กล้อง วงจรปิด ฮาร์ด ดิ ส ผิด พลาด

สาเหตุที่กล้องวงจรปิดควรใช้ Hard Disk ที่เหมาะสม

กล้องวงจรปิดทำงานตลอดเวลา

Hard disk ที่ใช้กับกล้องวงจรปิดจะต้องเลือกที่มีความอึด เนื่องจากการทำงานของกล้องวงจรปิดนั้นค่อนข้างต่อเนื่องตลอดเวลา เรียกได้ว่าทำงาน 24 ชม./วัน โดยไม่มีวันหยุด ฮาร์ดดิสก์ทั่วไปที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ การทำงานคือ อ่าน 50% บันทึก 50% และไม่ได้ทำงานตลอดเวลา แต่ฮาร์ดดิสก์ที่ใช้กับกล้องวงจรปิดนั้น จะมีการทำงานคือ อ่าน 10% และ บันทึก 90% เพราะวัตถุประสงค์ของกล้องวงจรปิดคือบันทึกภาพนั่นเอง

ทนต่อทุกสภาวะกว่า Hard Disk ทั่วไป

ด้วยความที่ถูกบรรจุอยู่ในเครื่องบันทึก ซึ่งจะถูกเก็บให้อยู่ในที่มิดชิด จึงทำให้บางครั้งอากาศไม่ถ่ายเท ส่งผลให้เกิดความร้อนได้ ซึ่งสาเหตุนี้นี่เองที่เป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่ออายุการใช้งานของฮาร์ดดิสก์ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเลือกฮาร์ดดิสก์ที่มีคุณภาพสูงที่ถูกผลิตมาเพื่อใช้กับกล้องวงจรปิดโดยเฉพาะ แต่อย่างไรก็ตามเราควรเก็บเครื่องบันทึกไว้ในที่อุณหภูมิไม่สูงและมีอากาศถ่ายเทสะดวก ทั้งนี้เพื่อให้อายุการใช้งานของฮาร์ดดิสก์ยาวนานขึ้นกว่าเดิม

ความจุต้องเหมาะสม

            การเลือกความจุของฮาร์ดดิสก์ให้เหมาะสมกับกล้องวงจรปิดก็สำคัญเช่นกัน เนื่องจากต้องคำนึงถึงความละเอียดภาพที่ต้องการ ถ้าหากต้องการความละเอียดภาพสูง ก็ควรเลือกฮาร์ดดิสก์ที่มีความจุสูงด้วยเช่นกัน มิเช่นนั้นถ้าเราใช้ฮาร์ดดิสก์ความจุน้อยๆ ระยะเวลาการบันทึกที่ได้จะสั้นลงเช่นกัน

ไอที บิซิเนส พลัส จึงเลือกใช้ฮาร์ดดิสก์ของ WD รุ่น Purple ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อระบบกล้องวงจรปิดโดยเฉพาะ รองรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูง พร้อมเทคโนโลยี All Frame ที่ช่วยลดทอนความผิดพลาดของข้อมูลวิดีโออีกด้วย

สนใจติดตั้งกล้องวงจรปิด หรือต้องการให้บริษัทดูหน้างาน วางระบบให้ สามารถติดต่อได้ที่ ไอที บิซิเนส พลัส  บริษัทรับติดตั้งกล้องวงจรปิดครบวงจร ยินดีให้บริการทั่วประเทศ พร้อมทีมช่างมืออาชีพ

ยินดีให้คำปรึกษาฟรี หรือ แจ้งปัญหา

โทร : 094-4596429

Line ID: @itbplus

หรือคลิก https://line.me/R/ti/p/%40434iftgo

เข้าสู่เว็บไซต์  https://www.itb-cctv.com/

 

กล้อง วงจรปิด ฮาร์ด ดิ ส ผิด พลาด

HDD ฮาร์ดดิสค์ สำหรับ กล้องวงจรปิด

                “การบันทึกภาพ” ในการติดตั้งกล้องวงจรปิด หรือท่านที่คิดจะซื้อ กล้องวงจรปิดมาใช้นั้น อย่างหนึ่งที่ท่านต้องคำนึงถึงก็คือ “การบันทึกภาพ” เพราะส่วนนี้ก็มีความสำคัญไม่ด้อยกว่า ตัวเครื่องบันทึก หรือ ตัวกล้องวงจรปิด เลย

มักมีคำถามเกี่ยวกับ การบันทึกของกล้องวงจรปิดว่า

1. สามารถบันทึกได้กี่วัน 2. ภาพที่บันทึกชัดหรือไม่  3. ใช้ฮาร์ดดิคส์ ที่ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ได้มั้ย

ขนาดของการบันทึกของกล้องวงจรปิดนั้น ในเครื่องบันทึกที่ขายในท้องตลาด จะมีอยู่ดังนี้ QCIF, CIF, 2CIF, 4CIF ตามลำดับ ถ้าเราตั้งค่าให้เครื่องบันทึกเป็นแบบ QCIF จะทำให้เราบันทึกได้นานขึ้น แต่มีข้อเสียคือ เวลาที่เราดูภาพย้อนหลัง เพื่อที่จะซูมดูภาพของคนร้าย ภาพจะแตกไม่ชัด แต่ถ้าเราตั้งบันทึกไว้เป็นแบบ 4CIF ก็จะทำให้เปลืองเนื้อที่ของ Hard disk แต่เวลาที่เราดูภาพย้อนหลังแล้ว ภาพจะชัด ไม่แตก

ส่วนคำถามที่ว่าใช้ ใช้ฮาร์ดดิคส์ ที่ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ได้มั้ย ? ....อันนี้ไม่แนะนำ เพราะว่า ระบบกล้องวงจรปิดนั้นต้องทำงาน 24 ชม. ดังนั้นเราควรจะใช้ ฮาร์ดดิคส์ ที่ใช้บันทึกกล้องวงจรปิดโดยเฉพาะ

ในที่นี้ ขอแนะนำยี่ห้อ Hitachi Cinema Star และ ยี่ห้อ Seagate รุ่น SV-35 เพราะรุ่นนี้ ผลิตออกมาเพื่อใช้ในงานระบบกล้องวงจรปิดโดยเฉพาะ แต่ราคาจะสูงกว่ารุ่นอื่น

                    Seagate SV-35 เป็นฮาร์ดดิสก์ เพื่อการใช้งานร่วมกับกล้องวงจรปิด ที่สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนาน และลดปัญหาเรื่องความร้อนที่มักจะเกิดขึ้นจากการใช้งานนานๆ นวัตกรรมใหม่ล่าสุดจาก ซีเกท ฮาร์ดดิสก์ทั่วไปจะมีความเสี่ยงในเรื่องของความร้อนที่เกิดจากการใช้งานของตัวฮาร์ดดิสก์ แต่เอสวี 35 จาก Seagate จะเกิดความร้อนในระดับต่ำกว่าฮาร์ดดิสก์ของเครื่องเดสก์ท็อปมาตรฐาน โดยคุณสมบัติที่ได้ออกแบบมาให้เครื่องใช้พลังงานไฟฟ้าในระดับต่ำเพียง 8 วัตต์ SV-35 มีเครือข่ายเหมาะสำหรับการต้องการบันทึกข้อมูลที่ต้องใช้พื้นที่ใน ฮาร์ดดิสก์ จำนวนมาก ซึ่งส่งผลให้อัตราการสิ้นเปลืองพลังงาน และเกิดความร้อนสะสมน้อย

ทำไมถึงควรเลือกใช้ HDD Seagate SV35 ?

เนื่องจาก SV35 ได้รับการผลิตเป็นพิเศษโดยใช้เทคโนโลยีที่จะลดอัตราการขัดข้องในระบบลงมา เพราะระบบรักษาความปลอดภัยจะต้องการ HDD ที่บันทึกได้อย่างคงที่, ทำงานวันละ 24 ชม. มีระดับความร้อนต่ำและให้ความไว้วางใจได้ในระดับสูง ซึ่งแตกต่างจากคอมพิวเตอร์ปกติทั่วไปที่มีช่วงเวลาหยุดประมวลผลบ่อยมาก เพื่อจะทำให้ตัว HDD ลดระดับความร้อนลงมาได้ดี

สร้างความร้อนในระดับต่ำสิ้นเปลืองพลังงานน้อยกว่า ทำให้ใช้ power supply และระบบระบายความร้อนที่เล็กลงมาได้มี parameter เพื่อจัดลำดับความสำคัญของ HDD ในการบันทึกภาพและเล่นภาพย้อนกลับได้แบบไม่สะดุด ทำให้ไม่เกิดความล่าช้าในการอ่าน/บันทึกมีอินเตอร์เฟสมาตรฐาน SATA หรือ PATA (ATA/100) แต่มีฟังก์ชั่นคล้าย HDD ของ Server ราคาแพงเพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนานMTBF > 1,000,000 ชม. และ AFR (อัตราการหยุดชะงัก) < 1% สำหรับระบบงานรักษาความปลอดภัยแบบใช้วีดีโอรอบหมุน 7,200 RPM และอัตราการเชื่อมต่อข้อมูล 3Gb/s แบบ SATAใช้พลังงานต่ำ / ใช้กระแสไฟฟ้าต่ำลดความร้อนที่เกิดขึ้น ทำให้ระบบรักษาความปลอดภัยสามารถดำเนินการได้นานขึ้น เนื่องจากไม่ติดปัญหาเรื่องความร้อนสะสมมีชุดคำสั่งสตรีมมิ่ง ATA-7 ช่วยออปติไมซ์การทำงานของ HDD กับวีดีโอสตรีมมิ่ง ทำให้บันทึกและเข้าถึงข้อมูลวีดีโอได้อย่างรวดเร็วเป็น HDD สำหรับ Security system ระบบแรกที่มีเทคโนโลยีการบันทึกข้อมูลแบบ Perpendicular 

                   WD Purple ม่วง ถูกผลิตมาเพื่อ ใช้กับเครื่องบันทึกวิดีโอดิจิตอล (DVR) และ เครื่องรับสัญญาณ (set-top box) พร้อมด้วย เทคโนโลยีคูลสปิน อันล้ำสมัยของฮิตาชิ และมีความจุให้เลือกมากมาย และสูงสุดถึง 1 เทราไบต์

ฮาร์ดไดร์ฟรุ่นที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีคูลสปิน จะใช้ระดับความเร็วรอบ (Motor speed) ที่ช่วยประหยัดพลังงาน และลดเสียงรบกวนลงได้มาก ซึ่งช่วยให้เครื่องบันทึกวิดีโอดิจิตอลและเครื่องรับสัญญาณสามารถจัดเก็บ ไฟล์วิดีโอได้มากขึ้น ทำงานเงียบขึ้น และใช้พลังงานน้อยลง

                  ข้อสรุปในการพิจารณาเลือกประการสำคัญคือ ระบบรักษาความปลอดภัย CCTV ที่ใช้ HDD Desktop ธรรมดาบันทึกหากเกิดความผิดพลาดขึ้นแล้ว ค่าใช้จ่ายในการเรียกคืนหรือซ่อมแซมอาจคิดเป็นเงินจำนวนมาก หรือในกรณีที่แย่ที่สุด อาจกู้ข้อมูลคืนไม่ได้แล้วไม่อาจดำเนินคดีหรือเรียกสินไหมทดแทนการประกันภัย

วิธีเพิ่มพื้นที่บันทึกภาพได้นานขึ้น

           หน้าที่สำคัญประการหนึ่งของระบบกล้องวงจรปิดคือ การบันทึกภาพเหตุการณ์เอาไว้ เพื่อที่จะสามารถเปิดดูได้ในกรณีที่ต้องการตรวจสอบภาพเหตุการณ์ย้อนหลัง ซึ่งภาพดังกล่าวจะสามารถใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงได้ การที่จะเก็บบันทึกภาพเหตุการณ์ย้อนหลังได้นานมากน้อยแค่ไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับขนาดของฮาร์ดดิสก์นั่นเอง

           การเพิ่มพื้นที่บันทึกภาพที่จะกล่าวถึงนี้ ไม่รวมถึงการสำรองข้อมูลออกมาเก็บในแผ่น CD หรือ DVD หรือ Handy drive เนื่องจากทุกท่านสามารถสำรองข้อมูลเอาไว้ได้นานเท่าที่ต้องการครับ แต่สิ่งที่จะเน้นต่อไปนี้คือเรื่องของการสำรองข้อมูลที่ยังอยู่ในระบบ เพราะเครื่องบันทึกภาพบางรุ่นที่เป็น Standalone นั้นไม่มีเครื่องไรท์แผ่น CD หรือ DVD และไม่มี USB port ในตัว การจะเอาข้อมูลออกมาได้ก็ต้องนำเครื่องไปต่อสาย LAN แล้วต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ แล้วก็ลงโปรแกรมเพื่อดึงภาพออกมาไรท์ใส่แผ่นอีกที กระบวนการเหล่านี้ อาจเป็นเรื่องง่ายสำหรับคนที่ช่ำชองด้านเทคนิค แต่อาจเป็นเรื่องยุ่งยากใหญ่โตสำหรับผู้ใช้ที่ไม่มีพื้นฐานความรู้ด้าน คอมพิวเตอร์เลย

           มีบางกรณีที่ผู้ใช้ตั้งค่าระบบเอาไว้ให้ Rewrite หรือ อัดทับของเดิมได้ทันทีเมื่อฮาร์ดดิสก์เต็ม และหลายครั้งที่เมื่อต้องการดูภาพย้อนหลังแต่กลับพบว่าถูกอัดทับไปแล้ว บางท่านไม่เข้าใจก็จะโกรธเคืองกล้องวงจรปิดเอา หาว่าซื้อมาแล้วไม่มีประโยชน์ โดยลืมนึกไปว่าอุปกรณ์เหล่านี้เป็น เครื่องมือเท่านั้น แต่คนต่างหากที่จะนำเครื่องมือนี้มาใช้ยังไงให้เกิดประโยชน์สูงสุด

วิธีให้ระบบสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ได้นานขึ้น มีอยู่ด้วยกัน หลายวิธีดังนี้

  1. ที่ดีที่สุด ก็คือการ เพิ่มขนาดฮาร์ดดิสก์ เช่น จากเดิมที่มากับเซ็ตที่ขาย เป็นฮาร์ดดิสก์ขนาด 500GB ก็เพิ่มเป็น 1 Terabyte ไปเลย หรือในรายที่ติดตั้งระบบไปแล้วก็สามารถเพิ่มฮาร์ดดิสก์ด้วยตัวเองได้ แต่อาจต้องอาศัยความรู้ทางช่างเล็กน้อย แต่ต้องรู้ก่อนว่า ต้องการสำรองข้อมูลให้ได้มากสุดเป็นเวลากี่วัน แล้วจึงมาคำนวณดูว่าควรใช้ฮาร์ดดิสก์ขนาดเท่าไหร่จึงจะเพียงพอ
  2. ถ้ายังไม่อยากเพิ่มฮาร์ดดิสก์ ก็มีอีกวิธีหนึ่งครับคือการเปลี่ยน VDO Compression Format หรือ รูปแบบการบันทึก โดยปกติเครื่องบันทึกภาพจะมีฟังก์ชั่นให้เลือกได้ว่าคุณต้องการบันทึกในแบบใด เช่น บันทึกเป็นแบบ frame หรือบันทึกแบบ CIF
  3. ลดความเร็วการบันทึก หรือ Recording Speed ในกรณีปกติการบันทึกแบบ frame ในระบบ PAL จะต้องบันทึกด้วยอัตราเร็ว (frame rate) 25 เฟรมต่อวินาที จึงจะเห็นภาพเคลื่อนไหวราบรื่นเป็นปกติ แต่เราสามารถลดความเร็วการบันทึกเฟรมลงได้ตามสเต็ปที่ระบบกำหนด ซึ่งส่วนใหญ่จะให้ลดกันไปทีละครึ่ง เช่น จาก 25 ไปเป็น 12.5, 6.25 และ 3.12 เฟรมต่อวินาที  เช่นเดียวกัน ในการบันทึกแบบ CIF ที่สามารถลดความเร็วลงได้ เริ่มต้น จาก 100 เป็น 50, 25, 12.5 เฟรมต่อวินาที เช่นกัน อย่างไรก็ตามการลดความเร็วการบันทึกนี้ จะทำให้ไฟล์ภาพเหตุการณ์ลดขนาดลง แต่ผลที่ตามมาก็คือ ภาพย้อนหลังจะเป็นภาพกระตุกๆ ยิ่งลดลงมาก ยิ่งกระตุกมาก เพราะใน 1 วินาที ระบบได้บันทึกภาพจำนวนเฟรมน้อยลงนั่นเอง
  4. อีกวิธีหนึ่งที่ทำให้ฮาร์ดดิสก์บันทึกได้นานขึ้น คือการลดคุณภาพของภาพเหตุการณ์ที่บันทึก หรือ Image Quality ซึ่งจะมีให้เลือกเป็น Best, High, Normal, basic เราสามารถตั้งค่าคุณภาพตรงนี้ได้ ยิ่งลดมาก ก็ยิ่งช่วยลดขนาดไฟล์ภาพเหตุการณ์ลง แต่ก็จะได้ภาพเหตุการณ์ที่คุณภาพด้อยลงด้วยเช่นกัน
  5. ตั้งค่า Motion Detection เครื่องบันทึกภาพรุ่นใหม่ๆ เดี๋ยวนี้มีฟังก์ชั่นนี้กันแทบทุกยี่ห้อแล้ว เป็นการตั้งค่าให้เครื่องบันทึกภาพ ทำการบันทึกเมื่อมีการเคลื่อนไหวผ่านหน้ากล้องในบริเวณที่เรากำหนด หากไม่มีการเคลื่อนไหวในบริเวณนั้นเลยระบบก็จะไม่บันทึก ซึ่งในการตั้งค่านี้สามารถเลือกเอาส่วนพื้นที่ที่มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา ออกไปได้ เช่น บริเวณที่จับภาพใบไม้ที่เคลื่อนไหวเพราะลมพัดตลอดเวลา ทำให้ระบบไม่มองการเคลื่อนไหวในส่วนนั้น และไม่ทำการบันทึกแม้จะมีการเคลื่อนไหวในบริเวณนั้น นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่าความอ่อนไหวต่อการเคลื่อนไหว ยิ่งอ่อนไหวมากระบบก็จะตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวมาก กล่าวคือ หากมีการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยระบบก็จะทำการบันทึกทันที ดังนั้นจะเห็นว่าวิธีนี้จะใช้ไม่ค่อยได้ผลนักกับสถานที่ติดตั้งกล้องที่มี การเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา

                           ทั้งหมดนี้ก็เป็นทางเลือกง่ายๆ ที่จะช่วยให้เราใช้พื้นที่ฮาร์ดดิสก์ที่มีอยู่ได้นานขึ้น โดยใช้คุณสมบัติในการทำงานของเครื่องบันทึกภาพเข้ามาช่วย แต่เราก็ควรเลือกให้เหมาะสม เพราะไม่เช่นนั้น ก็จะทำให้ได้ภาพเหตุการณ์ ย้อนหลังที่ไม่ชัดเจน ซึ่งก็ไม่มีประโยชน์ในการใช้งานภายหลัง