พาณิชย์ตั้งเป้าส่งออกข้าวไทยปี 64 ปริมาณ 6 ล้านตัน เตรียมพัฒนาพันธุ์ข้าว ปรับปรุงกฎระเบียบ พร้อมเจรจาออนไลน์สร้างความสัมพันธ์กับคู่ค้า ประชาสัมพันธ์ข้าวไทยผ่านทูตพาณิชย์ทั่วโลก เพื่อดันส่งออก Show นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้จัดการประชุมผ่านระบบ Zoom ร่วมกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยเพื่อหารือเกี่ยวกับเป้าการส่งออกข้าวไทยในปี 2564 โดยเห็นชอบร่วมกันในการกำหนดเป้าการส่งออกข้าวไทยที่ปริมาณ 6 ล้านตัน ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ท้าทาย
เพราะยังมีผลกระทบต่อการส่งออกข้าว ทั้งเงินบาทแข็งค่า ทำให้ข้าวไทยมีราคาสูงกว่าคู่แข่งสำคัญ เช่น อินเดียและเวียดนาม มีปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ที่มีไม่เพียงพอกับความต้องการ และผู้นำเข้าหลายประเทศยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้กำลังซื้อลดลง กีรติ รัชโนทั้งนี้ เพื่อให้การส่งออกข้าวเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ กรมฯ จะเดินหน้ากิจกรรมเพื่อสนับสนุนการขยายตลาดข้าวไทย โดยจะเร่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ข้าวไทยปี 2563-67 ที่จะร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พัฒนาพันธุ์ข้าวให้ตรงตามที่ตลาดต้องการ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค จะเร่งปรับปรุงกฎ ระเบียบให้เอื้อต่อการส่งออกข้าว และเร่งประชาสัมพันธ์ข้าวไทยให้เป็นที่รู้จักและต้องการเพิ่มมากขึ้น โดยในการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ข้าวไทย จะปรับรูปแบบจากออฟไลน์มาเป็นออนไลน์มากขึ้น เพื่อรักษากลุ่มลูกค้าเดิมและหากลุ่มลูกค้าใหม่ โดยมีกิจกรรมที่จะดำเนินการ เช่น การหารือกระชับความสัมพันธ์และสร้างความเชื่อมั่นกับประเทศคู่ค้าสำคัญ ผ่านระบบวิดีโอ คอนเฟอเรนซ์ กับฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย อิรัก บังกลาเทศ เป็นต้น และหารือกับประเทศผู้ส่งออกข้าว เช่น เวียดนาม เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์การผลิตและตลาดข้าว นอกจากนี้ จะจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ข้าวไทยเพื่อเผยแพร่ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยร่วมมือกับผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ที่เป็นตลาดเป้าหมายในการส่งออกข้าวของไทย และจัดกิจกรรมต่อยอดข้าวหอมมะลิไทยที่ได้เเชมป์ข้าวที่ดีที่สุดในโลกปี 2563 (World’s Best Rice 2020) เพื่อแนะนำข้าวหอมมะลิไทยดียังไง ผ่านช่องทางสื่อโซเชียลมีเดีย เป็นต้น สำหรับการส่งออกข้าวไทยในปี 2563 ที่ผ่านมา มีปริมาณรวม 5.72 ล้านตัน ลดลง 24.54% มูลค่า 3,727 เหรียญสหรัฐ ลดลง 11.41% คิดเป็นเงินบาท 115,915 ล้านบาท ลดลง 11.23% โดยตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ แอฟริกาใต้ อันดับ 1 ส่งออกปริมาณ 672,777 ตัน คิดเป็นสัดส่วน 11.75% ของการส่งออกข้าวทั้งหมด สหรัฐฯ อันดับ 2 ปริมาณ 672,183 ตัน สัดส่วน 11.74% เบนินอันดับ 3 ปริมาณ 476,290 ตัน สัดส่วน 8.32% จีน อันดับ 4 ปริมาณ 381,363 สัดส่วน 6.66% และอังโกลา อันดับ 5 ปริมาณ 347,292 สัดส่วน 6.07% โดยสาเหตุที่ทำให้การส่งออกในปี 2563 ลดลง มาจากค่าเงินบาทแข็งค่า ส่งผลให้ราคาข้าวไทยสูงกว่าคู่แข่ง, จีน ซึ่งเดิมเป็นประเทศผู้นำเข้า ได้กลายมาเป็นผู้ส่งออก และส่งออกไปแย่งตลาดไทยในแอฟริกาที่เป็นตลาดหลักของไทย, ข้าวไทยไม่มีพันธุ์ที่ตอบสนองความต้องการของตลาดเท่าที่ควร โดยเฉพาะข้าวพันธุ์พื้นนุ่ม และช่วงปลายปี มีปัญหาขนส่ง ขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ส่วนอันดับการส่งออกข้าวของโลกในปี 2563 อินเดีย อันดับ 1 ส่งออกปริมาณ 14 ล้านตัน เวียดนาม อันดับ 2 ปริมาณ 6.3 ล้านตัน ไทย อันดับ 3 ปริมาณ 5.72 ล้านตัน ปากีสถาน อันดับ 4 ปริมาณ 4 ล้านตัน และสหรัฐฯ อันดับ 5 ปริมาณ 3.05 ล้านตัน แม้ตลาดส่งออกข้าวไทยจะเคยรุ่งเรืองมาอย่างยาวนานในอดีต แต่ในปีที่ผ่านมาการส่งออกข้าวไทยประสบกับฝันร้าย จากจำนวนปริมาณการส่งออกที่เหลือเพียง 7.58 ล้านตัน และเป็นยอดการส่งออกที่ต่ำสุดในรอบ 6 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ปี 2556 ที่ประเทศไทยส่งออกข้าวได้เพียง 6.61 ล้านตัน มูลค่า 133,839 ล้านบาท อ้างอิงจากสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยยอดส่งออกข้าวไทย ได้เท่าไร 2561 11.23 ล้านตัน 182,082 ล้านบาท
2562 7.58 ล้านตัน 130,544 ล้านบาท
มกราคม-มีนาคม 2563 1.47 ล้านตัน 28,497 ล้านบาท
การส่งออกข้าวของไทยในปีนี้ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย มีความกังวลว่า ประเทศไทยอาจจะต้องเสียแชมป์อันดับสองการส่งออกข้าวให้กับเวียดนาม ที่มีการพัฒนาพันธุ์ข้าวให้มีความหอมนุ่มจนเป็นที่ยอมรับของตลาดโลก ในปีที่ผ่านมา ข้อมูลจากสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยพบว่าไทยมีการส่งออกข้าวอันดับสอง 7.58 ล้านตัน ส่วนเวียดนามอันดับสาม 6.37 ล้านตัน ส่วนอินเดียอันดับหนึ่ง 9.77 ล้านตัน
3 ประเทศที่ส่งออกข้าวสูงสุดปี 2562 อินเดีย 9.77 ล้านตัน ไทย 7.58 ล้านตัน เวียดนาม 6.37 ล้านตัน
ดูแล้วการส่งออกข้าวเวียดนามยังตามไทยอยู่ประมาณล้านตันกว่า แต่ถ้านำตัวเลขการส่งออกข้าวไทยในเดือนมกราคม ปี 2563 เปรียบเทียบกับมกราคม 2562 พบว่า เวียดนามมีการเติบโตของยอดส่งออกข้าวอย่างก้าวกระโดด ส่วนไทยและอินเดียมียอดการส่งออกที่ลดลงกว่าที่ผ่านมา 25622563อินเดีย0.98 ล้านตัน0.71 ล้านตันลดลง 27.6%ไทย0.95 ล้านตัน 0.57 ล้านตันลดลง 40.1%เวียดนาม0.37 ล้านตัน0.71 ล้านตันเพิ่มขึ้น 51%*เฉพาะมกราคม การที่ข้าวไทยส่งออกลดลงมาจากอะไร 1.คนทั่วโลกต้องการรับประทานข้าวที่นุ่มมากขึ้น แต่เวียดนามก็มี ในวันนี้พฤติกรรมคนทั่วโลกเริ่มเปลี่ยนไป จากการรับประทานข้าวที่แข็ง หรือข้าวอะไรก็ได้ เป็นข้าวที่มีความนุ่มหอมมากขึ้น ซึ่งพฤติกรรมนี้แทนที่จะเป็นโอกาสอันดีของประเทศไทย ประเทศที่มีการส่งออกข้าวหอมมะลิอันดับต้นๆ ของโลก
ไทยส่งข้าวอะไรไปขาย ข้าวขาว 3.21 ล้านตัน ลดลง 45.9% ข้าวนึ่ง 2.23 ล้านตัน ลดลง 20.4% ข้าวหอมมะลิ 1.41 ล้านตัน ลดลง 15.6% ข้าวหอมไทย 0.51 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 13.3% ข้าวเหนียว 0.22 ล้านตัน ลดลง 43.6% อ้างอิงปี 2562
แต่โอกาสนี้กับมีความท้าทายคือเวียดนามมีการพัฒนาสายพันธุ์ข้าวใหม่ๆ เช่น ข้าวนางฮวา สายพันธุ์ ST21, ST24 และ DT8 ให้มีความหอมนุ่มยิ่งขึ้นใกล้เคียงกับข้าวหอมมะลิเข้ามาแข่งขันในตลาด จากเดิมที่เวียดนามมีเพียงข้าวขาวธรรมดาเท่านั้น และมีราคาจำหน่ายที่ถูกกว่าประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงที่ประเทศไทยมีค่าเงินบาทที่แข็งตัว และทำให้ไทยต้องสูญเสียตลาดข้าวที่สำคัญอย่างฟิลิปปินส์ จีน ฮ่องกง มาเลเซีย ให้กับเวียดนาม จากเดิมที่ไทยเคยขายข้าวให้ ฟิลิปปินส์ จาก 1.03 ล้านตันในปี 2561 เหลือเพียง 0.33 ล้านตันในปี 2562 จีน 1.00 ล้านตัน ในปี 2561 เหลือเพียง 0.47 ล้านตันในปี 2562 มาเลเซีย จาก 0.48 ล้านตัน ในปี 2561 เหลือ 0.92 ล้านตันในปี 2562 ฮ่องกง จาก 0.19 ล้านตัน ในปี 2561 เหลือ 0.17 ล้านตันในปี 2562
นอกจากนี้ เวียดนามยังได้เซ็นสัญญาข้อตกลงเขตการค้าเสรีกับสหภาพยุโรป (EVFTA) และเป็นสมาชิกหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) ทําให้เวียดนามมีโอกาสขยายตลาดส่งออกข้าวไปยังสหภาพยุโรปและประเทศสมาชิกในกลุ่ม CPTPP มากขึ้น จากโควตาที่สหภาพยุโรปให้กับเวียดนามสามารถนำเข้าข้าวได้ปีละ 80,000 ตัน ในอัตราภาษี 0% มาจำหน่าย
ยอดส่งออกข้าวไทย ส่งไปไหนกันแอฟริกา 3.99 ล้านตัน ลดลง 24.2% เอเชีย 1.78 ล้านตัน ลดลง 56.5% อเมริกาและแคนาดา 0.68 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 5.6% ตะวันออกกลาง 0.48 ล้านตัน ลดลง 4.6% ยุโรป 0.36 ล้านตัน ลดลง 5.4% ออสเตรเลียและอื่นๆ 0.16 ล้านตัน ลดลง 25.2%
5 ประเทศซื้อข้าวไทยสูงสุด เบนิน 1.07 ล้านตัน มูลค่า 13,000 ล้านบาท แอฟริกาใต้ 0.73 ล้านตัน มูลค่า 9,168 ล้านบาท สหรัฐอเมริกา 0.56 ล้านตัน มูลค่า 19,269 ล้านบาท แคเมอรูน 0.53 ล้านตัน มูลค่า 6,708 ล้านบาท จีน 0.47 ล้านตัน มูลค่า 9,336 ล้านบาท อ้างอิงในปี 2562 ที่มา: สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย
2.ค่าเงินบาทที่แข็งค่า ในปีที่ผ่านมา ค่าเงินบาทไทยแข็งค่าขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และการแข่งค่าของเงินบาท เป็นความท้าทายที่สำคัญในธุรกิจส่งออกไทยในทุกๆ มิติ รวมถึงการส่งออกข้าวไทยที่มีราคาจำหน่ายที่สูงขึ้น โดยข้อมูลจากสมาคมส่งออกข้าวไทยพบว่าประเทศไทยมีราคาจำหน่ายข้าวสูงกว่าประเทศคู่แข่ง 80 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน หรือประมาณ 2,570 บาทต่อตัน จนในบางประเทศเปลี่ยนจากการสั่งข้าวไทยมาเป็นข้าวจากประเทศอื่นๆ ทดแทน เพื่อต้นทุนที่ถูกลงจากเดิม
ประเทศไทยปลูกข้าวได้เท่าไร 2559 นาปี 25.236 ล้านตัน นาปรัง 3.109
2560 นาปี 24.934 นาปรัง 6.620
2561 นาปี 25.178 นาปรัง 7.964
2562 นาปี 24.304 นาปรัง 7.754
และนอกจากนี้ การที่ประเทศไทยประสบกับปัญหาภัยแล้ง ส่งผลให้ผลผลิตข้าวลดลง และราคาข้าวในประเทศสูงขึ้นตามดีมานด์ความต้องการบริโภคในประเทศ และทำให้การแข่งขันกับคู่แข่งยากลำบากขึ้นเช่นกัน ไทยส่งออกข้าวไปประเทศไหนมากที่สุดสำหรับตลาดหลักข้าวหอมมะลิไทย คือ ตลาดสหรัฐอเมริกา สัดส่วน 38% เมื่อปีที่ผ่านมาส่งออกอยู่ที่ 4.4 แสนตัน ฮ่องกง 1.33 แสนตัน จีน 1.30 แสนตัน แคนาดา 6 หมื่นตัน รวมตลาดอื่น ๆ ด้วย
ไทยส่งออกข้าวไปประเทศอะไรบ้างประเทศที่นำเข้าข้าวที่สำคัญ 'ข้าวขาว' ได้แก่ อิรัก จีน ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ โมซัมบิก อังโกลา มาเลเซีย แคเมอรูน สหรัฐฯ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ประเทศใดเป็นประเทศคู่ค้าข้าวของไทยในตลาดโลกJavaScript chart by amCharts 3.21.1 สหรัฐอเมริกา: 25.18% จีน: 18.06% ญี่ปุ่น: 14.39% เวียดนาม: 7.84% ออสเตรเลีย: 7.10% มาเลเซีย: 6.92% อินเดีย: 5.61% สิงคโปร์: 5.14% ฮ่องกง: 4.94% อินโดนีเซีย: 4.81% ตลาดส่งออกสำคัญ 10 อันดับแรก เดือน ตุลาคม 2022 (ล้านบาท)
ประเทศใดที่มีผลผลิตข้าวมากที่สุดในโลก🌾 อันดับ 1 คือ 'จีน' มีผลผลิตข้าวราว 145 ล้านตันข้าวสาร 🍚 อันดับ 2 คือ 'อินเดีย' มีผลผลิตข้าวราว 107 ล้านตันข้าวสาร 🌾 อันดับ 3 คือ 'อินโดนีเซีย' มีผลผลิตข้าวราว 37 ล้านตันข้าวสาร 🍚 อันดับ 4 คือ 'บังคลาเทศ' มีผลผลิตข้าวราว 35 ล้านตันข้าวสาร
|