เอ ฟ เวอร์ ตัน กับ ลิเวอร์พูล

ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล

|

03 ก.ย. 2565 เวลา 15:20 น. 1.2k

ผลบอลพรีเมียร์ลีก ล่าสุดวันนี้ 3 ก.ย. เอฟเวอร์ตัน เปิดบ้านเสมอ ลิเวอร์พูล แบ่งคนละแต้ม เกมเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้ 

วันที่ 3 ก.ย. 65 ฐานเศรษฐกิจ เกาะติดผลบอลพรีเมียร์ลีก  เกมเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้ ล่าสุด วันนี้ วันเสาร์ที่ 3 ก.ย. ระหว่าง เอฟเวอร์ตัน เปิดบ้านพบกับ ลิเวอร์พูล 


รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม

  • เอฟเวอร์ตัน (4-3-3) : จอร์แดน พิคฟอร์ด - เนธาน เพทเทอร์สัน, คอเนอร์ โคดี้, เจมส์ ทาร์คอฟสกี้, วิตาลี่ มิโคเลนโก้ - ทอม เดวิส, อามาดู โอนาน่า, อเล็กซ์ อิโวบี้- นีล โมเปย์,เดมาไร เกรย์, แอนโธนี่ กอร์ดอน

  • ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, คอสตาส ซิมิคาส - ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์, ฟาบินโญ่, ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่- โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ, หลุยส์ ดิอาซ
     

ลลการแข่งขันปรากฏว่าว่าจบ 90 นาที เสมอกันไป 0-0 และเป็นการเสมอกันครั้งที่ 25 ในยุคพรีเมียร์ลีก

โดย เอฟเวอร์ตัน มีเพิ่มเป็น 4 แต้ม ส่วน ลิเวอร์พูล มีเพิ่มเป็น 9 แต้ม

การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันเสาร์ที่ 3 กันยายน 2565 ที่สนาม กูดิสัน พาร์ค เป็นเกม"เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ แมตช์" ยกแรกของฤดูกาลนี้ ระหว่าง เอฟเวอร์ตัน ทีมอันดับ 17 พบ ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 6 ของตาราง 

แฟร้งค์ แลมพาร์ด พาทีม ทอฟฟี่สีน้ำเงิน ยังไม่ชนะใครในการออกสตาร์ต 5 นัดแรกโดยเป็นการเสมอ 3 แพ้ 2 อยู่อันดับ 17 ติดโซนตกชั้นเลย ฟอร์มล่าสุดพวกเขาไปเสมอกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด 1-1 โดยเกมนี้ส่งแข้งใหม่อย่าง นีล โมเปย์ ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงนัดแรก ส่วน อิดริสซ่า เกย์มิดฟิลด์ป้ายแดงมีชื่ออยู่ในม้านั่งสำรอง 

ขณะที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ หงส์แดง พาทีมรองแชมป์เก่าชนะ 2 นัดติดต่อกันโดยฟอร์มล่าสุดเข้าวินเหนือ นิวคาสเซิ่ล 2-1 ที่ แอนฟิลด์ โดยเกมนี้ส่ง ดาร์วิน นูนเญซ พ้นโทษแบน 3 นัด ลงเล่นตัวจริงทันที ประสานงานแนวรุกร่วมกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ หลุยส์ ดิอาซ

ครึ่งแรกเปิดฉากมา เอฟเวอร์ตัน เริ่มต้นได้อย่างคึกคัก และมาได้ทักทายก่อนในนาทีที่ 8 จากจังหวะที่ เดมาไร เกรย์ จ่ายบอลทะลุช่องให้ นีล โมเปย์ หลุดกับดักล้ำหน้ามากดเรียดด้วยขวาในเขตโทษบอลพุ่งผ่านหน้าประตูหลุดเสาไกลออกไป 

นาที 23 แอนโธนี่ กอร์ดอน เก็บตกได้ในที่หน้าเขตโทษวิ่งมากดเต็มข้อด้วยขวา แต่บอลยังพุ่งไปตรงตัว อลีสซง เบ็คเกอร์ 

นาที 32 เอฟเวอร์ตัน พลาดขึ้นนำอย่างน่าเสียดายเมื่อ โจ โกเมซ เคลียร์บอลไม่ขาดบอลไปเข้าทาง ทอม เดวิส ที่ได้ดีดไซร์ก้อยในเขตโทษบอลพุ่งไปชนเสาไกลกระดอนออกมา 

จากนั้นท้ายครึ่งแรก นาที 40 ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นจากจังหวะเตะมุมทางฝั่งขวาบอลลอยมาเข้าหัว ดาร์วิน นูนเญซ ขึ้นโหม่งบอลเหินข้ามคานไปนิดเดียว 

นาที 43 ลิเวอร์พูล พลาดขึ้นนำแบบเหลือเชื่อ นูเนเญซ เก็บบอลได้ในเขตโทษแล้ววอลเลย์ด้วยขวา จอร์แดน พิคฟอร์ด ปัดไปชนคาน ก่อนที่ หลุยส์ ดิอาซ จะเก็บตกได้แถวสองแล้วปั่นด้วยขวาบอลพุ่งไปชนเสาอีก 

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบครึ่งแรกยังเสมอกัน 0-0 

ครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล ใช้โควต้าเปลี่ยนตัวคนแรกหลังจาก ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ ที่มีอาการบาดเจ็บตั้งแต่ครึ่งแรกถูกถอดออกไปแล้วส่ง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ลงมาเล่นแทน

นาที 50 เอฟเวอร์ตัน ได้ลุ้นก่อน อเล็กซ์ อีโวบี้ เปิดบอลยัดมาให้ นีล โมเปย์ ในเขตโทษ ก่อนจะตวัดยิงกลับหลังบอลยังข้ามคานออกไป 

เจ้าถิ่นเริ่มบุดใส่ได้มากขึ้น นาที 63 เกือบได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง เนธาน แพตเตอร์สัน สอดขึ้นมากดด้วยขวาในเขตโทษบอลไปแฉลบ ฟานไดค์ หลุดเสาออกไปนิดเดียว

ลิเวอร์พูล สวนกลับมาทันควัน และได้ลุ้นจากลูกยิงของ ฟีร์มีโน่ ในนาที 64 แต่ พิคฟอร์ด โชว์ซูเปอร์เซฟพุ่งปัดทิ้งออกหลังไป 

จากนั้น เอฟเวอร์ตัน โต้กลับขึ้นมา นาที 65 เดมาไรย์ เกย์ กระชากหลุดขึ้นมาถึงสุดเส้นแล้วถวายพานย้อนกลับมาให้ นีล โมเปย์ ได้ยิงแบบโล่งๆ แต่ไม่ผ่านมือของ อลีสซง 

นาที 69 เอฟเวอร์ตัน ต้องเฮเก้อชวดได้ประตูขึ้นนำ หลังจาก นีล โมเปย์ พักบอลได้ก่อนจ่ายยัดไปที่เสาไกลให้ คอนอร์ คัวดี้ ชาร์จจ่อๆไม่เหลือ แต่ถูก VAR จับล้ำหน้าของ คัวดี้ ริบประตูคืนไป 

ท้ายเกมช่วงทดเวลา นาที 90+5 โม ซาลาห์ ได้กดด้วยซ้ายแบบเน้นๆ ไปติดเซฟ พิคฟอร์ด ที่ปัดไปชนเสากระดอนออกมาอีก 

เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม เอฟเวอร์ตัน เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0 โดยเจ้าถิ่นเก็บเพิ่มเป็น 4 แต้มขึ้นมารั้งที่ 14 ส่วน ลิเวอร์พูล มี 9 แต้มขัยบขึ้นมารั้งที่ 5 ของตาราง 

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 

เอฟเวอร์ตัน (4-5-1) : จอร์แดน พิคฟอร์ด - เนธาน แพตเตอร์สัน, คอนอร์ คัวดี้, เจมส์ ทาร์คอฟสกี้, วิตาลี่ มายโคเลนโก้ - ทอม เดวิส (อิดริสซ่า เกย์ น.61), เดมาไร เกรย์, อมาดู โอนาน่า, อเล็กซ์ อิโวบี้, แอนโธนี่ กอร์ดอน - นีล โมเปย์

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (เจมส์ มิลเนอร์ น.59), โจ โกเมซ, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, คอตตาส ซิมิกาส (แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน น.59) - ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ (โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ น.46), ฟาบินโญ่, ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ (โฌแอล มาติป น.80) - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ (ดีโอโก้ โชต้า น.80), หลุยส์ ดิอาซ    

จอร์แดน พิคฟอร์ด เหนียวหนึบ, เสมอแบบไร้สกอร์กันอีกแล้ว - เปิด 5 ประเด็นน่าสนใจจากเกม เอฟเวอร์ตัน เปิดบ้านเจ๊า ลิเวอร์พูล

ศึก เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ แมตช์ ยกแรกของฤดูกาล 2022/23 ระว่าง เอฟเวอร์ตัน กับ ลิเวอร์พูล ที่สนาม กูดิสัน พาร์ค ในเกม พรีเมียร์ลีก เมื่อวันเสาร์ที่ 3 กันยายน จบลงด้วยผลเสมอ 0-0 

จากผลเสมอแบบไร้สกอร์ในเกมนี้มี 5 ประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

1. พิคฟอร์ด โคตรเหนียว

เอ ฟ เวอร์ ตัน กับ ลิเวอร์พูล

จอร์แดน พิคฟอร์ด นายทวาร เอฟเวอร์ตัน โชว์เซฟลูกยิงจะจะถึง 8 หน ซึ่งมากที่สุดเหนือผู้รักษาประตูคนใดในหนึ่งเกม นับตั้งแต่พรีเมียร์ลีก เปิดฤดูกาลใหม่

ทั้งสองทีมมีโอกาสยิงรวมกันถึง 37 ครั้ง (เอฟเวอร์ตัน 14, ลิเวอร์พูล 23) โดยมากสุดตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วเท่ากับเกมที่ ไบรท์ตัน พบ นอริช เมื่อเดือนเมษายน ปี 2022 

2. เจ๊าไร้สกอร์กันอีกแล้ว

เอ ฟ เวอร์ ตัน กับ ลิเวอร์พูล

เกม เอฟเวอร์ตัน พบ ลิเวอร์พูล จบลงด้วยผลเสมอ 0-0 เป็นครั้งที่ 36 ซึ่งนับเป็นการเจอกันของสองทีมที่เสมอไร้สกอร์มากสุดในลีกสูงสุดเมืองผู้ดี (36) และในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก (12) 

3. เอฟเวอร์ตัน ต้องรอ 3 แต้มในบ้านกับ ลิเวอร์พูล ต่อไป

เอ ฟ เวอร์ ตัน กับ ลิเวอร์พูล

เอฟเวอร์ตัน ไม่สามารถเปิดบ้านเอาชนะ ลิเวอร์พูล ในเกม พรีเมียร์ลีก มาแล้วนานถึง 12 ปี และผลเสมอนัดนี้ก็ทำให้พวกเขายังต้องรอเก็บ 3 คะแนนจากเพื่อนบ้านต่อไป 

พลพรรค "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอาชนะ "หงส์แดง" ได้แค่ครั้งเดียวในการเจอกัน 24 หนหลังสุดใน พรีเมียร์ลีก (เสมอ 13 แพ้ 10) โดยชัยชนะหนเดียวคือ คาร์โล อันเชล็อตติ พาทีมบุกไปชนะที่ แอนฟิลด์ 2-0 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2021

4. คล็อปป์ เปลี่ยนตัว 5 คนแต่ไม่เวิร์ก

เอ ฟ เวอร์ ตัน กับ ลิเวอร์พูล

เกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล พักผู้เล่นบางตำแหน่งอย่าง แอนดี้ โรเบิร์ตสัน, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ โฌแอล มาติป เพราะมีเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดแรก กับ นาโปลี รออยู่ในช่วงกลางสัปดาห์

นักเตะ "หงส์แดง" ไม่สามารถทำอะไรเจ้าถิ่นได้ และเกมนี้ คล็อปป์ ก็เปลี่ยนผู้เล่นครบ 5 คนตามโควตา โดยคนที่ได้ลงมาคือ ฟีร์มีโน่, โรเบิร์ตสัน, เจมส์ มิลเนอร์, มาติป และ ดิโอโก้ โชต้า

อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้ว ลิเวอร์พูล ก็เก็บได้แค่แต้มเดียวหลังเจอความเหนียวหนึบของ พิคฟอร์ด ส่งผลให้ "หงส์แดง" เตะไป 6 เกมเก็บได้ 9 คะแนนขึ้นไปอยู่ที่ 5 ชั่วคราว

5. แลมพาร์ด หายใจโล่งหน่อย

เอ ฟ เวอร์ ตัน กับ ลิเวอร์พูล

ก่อนลงเล่นเกมนี้ อนาคตของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด กุนซือ เอฟเวอร์ตัน ถือว่ายืนอยู่บนปากเหวแล้ว หลังยังไม่ชนะใครเลยมีแค่ 3 คะแนนจาก 5 นัด 

จากผลเสมอนัดนี้ ทำให้ เอฟเวอร์ตัน เก็บได้ 4 คะแนนจาก 6 นัด ขึ้นมารั้งอันดับที่ 14 เป็นการชั่วคราว และน่าจะทำให้ แลมพาร์ด หายใจได้โล่งขึ้นมาหน่อย

ตอนแรกมีการคาดการณ์ว่า หาก แลมพาร์ด นำ เอฟเวอร์ตัน แพ้ ลิเวอร์พูล เละเทะก็มีสิทธิ์จะกลายเป็นกุนซือคนที่ 7 ที่โดน เจอร์เก้น คล็อปป์ ทำให้ตกเก้าอี้ตาม ฟรานเชสโก้ กุยโดลิน, สลาเวน บิลิช, สลาวิซ่า โยคาโนวิช, โชเซ่ มูรินโญ่, มาร์โก ซิลวา และ สกอตต์ พาร์กเกอร์