ผู้บริหาร โรงแรม กะ ตะ ธานี

เมื่อแลนด์สเคปของตลาดโรงแรมบน“ภูเก็ต”เมืองเอกด้านการท่องเที่ยวของเอเชียเปลี่ยนไป! โรงแรมเก่าและใหม่ต่างทุ่มสรรพกำลังทั้งเงินทุนและการทำตลาด ขยันชิงทัวริสต์มากำไว้ในมือให้แน่น

ส่งผลให้หนึ่งในผู้เล่นอย่างเครือ กะตะกรุ๊ป รีสอร์ท เจ้าของโรงแรมและรีสอร์ทรวม 8 แห่ง เกาะทำเลติดชายหาดมากศักยภาพทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน ต้องตีโจทย์การพัฒนาโรงแรมใหม่ให้แตกฉาน พร้อมสู้ทุกการแข่งขัน ในวันที่นักลงทุนในไทยแห่สร้างโรงแรม เพราะเห็นศักยภาพของภาคท่องเที่ยวและมองว่าเป็นโปรเจคปั้นรายได้หมุนเวียนได้ดี

“ผมคร่ำหวอดอยู่ในวงการโรงแรมมาเกือบ40ปี โรงแรมแห่งแรกคือ บียอนด์ รีสอร์ท กะตะ (เดิมชื่อ กะตะ บีชรีสอร์ท แอนด์ สปา)เปิดเมื่อปี2523ผ่านมาทุกวิกฤติ เห็นทุกการเปลี่ยนแปลงของท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะภูเก็ตตั้งแต่วันที่มีนักท่องเที่ยวเพียงไม่กี่หมื่นคนเมื่อ30ปีก่อน กระทั่งเพิ่มเป็น15ล้านคนต่อปีในปัจจุบัน และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การขยายสนามบินในภูเก็ต และการเกิดขึ้นของแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ” ประมุขพิสิฐ อัจฉริยะฉาย ประธานกรรมการบริหาร เครือกะตะกรุ๊ป รีสอร์ท เล่าย้อนความหลังวันภูเก็ตยังเป็นเพียงจุดหมายเกิดใหม่

ไม่ว่าจะเจอวิกฤติหรือปัญหาอะไร สิ่งสำคัญคือต้องครองสติ มีวิสัยทัศน์ว่าธุรกิจต้องอยู่รอด พร้อมดูแลทีมงานเป็นอย่างดี ด้วยความเชื่อที่ว่าธุรกิจสามารถฟื้นตัวได้ภายในเวลาไม่เกิน6เดือน นอกจากนี้ยังถือคติที่ว่าต้อง ปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว แม้สถานการณ์เศรษฐกิจจะไม่เป็นใจก็ตาม

หนึ่งในการปรับตัวสำคัญ คือการพัฒนาโรงแรมภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย กลายเป็นที่มาของการเปิดตัว ประมุกโก้ รีสอร์ท” (Pamookkoo Resort) โรงแรมใหม่แห่งที่8ของเครือฯ ขนาด512ห้องพัก เมื่อต้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ใช้เงินลงทุนกว่า1,750ล้านบาท (ไม่รวมที่ดิน) คาดใช้เวลาคืนทุน8-12ปี เป็นโรงแรมระดับอัพสเกลหรือ4ดาว ครอบคลุมพื้นที่กว่า16ไร่ ตั้งอยู่บนถนนเลียบชายหาดกะตะ เจาะนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัว โดยเฉพาะ5ตลาดหลักน่าสนใจอย่างกลุ่มสแกนดิเนเวีย รัสเซีย จีน อินเดีย และไทย

ด้วยการให้โอกาสแก่ ปริยวิศว์ อัจฉริยะฉาย ผู้อำนวยการฝ่ายการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เครือกะตะกรุ๊ป รีสอร์ท บุตรชายคนเดียวในฐานะทายาทรุ่นที่ ขึ้นนำโปรเจคโรงแรมใหม่แห่งนี้อย่างเต็มรูปแบบ

ปริยวิศว์ เล่าเสริมว่า ตั้งเป้าให้ ประมุกโก้ รีสอร์ท เป็นเดสติเนชั่นที่มอบประสบการณ์แปลกใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ เมโสโปเตเมีย แหล่งอารยธรรมที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะได้สัมผัสกับความศิวิไลซ์ เหมือนหลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่ง คล้ายดินแดนลับแล ผ่านการออกแบบสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างโดดเด่น ทุกมุมของโรงแรมต้องสวย ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปแล้วโพสต์ลงอินสตาแกรมทันที

ขณะที่แนวคิดการทำธุรกิจในมุมทายาทรุ่นที่2มองว่า ต้อง “คิดนอกกรอบ” มากที่สุด แต่อยู่ในกรอบเงินลงทุนที่เหมาะสม โดยในช่วงเศรษฐกิจไม่ดีแบบนี้ ต้นทุนหลายๆ อย่างถูกลง เป็นจังหวะดีในการลงทุน ขณะเดียวกันต้องควบคุมต้นทุนการดูแลและบำรุงรักษาโรงแรมในเครือฯให้ดี เพื่อให้ธุรกิจสามารถยืนระยะได้ยาวนาน

ประมุขพิสิฐ หัวเรือใหญ่แห่งกะตะกรุ๊ป รีสอร์ท เล่าเพิ่มเติมในมุม พ่อสอนลูกทำโรงแรม” ว่า ข้อดีของเด็กรุ่นใหม่คือไฟแรง จินตนาการกว้างไกล และรู้ว่านักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ต้องการอะไร แต่สิ่งที่สอนลูกชายเสมอคือ ต้องอยู่กับความเป็นจริง เพราะสิ่งสำคัญของการลงทุน คือการดูว่า “คุ้มทุนหรือไม่” จะลงทุนเพื่อความสะใจไม่ได้ ไม่เช่นนั้นเหนื่อย! เช่น อยากทำโรงแรม5ดาว ตั้งเป้าขายคืนละ5,000 บาท แต่สถานการณ์อาจบังคับให้ต้องขายแค่คืนละ3,000-4,000 บาท นี่คือความเป็นจริงที่ต้องคำนวณก่อนลงทุน

“แม้ปัจจุบันภูเก็ตจะมีโรงแรมใหม่ๆ เปิดตัวมากมาย แต่เครือกะตะกรุ๊ปยังมั่นใจ กล้าลงทุนที่ภูเก็ต เพราะมองว่าโลเกชั่นแถบทะเลอันดามันยังทรงเสน่ห์ในฐานะจุดหมายระดับเอเชีย”


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - โรงแรมในเครือกะตะธานี ขยายการลงทุนสู่เขาหลัก แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของพังงา ทุ่มเงินลงทุนกว่าพันล้านบาท ผุดรีสอร์ตหรูชายทะเล “เดอะแซนด์ เขาหลัก” รับตลาดยุโรป และสแกนดิเนเวีย เผยท่องเที่ยวเขาหลักยังเติบโตอีกมากจากที่โดนใจนักท่องเที่ยวยุโรปเป็นแหล่งท่องเที่ยวสงบ และมีความเป็นธรรมชาติ

นายสมบัติ อติเศรษฐ์ ประธานบริหารโรงแรมในเครือกะตะธานี เปิดเผยว่า โรงแรมในเครือกะตะธานีได้ขยายการลงทุนด้านโรงแรม และรีสอร์ตสู่บริเวณชายทะเลเขาหลัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดพังงา และฝั่งทะเลอันดามัน โดยได้ลงทุนก่อสร้างรีสอร์ตหรูบริเวณชายหาดเขาหลัก “เดอะแซนด์ เขาหลัก” บนเนื้อที่ 60 กว่าไร่ ซึ่งได้เปิดอย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2555 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ เพื่อประกาศให้นักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการในบริเวณเขาหลักได้รับทราบว่า เดอะ แซนด์ เขาหลัก พร้อมแล้วที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ไฮซีซันนี้เป็นต้นไป

สำหรับ เดอะ แซนด์ เขาหลัก นั้น เป็นรีสอร์ตหรูระดับห้าดาว ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติเขาหลัก โดยด้านหน้าติดชายทะเลที่สวยงาม ที่นักท่องเที่ยวสามารถนอนอาบแดด เล่นน้ำทะเล หรือเดินเล่นบนชายหาดได้อย่างลงตัว ส่วนด้านหลังเป็นภูเขาที่มีความเขียวขจีของป่าไม้ที่คงความอุดมสมบูรณ์ ทำให้ เดอะแซนด์ เขาหลัก มีความเพียบพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการบรรยากาศการพักผ่อนที่เงียบสงบ และเต็มไปด้วยธรรมชาติ

ผู้บริหาร โรงแรม กะ ตะ ธานี

นายสมบัติ กล่าวอีกว่า ทางโรงแรมเครือกะตะธานีใช้เงินลงทุนไปกว่า 1,000 ล้านบาท ในการเนรมิตที่ดิน 60 ไร่ ที่เป็นสวนมะพร้าวให้เป็นรีสอร์ตหรูระดับห้าดาวจำนวน 300 กว่าห้อง ซึ่งมีห้องในแบบต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกพักผ่อนตามความต้องการของตนเอง

“ที่เราตัดสินใจขยายการลงทุนมาที่เขาหลัก เป็นเพราะเขาหลักเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สงบ และมีความเป็นธรรมชาติมาก ทำให้นักท่องเที่ยวจากยุโรปนิยมที่จะมาพักผ่อนที่เขาหลักจำนวนมากในแต่ละปี และทางเราก็มั่นใจ และตั้งใจรวมที่จะร่วมกับผู้ประกอบการที่เขาหลักในการประชาสัมพันธ์ให้เขาหลักเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น” นายสมบัติ กล่าวและว่า

สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่กำหนดไว้นั้น จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทั้งยุโรปและสแกนดิเนเวีย ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ชื่นชอบที่จะมาพักผ่อนที่เขาหลักมาก จะเห็นได้จากการที่ได้เปิดตัว เดอะแซนด์ ไประยะหนึ่ง ปรากฏว่า ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักท่องเที่ยวกลุ่มยุโรปมาก

นายสมบัติ ยังกล่าวถึงแนวโน้มการท่องเที่ยวของเขาหลักว่า การท่องเที่ยวของเขาหลักมีแต่จะเติบโตเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จากความเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สงบ และเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับการพักผ่อนจริงๆ และในอนาคตเมื่อมีการขยายสนามบินภูเก็ต จะทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเขาหลักมากยิ่งขึ้นจากความสะดวกในการเดินทาง