ตัวอย่าง การสัมภาษณ์งานออนไลน์

สัมภาษณ์งานออนไลน์ ต้องทำยังไงบ้าง มาดูกัน!

การสัมภาษณ์งานแบบออนไลน์อาจจะกลายเป็น New Normal หลังจากยุคที่ COVID-19 แพร่ระบาดเช่นนี้ บางคนคิดว่ามันยุ่งยากกว่าการนั่งพูดคุยกันต่อหน้าเพราะต้องใช้อุปกรณ์เยอะ และอาจจะทำตัวไม่ถูกเมื่อต้องมาสัมภาษณ์แบบนี้ วันนี้ JobThai Tips เลยมีเทคนิคการสัมภาษณ์งานออนไลน์มาฝาก รับรองว่าไม่ยาก ทำให้ดู Professional และมีโอกาสได้งานใหม่มากขึ้นแน่นอน

คอนเฟิร์มกับบริษัทให้แน่ใจว่าจะใช้อุปกรณ์ หรือโปรแกรมอะไรในการสัมภาษณ์ออนไลน์ เพราะทุกวันนี้มีให้เลือกใช้ค่อนข้างหลากหลาย เช่น Zoom, Skype, Google Hangout หรือ Line แล้วศึกษาเรียนรู้วิธีการใช้งานให้ดี และอย่าลืมถามถึงรูปแบบการสัมภาษณ์ให้ชัวร์ เช่น เป็นการสัมภาษณ์ออนไลน์ที่ต้องการแค่เสียงหรือต้องการเห็นทั้งหน้าและเสียง

   ในวันสัมภาษณ์ ควรเตรียมตัวล่วงหน้าหนึ่งชั่วโมงก่อนจะถึงเวลาสัมภาษณ์เพื่อเซ็ตอุปกรณ์ทุกอย่างให้ครบ ไม่ว่าจะเป็น แบตเตอรี่หรือคุณภาพของอุปกรณ์ที่จะใช้สัมภาษณ์ เช่น มือถือ, โน้ตบุ๊ก, หูฟังสมอลทอล์ก ฯลฯ และสัญญาณอินเทอร์เน็ต รวมทั้งเข้าสู่ระบบให้เรียบร้อย ถ้าเป็นการสัมภาษณ์กับบริษัทต่างประเทศ ควรเช็ก Time Zone เวลานัดหมายให้ดีด้วย

เพื่อให้การสัมภาษณ์เป็นไปอย่างราบรื่น ต้องหาสถานที่ที่ไม่มีเสียงรบกวนไว้ล่วงหน้า ไม่ควรเลือกพื้นที่ที่มีคนอื่นอยู่ด้วย เพื่อหลีกเลี่ยงเสียงรบกวน และคงไม่ดีถ้าฉากหลังเป็นคนเดินไป เดินมา แนะนำเป็นที่บ้านในห้องเงียบ ๆ ที่ห่างไกลจากเสียงรบกวนไม่ว่าจะจากข้างนอกหรือในบ้าน เช่น เสียงสัตว์เลี้ยง เสียงเด็ก หรือเสียงจากอุปกรณ์ต่าง ๆ

ฉากหลังควรเป็นกำแพงสีพื้นเรียบ ๆ แต่ถ้าไม่มีกำแพงเรียบ ๆ จริง ๆ ก็จัดสิ่งต่าง ๆ ที่จะเห็นในฉากหลังให้เรียบร้อยที่สุด นอกจากนั้นความสว่างก็สำคัญ อย่าเลือกสถานที่แสงน้อย ควรเลือกใกล้หน้าต่าง เพราะแสงธรรมชาติดีที่สุด และไม่ควรมีเงาหรือสว่างจ้าเกินไป บางแอปพลิเคชันสามารถเปลี่ยนแบ็กกราวด์ได้ เลือกแบ็กกราวด์เป็นสีพื้นที่ดูเรียบร้อยจะเหมาะกว่า

แม้จะเป็นการสัมภาษณ์งานออนไลน์อยู่ที่บ้าน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะใส่เสื้อเชิ้ตครึ่งบน แต่กางเกงนอนขาสั้นครึ่งล่าง เพราะบางทีอาจจะเป็นต้องลุกขึ้นไปหยิบจับอะไรบางอย่างระหว่างสัมภาษณ์ เสื้อผ้าควรเป็นชุดที่ดูเรียบร้อย เหมือนเวลาไปสัมภาษณ์ที่บริษัทจริง ๆ เช่น เสื้อเชิ้ต กางเกงสแล็กส์ หรือผู้หญิงจะใส่กระโปรงหรือกางเกงที่สุภาพก็ได้ หลีกเลี่ยงสีฉูดฉาดหรือชุดที่มีลวดลาย เพราะการมองผ่านทางวิดีโอคอลอาจจะรบกวนสายตาผู้สัมภาษณ์มากกว่าปกติ รวมทั้งทำผมหรือแต่งหน้าโทนสีอ่อน ๆ ด้วย และถ้าจะใส่เครื่องประดับก็อย่าให้ชิ้นใหญ่เกินไป

อย่าลืมว่าภาษากายและการสบตาสำคัญมาก เพราะภาษากายสื่อได้ว่าเป็นคนยังไง มีบุคลิกแบบไหน ดังนั้นคุณต้องแสดงด้านบวกให้เขาเห็น ในระหว่างสัมภาษณ์ควรนั่งหลังตรง อย่ายกเท้าขึ้นมานั่งขัดสมาธิ หรือยกมือขึ้นมาเท้าหน้าหรือโต๊ะ ให้วางมือไว้ที่ตักเพื่อหลีกเลี่ยงท่าทางไม่เหมาะสม นอกจากนั้นแทนที่จะมองภาพที่จอ ก็ให้มองไปตรง ๆ ที่กล้องเลยจะดูเหมือนสื่อสารกันอยู่มากกว่า ที่สำคัญเลยการยิ้มระหว่างสัมภาษณ์จะช่วยให้ทุกอย่างดูไม่ตึงเครียด

เมื่อต้องใช้อุปกรณ์สื่อสารในการสัมภาษณ์งาน อาจเกิดการดีเลย์ของไมโครโฟนหรือเสียงขาดหายไปบ้าง ดังนั้นเพื่อป้องกันเหตุการณ์แบบนี้ เวลาคุยหรืออธิบายควรพูดให้ช้า ๆ ชัด ๆ เอาให้มั่นใจว่าคนสัมภาษณ์ได้ยินสิ่งที่คุณพูดอย่างชัดเจน และไม่ควรใส่หน้ากากอนามัยในขณะสัมภาษณ์ เพราะจะทำให้คนสัมภาษณ์เห็นหน้าและได้ยินคุณพูดไม่ถนัด

   รวมไปถึงการฟังเช่นเดียวกัน อย่าใจลอย ตั้งใจฟังสิ่งที่คนสัมภาษณ์พูดให้ดี และการเขียนโน้ตข้อมูลสำคัญ หรือแนวทางคำตอบไว้ในโพสต์อิทแล้วติดไว้ใกล้ ๆ กล้อง ก็จะช่วยให้มั่นใจมากขึ้น

  ถ้าคุณรู้สึกว่าเทคนิคที่เราบอกไปคุณยังไม่ชำนาญ ไม่ว่าจะเรื่องการใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ หรือการฝึกบุคลิกภาพ การพูดจา สิ่งที่คุณควรทำคือการฝึกซ้อมให้มาก ๆ เพราะยิ่งคุณฝึกซ้อมมากเท่าไหร่ ก็จะทำให้คุณดูเป็น Professional ในการสัมภาษณ์งานออนไลน์ และมีโอกาสได้งานสูงเลยทีเดียว

#ต้องได้งาน #ต้องปลอดภัยจากโควิด - 19 …  สัมภาษณ์งานออนไลน์อย่างไรให้โดนใจ HR  ?

JOBBKK  ขอแนะนำ 8 ขั้นตอนง่ายๆ ครับ พร้อมแล้วไปเตรียมตัวกันเลย !!!

1 เลือก Profile / Cover ที่เหมาะสม

ไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือ Line ควรใช้รูปตนเองที่แต่งกายสุภาพ ไม่โป๊เปลือย และไม่มีข้อความที่แสดงทัศนคติในทางลบ เพราะเป็นด่านแรกที่ HR ใช้ตัดสินตัวตนของผู้สมัคร   

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่สามารถเผยตัวตนที่แท้จริง แต่ ณ เวลานี้ คุณกำลังจะสัมภาษณ์งานออนไลน์ รูป Profile / Cover ก็เสมือนเป็นส่วนหนึ่งที่ใช้ยื่นสมัครงานด้วย ฉะนั้น ต้องคำนึงถึงความเหมาะสม ต้องให้เกียรติบริษัทและให้เกียรติตัวเองด้วยครับ  

2 จัดการข้อมูลใน Timeline

หากมีโพสต์ที่แสดงทัศนคติในทางลบหรืออาจทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน ลบออกเถอะครับ สิ่งเหล่านี้มีแต่จะทำให้คุณติดอยู่กับความคิดแย่ๆ แถมยังทำให้คุณถูกมองในทางที่ไม่ดีด้วย HR ไม่ปลื้มแน่ๆ

เปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่มีแต่พลังบวกและพร้อมลุยงานที่คุณรักดีกว่าครับ

3 ศึกษาข้อมูลบริษัท

ต้องรู้จักประวัติ ประเภทธุรกิจ สินค้าของบริษัทว่ามีอะไรบ้าง แล้วตำแหน่งที่สมัครเกี่ยวข้องกับสินค้านั้นอย่างไร หน้าที่หลักๆ ที่ต้องรับผิดชอบคืออะไร  ซึ่ง HR จะดูว่าคุณมีความเข้าใจและพร้อมที่จะทำงานในตำแหน่งนั้นมากน้อยแค่ไหน ยิ่งเราศึกษามาเป็นอย่างดี ก็ยิ่งมีโอกาสได้งานครับ

4 เตรียม Present

เตรียมแนะนำตัว ประวัติการศึกษา ทักษะความสามารถของคุณ รวมถึงความรู้เกี่ยวกับตำแหน่งงานที่สมัคร โดยพื้นฐานคุณต้องรู้ว่า ทำไมถึงคิดว่าตัวเองเหมาะที่จะทำงานตำแหน่งนี้ ?  แล้วคิดว่าตำแหน่งที่สมัครต้องทำอะไรบ้าง ?

ซึ่ง HR จะดูว่าคุณมีความพร้อม มีความเข้าใจในงานที่สมัครและสามารถนำทักษะของตนเองมาพัฒนางานได้แค่ไหน ?

ที่สำคัญ ทั้งหมดที่ Present คุณต้องพูดรู้เรื่อง เข้าใจง่ายและน่าสนใจด้วยนะครับ

สามารถอ่านบทความเรื่องการเตรียม Present (อยู่ในหัวข้อ ห้ามขี้เกียจพูด )ได้ที่ลิงก์นี้ครับ >> https://www.jobbkk.com/variety/detail/5527/

5 เตรียมเครื่องแต่งกาย

ตั้งแต่ทรงผมไปจนถึงรองเท้า ให้เสมือนว่าไปสัมภาษณ์ที่บริษัทเลยครับ

อย่าให้ผมปิดหน้า ผู้หญิงควรแต่งหน้าโทนสีอ่อนๆ ถ้าจะใส่เครื่องประดับก็อย่าให้ชิ้นใหญ่เกินไป

เสื้อผ้าควรเป็นชุดที่ดูเรียบร้อย เช่น เสื้อเชิ้ต กางเกงสแล็กส์ หรือผู้หญิงจะใส่กระโปรงทรงเอยาวคลุมเข่าก็ได้ และควรเป็นสีอ่อน ไม่ควรใส่สีที่ฉูดฉาดเกินไป

ส่วนรองเท้า ควรเป็นแบบหุ้มส้นสีดำ หรือสีอ่อน

อย่ามองว่า HR เห็นในกล้องแค่ครึ่งตัว ไม่จำเป็นต้องแต่งเต็มยศขนาดนั้น เกิดเขาให้ยืนขึ้นเพื่อดูการแต่งกาย แล้วคุณไม่เตรียมพร้อม โป๊ะเลยนะ ซึ่งแบบนี้จะแสดงให้เห็นว่า คุณไม่ใส่ใจ ไม่ให้เกียรติบริษัท คะแนนหายไปเยอะเลยครับ

6 เตรียมสถานที่

ต้องหาสถานที่ที่ไม่มีเสียงรบกวนไว้ล่วงหน้า เพื่อให้การสัมภาษณ์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญ ขณะสัมภาษณ์คุณไม่ควรใส่หน้ากากอนามัย เพราะ HR ต้องเห็นหน้าและได้ยินคุณพูดอย่างชัดเจน ดังนั้น สถานที่ที่เลือกต้องไม่เสี่ยงต่อการติดโรค เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงและพร้อมทำงานได้ทันที

7 เตรียมอุปกรณ์ / อินเทอร์เน็ต

เตรียมชาร์จแบตอุปกรณ์ที่จะใช้สัมภาษณ์ (มือถือ , โน้ตบุ๊ก ฯลฯ )  และอินเทอร์เน็ตสำหรับใช้ VDO Call อย่างน้อย 1 ชม. โดยเฉพาะเรื่องความจุและความเร็วอินเทอร์เน็ต ควรสอบถามกับ Call Center ให้แน่ใจด้วยนะครับ

เนื่องจาก HR ต้องสัมภาษณ์ผู้สมัครอีกหลายคนตามเวลานัด และหากตอนคุณสัมภาษณ์แล้วแบตหมดหรือเน็ตไม่พอ อาจเสียโอกาสในการได้งานไปเลยนะครับ เพราะมันจะแสดงให้เห็นว่า คุณไม่ได้อยากได้งานสักเท่าไร ก็โอกาสเข้ามาขนาดนี้ ยังไม่มีการเตรียมพร้อมเลย

8 ทุกอย่างต้องพร้อมก่อนเวลานัด 1 ชม.

ในวันสัมภาษณ์ต้อง Stand by ณ สถานที่ที่คุณเตรียมไว้ก่อนเวลานัด 1 ชม. เสมือนว่าคุณเดินทางไปที่บริษัทก่อนเวลา แล้วรออยู่หน้าห้องสัมภาษณ์

ทั้งนี้ เวลาก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ HR ใช้พิจารณาเช่นกัน แม้จะเตรียมทั้ง 7 ขั้นตอนมาเป็นอย่างดี แต่ถ้าพลาดขั้นตอนสุดท้าย คุณอาจหมดสิทธิ์เข้าสัมภาษณ์งานไปเลยนะครับ

ถ้าคุณเตรียมพร้อมครบทั้ง 8 ขั้นตอน โอกาสได้งานอยู่ไม่ไกลแน่นอน

คลิกหางานด่วน

คลิกสมัครเรซูเม่ด่วน