ปัจจุบันวิตามินและอาหารเสริมเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น สังเกตได้จากมีวิตามินเสริม อาหารเสริมออกมาจำหน่ายมากมายหลายยี่ห้อในท้องตลาด เราจำเป็นหรือไม่ที่ต้องกินอาหารเสริมเหล่านี้ แล้วหากกินไปเป็นระยะเวลานานๆ จะเกิดผลเสียหรือไม่อย่างไร ทำไมผู้คนถึงหันมากินอาหารเสริมเป็นทางเลือกสำหรับการดูแลสุขภาพ วันนี้เรามาไขข้อสงสัยกัน Show
ผศ.พญ.ดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า “อาหารเสริม” ชื่อก็บ่งบอกตัวมันเองอยู่แล้วว่าเป็นการเสริม เพราะฉะนั้นเราจะใช้ในกรณีที่บางคนได้รับสารอาหารไม่พอเพียงหรือว่าขาดไป ในความเป็นจริงหากเราได้รับมาจากอาหารประจำวันอย่างเพียงพอ เราก็ไม่จำเป็นต้องได้รับจากอาหารเสริมอีก วิตามินและเกลือแร่ ส่วนใหญ่เราจะได้จากผักและผลไม้ถ้าสมมุติวันหนึ่งเราได้รับผักหรือผลไม้ไม่ถึง 5 ส่วน 5 ส่วนในที่นี้คืออะไร ให้เรานึกถึงกำปั้นของเรา ผักและผลไม้รวมกัน 1 กำปั้น คือ 1 ส่วน ฉะนั้นหากวันหนึ่งเราได้รับผักและผลไม้ไม่ถึง 5 ส่วน แสดงว่าเราได้รับวิตามินและเกลือแร่ไม่เพียงพอ และเราก็ต้องมาดูต่อว่าคนคนนั้นมีโรคประจำตัวหรือไม่ ถ้าเกิดมีโรคประจำตัว เช่นลำไส้ดูดซึมบกพร่อง มีการผ่าตัดลำไส้ หรือมีโรคประจำตัวอื่นๆ ก็ตามที่ทำให้ร่างกายดูดซึมวิตามินหรือเกลือแร่ไม่เพียงพอ จึงจะควรจะทานอาหารเสริมเพิ่มเติมเข้าไป การตรวจหาวิตามินและเกลือแร่ในร่างกายนั้น ทำได้โดยการเจาะเลือดตรวจหาระดับวิตามินในร่างกาย หากเราไม่สามารถตรวจเลือดได้ และเราไม่แน่ใจ เราอยากจะซื้ออาหารเสริม วิตามินมากินเอง แพทย์แนะนำว่า
เพื่อสุขภาพที่ดี เราไม่จำเป็นต้องการกินวิตามินเสริมในปริมาณที่สูงแต่เน้นรับประทานอาหารให้ครบชนิด ในปริมาณที่ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป ก่อนตัดสินใจบริโภคควรจะเลือกดูว่าผลิตภัณฑ์นั้นผ่านการรับรองเรียบร้อยแล้วหรือยัง และอย่าลืมรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อลดการสะสมในร่างกายด้วย สำหรับอาหารเสริมต่างๆ ที่ทานนั้น เนื่องจากไม่ทราบว่ามีองค์ประกอบอะไรอยู่บ้าง จึงอาจไม่สามารถบอกได้ว่าสามารถทานร่วมกันได้หรือไม่ รวมถึงองค์ประกอบบางอย่าง อาจไม่ได้มีอยู่ในฉลากทั้งหมด ดังนั้น เพื่อให้การดูดซึมไม่ของอาหารเสริมไม่ลดลง และไม่เกิดการทำปฏิกิริยา ก็ไม่ควรทานพร้อมกัน แนะนำควรทานห่างจากนมอย่างน้อย 2-4 ชั่วโมงค่ะการรับประทานอาหารเสริม เพื่อให้ร่างกายได้รับแร่ธาตุและวิตามินที่จำเป็น ชดเชยในบางมื้ออาหารที่เรารับประทานไม่ครบหมู่ แต่ก็พบว่าในบางคนมีการรับประทานอาหารเสริมมากเกินไป ซึ่งจะกลายเป็นผลเสียมากกว่าผลดี ส่งผลเสียต่อตับ รวมถึงผลข้างเคียงอื่นๆ นอกจากนี้อาหารเสริมบางชนิด ไม่ควรรับประทานคู่กับยาบางรายการ เพราะอาจเกิดอาการที่ไม่พึงประสงค์ ลดประสิทธิภาพของยาที่รับประทาน หรือทำให้เกิดพิษในร่างกายได้ ฉะนั้น มาดูกันว่า กลุ่มยา-วิตามิน-อาหาร ประเภทใดที่ควรรับประทานร่วมกัน หรือควรหลีกเลี่ยง 5 กลุ่ม ยา วิตามินและอาหาร ที่ไม่ควรรับประทานร่วมกัน 1.ยารักษาเบาหวาน 2.ยาลดความดันโลหิต, ยาลดไขมันในเลือด 3.ยาละลายลิ่มเลือด 4.ยาต้านการแข็งตัวของเลือด 5.ยาปฏิชีวนะกลุ่ม fluoroquinolone และกลุ่ม tetracycline 5 กลุ่ม ยา วิตามินและอาหาร ที่ควรรับประทานร่วมกัน 1.วิตามินเอ ดี อี เค 2.ธาตุเหล็ก 3.แคลเซียม 4.คอลลาเจนเปปไทด์ 5.โคเอนไซม์คิวเท็น ที่มา รพ.สมิติเวช ข่าวที่คุณอาจพลาด ตรวจก่อนแต่ง! เตรียมพร้อมก่อนสร้างครอบครัวเครื่องบินเล็กชนเสาไฟแรงสูงในสหรัฐฯ ช่วยนักบิน-ผดส.ได้แล้วผลฟุตบอลโลก 2022 วันจันทร์ที่ 28 พ.ย.65 กลุ่ม จี,เอช นัดที่ 2ศธ.แยกวิชาประวัติศาสตร์มุ่งสอนเยาวชนรักชาติไม่พลาดทุกเหตุการณ์ติดตามข่าวจาก PPTV ได้ที่ Subscribe |