การแต่งกายให้เหมาะสมกับโรงเรียน


          ชุดไพรเวต ไปเรียน ควรแต่งอย่างไร หากต่อไปหลาย ๆ โรงเรียนอนุญาตให้นักเรียนสามารถใส่ชุดไพรเวตไปเรียนได้ โดยเฉพาะนักเรียนหญิงหากมีโอกาสได้ใส่บ้าง มาดูไอเดียกันไว้เลยว่าชุดไพรเวตสุภาพนั้นควรแต่งหรือไม่ควรแต่งอย่างไร

          ปัจจุบันมีน้อง ๆ นักเรียนไทยหลายคนออกมาเรียกร้องให้ใส่ ชุดไพรเวต ไปโรงเรียนได้ ซึ่งชุดไพรเวตที่ว่านี้ ในภาษาอังกฤษจะใช้คำว่า Private Dress ที่แปลตรง ๆ ว่า ชุดส่วนตัว หรือ ชุดลำลอง (Casual Dress) โดยการแต่งกายด้วยชุดเหล่านี้ในต่างประเทศมีโรงเรียนหลายแห่งที่มีธรรมเนียมให้นักเรียนสามารถแต่งกายด้วยชุดธรรมดาไปเรียนได้ โดยลักษณะการแต่งกายด้วยชุดไพรเวตนั้น ก็จะเป็นการสวมชุดธรรมดาทั่วไปแบบไม่เป็นทางการ คล้าย ๆ กับชุดอยู่บ้าน หรือชุดไปเที่ยว นั่นเอง แต่อย่างไรก็ตาม ต้องขึ้นอยู่กับความเหมาะสม อยู่ในระเบียบ ถูกกาลเทศะ และไม่ควรแฟชั่นจนเกินไป

          ทั้งนี้ หากต่อไปมีหลาย ๆ โรงเรียนในไทยอนุญาตให้เหล่านักเรียนสามารถแต่งชุดไพรเวตไปเรียนได้ น้อง ๆ นักเรียนก็ควรรู้เอาไว้ว่าควรแต่งกายชุดไพรเวตไปเรียนอย่างไรให้ถูกต้องและเหมาะสม วันนี้กระปุกดอทคอมจึงได้นำเคล็ดลับการแต่งชุดไพรเวตสุภาพทั้งแบบที่ควรใส่และไม่ควรใส่สำหรับน้อง ๆ นักเรียนหญิงมาแนะนำกันค่ะ จะมีอะไรบ้าง ลองไปดูกันเลย

๑. แต่งเครื่องแบบนักเรียนให้ถูกต้องตามระเบียบของโรงเรียน ก่อนออกจากบ้าน ควรสำรวจว่ามีข้อบกพร่องอะไร และจัดการแก้ไขให้ถูกต้อง

๒. ถ้าวันใดนักเรียนลืมประดับเข็มพระเกี้ยวมาโรงเรียน ต้องไปติดต่อกับหัวหน้าตึก

๓. นักเรียนต้องมาโรงเรียน โดยถือกระเป๋านักเรียน หรือกระเป๋าสะพายหลังของ โรงเรียน ไม่เว้นแม้วันเรียนวิชาทหาร หากมีความจำเป็นต้องใช้กระเป๋าเพิ่มเติม ต้องใช้ กระเป๋าหิ้วของโรงเรียนเท่านั้น หากนักเรียนนำกระเป๋าหิ้วของโรงเรียนมาเพียงใบเดียว หรือนำกระเป๋าอื่นๆ ที่โรงเรียนไม่อนุญาตโรงเรียนจะริบไว้และไม่คืน

๔. ห้ามสวมชุดพลศึกษา ในวันที่ไม่มีการเรียนวิชาพลศึกษา ยกเว้นในกรณีที่ครู นัดหมาย

๕. ในกรณีที่นักเรียนชายแต่งเครื่องแบบนักศึกษาวิชาทหาร (ร.ด.) ห้ามแต่งกายผิด ระเบียบ เช่นปล่อยชายเสื้อออกนอกกางเกง ปล่อยกางเกงออกนอกรองเท้า และสวมเสื้อ คอกลมเรียนในห้องเรียน
๖. นักเรียนที่ไว้ผมไม่ถูกระเบียบของโรงเรียน หากยังไม่สามารถแก้ไขได้ ให้สวม วิกผมทรงสั้นที่ถูกระเบียบจนกว่าผมธรรมชาติจะถูกต้องตามระเบียบ

การแต่งกาย
๑. ทรงผม
นักเรียนชาย ให้ไว้ผมทรงนักเรียนหรือรองทรงสูง (ตามรูป) ด้านบนและรอบศีรษะ ไม่ยาวจนดูหนาและห้าม

(๑)ไว้จอน                         (๒) ไว้หนวดเครา                  (๓)   แสกกลาง

(๔) ย้อมหรือกัดสีผม         (๕) ใส่นํ้ามัน เยล หรือ ฉีดสเปรย์
(๖) ทำผมตามแฟชั่น 


นักเรียนหญิง

๑. ถ้าไว้ผมสั้นต้องตัดตรงความยาวของผมจรดปกเสื้อด้านหลัง
๒. ถ้าไว้ผมยาวต้องรวบให้เรียบร้อยในระดับทัดดอกไม้ ความยาวของผมไม่เกิน กึ่งกลางหลัง หากใช้สายรัดที่ทำแทนยางรัดต้องใช้สีดำเท่านั้น
๓. ใช้ริบบิ้นผูกผมที่รวบไว้ ริบบิ้นต้องมีเนื้อเรียบไม่มีลวดลายในตัวขนาดของ ริบบิ้นกว้าง ๑ นิ้ว ยาว ๓๐ นิ้ว มีสีดำเท่านั้น ห้ามใช้สายรัดผ้าหรือกำมะหยี่ทุกสี
๔. ไม่อนุญาตให้ผูกโบตรงกลางศีรษะหรือติดกิ๊บขนาดใหญ่ หรือเกล้ามวยผม
๕. กิ๊บที่ใช้ติดผมและที่คาดผมต้องมีขนาดเล็กสีดำเท่านั้น และต้องใช้เพื่อกันผม ตกลงมาและไม่ใช้หลายอันจนดูเป็นเครื่องประดับ
๖. ถ้าไว้ผมม้า ต้องตัดตรงและมีความยาวไม่เกินระดับคิ้ว (ไม่ใช่ผมม้าแฟชั่น)
๗. ไม่ให้ฉีดสเปรย์หรือใส่เยลให้ผมแข็ง และยกผมด้านหน้าสูง ๘. ห้ามซอยผม ตัดผม ย้อมหรือกัดสีผมและทำผมตามแฟชั่น ๙. ห้ามทำทรงผมแปลก เช่น กักเปียหลายอันไว้บนศีรษะ ผมตรงกลางตัดสั้นและ ตั้งตรง ผมที่มีจอนยาวกว่าส่วนอื่น ผมสองข้างตัดให้ยาวไม่เท่ากัน ส่วนท้ายทอยไว้ยาว คล้ายหางเต่า หรือไว้ผมแบบอื่นๆ ที่ขัดต่อบุคลิกภาพของการเป็นนักเรียนเตรียมอุดมศึกษา

๒. เสื้อ ใส่อยู่ในขอบกางเกงหรือกระโปรง ห้ามดึงออกมาคลุมเข็มขัดหรือปล่อยให้ หลุดลุ่ยออกมานอกกางเกงหรือกระโปรง ต้องติดกระดุมให้ครบทุกเม็ดยกเว้นกระดุมคอ นักเรียนหญิงต้องใส่เสื้อทับชั้นในทุกครั้ง

๓. กางเกง ต้องใส่ให้ขอบอยู่ที่เอวห้ามไม่ให้ดึงลงมาห้อยอยู่ที่สะโพก

๔. กระโปรง ต้องใส่ให้ขอบอยู่ที่เอว และห้ามพับขอบอย่างเด็ดขาด

๕. เข็มขัด ต้องใส่เข็มขัดทุกครั้งที่แต่งชุดนักเรียนบนเข็มขัดห้ามติดสติกเกอร์หรือ นำวัสดุอื่นใดมาประกอบ นักเรียนหญิงถ้าต้องการไม่ให้ขอบกระโปรงหลุดจากเข็มขัดให้ใช้ คลิบสีดำหนีบไว้ ห้ามใช้คลิบสีอื่นเด็ดขาด

๖. รองเท้า ห้ามใส่รองเท้าในลักษณะเหยียบส้นรองเท้า

๗. ถุงเท้า นักเรียนชายห้ามพับถุงเท้า นักเรียนหญิงให้พับไว้เหนือตาตุ่ม

๘. ต่างหู อนุญาตให้เจาะหูใส่ต่างหูเพื่อป้องกันรูหูดันเพียงข้างละ ๑ รูเท่านั้น ให้ใช้ ต่างหูที่ทำด้วยโลหะสีทองและเงินเท่านั้น อนุญาตให้ใช้เป็นห่วงวงกลมเล็กๆ แบบเส้นลวด ไม่มีลวดลาย เส้นฝาศูนย์กลางไม่เกิน ๑ ซม. หรือใช้ต่างหูที่เป็นตุ่มกลม อันเดียวไม่มี ลวดลายขนาดเล็กเส้นฝาศูนย์กลางไม่เกิน ๐.๒๕ ซม. ห้ามนักเรียนชายเจาะหูและห้ามใส่ ต่างหู

๙. สายสร้อย อนุญาตให้ใส่สำหรับผู้ที่ต้องการมีพระติดตัวไว้ และต้องให้มีความยาวพอสมควรที่จะซ่อนพระไว้ไม่ให้มองเห็น สายสร้อยทำด้วยเงิน หรือสเตนเลสเท่านั้น

๑๐. แหวน ไม่อนุญาตให้ใส่แหวนทุกชนิด

๑๑. นาฬิกา รูปเรือนและสายนาฬิกาเป็นแบบสุภาพ ห้ามใช้นาฬิกาแฟนซีที่ หน้าปัดมีสีสันลวดลาย หรือรูปเรือนและขนาดที่ผิดปกติจากนาฬิกาทั่วๆ ไป หรือนาftกา ที่ส่อแสดงความฟุมเหืเอยในการใช้งาน

๑๒. แว่นตา ถ้าต้องใส่แว่นสายตา แบบของแว่นตาต้องสุภาพตามลักษณะของผู้ เป็นนักเรียน ไม่ใช้แว่นตาที่มีรูปแบบแปลกทุ มีลักษณะเป็นแฟชั่น และต้องใช้กรอบสีสุภาพ คือกรอบสีเงิน ทอง ดำ นํ้าตาลไหม้ หรือสีเทาแก่ ถ้าใช้คอนแทกเลนซ์ให้ใช้เป็นชนิด สีธรรมชาติของดวงตาเท่านั้น

๑๓. สร้อยข้อมือ ไม่อนุญาตให้สวมสร้อยข้อมือ ข้อเท้า หรือวัสดุอื่นใดที่มีลักษณะ เป็นเครื่องประดับ

๑๔. ของมืค่า ไม่ให้นำสิ่งของมีค่ามาโรงเรียน
๑๕. ห้ามแต่งหน้า

๑๖. เครื่องประดับ ไม่ใช้เครื่องประดับใดๆ หรือตกแต่งร่างกาย เช่น ทาเล็บ สัก เจาะ เขียนติดลวดลายหรือแต่งกายในลักษณะที่ขัดต่อสภาพของการเป็นนักเรียนที่ดี ถึงแม้จะไม่ได้ระบุไว้ในระเบียบนี้ก็ตาม

การแต่งกายมาโรงเรียนที่ถูกต้องควรแต่งกายอย่างไร

*** สิ่งที่ควรใส่ไปโรงเรียน 1.เสื้อที่มีแขน (แขนสั้น-ยาว) 3. กระโปรงยาวคลุมเข่า 4. ชุดเดรสกระโปรงแบบสุภาพ 5. สวมเสื้อคาร์ดิแกน

การแต่งกายตามกาลเทศะหมายถึงอะไร

คำว่ากาลเทศะ หมายถึง เวลาและสถานที่ หรือการกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เป็นการเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม การแต่งกายให้เหมาะสมกับกาลเทศะหรือโอกาสต่าง ๆ นั้น เป็นเรื่องที่เราควรศึกษาและนำมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ เพราะแน่นอนว่าคนเรานั้นจะมีโอกาสหรือวาระสำคัญ ให้ต้องแต่งกายอยู่เสมอ ดังนั้นเราควรทราบรายละเอียดของการแต่งกายให้ถูก ...

มารยาทในการแต่งกายช่วยเสริมบุคลิกภาพได้อย่างไร

การแต่งกายเป็นศิลปะแห่งการตกแต่ง และเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ส าคัญ เป็นการแสดง ภาพลักษณ์ออกมาให้บุคคลอื่นรู้จักตัวตนของเรา โดยเริ่มจากภาพลักษณ์ภายนอก ในรูปแบบ สีสันของเสื้อผ้าและเครื่องประดับ ซึ่งสามารถบ่งบอกถึงรสนิยมและอารมณ์ของผู้สวมใส่ การเลือก เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่เหมาะกับบุคลิกภาพของแต่ละบุคคลนั้น นอกจากเป็นการ ...

มารยาทในการแต่งกายมีความสำคัญอย่างไร

การแต่งกายให้สุภาพ และถูกต้องตามกาลเทศะจะทำให้คุณดูดี มีบุคลิกภาพที่ดีตั้งแต่แรกพบ นอกจากนี้ยังจะทำให้คนที่พบเจอคุณ รู้สึกประทับใจในครั้งแรกที่พบเห็นอีกด้วย