การเลิกและชำระบัญชีบริษัทจำกัดในกรณีที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติพิเศษให้เลิกบริษัท โดยดำเนินการจัดประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น เพื่อลงมติพิเศษให้เลิกบริษัทด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนหุ้นที่เข้าประชุม Show 1.3 เลิกโดยคำสั่งศาล เหตุที่ศาลจะสั่งเลิกบริษัทคือ (1) ทำผิดในการยื่นรายงานประชุมตั้งบริษัท หรือทำผิดในการประชุมตั้งบริษัท (2) บริษัทไม่เริ่มประกอบการภายใน 1 ปีนับแต่จดทะเบียน หรือหยุดทำการถึง 1 ปี (3) การค้ามีแต่ขาดทุนและไม่มีหวังกลับฟื้นคืน (4) จำนวนผู้ถือหุ้นเหลือไม่ถึง 3 คน 2. ผู้ชำระบัญชีจัดทำคำขอและยื่นจดทะเบียนเลิกบริษัท 3. ประกาศโฆษณาในหนังสือพิมพ์แห่งท้องที่ 3 ครั้ง 4. ส่งคำบอกกล่าวเป็นจดหมายลงทะเบียนไปรษณีย์ไปยังเจ้าหนี้ (ถ้ามี) ขั้นตอนตาม 2-4 ผู้ชำระบัญชีต้องดำเนินการภายใน 14 วัน นับแต่วันที่เลิกบริษัท ข้อมูลที่ต้องใช้1. วันที่เลิกบริษัท 2. ชื่อ ที่อยู่ อาชีพ และอายุของผู้ชำระบัญชี 3. อำนาจผู้ชำระบัญชี 4. ที่ตั้งสำนักงานของผู้ชำระบัญชี เอกสารหลักฐานที่ต้องใช้ในการจดทะเบียนเลิก1. แบบคำขอจดทะเบียนเลิก (แบบ ลช.1) 2. รายการจดทะเบียนเลิก (แบบ ลช.2) 3. สำเนาคำสั่งศาลให้เลิกบริษัท (ในกรณีที่ศาลมีคำสั่งให้เลิก) 4. สำเนารายงานการประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นซึ่งผู้ถือหุ้นที่มีมติตั้งผู้ชำระบัญชีหรือกำหนดอำนาจผู้ชำระบัญชีเป็นอย่างอื่น โดยมีกรรมการผู้มีอำนาจทำการแทนบริษัทตามที่จดทะเบียนไว้ก่อนเลิกบริษัท ลงลายมือชื่อรับรองความถูกต้อง (ใช้เฉพาะกรณีที่ผู้ชำระบัญชีมิใช่กรรมการทุกคน ตามที่จดทะเบียนไว้ก่อนเลิก หรือกำหนดอำนาจของผู้ชำระบัญชีเป็นอย่างอื่นซึ่งมิใช่อำนาจของกรรมการตามที่จดทะเบียนไว้ก่อนเลิก) 5. แผนที่แสดงที่ตั้งสำนักงานของผู้ชำระบัญชี และสถานที่สำคัญบริเวณใกล้เคียงโดยสังเขป 6. สำเนาใบมรณะบัตร (ใช้เฉพาะกรณีกรรมการถึงแก่กรรม) 7. สำเนาบัตรประจำตัวของผู้ชำระบัญชีทุกคน 8. สำเนาหลักฐานการเป็นผู้รับรองลายมือชื่อ (ถ้ามี) 9. หนังสือมอบอำนาจ (กรณีที่ผู้ขอจดทะเบียนไม่สามารถยื่นขอจดทะเบียนได้ด้วยตนเอง ก็มอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทนโดยทำหนังสือมอบอำนาจและปิดอากรแสตมป์ด้วย) ค่าธรรมเนียม 1. ค่าธรรมเนียมจดทะเบียนเลิก 400 บาท 2. หนังสือรับรอง ฉบับละ 120 บาท 3. รับรองสำเนาเอกสาร หน้าละ 50 บาท ขั้นตอนการชำระบัญชี1. เมื่อเลิกบริษัทแล้ว 2. ประกาศโฆษณาในหนังสือพิมพ์แห่งท้องที่ 1 ครั้ง เป็นอย่างน้อย 3. ส่งคำบอกกล่าวเป็นจดหมายลงทะเบียนไปรษณีย์ไปยังเจ้าหนี้ (ถ้ามี) ขั้นตอนตาม 2-3 ผู้ชำระบัญชีต้องดำเนินการภายใน 14 วัน นับแต่วันที่เลิกบริษัท 4. จัดทำงบการเงิน ณ วันเลิกบริษัท ( ณ วันที่ประชุมมีมติพิเศษให้เลิกหรือวันที่นายทะเบียนรับจด ทะเบียนเลิก) 5. ส่งงบการเงิน ณ วันเลิกบริษัท ให้ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตตรวจสอบและรับรองว่าถูกต้อง 6. ออกหนังสือนัดประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อยืนยันตัวผู้ชำระบัญชีและอนุมัติงบการเงิน ณ วันเลิก 7. ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อมีมติยืนยันตัวผู้ชำระบัญชีหรือแต่งตั้งผู้ชำระบัญชีใหม่และอนุมัติงบการเงิน ณ วันเลิก 8. ผู้ชำระบัญชีชำระสะสางทรัพย์สินและหนี้สินของบริษัท (ถ้ามีทรัพย์สินก็ให้จำหน่าย มีลูกหนี้ให้เรียกเก็บเงินจากลูกหนี้ ชำระหนี้สิน และจ่ายค่าใช้จ่ายในการชำระบัญชีของบริษัท) 9. เมื่อมีเงินคงเหลือก็ให้คืนทุนแก่ผู้ถือหุ้นตามสัดส่วนที่ถือหุ้นหรือตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับ 10. ออกหนังสือนัดประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติรายงานการชำระบัญชี 11. ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อมีมติอนุมัติรายงานการชำระบัญชี 12. ผู้ชำระบัญชีจัดทำคำขอจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีและยื่นจดทะเบียนต่อนายทะเบียนภายใน 14 วัน นับแต่วันที่ประชุมอนุมัติการชำระบัญชี เอกสารหลักฐานที่ต้องใช้ในการจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี1. แบบคำขอจดทะเบียนเลิก (แบบ ลช.1) 2. รายการจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี (แบบ ลช.5) 3. รายงานการชำระบัญชี (แบบ ลช.3) 4. งบการเงิน ณ วันเลิกบริษัท (หรือ งบการเงิน ณ วันที่นายทะเบียนรับจดทะเบียนเลิกบริษัทก็ได้) 5. รายละเอียดสมุดบัญชีและสรรพเอกสารทั้งหลาย (แบบ ลช.6) 6. แบบรับรองการตรวจสอบบัญชีของกรมสรรพากร 7. สำเนาบัตรประจำตัวของผู้ชำระบัญชีที่ลงชื่อในคำขอจดทะเบียน 8. สำเนาหลักฐานการเป็นผู้รับรองลายมือชื่อ (ถ้ามี) 9. หนังสือมอบอำนาจ (กรณีที่ผู้ขอจดทะเบียนไม่สามารถยื่นขอจดทะเบียนได้ด้วยตนเอง ก็มอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทนโดยทำหนังสือมอบอำนาจและปิดอากรแสตมป์ด้วย) กรณีที่บริษัทไม่สามารถชำระบัญชีให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน นับจากวันเลิก ก็ให้ผู้ชำระบัญชียื่นรายงานการชำระบัญชี (แบบ ลช.3) ทุก 3 เดือน ถ้าชำระบัญชียังไม่แล้วเสร็จภายในหนึ่งปี ผู้ชำระบัญชีต้องเรียกประชุมใหญ่ในเวลาสิ้นปีทุกปีนับแต่วันเริ่มทำการชำระบัญชี (วันเลิก) และต้องทำรายงานยื่นที่ประชุมว่าได้จัดการไปอย่างไรบ้าง และแจ้งให้ทราบความเป็นไปของการชำระบัญชีโดยละเอียด สำเนาเอกสารประกอบคำขอจดทะเบียนทุกฉบับ ต้องให้ผู้ขอจดทะเบียนอย่างน้อยหนึ่งคนรับรองความถูกต้อง ยกเว้นสำเนาบัตรประจำตัวหรือหลักฐานการเป็นผู้รับรองลายมือชื่อผู้ขอจดทะเบียน ให้ผู้เป็นเจ้าของบัตรหรือผู้ขอจดทะเบียนอย่างน้อยหนึ่งคนเป็นผู้ลงลายมือชื่อรับรองความถูกต้อง ค่าธรรมเนียม 1. ค่าธรรมเนียมจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี 400 บาท 2. หนังสือรับรอง ฉบับละ 120 บาท 3. รับรองสำเนาเอกสารคำขอจดทะเบียน หน้าละ 50 บาท การยื่นขอเลิกต่อกรมสรรพากร1.แจ้งเลิกต่อกรมสรรพการ 2.ยื่นภงด50 ของงบที่เลิกกิจการ 3.แจ้งคืน ภพ.20ฉบับจริง เอกสารที่ต้องเตรียมไว้– สำเนาบัตรประชาชน+ทะเบียนบ้านของผู้ถือหุ้นทุกคน – เอกสารการยื่นแบบภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภพ.30)พร้อมใบเสร็จประมาณ 2-3 ปี – งบดุล งบกำไรขาดทุน ที่ยื่นสรรพากรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ประมาณ 2-3 ปี – งบดุล งบกำไรขาดทุน ณ วันเลิก พร้อมใบเสร็จ ที่ยื่นสรรพากรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว -เอกสารการจดทะเบียนเลิก ภพ.09 – ภพ20 ตัวจริง -เอกสารอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ปิดบริษัท,ปิดห้างหุ้นส่วน,เลิกห้างหุ้นส่วน,จดทะเบียนเลิก,ขั้นตอนการปิดบริษัท,เลิกบริษัท,ค่าใช้จ่ายปิดบริษัท,ปิดบริษัทต้องทำอย่างไร,รับปิดบริษัท,เลิกบริษัท,รายงานการประชุมปิดบริษัท,ปิดบริษัทภาษาอังกฤษ,บัญชีปิดบริษัท,ปิดกิจการชั่วคราว,หยุดกิจการชั่วคราว,จดทะเบียนเลิกบริษัท,จดทะเบียนเลิกห้าง,จดทะเบียนเลิกvat, จดทะเบียนเลิกภาษี ปรึกษาเราซิคะ เราชำนาญด้านการปิดบริษัท ด้วยงบประมาณที่ประหยัด Tel:091 298 4918 Line : Apirak.b Mail: [email protected] ยกเลิกกิจการใช้เอกสารอะไรบ้าง1. แบบคำขอจดทะเบียนเลิก (แบบ ลช.1) 2. รายการจดทะเบียนเลิก (แบบ ลช.2) *ผูชำระบัญชีตองลงลายมือชื่อทุกคน* 3. สำเนาคำสั่งศาลใหเลิกบริษัท (ในกรณีที่ศาลมีคำสั่งใหเลิก) 4. สำเนารายงานการประชุมใหญผูถือหุนซึ่งผูถือหุนที่มีมติตั้งผูชำระบัญชีหรือกำหนดอำนาจผูชำระ
แจ้งปิดบริษัททำอย่างไรขั้นตอนการปิดบริษัท
จัดประชุมผู้ถือหุ้นทุกท่าน โดยให้ลงมติ ต้องให้คะแนนไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนผู้ถือหุ้นทั้งหมดที่มาประชุม จัดทำเอกสารยื่นจดปิดบริษัท และนำเอกสารไปจดทะเบียนที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าภายใน 14 วัน ลงประกาศหนังสือพิมพ์เพื่อให้ลูกหนี้และเจ้าหนี้ของบริษัท ติดต่อชำระหนี้ หรือ ยื่นเรื่องทวงหนี้
การเลิกกิจการต้องทำอะไรบ้าง– กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ได้แก่ 1) จดทะเบียนเลิกบริษัท 2) จัดทำงบการเงิน ณ วันเลิก และส่งให้ผู้ตรวจสอบบัญชีรับรอง และ 3) จดทะเบียนเสร็จชำระบัญชี – กรมสรรพากร ได้แก่ 1) แจ้งปิดบริษัทภายใน 15 วัน 2) ยื่น ภ.ง.ด.50 ของงบที่เลิกบริษัท และ 3) คืนใบ ภ.พ.20 ตัวจริง
แจ้งเลิกกิจการที่ไหนสถานที่ยื่น ส านักงานสรรพากรพื้นที่สาขาที่สถานประกอบการอันเป็นส านักงานใหญ่ตั้งอยู่ ภายใน 150 วัน นับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี โดยถือวันที่เจ้าพนักงานรับจดทะเบียนเลิกเป็นวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี
|