พุทธคุณหลวงพ่อพรหมวัดช่องแค

( หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค จ.นครสวรรค์ )

เหรียญกลมหลังพระปิดตา หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค เหรียญดีน่าใช้มีตำนานกล่าวขวัญในเรื่องมหาอุตย์ ทำให้เหรียญรุ่นนี้หมดจากวัดเร็วมากในครั้งนั้น ปัจจุบันเริ่มพบเห็นได้ยาก โดยเฉพาะเหรียญสวยๆ ในส่วนของปลอมมีเลียนแบบมานานแล้ว เหรียญแท้ต้องดูความคมชัด พื้นผิวเหรียญ การเจาะหู รอยปริ้นข้าง และตัวตัดในการพิจารณา ผู้ที่จะเช่าหาควรปรึกษาผู้ชำนาญจะดีที่สุดครับ

พุทธคุณหลวงพ่อพรหมวัดช่องแค
พุทธคุณหลวงพ่อพรหมวัดช่องแค
พุทธคุณหลวงพ่อพรหมวัดช่องแค

วันอังคาร ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2562, 14.44 น.

เหรียญหลวงพ่อพรหม รุ่นแรกพระเกจิอาจารย์ที่หันหลังให้คำว่า'แพ้' 

 
หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค  เป็นชาวเมืองกรุงเก่า หรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เกิดเมื่อ พ.ศ.๒๔๒๗ ที่ ต.บ้านแพรก อ.มหาราช โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายหมี-นางล้อม โกสะลัง ในวัยเยาว์ได้ศึกษาร่ำเรียนหนังสือกับพระที่วัดใกล้บ้าน ได้ศึกษาอักษรขอมควบคู่กับภาษาไทยตั้งแต่ก่อน อุปสมบท เมื่ออายุครบบวช ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดปากคลองยาง โดยมี หลวงพ่อถม วัดเขียนลาย เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า "ถาวโร"


แล้วมาจำพรรษาที่วัดเขียนลาย จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อศึกษาพระธรรมวินัยด้านปริยัติธรรมจนแตกฉาน ต่อมามีความสนใจในด้านวิปัสสนากรรมฐาน จึงตัดสินใจออกธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆ


เพื่อหาแนวทางการปฏิบัติธรรมชั้นสูงจนเข้าสู่เขตประเทศพม่า แต่ก็ยังไม่พบชัยภูมิที่เหมาะสมจะเป็นพุทธภูมิสำหรับภาวนาหาความสงบวิเวก จึงเดินธุดงค์ต่อไปจนมาถึง ´ภูเขาช่องแค´ เมื่อไปถึงพื้นที่ก็เกิดฝนตกหนัก ชาวบ้านจึงบอกทางให้ไปหลบฝนในถ้ำ


คืนแรกหลวงพ่อพรหมได้มีนิมิตอันเกิดจากจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์มาแนะแนวทางการปฏิบัติธรรมชั้นสูงให้ ท่านจึงใช้ถ้ำแห่งนี้ในการฝึกฝนบำเพ็ญภาวนาจนแก่กล้า


ศรัทธาของชาวบ้านก็เริ่มทยอยเข้ามา จากป่าอันรกร้างว่างเปล่าก็กลายเป็นเสนาสนะมากมาย พระภิกษุจากที่ต่างๆ เริ่มทยอยมาฝากตัวเป็นศิษย์รับคำสอน
จากท่าน


จึงซื้อที่ดินสร้างวัด กุฏิสงฆ์ หอสวดมนต์ และเสนาสนะต่างๆ ให้ชื่อว่า ´วัดช่องแค´ และจำพรรษาที่นั่นตลอดมา จนมรณภาพเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๖


หลวงพ่อพรหม เป็นพระเกจิอาจารย์ที่หันหลังให้คำว่า ´แพ้´ เสมอมา เรียกได้ว่า ท่านเป็นทั้งหมอเทวดา วาจาศักดิ์สิทธิ์ และสร้างอภินิหารเป็นที่ประจักษ์แก่สายตามานักต่อนัก จนชื่อเสียงขจรไกลเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านและพุทธศาสนิกชนทั้งใกล้ไกล


หลวงพ่อพรหมท่านชอบ ‘ระฆัง’ การสร้างวัตถุมงคลของท่านส่วนใหญ่จึงมีรูประฆัง จนกลายเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่ง กรรมวิธีการปลุกเสกวัตถุมงคลของท่านก็ไม่เหมือนใคร


ส่วนใหญ่หลวงพ่อจะปลุกเสกในบาตร ถ้ามีเทียนชัยจะจุดเทียนชัย หยดน้ำตาเทียนลงในบาตรน้ำมนต์แล้วนำเทียนชัยวนรอบๆ ๙ รอบ


จากนั้นนำดินสอพองมาเจิมที่วัตถุมงคล เอามือคนไปรอบๆ โดยลืมตาเพ่งกระแสจิต แล้วนำน้ำพระพุทธมนต์ประพรมวัตถุมงคล จับบาตรใส่วัตถุมงคลแล้วเพ่งกระแสจิตอีกครั้ง


จนกระทั่งวัตถุมงคลเหล่านั้นมีรังสีพุ่งออกมา จึงนำน้ำพระพุทธมนต์ประพรมอีกครั้งหนึ่ง เป็นอันเสร็จพิธี


ลูกศิษย์ลูกหาทั่วทุกสารทิศมักเดินทางมากราบนมัสการขอพรและขอวัตถุมงคลอันทรงด้วยพุทธคุณครบครันจากท่าน


วัตถุมงคลของท่านนั้นมีหลายแบบหลายพิมพ์ ทั้งรูปเหมือนเนื้อผง-เนื้อโลหะ พระสมเด็จเนื้อผง-เนื้อโลหะ พระกริ่ง และเหรียญ เป็นต้น


วัตถุมงคลที่โดดเด่น โดยเฉพาะ “เหรียญหลวงพ่อพรหม รุ่นแรก พ.ศ.๒๕๐๗” เพื่อหารายได้สมทบทุนสร้างโบสถ์ ในปีเดียวกัน


“ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปไข่” สร้างด้วยเนื้อทองแดงผิวไฟ และทองแดงกะไหล่ทอง โดยมากเนื้อทองแดงกะไหล่ทอง


มักจะเป็นแบบตัดหูเหรียญ ด้านหน้าเหรียญ เป็นรูปหลวงพ่อพรหมนั่งขัดสมาธิ ห่มจีวรเฉียงบ่า พาดสังฆาฏิ ด้านบนศีรษะหลวงพ่อพรหมมีปรากฏอักขระโบราณ


ด้านล่างใต้ฐานองค์หลวงพ่อเขียนชื่อ “หลวงพ่อพรหม” ขอบเหรียญหลวงพ่อพรหม วัดช่องแคด้านหน้าตั้งนูนทำเป็น ๓ ชั้น ในชั้นที่ ๒ ทำเป็นจุดไข่ปลาเล็กๆ


ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง จารึกคำว่า “อายุ ๗๙ ปี พรรษา ๕๙ ครั้งที่ ๑” ขอบเหรียญด้านหลังซ้าย เขียนว่า “วัดช่องแค” ขวาเขียนว่า “อำเภอตาคลี” ล่างเขียนว่า “จังหวัดนครสวรรค์”


สำหรับภาพ"เหรียญรูปไข่รุ่นแรก พ.ศ.๒๕๐๗ หลวงพ่อพรหมวัดช่องแค เนื้อทองคำ" เป็นของ นาย กิตติ พจนานุภาพ นายกสมาคมจิตรางค์คนางค์อนุรักษ์พระเครื่องไทย


ที่สำคัญ คือ นายกฯ กิตติ ได้สมบัติของ "เฮียเจี้ย" พ่อเกิดเกล้ามาทั้งหมด จึงกลาย เป็นผู้สะสมพระเครื่องหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ที่ขึ้นชื่อว่ามากที่สุด จนได้ฉายาว่า


"นายกฯ กิตติ เจ้ากรมพระหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่"


นายกฯ กิตติ บอกว่า สมัยรุ่นๆ พ่อเป็นคนชอบทำบุญ และ เช่าพระสร้างใหม่ทุกวัดทุกสำนัก โดยจะเช่าเนื้อทองคำ เช่าโดยไม่ได้คิดอะไร


ทั้งนี้ นายกฯ กิตติ แนะนำว่า ด้วยความนิยมของเหรียญรุ่นดังกล่าวจึงมีการทำออกมาปลอมขายจำนวนมากเช่นกันและสนนราคาอยู่ที่ หลักแสน หลักล้าน


สำหรับผู้ที่สนใจพระเครื่องสาย หลวงปู่ทิม อิสริโก และ สายอื่นๆ เข้าไปเยื่ยมชมข้อมูลได้ที่

https://www.facebook.com/ศูนย์พระเครื่องหลวงปู่ทิมอิสริโก…/…


#เจ้ากรม
#พระทองคำ
#เหรียญรูปไข่รุ่นแรก
#หลวงพ่อพรหมวัดช่องแค
#หลวงพ่อพรหมถาวโร
#วัดช่องแค 
#นครสวรรค์ 
#พระเกจิอาจารย์ปากน้ำโพ

ลั้ง พรหมรักษา เป็นชาวช่องแค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ โดยกำเนิด คุณพ่อคุณแม่เปิดร้านทำขนมเปี๊ยะ อยู่ในตลาดช่องแค ซึ่งผู้คนส่วนใหญ่ที่นั่นล้วนเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อพรหมทั้งนั้น รวมทั้งคุณพ่อของลั้งด้วย เรื่องราวต่างๆ ของหลวงพ่อพรหม คุณพ่อของลั้งจึงเป็นผู้ที่รู้เรื่องดีคนหนึ่ง ในบรรดาศิษย์สายนี้ และที่สำคัญคือ คุณพ่อของลั้งเป็นหนึ่งใน คณะหนุ่มน้อย ซึ่งล้วนเป็นเถ้าแก่เจ้าของร้านค้าในตลาดช่องแค ที่เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อพรหม และเป็นผู้จัดสร้างวัตถุมงคลหลายรุ่นถวายหลวงพ่อ เพื่อหาปัจจัยก่อสร้างเสนาสนะต่างๆ ภายในวัดช่องแค

 ด้วยเหตุนี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่ครอบครัวของลั้ง มีความผูกพันกับหลวงพ่อพรหม และวัดช่องแค มาโดยตลอด ในเรื่องวัตถุมงคลต่างๆ ของหลวงพ่อพรหม คนบ้านนี้จึงรู้จักกันเป็นอย่างดี และมีกันแทบครบทุกรุ่น บางรุ่นก็มีหลายๆ องค์ เพราะสมัยนั้นของท่านยังมีราคาไม่สูงนัก

 ลั้ง เล่าว่า "เด็กต่างจังหวัด อายุไม่กี่ขวบคุณพ่อคุณแม่ก็พาเข้าวัดเป็นประจำ ตอนที่ลั้งอายุ ๓-๔ ขวบ คุณพ่อได้พาลั้งไปกราบหลวงพ่อพรหมกันแล้ว และไปกราบไหว้ท่านเป็นประจำ เพราะที่บ้านอยู่ใกล้กับวัด พอโตขึ้นมาหน่อย ช่วงเรียนหนังสือชั้นประถม โรงเรียนได้พาเด็กไปช่วยงานวัด เวลามีคนกรุงเทพฯไปทำบุญ ลั้งก็ได้ไปช่วยล้างถ้วยล้างจาน เสิร์ฟน้ำชากาแฟแก่คนที่ไปทำบุญ ต่อมาเมื่อไปเรียนชั้นมัธยมที่โรงเรียนพิบูลวิทยาคม จ.ลพบุรี (โดยนั่งรถไฟเช้าไปเย็นกลับ) ก็ยังได้ไปช่วยงานวัดช่องแคเสมอ เรื่องรับพระแจกจากมือหลวงพ่อ จึงเป็นเรื่องธรรมดาของเด็กช่องแคทุกคน ที่มักจะได้รับแจกพระจากมือหลวงพ่อเป็นประจำ บางครั้งจะเข้าไปกราบขอพรจากหลวงพ่อ ว่าขอให้เรียนหนังสือเก่งๆ ขอให้สอบได้ ท่านก็เมตตาให้พรเสมอ สมัยนั้นยังเป็นเด็ก ยังไม่รู้จักขอพรอย่างอื่น นอกจากเรื่องเรียนหนังสือเท่านั้น"

 หลวงพ่อพรหม มีลักษณะเป็นคนโบราณ สูงใหญ่ หน้าตาของท่านดูแล้วเหมือนคนดุ แต่แท้จริงแล้ว ท่านเป็นคนใจดี มีเมตตาต่อทุกคน ท่านเป็นคนไม่ค่อยชอบพูด บางคนไปกราบท่าน พอถวายของเสร็จแล้ว มักจะรีบกลับ เพราะกลัวท่าน หากท่านพูดอะไรมักจะเป็นจริงเสมอ เชื่อกันว่าท่านมีวาจาสิทธิ์ ช่วงเกณฑ์ทหาร มีบางคนไปขอพรท่านว่า ขออย่าให้ถูกเกณฑ์ทหาร ท่านบอกว่า เป็นลูกผู้ชายต้องไปเป็นทหาร รับใช้ชาติ ปรากฏว่า ทุกคนที่ไปขอพรท่านเรื่องนี้ ล้วนจับได้ใบแดง เป็นทหารกันทั้งนั้น จนตอนหลังเป็นที่รู้เรื่องกันทั่วไป จะไม่มีใครไปขอท่านในเรื่องนี้อีก เรื่องราวเหล่านี้ยังเป็นที่จดจำของลั้งเสมอ

 ลั้ง เล่าถึงหลวงพ่อพรหมอีกว่า "หลวงพ่อชอบทานแกงเขียวหวาน ขนมปลากริมไข่เต่า องุ่น ดอกมะลิ และเครื่องดื่มลิโพ เวลามีใครไปหา หากไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับท่านมาก่อน มักจะคิดว่าท่านไม่อยู่ เพราะท่านชอบนอนคลุมโปง แต่ท่านไม่ได้หลับ เราต้องส่งเสียงให้ทราบ แล้วท่านถึงจะเอาผ้าห่มออกมาคุยกับเรา แต่ท่านจะพูดน้อย เพราะกลัวว่า บางครั้งพูดอะไรออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ จะกลายเป็นคำพูดที่ทำให้ผู้ไปหาท่าน รู้สึกไม่สบายใจก็ได้ เพราะวาจาของท่านศักดิ์สิทธิ์

 ลั้งเชื่อว่า พลังจิตของท่านสูงมาก ครั้งหนึ่ง คุณย่าของลั้งปวดหัวเป็นประจำ คุณพ่อจึงเอาเหรียญรุ่นแรกของท่าน ไปให้ท่านเสกอีกครั้ง โดยขอให้ท่านเน้นเรื่องแก้ปวดหัว แก้เจ็บไข้ได้ป่วย ปรากฏว่าคุณย่าเอาเหรียญมาแขวนติดตัวแล้ว อาการปวดหัวหายไปทันที ต่อมาเหรียญอันนี้ตกทอดมาถึงพี่สาวของลั้ง พี่สาวได้แขวนติดตัวเป็นประจำ เชื่อไหมว่า พี่สาวคนนี้ไม่เคยเจ็บป่วยอะไรเลย แม้แต่ไข้หวัด ปวดหัวตัวร้อน จนถึงทุกวันพี่สาวอายุกว่า ๕๐ ปีแล้ว ยังไม่เคยไปโรงพยาบาล และไม่เคยกินยาเลย"

  ตลอดเวลาที่ผ่านมา ลั้ง ได้ให้ความสนใจในพระหลวงพ่อพรหมมาก หลังจากที่ท่านได้มรณภาพเมื่อวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๑๘ ทำให้พระของหลวงพ่อพรหม มีการแสวงหากันมาก จากของแจกฟรี หรือบางรุ่นทำบุญบูชาไม่กี่สิบบาท กลายเป็นของมีค่า และราคาก็สูงขึ้นเรื่อยๆ

 ขณะเดียวกัน คนที่รู้จักกันก็ได้มาขอแบ่งปันพระหลวงพ่อพรหม ที่คุณพ่อได้ทำบุญเช่าบูชามาจากวัดโดยตรง ซึ่งมีอยู่แทบทุกรุ่น ได้แบ่งให้เขาไปบ้าง คนที่ได้รับไปแล้ว ก็จะบอกกันต่อๆ ไป จากปากต่อปาก จึงมีผู้แนะนำว่า ควรจะเปิดร้านพระขึ้นมาเสียที เชื่อว่าจะมีผู้มาเช่าพระกันมาก เพราะเป็นพระแท้ที่ได้รับมาจากทางวัดโดยตรง

 ต่อมาเมื่อปี ๒๕๓๘ ลั้งจึงได้เปิดร้านพระบนห้างเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน และเมื่อเกิดเพลิงไหม้ขึ้น จึงได้ย้ายตาม ป๋าพยัพ คำพันธุ์ และ พี่ต้อย เมืองนนท์ มาเปิดดำเนินงานต่อที่ห้างบางลำภู งามวงศ์วาน (ทุกวันนี้ คือ ห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน) เป็นสนามพระติดแอร์ ในนาม ชมรมพระเครื่องมรดกไทย จนถึงทุกวันนี้

 "ตอนที่เปิดร้านพระนั้น คุณพ่อได้แบ่งพระหลวงพ่อพรหมจำนวนหนึ่งให้กับลั้งด้วย เพื่อให้ผู้สนใจเช่าบูชา พระหลวงพ่อพรหม มีมากรุ่น บางรุ่นมีจำนวนสร้างน้อย แต่ส่วนใหญ่มีจำนวนสร้างมาก จึงมีหลากหลายราคาให้เลือกเช่าได้ตามกำลังเงิน  สมัยก่อนราคายังไม่สูงเช่นทุกวันนี้ สำหรับการศึกษาพระหลวงพ่อพรหม ว่ากันตามเป็นความจริง ไม่ยากเลย เพราะของปลอมแตกต่างจากของแท้มาก หากได้พบเห็นของแท้มาก่อน จะจดจำได้ง่าย เมื่อเห็นของปลอมก็รู้ได้ทันที โดยไม่ต้องส่องแว่นขยาย เพราะฝีมือทำปลอมห่างไกลมาก นอกจากบางรุ่นเท่านั้นที่ฝีมือเฉียบขาด โดยเฉพาะรุ่นที่มีน้อย และมีราคาแพง ก็ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยส่วนตัวของลั้งเอง ได้พบเห็นพระหลวงพ่อพรหมของแท้จากวัดมาแล้วมากมาย แทบทุกรุ่น จึงจดจำตำหนิพิมพ์ทรง และโค้ดที่ตอกในองค์พระได้อย่างแม่นยำ เรียกว่า พบเห็นที่ไหนก็สามารถตัดสินใจซื้อพระได้ด้วยตัวเอง ทุกวันนี้พระหลวงพ่อพรหมมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยบุญบารมีของท่านเอง เพราะความศักดิ์สิทธิ์ และประสบการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเสมอ ราคาพระหลวงพ่อพรหมที่สูงขึ้นจึงเป็นไปตามธรรมชาติ ไม่ใช่แพงเพราะมีการปั่นราคากันแต่อย่างใด และเชื่อว่า อนาคตพระหลวงพ่อพรหมจะต้องมีราคาสูงขึ้นไปกว่าทุกวันนี้อีก เพราะมีผู้หันมาสะสมพระของท่านกันมากขึ้น โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ในขณะที่พระของท่านมีจำนวนเท่าเดิม เมื่อจำนวนผู้ต้องการมีมากขึ้น แต่ของมีน้อยลง ราคาจึงย่อมสูงขึ้นไปด้วย" ลั้ง กล่าวอย่างมั่นใจ

 นอกจาก พระหลวงพ่อพรหม แล้ว ลั้งยังให้ความสนใจ พระหลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค อ.ตาคลี อีกสำนักหนึ่ง เพราะเป็นพระเกจิอาจารย์ในยุคเดียวกันกับหลวงพ่อพรหม และวัดก็อยู่ไม่ห่างไกลกันมากนัก ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้แก่กล้าคาถาอาคมมาก หลวงพ่อพรหมถึงกับบอกว่า นับถือหลวงปู่สีเป็นอาจารย์ โดยหลวงปู่สีมีความอาวุโสสูงกว่าหลวงพ่อพรหม ทั้งอายุและพรรษา

 ขณะเดียวกัน คุณสามีของลั้งก็เป็นผู้สนใจพระเครื่องเช่นกัน เป็นนักสะสมพระสายหลวงพ่อทวด ทุกสำนัก ไม่ว่าจะเป็นของวัดช้างให้ หรือวัดทรายขาว รวมทั้งพระเนื้อผง และเหรียญพระคณาจารย์ต่างๆ อาทิ วัดประสาทบุญญาวาส และวัดอื่นๆ อีกหลายวัด

 ลั้ง กล่าวในตอนท้ายว่า ตัวเองไม่ใช่ เซียนพระ (หญิง) แต่อย่างใด เพียงแต่มีความศรัทธาสนใจในพระเครื่องของหลวงพ่อพรหม และหลวงปู่สี มาโดยตลอด จึงพอมีความรู้ดูพระสายนี้ได้พอสมควร และยินดีที่จะให้บริการแก่ผู้สนใจทุกท่าน ด้วยความซื่อสัตย์ และจริงใจเสมอ ร้านพระของ ลั้ง พรหมรักษา อยู่ใน ชมรมพระเครื่องมรดกไทย ชั้น ๓ ห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน โทร.๐๘-๑๗๕๔-๙๙๐๑

0 ตาล ตันหยง 0

หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค อยู่ที่ไหน

วัดช่องแค เป็นวัดที่มีความเก่าแก่มากแห่งหนึ่ง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2458 ซึ่งมีหลวงพ่อพรหมซึ่งเป็นที่เลื่อมใสศักการะนมัสการ ของประชาชนทั้งประเทศ ตั้งอยู่ หมู่1 ตำบลพรหมนิมิต อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ และเป็นวัดที่พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯบรมราชินี เสด็จมาทอดผ้าป่า ณ วัดช่องแค เมื่อวันที่ 24 ...

หลวงพ่อพรหม ดังเรื่องอะไร

ทำความรู้จักหลวงพ่อพรหมวัดขนอนเหนือเกจิอาจารย์ ชื่อดังของกรุงศรีอยุธยา เหรียญนารายณ์ออกศึก - ทรงเมืองโด่งดังยันหนุมานดันปฐพี สุดยอดความเหนียว หลวงพ่อพรหม แห่ง วัดขนอนเหนือ ถือว่า เป็น หนึ่งในพระเถราจารย์ผู้มีพุทธาคมเข้มขลัง โดยเฉพาะเรื่องความคงกระพันชาตรี ที่ท่านได้รับการพูดถึงและยกย่องอย่างมาก

หลวงพ่อพรหมวัดอะไร

วัดช่องแค ( หลวงพ่อพรหม ถาวโร ) นครสวรรค์

หลวงพ่อพรหมวัดช่องแคมรณะปีไหนครับ

เกิด 20 เมษายน พ.ศ. 2427. มรณภาพ 30 มกราคม พ.ศ. 2518.