ผล เสีย ของ การกินข้าวเหนียว

อากาศในบ้านเราร้อนเพิ่มขึ้นทุกปี แต่ใช่ว่าหน้าร้อนจะมีแค่อากาศร้อนให้เราได้หงุดหงิดรำคาญใจเสียเมื่อไหร่ เพราะหน้าร้อนในบ้านเรา ถือเป็น Golden Time ของใครหลาย ๆ คนที่ชื่นชอบผลไม้ไทย และผลไม้ตามฤดูกาลประจำหน้าร้อนที่ฮอตกว่าอากาศก็คงจะหนีไม่พ้น “ข้าวเหนียวมะม่วง” ที่ปีนี้ทุเรียนยังต้องหลบ เมื่อกระแสข้าวเหนียวมะม่วงไม่เพียงแต่จะฮอตฮิตที่ไทย แต่ตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมและเป็นที่น่าสนใจของคนทั่วโลก

แต่จะกินทุกวันก็หวั่นว่าความอ้วนจะถามหา รู้ใจจึงมีเทคนิคสำหรับสาว ๆ และคนกลัวอ้วนทั้งหลายว่า “กินข้าวเหนียวมะม่วงยังไงให้หุ่นดีและปัง” มาฝากกัน ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนว่าผลไม้ไทยที่เป็นผลไม้ตามฤดูกาลอร่อย ๆ หน้าร้อนนี้มีอะไรบ้าง

ผล เสีย ของ การกินข้าวเหนียว

ผลไม้ไทยที่เป็นผลไม้ประจำฤดูกาลหน้าร้อนในไทยมีอะไรบ้าง?

  1. มะม่วง – มะม่วงเป็นผลไม้ที่มีหลายรสชาติ ในบางพันธุ์ถ้ายังดิบจะมีรสมัน เช่น มะม่วงเขียวเสวย หรือในบางพันธุ์ที่มีรสเปรี้ยวจี๊ดแบบเข็ดฟัน เช่น มะม่วงน้ำดอกไม้ มะม่วงอกร่อง มะม่วงแรด แต่ความมหัศจรรย์ของมะม่วงคือ ถ้ามะม่วงสุกแล้วจะมีรสหวาน ชื่นใจ ส่วนใหญ่จะนิยมนำมารับประทานคู่กับข้าวเหนียวน้ำกะทิ ที่เรียกกันว่า “ข้าวเหนียวมะม่วง”
  2. ทุเรียน – ทุเรียนขึ้นชื่อว่าเป็น King of Fruit หรือ ราชาแห่งผลไม้ ในทุเรียนนอกจากจะมีรสชาติครีม ๆ อร่อย ๆ แล้ว ยังมีวิตามินมากมายรวมอยู่ในนั้น ทุเรียนถ้ารับประทานแต่พอเหมาะจะเป็นผลดีต่อร่างกาย แต่หากรับประทานมากเกินไปอาจจะเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ เพราะทุเรียนมีฤทธิ์ร้อน
  3. มังคุด – เมื่อมี King of Fruit แล้วก็ต้องมี Queen of Fruit ด้วย มังคุดมีฤทธิ์เย็น คนส่วนใหญ่จึงมักนิยมทานคู่กันกับทุเรียน เพราะให้ฤทธิ์ตรงข้ามกัน
  4. แตงโม – ผลไม้ที่เหมาะกับหน้าร้อน ในแตงโมมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย และยังช่วยต้านโรคเบาหวานได้อีกด้วย ส่วนใหญ่คนมักจะนิยมนำมาแช่เย็นและรับประทาน
  5. สับปะรด – หลาย ๆ คนคงไม่อยากจะเชื่อว่าสับปะรดสามารถลดอาการกรดไหลย้อนได้ เพราะในสับปะรดมีเอนไซม์และสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย คนโบราณนิยมนำมาทำเป็นเมนูของว่างอย่าง “ม้าฮ่อ”
  6. มะพร้าว – มะพร้าวจัดอยู่ในหมวดของ Super Food เนื่องจากสรรพคุณมากมายในมะพร้าวที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของมนุษย์ ไขมันในมะพร้าวมีสรรพคุณทางยาที่ดีต่อฮอร์โมน ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดและยังช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันที่ไม่ดีออกไปได้อีกด้วย
  7. เงาะ – ผลไม้รสหวานที่อุดมไปด้วยวิตามิน ในเงาะยังมีทองแดงที่ช่วยบำรุงเซลล์ในร่างกาย รวมถึงสมอง หัวใจและกระดูกอีกด้วย
  8. มะละกอ – มะละกอเป็นผลไม้อีกหนึ่งชนิดที่คนควบคุมน้ำหนักมักนิยมนำมารับประทาน แต่ต้องทานในปริมาณที่พอดี หากทานมากเกินไปก็อาจจะทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้เช่นกัน

เมื่อเราได้รู้จักผลไม้ตามฤดูกาลหน้าร้อนกันไปแล้ว เรามาดูกันดีกว่าว่า “กินข้าวเหนียวมะม่วงให้หุ่นดี ไม่อ้วน” ทำได้จริงไหม

ผล เสีย ของ การกินข้าวเหนียว

กินข้าวเหนียวมะม่วงให้หุ่นดี ไม่มีอ้วน มีเทคนิคอย่างไร?

คนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดว่า การจะลดความอ้วนได้นั้นต้องงดแป้ง งดของหวาน อดอาหาร และออกกำลังกายแบบบ้าคลั่ง หุ่นถึงจะดีได้ แต่ความจริงแล้วความเชื่อนั้นเป็นความเชื่อที่ผิด! จริง ๆ แล้วการลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนักที่ถูกต้อง คือ การกิน 70% ออกกำลังกาย 30% ประโยคที่ว่า “You are what you EAT” หรือ “กินถูกหุ่นเปลี่ยน” เป็นเรื่องจริง

อาหารที่เราทานเข้าไปนั้น นอกจากจะทำให้เราสุขภาพดีแล้ว อาหารก็ยังเป็นบ่อเกิดของโรคได้อีกด้วย การกินให้ถูกจึงเป็นเรื่องจำเป็น

1.อย่าอดอาหาร

คนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดว่า การอดอาหารนั้นเป็นวิธีลดความอ้วน จริง ๆ แล้วการอดอาหารจะทำให้ระบบเผาผลาญในร่างกายของเราพัง! ร่างกายของเราจำเป็นต้องได้รับแคลอรี่ที่เพียงพอในแต่ละวัน แคลอรี่ที่เรากินเข้าไปนั้นร่างกายจะเปลี่ยนเป็นพลังงาน และแคลอรี่พวกนี้เมื่อร่างกายรับเข้าไปแล้ว มันจะไปทำหน้าที่เผาผลาญแคลอรี่อื่นในร่างกายของเรา เมื่อเราอดอาหารร่างกายจะคิดว่าเรากำลังอยู่ในภาวะขาดแคลนอาหาร ทำให้ร่างกายชะลอการเผาผลาญ นี่จึงเป็นสาเหตุให้เกิดไขมันสะสมในร่างกายและทำให้อ้วนในที่สุด

2.ไม่ควรงดแป้ง

อีกหนึ่งความเข้าใจผิดในการลดความอ้วน คือ งดแป้ง สาเหตุที่งดแป้งกันก็เพราะแป้งจะเปลี่ยนเป็นน้ำตาล และน้ำตาลหรือความหวานเป็นต้นเหตุของความอ้วน และให้ลองสังเกตุว่า เมื่อเรางดกินแป้ง ร่างกายของเราจะหิวบ่อยขึ้น มีความอยากกินของหวานมากขึ้น และยังส่งผลต่ออารมณ์ของเราอีกด้วย ผลเสียจากการงดแป้งเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ ให้ลองเปลี่ยนจากการกินแป้งขัดขาวมากินข้าวกล้องหรือข้าวไรซ์เบอรี่แทน

3.แยกมื้อย่อยระหว่างวัน

ปกติคนเราจะทานอาหารวันละ 3 มื้อ หากต้องการควบคุมน้ำหนักควรแยกมื้อย่อยระหว่างวัน โดยให้แต่ละมื้อห่างกันประมาณ 2-3 ชั่วโมง ดังตัวอย่างต่อไปนี้

  • 07.00 มื้อเช้า – ขนมปังโฮลวีต 2 แผ่น ชาหรือกาแฟ ไข่ต้ม (ไข่ขาว) 2 ฟอง ผักต้มหรือผลไม้หลากสี เช่น แครอท บร็อคโคลี่ ฟักทอง มันม่วงต้ม แคนตาลูป แก้วมังกร
  • 10.00 มื้อย่อย – นมถั่วเหลืองสูตรน้ำตาลน้อย ถั่วลิสงต้มหรืออัลมอนด์ ไข่ต้ม 1 ฟอง
  • 12.00 มื้อเที่ยง – เน้นผัก เกาเหลา ผัดผัก ข้าวกล้อง 2 ทัพพี ไข่ต้ม 1 ฟอง
  • 15.00 มื้อย่อย – โยเกิร์ตพร่องมันเนย ขนมปังโฮลวีต 1 แผ่น ไข่ต้ม (ไข่ขาว) 1 ฟอง
  • 18.00 มื้อเย็น – เน้นโปรตีน (เลี่ยงความมันจากหมู) สเต๊กอกไก่ สเต๊กเนื้อ สเต๊กปลา ไข่ต้ม (ไข่ขาว 1 ฟอง) ข้าวกล้อง 1 ทัพพี หรือ โอลวีต 1 แผ่น

เทคนิคสำหรับการแบ่งมื้ออาหาร หลักการง่าย ๆ ก็คือ เช้าเน้นคาร์โบไฮเดรต กลางวันเน้นผัก เย็นเน้นโปรตีน ความเข้าใจผิดว่ามื้อเย็นควรกินแค่ผักหรือผลไม้นั้นไม่ถูกต้อง เพราะผักหรือผลไม้เมื่อเรารับประทานเข้าไปแล้วมันก็คือน้ำตาล หากเราเน้นผัก ผลไม้ในมื้อเย็นเท่ากับว่าเราได้โหลดน้ำตาลจำนวนมหาศาลเข้าร่างกาย เมื่อกินเสร็จก็ถึงเวลานอน นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมถึงยังอ้วน

ผล เสีย ของ การกินข้าวเหนียว

หากมื้อไหนไม่อยากกินข้าว สามารถกินขนมปังโฮลวีตแทนได้ ขนมปังโฮลวีต 1 แผ่นเท่ากับข้าวกล้อง 1 ทัพพี และผลไม้ที่ปลอดภัยสำหรับสาว ๆ ที่ต้องการลดน้ำหนัก คือ แคนตาลูป แก้วมังกร มะละกอ ทั้งหมดควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ

1.อย่าติดอยู่กับตัวเลขบนเครื่องชั่ง

ตัวเลขที่บอกน้ำหนักบนเครื่องชั่งไม่ได้เป็นตัวตัดสินว่าคุณอ้วนหรือผอม มวลกล้ามเนื้อและไขมันในร่างกายต่างหากที่เป็นตัวบอกว่าคุณอ้วนหรือผอม ลองทานตามตัวอย่างในข้อ 3 เป็นเวลา 2 อาทิตย์ จะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในร่างกายของเรา ปริมาณไขมันจะลดลง มวลกล้ามเนื้อจะเพิ่มมากขึ้น ทำให้เราดูลีนมากขึ้นแม้ตัวเลขในเครื่องชั่งจะสูงก็ตาม ให้รู้ไว้ว่าตัวเลขที่เราเห็นนั้นเป็นน้ำหนักของกล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้นต่างหาก

2.ออกกำลังกายเบา ๆ วันละ 15-20 นาที

หากรับประทานอาหารได้ถูกต้องแล้ว การออกกำลังกายจะเป็นตัวเสริมให้ร่างกายของเรากระชับและเฟิร์มมากขึ้น เช่น บอดี้เวท 15-20 นาที โยคะเบา ๆ หรือเดินออกกำลังกาย 30 นาที การออกกำลังกายอย่างบ้าคลั่งบวกกับอดอาหารจะทำให้กล้ามเนื้อถูกทำลาย ผิวหนังเหี่ยวย่น ดูโทรม เมื่อเราออกกำลังกายนั่นหมายความว่า กล้ามเนื้อในร่างกายของเราถูกทำลาย เราจึงจำเป็นต้องกินโปรตีนเข้าไปเพื่อช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอเหล่านั้น

เมื่อเราได้ทราบหลักการลดน้ำหนักอย่างถูกวิธีแล้ว ในแต่ละสัปดาห์เราสามารถมี Cheat Meal ได้ และนั่นแหละเป็นโอกาสทองของเราที่จะสามารถกินข้าวเหนียวมะม่วงได้อย่างไม่รู้สึกผิด กินได้บ่อย ๆ ทุกอาทิตย์ยังได้หุ่นดีและยังปังอยู่นั่นเอง

การกินที่ถูกต้องนอกจากจะช่วยควบคุมน้ำหนักได้แล้ว ยังทำให้เราห่างไกลโรคร้ายอีกด้วย และหากเพื่อน ๆ สนใจอยากมีตัวช่วยเอาไว้เพิ่มความอุ่นใจเมื่อเจ็บป่วย สามารถเข้าไปดูแผนประกันสุขภาพต่าง ๆ ที่รู้ใจเตรียมเอาไว้ให้คุณได้ปรับแต่งแผนความคุ้มครอง เลือกเบี้ยประกันที่รู้ใจกว่า ประหยัดกว่าได้เลย

ติดตามข่าวสาร สาระความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รวมถึงโปรโมชั่นใหม่ ๆ จากรู้ใจ ประกันออนไลน์ ได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือ Official Line ID: @roojai

ข้าวเหนียวดียังไง

สารสาคัญในข้าวเหนียว คือ ธาตุเหล็ก และกรดโฟลิก มีสรรพคุณในการสร้างเม็ดเลือด ท าให้เม็ดเลือด สมบูรณ์ นอกจากนี้ข้าวเหนียวยังอุดมไปด้วยวิตามินอี มีสรรพคุณ ช่วยป้องกันหลอดเลือดหัวใจตีบ ป้องกัน ปัญหาวุ้นนัยน์ตาเสื่อม การนาข้าวเหนียวดาไปทาข้าวหมาก จะทาให้ได้วิตามินบี๑๒ ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง และการนาข้าวเหนียวไปทาเป็นของหวาน ...

กินข้าวเหนียวดีไหม

ข้าวเหนียวมีโปรตีนเช่นเดียวกับข้าวเจ้า ซึ่งมีประโยชน์ช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย รวมทั้งช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายด้วย ข้าวเหนียวมีสรรพคุณขับลมในร่างกาย ช่วยบำรุงเลือดลม และมีฤทธิ์อุ่นจึงยังช่วยรักษาอุณหภูมิของร่างกายจากอากาศที่หนาวเย็นได้ดี

คนไม่สบายกินข้าวเหนียวได้ไหม

ช่วงที่ร่างกายเจ็บป่วย หรือมีอาการปวดอักเสบใดๆ หากทานข้าวเหนียวเข้าไปอาจทำให้อาการที่เป็นอยู่นั้นหายช้าลง หรืออาจกำเริบขึ้นมากขึ้นจนไม่หายได้ค่ะ ในช่วงที่ร่างกายเกิดการอักเสบ จนมีอาการบวม ปวด เจ็บ การงดทานข้าวเหนียวเป็นวิธีที่ดีที่สุด เพราะช่วยให้อาการหายเร็วขึ้น ช่วงที่ต้องงดข้าวเหนียว แนะนำให้ทานข้าวขาว ข้าวกล้อง แทน ...

ข้าวเหนียวย่อยยากจริงไหม

ส่วนข้าวเหนียวดันมีสตาร์ซที่ประกอบด้วยอะไมโลเพกตินอยู่เป็นส่วนใหญ่ ไอ้เจ้าตัวย่อยยากย่อยนานนั่นแหละครับ แต่มีอะไมโลสอยู่แค่ 5 - 7 เปอร์เซ็นต์ เมื่อกินข้าวเหนียวเข้าไป ร่างกายก็ทำกระบวนการย่อยนานกว่าปกติ พอยิ่งนานร่างกายก็หลั่งสารเซโรโทนินและเมลาโทนินที่ทำให้ง่วงซึมออกมามากขึ้น ร่างกายก็เลยรู้สึกง่วงมากขึ้นและเป็นระยะ ...