โดย Expedia Team, 13 February 2018 หลายคนเมื่อจบม.ปลายแล้วอยากไปเรียนต่อต่างประเทศป.ตรีหรืออาจจะเรียนต่อโท ไม่ว่าจะเป็นที่ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา อังกฤษ หรือแม้กระทั่งประเทศเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์ แต่ก่อนที่คุณจะตัดสินใจจองตั๋วเครื่องบิน
เก็บกระเป๋าไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยต่างประเทศ ลองมาทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างการเรียนมหาวิทยาลัยต่างประเทศกับมหาวิทยาลัยที่ไทย เพื่อรับมือกับความแตกต่างและวิธีการเรียนการสอนกันก่อนดีกว่า! ขนาดห้องเรียนขนาดห้องเรียนของมหาวิทยาลัยที่ต่างประเทศมักจะมีขนาดเล็กกว่ามหาวิทยาลัยที่ไทย อาจารย์จะเข้าถึงนักเรียน นักเรียนจึงมีโอกาสปฏิสัมพันธ์กับอาจารย์ได้โดยตรง ถึงแม้ในบางครั้งมหาวิทยาลัยที่ไทยจะมีการแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่มย่อยๆ แต่การเรียนการสอนก็ยังไม่ใกล้ชิดเท่าต่างประเทศ สำหรับคนไหนที่กำลังจะไปเรียนมหาวิทยาลัยต่างประเทศ ควรจะปรับตัวให้ตัวเองเคยชินกับการเรียนในห้องเรียนขนาดเล็กและใกล้ชิดกับอาจารย์ ความร่วมมือของนักเรียนมหาวิทยาลัยต่างประเทศมักเน้นให้นักเรียนศึกษาเกี่ยวกับเรื่องที่เรียนมาก่อนล่วงหน้า สรุป และนำความคิดตัวเองมาเสนอกับเพื่อนและอาจารย์ สนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันภายในคลาส และนักเรียนทุกคนให้ความร่วมมืออย่างดีต่างจากบรรยากาศห้องเรียนในเมืองไทย นักเรียนไทยที่เคยชินกับการเรียนหรือเลคเชอร์แบบสื่อสารทางเดียว (One-way communication) จึงต้องปรับตัวและเตรียมความพร้อมในข้อนี้ด้วย ความสัมพันธ์ระหว่างครู-นักเรียนส่วนใหญ่เมื่อคุณมาเรียนมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างนักเรียนกับครูจะแตกต่างกันไปตามประเทศที่คุณศึกษา ถ้าเป็นมหาวิทยาลัยตะวันตกอย่างอเมริกา ความสัมพันธ์อาจจะเป็นไปอย่างไม่เป็นทางการและเป็นกันเอง นักเรียนสามารถสื่อสารกับครูได้อย่างอิสระ ในขณะที่มหาวิทยาลัยในประเทศในเอเชียอย่างสิงคโปร์หรือไทยจะมีบรรยากาศทางการกว่า มีเส้นแบ่งระหว่างนักเรียนกับอาจารย์อย่างชัดเจน การสื่อสารระหว่างครูกับนักเรียนในมหาวิทยาลัยแถบเอเชียอาจจะเป็นทางการและเคร่งครัด ครูเคารพนักเรียนและนักเรียนต้องเคารพครูเช่นกัน ความตรงต่อเวลาความตรงต่อเวลาของนักเรียนในการเข้าห้องเรียน หรือ คลาสเลคเชอร์นั้นเป็นสิ่งสำคัญมากในมหาวิทยาลัยต่างประเทศ ที่เมืองนอกส่วนใหญ่นักเรียนมักมารออาจารย์ในห้องเรียนก่อนเวลาราว 10-15 นาทีเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมกับการเรียนหนังสือ มหาวิทยาลัยต่างประเทศจึงซีเรียสเรื่องเวลามากกว่ามหาวิทยาลัยที่ไทยซึ่งมีกฎเกณฑ์หละหลวมกว่า เพราะฉะนั้นเด็กไทยคนไหนที่จะไปเรียนป.ตรีหรือป.โทต่างประเทศต้องมีวินัยเรื่องเวลานะ กิจกรรมนอกห้องเรียนถึงแม้ว่าทั้งมหาวิทยาลัยต่างประเทศและมหาวิทยาลัยที่ไทยจะมีกิจกรรมนอกห้องเรียนหรือชมรมเหมือนกัน แต่นักเรียนในมหาวิทยาลัยต่างประเทศให้ความสำคัญกับการเข้าร่วมกิจกรรมนอกห้องเรียนมากกว่าเด็กไทยมาก การเข้าร่วมชมรมในมหาวิทยาลัยต่างประเทศนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่นักเรียนเกือบทุกคนทำ เพราะนอกจากจะได้ทำกิจกรรมที่ตนเองสนใจแล้วยังได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ รู้จักเพื่อนใหม่ และฝึกวินัยให้แก่ตนเองอีกด้วย การศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยนั้นคือด่านสุดท้ายก่อนชีวิตการทำงานจะเริ่มต้นขึ้น การเลือกสถาบันการศึกษาค่อนข้างมีผลต่ออาชีพในอนาคต ผู้เรียนจึงควรพิจารณาให้รอบคอบถึงข้อดีข้อเสียของการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยทั้งในต่างประเทศและในไทย เพื่อเลือกสิ่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตนเอง และเมื่อเริ่มต้นชีวิตในรั้วอุดมศึกษาแล้วก็อย่าลืมแบ่งเวลามาท่องเที่ยวเพื่อดูความเป็นไปของโลกและเพิ่มพูนประสบการณ์ชีวิตด้วยนะ ชีวิตจะได้บาลานซ์ ขอบคุณข้อมูลจากEF Education First EF Education First สถาบันการศึกษาชั้นนำที่เปิดสอนสอนภาษาต่างประเทศทั้งหมด 9 ภาษา มีโรงเรียนเปิดสอนอยู่มากกว่า 50 จุดหมายปลายทางทั่วโลก |