooth
5. Sony WF-SP700N
6. Sony NW WS623 Sport Walkman
7. Sennheiser CX Sport
8. Jaybird X4 Bluetooth
9. Jabra Elite Sport
10. JBL Endurance Sprint

1. Bose SoundSport Wireless

★★★★★

ควบคุมง่ายทุกการเชื่อมต่อ สะดวกทุกการใช้งาน เสียงชัดคุณภาพเยี่ยม

Bose SoundSport Wireless หูฟังออกกำลังกายดีไซน์สวยเฉียบที่กำลังมาแรงอย่างมากในราคาสุดย่อมเยาว์ หูฟังวอ่งแบรนด์ดัง Bose ที่ผลิตขึ้นจากวัสดุคุณภาพเยี่ยม ส่งผลให้หูฟังสวมใส่ได้อย่างสบาย ไร้การระคายเคืองและมีน้ำหนักเบา เพิ่มเติมด้วยเทคโนโลยีการเชื่อมต่อผ่านระบบ Bluetooth รุ่นใหม่ล่าสุดที่รองรับเทคโนโลยี NFC ช่วยให้ทุกการฟังเพลงเป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็วในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ  สามารถใช้งานได้ง่ายๆ แค่เพียงแตะก็เชื่อมต่อได้ทันที จุดเด่นของ Bose SoundSport Wireless คือรูปแบบไร้สายที่สามารถใช้งานได้นานผ่านการแบตเตอรี่ที่มีความทนทาน จุกซิลิโคพิเศษที่ออกแบบมาเฉพาะแบรนด์ ช่วยให้การสวมใส่ได้แน่น ไม่มีหลุด รวมถึงการนำ Tangle – Free เทคโนโลยีที่ช่วยให้สายหูฟังไม่พันกัน สะดวกในการจัดเก็บและนำออกมาใช้ โดย Bose SoundSport Wireless เป็นรุ่นกันน้ำและเหงื่อ อีกทั้งยังมีคุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยม เน้นจังหวะและเบสได้อย่างอรรถรส

ข้อดี
✓ กันน้ำและกันเหงื่อ
✓ เสียงเบสและจังหวัดแน่น คุณภาพเสียงดี
✓ น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย พกพาได้อย่างสะดวก

ข้อเสีย
✘ มีสีให้เลือกน้อย
✘ การเก็บสายค่อนข้างยาก

2. Bose SoundSport Free Wireless In-Ear

★★★★★

น้ำหนักเบา หูฟังออกกำลังกายสุดล้ำ ที่พร้อมอำนวยความสะดวกทุกเรื่องการเชื่อมต่อ

Bose SoundSport Free Wireless In-Ear Wireless Earphone มาพร้อมกับความเบาของหูฟังแค่เพียง 14 กรัมต่อข้าง ควบคู่กับเคสที่มีน้ำหนักแค่เพียง 80 กรัม พกพาได้ง่าย สะดวกในทุกที่ จุกหุฟังของรุ่นนี้มีเทคโนโลยี StayHear+ ที่จะมีขาเกี่ยวเข้ากับหูฟัง ให้คุณสามารถใช้งานได้อย่างคล่องตัว กระชับและไม่มีการหลุดอย่างแน่นอน อีกทั้งยังสามารถกันน้ำได้ในระดับ IPX4 โดย Bose SoundSport Free Wireless In-Ear Wireless Earphone เป็นระบบ Quick Charge ที่สามารถชาร์จได้อย่างรวดเร็ว แค่เพียงไม่ถึง 2 ชั่วโมงต่อหนึ่งครั้ง และชาร์จเพียง 15 นาที ก็สามารถใช้ได้นาน 45 นาที  โดยแบตเตอรี่ของรุ่นนี้เป็น lithium – ion ใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่อง 5 ชั่วโมง และในส่วนของตัวเคสก็สามารถที่จะนำมาชาร์จกับหูฟังได้อีกด้วย มีการแสดงสถานะแบตเตอรี่ด้วยระบบไฟ LED ไปจนถึงการเชื่อมต่อกับสื่อมัลติมีเดีย การโทรต่างๆ รวมถึงการเข้าใช้ผ่านแอปพลิเคชั่น Bose Connect ที่ต้องบอกเลยว่าสะดวกและง่ายดายในทุกๆ การควบคุมและใช้งาน

ข้อดี
✓ กันน้ำและกันเหงื่อได้ในระดับ IPX4
✓ สามารถเชื่อมต่อกับระบบต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชั่นได้ง่าย
✓ มีระบบ Quick Charge

ข้อเสีย
✘ น้ำหนักที่เบามากเกินไป จนทำให้บางครั้งเกิดความไม่สะดวกในการใช้งาน

3. Plantronics BackBeat Fit

★★★★★

หูฟังวิ่งแบตอึด กันน้ำ กันฝุ่น ระบบคุณภาพ ใช้งานได้สนุกและปลอดภัย

ให้คุณออกกำลังกายได้อย่างสนุกสนานและใช้งานได้ยาวนานตามที่ต้องการด้วย Plantronics BackBeat Fit, Bluetooth หูฟังออกกำลังกายที่ทำขึ้นจากวัสดุที่มีความแข็งแรงและทนทานสูง ยืดหยุ่น สวมใส่ได้อย่างสะดวกและไม่หลุดง่ายๆ ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็พกพาได้อย่างคล่องตัว ได้ยินเสียงแวดล้อมรอบๆ ด้านได้อย่างครบถ้วน ปลอดภัยขึ้นกว่าเดิม Plantronics BackBeat Fit, Bluetooth สามารถใช้งานต่อเนื่องถึง 7 ชั่วโมงต่อการชาร์จแบตเตอรี่แค่เพียงครั้งเดียว ประสิทธิภาพในการกันน้ำ 1 เมตร ยาวนานกว่า 30 นาที กันเหงื่อในระดับ IP57 รวมถึงการป้องกันฝุ่น 

หูฟัง bluetooth ออกกําลังกาย รุ่นนี้มาพร้อมกับ My Tap ที่สามารถควบคุมทุกอย่างได้ดั่งใจ สั่งงานได้ง่ายๆ แค่เพียงสัมผัส มีการบอกปริมาณของแบตเตอรี่ การบอกเวลาและจับเวลา ไปจนถึงเรียก Siri เพื่อสอบถามและสั่งงานในขณะที่คุณกำลังออกกำลังกายได้อย่างสะดวก ควบคุมการเปิดและเลือกเพลงได้อย่างที่ต้องการ มีไมโครโฟนในตัวที่ใช้งานได้สะดวก ไปจนถึงแอปพลิเคชั่นต่างๆ ที่สามารถนำมาใช้เชื่อมต่อได้อย่างดีเยี่ยม

ข้อดี
✓ แบตเตอรี่อึดทนทานนาน 7 ชั่วโมง
✓ กันน้ำ กันเหงื่อในระดับ IP57
✓ มีไมโครโฟนในตัว สั่งงานและควบคุมได้ง่าย

ข้อเสีย
✘ การควบคุมเสียงจากภายในยังไม่มีประสิทธิภาพมากนัก ให้ความรู้สึกที่ไม่ค่อยเป็นส่วนตัว

4. Beats PowerBeats Pro

★★★★☆

ใช้งานนาน 9 ชม. ดีไซน์สวยสายสปอร์ต เสียงชัดเบสหนัก กันน้ำและเหงื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เป็นอีกหนึ่งหูฟังออกกำลังกายขายดีที่คุ้มค่าและมีดีไซน์ที่โดดเด่นอย่างมาก สำหรับ Beats PowerBeats Pro หูฟัง bluetooth ออกกําลังกายที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 9 ชั่วโมง และมากกว่า 24 ชั่วโมง เมื่อทำการชาร์จเข้ากับเคส การออกแบบสุดทันสมัยที่คำนึงถึงการใช้งานที่สะดวกสบาย ขาคล้องปรับได้ที่เกี่ยวหูได้อย่างแน่นหนา สวมใส่สบายด้วยน้ำหนักที่บางเบา สามารถกันน้ำและกันเหงื่อแม้จะเป็นการออกกำลังกายที่โหมหนักหรือใช้ระยะเวลานานแค่ไหน สามารถควบคุมเสียงและปรับระดับหูฟังวิ่งหรือหูฟังว่ายน้ำในแต่ละข้างได้ต้องการ มีระบบตัดเสียงระบบกวนและสามารถเชื่อมต่อแฮนด์ฟรีเข้ากับ Siri สั่งงานด้วยเสียงได้อย่างสะดวกอีกด้วย

ข้อดี
✓ สามารถชาร์จที่เคสชาร์จได้
✓ แบตเตอรี่อึด ใช้งานได้สูงสุด 9 ชั่วโมง
✓ สามารถกันน้ำและกันเหงื่อ

ข้อเสีย
✘ มีสีให้เลือกน้อยมากเกินไป

5. Sony WF-SP700N

★★★★☆

พลังเสียง Extra Bass แบตนาน 8 ชั่วโมง พร้อมตัดเสียงรบกวนได้ดีเยี่ยม

Sony WF-SP700N หูฟังออกกำลังกายไร้สายดีไซน์สุดเก๋ ออกแบบให้สามารถสวมใส่ได้อย่างสบายและกระชับมากยิ่งขึ้นด้วยก้านเกี่ยว ไม่มีการหลุดออก เสียงดังฟังชัดด้วยระบบ Extra Bass พร้อมประสิทธิภาพในการกันน้ำ กันละอองน้ำและเหงื่อในระดับ IPX4 รองรับการตัดเสียงรบกวน Noise Canceling พร้อมทั้งเปิดรับเสียงจากภายนอก ไปจนถึงการรองรับระบบคำสั่งเสียงและ Google Assistant สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 8 ชั่วโมง และสูงสุด 36 ชั่วโมงจากการชาร์จผ่านเคส

ข้อดี
✓ แบตเตอรี่ทนทาน ชาร์จสะดวก ใช้งานได้สูงสุด 8 ชั่วโมง
✓ มีระบบตัดเสียงรบกวน
✓ กันน้ำได้ในระดับ IPX4

ข้อเสีย
✘ ควบคุมระดับเสียงได้ยาก เสียงจากภายนอกเข้าถึงได้ง่าย

6. Sony NW WS623 Sport Walkman

★★★★☆

หูฟังว่ายน้ำ แบตทน 12 ชม. ระบบ Quick charge และป้องกันฝุ่นในระดับ IP65

Sony หูฟัง bluetooth ออกกําลังกาย รุ่น NW WS623 Sport Walkman หูฟังออกกำลังกายยอดฮิตที่มาพร้อมกับพื้นที่ในการจัดเก็บ 4GB รองรับเพลงไฟล์ MP 3 ได้สูงสุดถึง 800 เพลง มีฟังก์ชั่น Ambient Sound ที่สามารถควบคุมและเลือกเพลงได้อย่างสะดวกจากภายนอก รองรับการเชื่อมต่อ NFC หูฟังออกกำลังกายรุ่นนี้ ถือว่าเป็นหูฟังว่ายน้ำที่ตอบโจทย์อย่างมาก ลงน้ำลึกได้ถึง 2 เมตร นานถึง 30 นาที รวมถึงการลงน้ำเค็มและน้ำทะเล และช่วยป้องกันฝุ่นละอองในระดับ IP65 สามารถที่จะใช้งานได้ในพื้นที่มีอุณหภูมิ -5 ‘C จนถึง 45 ‘C ใช้งานได้ยาวนานด้วยแบตเตอรี่สูงสุด 12 ชั่วโมง

ข้อดี
✓ แบตเตอรี่อึด ใช้งานได้นานถึง 12 ชั่วโมง
✓ สามารถควบคุมและเลือกเพลงได้สะดวก
✓ เป็นหูฟังว่ายน้ำ ลงน้ำทะเลและลึก 2 เมตร ได้ถึง 30 นาที

ข้อเสีย
✘ สีมีให้เลือกน้อยเกินไป

7. Sennheiser CX Sport

★★★☆☆

น้ำหนักเบา ทนต่อน้ำและเหงื่อ

Sennheiser CX Sport หูฟังออกกำลังกายสุดคุ้มค่าที่มาพร้อมกับดีไซน์มาดเท่ที่ช่วยให้การฟังเพลงของคุณสนุกสนานและเพลิดเพลินมากยิ่งขึ้น หูฟังวิ่งสไตล์สปอร์ตที่มี 3 ปุ่มสำหรับการคุมการโทรผ่านทางรีโมทที่ใช้งานได้อย่างง่าย รองรับทั้งระบบ IOS และ Android ใช้งานได้ยาวนานถึง 6 ชั่วโมง หูฟัง bluetooth ออกกําลังกาย สามารถที่จะเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ 2 ตัวภายในเวลาเดียวกัน เสียงคุณภาพสูงและรูปทรงที่ช่วยให้กระชับ คล่องตัวในการสวมใส่

ข้อดี
✓ ควบคุมไมโครโฟนและการโทรได้ง่ายผ่าน 3 ปุ่มรีโมท
✓ เชื่อมต่อได้ถึง 2 อุปกรณ์ในเวลาเดียวกัน
✓ รูปทรงสวยงามและสวมใส่ได้อย่างนุ่มสบาย

ข้อเสีย
✘ มีสีให้เลือกน้อยเกินไป
✘ แบตเตอรี่ใช้งานได้ไม่ยาวนานมากนัก

8. Jaybird X4 Bluetooth

★★★★☆

เสียงชัดระดับ HD เล่นต่อเนื่อง 8 ชั่วโมง กันน้ำได้ลึกถึง 1 เมตร มาตรฐาน IPX7

Jaybird X4, Bluetooth เรียกได้ว่าเป็นหูฟังออกกำลังกายที่มีเสียงดังฟังชัดในระดับ HD เบสแน่นจังหวะหนัก สามารถปรับเสียงได้ด้วยโปรแกรม Jaybird ใช้งานได้ยาวนานถึง 8 ชั่วโมง ดีไซน์เรียบหรูและสวมใส่สบาย ปลอดภัยในทุกการเคลื่อนไหว สามารถป้องกันน้ำได้ในมาตรฐาน IPX7 ที่ลงน้ำได้ลึกถึง 1 เมตร ไม่เกิน 30 นาที พูดคุยได้อย่างสะดวกด้วยไมโครโฟนที่สามารถรับสายและพูดได้อย่างคล่อง

ข้อดี
✓ ปรับเสียงด้วย โปรแกรม Jaybird
✓ กันน้ำลึก 1 เมตรด้วยมาตรฐาน IPX7

ข้อเสีย
✘ มีสีให้เลือกน้อยเกินไป 

9. Jabra Elite Sport

★★★★☆

หูฟังไร้สายเพื่อสุขภาพ ป้องกันเหงื่อและละอองน้ำด้วยมาตรฐาน IP67 จัดเต็มไมโครโฟน 4 ตัว

Jabra Elite Sport หูฟัง bluetooth ออกกําลังกายดีไซน์เฉียบ ที่สามารถใช้งานได้ยาวนาน 4.5 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง มาพร้อมกับตัววัดเพื่อเช็คอัตราการเต้นของหัวใจในขณะที่กำลังออกกำลังกายด้วย Heart rate เพื่อดูอัตราการเต้นของหัวใจขณะออกกำลังกาย ประสิทธิภาพในการป้องกันละอองน้ำและเหงื่อด้วยมาตรฐาน IP67 เพิ่มความชัดให้ทุกๆ การเคลื่อนไหวด้วยไมโครโฟน 4 ตัวและควบคุมการรับสายสนทนาได้ตามต้องการ อีกทั้งยังรองรับระบบ Application Jabra Sport Life

ข้อดี
✓ มีตัวชี้วัดสำหรับเช็คอัตราการเต้นของหัวใจ
✓ กันน้ำและเหงื่อได้
✓ มีไมโครโฟนให้ถึง 4 ตัว

ข้อเสีย
✘ แบตเตอรี่น้อย ใช้งานได้ไม่นานมากนัก
✘ สีมีให้เลือกน้อยเกินไป

10. JBL Endurance Sprint

★★★★☆

หูฟังกันน้ำ iPX7 สวมง่าย ดีไซน์สุดเท่ ควบคุมด้วยระบบสัมผัส

JBL ENDURANCE SPRINT หูฟังออกกำลังกายคุณภาพสูงที่มาพร้อมกับการใช้งานที่ยาวนานถึง 8 ชั่วโมง เสียงดังฟังชัด ให้ความรู้สึกที่เป็นส่วนตัวและปลอดภัย ดีไซน์สุดเท่ที่มีการออกแบบเพื่อให้สวมใส่ได้อย่างสบาย ไม่เจ็บหูและไม่หลุดออกง่ายๆ เคลื่อนไหวได้อย่างคล่องตัว กันน้ำด้วยมาตรฐาน IPX7 ที่ลงน้ำลึกถึง 1.30 เมตรได้นาน 30 นาที หูฟัง bluetooth ออกกําลังกายสามารถที่จะรับสายโทรศัพท์ได้อย่างง่ายดายและควบคุมด้วยระบบสัมผัส

ข้อดี
✓ กันน้ำด้วยมาตรฐาน IPX7
✓ ควบคุมด้วยระบบสัมผัส
✓ ลงน้ำลึกได้ถึง 30 นาที

ข้อเสีย
✘ การพูดคุยโทรศัพท์ค่อนข้างเบา เสียงไม่ค่อยดังมากนัก แต่การฟังเพลงเสียงชัดเจน

ในปัจจุบันมีผู้คนหันมาสนใจการดูแลสุขภาพและออกกำลังกายมากยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มความสนุกและเพลิดเพลินกับการฟังเพลง ออก กํา ลังกา ย mp3 เคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้มีการพัฒนาหูฟัง bluetooth ออกกําลังกาย ที่เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งานเป็นอย่างดี ซึ่งหูฟังออกกําลังกายก็มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ มีหลายแบรนด์ที่มาเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ที่ชื่นชอบหรืออยากจะเริ่มต้นออกกำลังกาย เพื่อนำเสนอสิ่งที่ดีและตอบโจทย์ที่สุด แล้วควรจะเลือกหู ฟัง ออกกำลัง กายแบบไหนดี ไปดูวิธีเลือกต่อไปนี้ ที่จะช่วยให้คัดสรรหูฟัง วิ่งคู่ใจที่ไม่ว่าจะออกกำลังกายแนวไหน เมื่อไหร่ ก็เอาอยู่แน่นอน

1. เน้นความกระชับและคล่องตัวของหูฟังออกกําลังกาย
   ไม่ใช่แค่เพียงคุณภาพเสียงที่จะต้องใส่และคัดสรรให้ดีในการเลือกหูฟังเท่านั้น แต่คุณสมบัติหลักๆ ของหูฟังออกกําลังกายที่แตกต่างจากการใช้หูฟังทั่วไปก็คือเรื่องของความกระชับและพอดีสำหรับการสวมใส่ เมื่อใส่แล้วไม่มีการหลุดออกมาง่ายหรือหลวมและคับจนเกินไป เพราะคงไม่สะดวกมากนักถ้าหากคุณต้องวิ่งไปแล้วเกิดหูฟังหลุด ต้องคอยใส่ใหม่อยู่เรื่อยๆ เสียทั้งความรู้สึก เสียเวลาและทำให้เกิดความหงุดหงิดไม่น้อย เพราะฉะนั้น ควรเลือกหูฟังออกกําลังกายที่สามารถสวมใส่ได้อย่างพอดีและเหมาะสม ซึ่งในปัจจุบันก็มีให้คุณเลือกอยู่หลากหลาย เพื่ออำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็น หูฟังออกกําลังกายแบบคาดศรีษะ หูฟังวิ่งแบบที่เกี่ยวหู หรือแบบคาดท้ายทอยก็ได้รับความนิยมเช่นกัน เป็นต้น ที่คุณสามารถเลือกสรรเพื่อให้นำมาใช้งานโดยคำนึงได้ถึงการไม่หลวมหรือหลุดออกบ่อยๆ เกินไป
2. ประสิทธิภาพในการกันน้ำ
   ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญและค่อนข้างแตกต่างจากหูฟังทั่วไปกับหูฟังออกกําลังกายเลยทีเดียว เพราะแน่นอนว่าการออกกำลังกายย่อมควบคู่ไปกับเหงื่อที่ไหลออกมา ไม่ว่าจะเป็นในฟิตเนส รวมไปถึงการออกกำลังกายในพื้นที่กลางแจ้ง อย่างการปั่นจักรยาน การเล่นกีฬาฟุตบอล การวิ่งในสวนสาธารณะ ที่นอกจากจะเจอเหงื่อที่ไหลออกมาแล้ว ยังเสี่ยงต่อการที่ฝนตกลงมาในขณะที่คุณกำลังออกกำลังกายอยู่ จนทำให้เกิดความเสียหายต่อหูฟังออกกําลังกายที่ใช้งานได้ ดังนั้น เพื่อให้การใช้งานของคุณสะดวกและราบรื่น สามารถถนอมและใช้งานหูฟัง วิ่งและฟังเพลงได้อย่างคุ้มค่า มีอายุการใช้งานที่ยาวนานและสามารถพกพาไปไหนมาไหนได้อย่างคล่องตัว อย่าลืมที่จะพิจารณาถึงระบบกันน้ำ ที่ถือว่าเป็นตัวช่วยที่สำคัญอย่างมาก
3. ราคาของหูฟังออกกําลังกาย
   การคำนึงถึงราคาหูฟังออกกําลังกายเป็นอีกหนึ่งสิ่ง ที่หลายๆ คนจะพิจารณาและลังเลในการเลือกซื้อ ในปัจจุบันนี้เพื่อนำเสนอทางเลือกด้านการฟังเพลง ออกกําลังกายและออกกำลังกายอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มีหูฟังออกกําลังกายจำหน่ายออกมาหลากหลายแบรนด์ หลายรุ่นและมีหลายราคาให้คุณเลือก ซึ่งราคาก็จะขึ้นอยู่กับคุณสมบัติและแบรนด์ ที่ควรพิจารณาให้ละเอียดก่อนการเลือกซื้อ โดยคำนึงถึงงบประมาณที่ตั้งไว้ และศึกษารีวิวหูฟังออกกําลังกายเพื่อให้สามารถเลือกซื้อได้ง่ายยิ่งขึ้น ได้เห็นฟังก์ชั่นที่สะดวกและเหมาะสม ไปจนถึงการเปรียบเทียบราคาที่จะช่วยให้คุณได้หูฟังออกกําลังกายที่ตอบโจทย์ที่สุด
4. หูฟังออกกําลังกาย ไร้สาย และมีสาย
   หูฟังออกกําลังกาย แบ่งออกได้ 2 ประเภทหลักๆ ตามรูปแบบของการใช้งานที่มีให้เลือกทั้ง หูฟังออกกําลังกายแบบไร้สาย ที่จะเชื่อมต่อเป็นระบบ Bluetooth และ หูฟังใส่วิ่งแบบมีสาย สำหรับใครที่ไม่ชอบการใช้งานหูฟังแบบมีสาย ที่มีสายทำให้เกิดความไม่สะดวกในการใช้งานก็อาจจะเลือกหูฟัง bluetooth ออกกําลังกายมาเป็นทางเลือก แต่ข้อดีของหูฟังออกกําลังกายแบบมีสายก็คือความทนทานที่ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ สามาถใช้งานได้ยาวนาน ส่วนทางด้านหูฟังออกกําลังกาย จะมีราคาที่สูงแต่ก็สะดวกเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ก็จะต้องมีการชาร์จแบตเตอรี่และคำนึงคุณช่วงเวลาในการใช้งาน
   ถ้าหากคุณสนใจอยากซื้อหูฟังออกกําลังกายแบบไร้สาย ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน แต่ก็อย่าลืมที่จะคำนวณเกี่ยวกับระยะเวลาของแบตเตอรี่ในการเลือกซื้อ ที่เน้นถึงอายุการใช้งานและความทนทาน เพื่อที่จะช่วยให้คุณสามารถวางแผนและเลือกซื้อมาได้อย่างเหมาะสมมากที่สุด
5. การเชื่อมต่อ หูฟัง bluetooth ออกกําลังกาย
   หูฟังบลูทูธออกกำลังกาย เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะต้องพิจารณาให้ดีในการเลือกซื้อ อย่าลืมที่จะตรวจสอบและอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับหลักการเชื่อมต่อของหูฟังวิ่งว่าเป็นอย่างไร มีเงื่อนไขหรือใช้ได้กับโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของคุณหรือไม่ ระบบการทำงานเป็นอย่างไร เพื่อที่จะไม่ทำให้คุณต้องมาเสียเวลาในการติดตั้งและเชื่อมต่อที่นานและไม่สะดวกด้านการใช้งานจนเกินไป ซึ่งในปัจจุบันนี้ หูฟัง bluetooth ออกกําลังกาย ก็จะมีรูปแบบของการทำงานที่แตกต่างกันออกไป เพื่อเป็นทางเลือกด้านการเชื่อมต่อที่สะดวกและตอบโจทย์ผู้ใช้
6. หูฟังออกกําลังกายกับการสวมแว่น
   อย่าลืมที่จะพิจารณาถึงเรื่องของสวมแว่นตาหรือแว่นกันแดดในระหว่างการออกกำลังกายที่ หูฟังวิ่ง และ หูฟังว่ายน้ำ จะมีประเภทครอบหู ที่จะอยู่ในตำแหน่งเดียวกับการจัดวางขาแว่นตา ทำให้คุณรู้สึกไม่สะดวกหรือสวมใส่แว่นตาไม่ได้ ดังนั้น อย่าลืมเลือกรูปแบบของ หูฟังออกกําลังกาย ให้เหมาะสมกับการแต่งกายและอุปกรณ์อื่นๆ อย่างแว่นตาด้วย

บทสรุป

เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับเรื่องราวของ หูฟังออกกำลังกาย รุ่นยอดฮิต 10 รุ่นจากแบรนด์ดังที่เต็มไปด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นในราคาที่ย่อมเยาว์ ที่รับรองเลยว่าจะช่วยให้ การออกกำลังกาย ของคุณสะดวกและคล่องตัว ได้อรรถรสและเพลิดเพลินอย่างเต็มที่กับ หูฟัง bluetooth ออกกําลังกาย