คริสเตียนีและนีลเส็น ประมูลงาน

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(24 พฤษภาคม 2565)--CNT เล็งปรับเป้ารายได้ปี65 เหลือ 6.2 พันลบ. จากเดิมคาด 6.5 พันลบ. หลังชนะประมูลงานน้อย ระบุช่วงที่เหลือของปี เดินหน้าประมูลงานใหม่ 1.25 หมื่นลบ. หวังว่าจะได้งานเข้ามา 5 พันลบ.


นายสุรศักดิ์ โอสถานุเคราะห์ กรรมการและผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท คริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย) จำกัด (มหาชน)CNT เปิดเผยว่า บริษัทฯ วางเป้าหมายรายได้ปี 2565 ไว้ที่ 6,500 ล้านบาท อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าอาจจะต้องมีการปรับเป้าหมายอีกครั้งหลังจบไตรมาส2/65 โดยอาจจะปรับลงมาเหลือ 6,200 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อน เนื่องจากงานใหม่เข้ามาน้อยลง จากการที่บริษัทฯ ชนะประมูลงานน้อย โดยชนะประมูลงานใหม่ราว 500 ล้านบาท

ทั้งนี้แผนการประมูลงานใหม่ ปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าประมูลงานใหม่ 21,000 ล้านบาท โดยในไตรมาส1/65 ประมูลแล้ว 8,500 ล้านบาท ได้งานใหม่มา 540 ล้านบาท ที่เหลืออีก 12,500 ล้านบาท จะประมูลในอีก 3 ไตรมาสที่เหลือ โดยหวังว่าจะได้งานเข้ามา 5,000 ล้านบาท

สำหรับมูลค่างานในมือ(Backlog) ณ สิ้นไตรมาส1/65 บริษัทฯ มีอยู่ที่ 12,000 ล้านบาท แบ่งเป็นงานภาคเอกชน 45% ,งานภาครัฐ 35%, งานไฮเวย์ 14% โดยงานในมือดังกล่าวเป็นงาน Long term 82% และอีก19% เป็นงาน Short term

ส่วนแนวโน้มอุตสาหกรรมก่อสร้างในปีนี้ งานโครงการใหม่ๆ เริ่มมีแนวโน้มดีขี้น อย่างไรก็ตามสถานการณ์ความคัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ก็ส่งผลกระทบให้งานชะลอลงเช่นกัน ส่วนสถานการณ์โควิด-19 ผลกระทบไม่มีมากแล้ว

ด้านราคาน้ำมัน และราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนของบริษัทฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน แต่บริษัทฯ ได้เตรียมแผนรับมือ โดยในส่วนของราคาวัสดุก่อสร้าง เช่นเหล็กเส้น บริษัทฯ จะมีการเจรจากับลูกค้า โดยให้ลูกค้าเป็นผู้รับผิดชอบ เพื่อลดผลกระทบดังกล่าว หรือบางโคงการที่มีระยะเวลาก่อสร้างไม่นานบริษัทฯ ก็จะซื้อวัตถุดิบไว้ล่วงหน้า

CNT หั่นเป้ารายได้ปีนี้จาก 8 พันล้านบาท เหลือ 6.7 พันล้านบาท จากผลกระทบการแพร่ระบาดโควิด-19 ฉุดงานใหม่ชะลอ คาดงบไตรมาส 2/64 ทรงตัว ตุน Backlog กว่า 1 หมื่นล้านบาทพร้อมลุยประมูลใหม่ของภาครัฐและเอกชน

นายสุรศักดิ์ โอสถานุเคราะห์ กรรมการและผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท คริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ CNT เปิดเผยในงาน Opportunity Day ว่า บริษัทได้ปรับลดเป้ารายได้ปีนี้ลงเหลือ 6,700 ล้านบาท จากเดิมที่วางไว้ 8,000 ล้านบาท และลดลงจากปีก่อนที่ทำได้ 7,525 ล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ภายในประเทศที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจกว่า 70-80% โดยเฉพาะงานก่อสร้างภาคเอกชนที่บริษัทมีส่วนร่วมและงานโครงการใหม่ๆปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

ขณะที่การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐที่มีมูลค่ารวมกว่าแสนล้านบาท แม้จะทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่บริษัทมีประสบการณ์รับงานภาครัฐน้อย ทำให้มีโอกาสในการรับงานใหม่ไม่มาก เพราะที่ผ่านมา การรับงานภาครัฐ จะเป็นในรูปแบบของรับจ้างงานช่วง (ซับคอนแทรค) มากกว่า จึงทำให้บริษัทไม่สามารถเข้าร่วมประมูลงานระดับแสนล้านบาทโดยตรงได้

สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2/64 คาดว่าจะทรงตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีงานในมือที่รอการทยอยส่งมอบและรับรู้เป็นรายได้ (Backlog) ในมือ จำนวน 10,300 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถทยอยส่งมอบและรับรู้เข้ามาเป็นรายได้ในปีนี้ไม่น้อยกว่า 50%

บริษัทยังคงมีความสนใจและมองหาโอกาสในเข้าร่วมประมูลงานรับเหมาก่อสร้างโครงการใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง คาดว่าในช่วงที่เหลือของปีจะเข้าประมูลงานทั้งส่วนของภาครัฐและภาคเอกชนเพิ่มเติมอีกกว่า 11,500 ล้านบาท ซึ่งแบ่งออกเป็นงานโครงการก่อสร้างอาคารหน่วยงานภาครัฐ มูลค่าราว 3,500 ล้านบาท,งานโครงการพื้นฐานและถนน มูลค่าไม่น้อยกว่า 1,500 ล้านบาท,งานก่อร้างอาคารและคลังสินค้าในนิคมอุตสาหกรรม มูลค่าประมาณ 2,500 ล้านบาท,งานก่อสร้างอาคาร โรงพยาบาล และสำนักงาน มูลค่าประะมาณ 2,500 ล้านบาท เป็นต้น โดยงานใหม่ที่เป็นงานขนาดใหญ่บริษัทอยู่ระหว่างกำลังเจรจากับลูกค้า ซึ่งก็คาดหวังพอสมควร

นอกจากนี้บริษัทยังเดินหน้าในการทำธุรกิจด้านพลังงานและติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์ (EPC) ทั้งรูปแบบติดตั้งบนหลังคาโรงงาน (Solar Rooftop) โซลาร์ลอยน้ำ และโซลาร์ติดตั้งภาคพื้นดิน ซึ่งที่ผ่านมาก็เริ่มรับงานเข้ามาบ้างแล้ว โดย ณ สิ้นไตรมาส 1/64 บริษํทได้รับงานใหม่เข้ามามูลค่ารวมกว่า 220 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 50% ของการรับงาน EPC ใหม่เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ราว 400 ล้านบาท โดยมองว่ายังมีโอกาสการขยายงานส่วนนี้อีกมากและเป็นอีกโอกาสที่จะสร้างรายได้เพิ่มให้แก่บริษัท

CNT ลั่นรายได้ปี 65 สูงกว่าปีนี้ ลุยประมูลงานรัฐ-เอกชน 2.61 หมื่นลบ. ล่าสุดตุน Backlog กว่า 1.37 หมื่นลบ.ทำนิวไฮ แต่รับรู้ปีนี้ไม่มาก รับรายได้ปีนี้ 6.4 พันลบ. ต่ำกว่าเป้าเล็กน้อย

นายสุรศักดิ์ โอสถานุเคราะห์ กรรมการและผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท คริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ CNT เปิดเผยในงาน Opportunity Day ว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 65 เติบโตจากปีนี้ ส่วนจะเติบโตเท่าไหร่นั้นขอทบทวนสถานการณ์ หลังมีการระบาดของโควิดสายพันธุ์ใหม่ (โอไมครอน) เข้ามาอีก

สำหรับปีนี้ยอมรับว่ารายได้ต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 6,700 ล้านบาท เหลือ 6,400 ล้านบาท หายไป 300 ล้านบาท ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด เราเห็นงานที่เข้ามาลดน้อยถอยลงไปเยอะ จึงคิดว่าเป้า 6,700 ล้านบาท ไม่น่าจะทำได้ 

"ปี 65 รายได้จะเติบโตเท่าไรนั้น ขอดูตัวเลขแน่ๆ ก่อน ถ้าโอไมครอนไม่รุนแรง ซึ่งก็หวังว่ารายได้จะสูงกว่าปีนี้แน่นอน"นายสุรศักดิ์ กล่าว

ส่วนแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 4/64 คาดว่าผลงานจะพลิกฟื้นเป็นกำไรสุทธิ หลังเดินหน้าก่อสร้างได้แล้ว จากไตรมาส 3/64 ที่ขาดทุน 39 ล้านบาท ส่วนผลงานทั้งปี 64 จะพยายามให้เป็นกำไรสุทธิ

ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือรอการรับรู้รายได้ (Backlog) จำนวน 13,756 ล้านบาท ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (นิวไฮ) คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้ไม่มาก ส่วนใหญ่รับรู้ในปีถัดไป

บริษัทเตรียมเข้าประมูลงานทั้งส่วนของภาครัฐและภาคเอกชนเพิ่มเติมอีก 26,100 ล้านบาท ในช่วงธ.ค.64-ธ.ค.65

สำหรับภาพรวมงานก่อสร้างปี 65 มองว่างานก่อสร้างภาคเอกชนยังไม่เพิ่มขึ้น แต่งานก่อสร้างภาครัฐจะเพิ่มขึ้นในส่วนที่เป็นโครงการลงทุนขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจ็ก) 

ลักษณะธุรกิจของ CNT
ให้บริการรับเหมางานก่อสร้างทั่วไป รวมถึงงานออกแบบ จัดหา และรับเหมาติดตั้งงานระบบวิศวกรรมอย่างครบวงจร โดยมีลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชน