Skip to navigation Skip to content Show HomeBlogKnowledge Management มีประโยชน์อย่างไร Knowledge Management คือ การบริหารจัดการความรู้ที่ได้จากการสร้าง, คิดค้น, แลกเปลี่ยน, รวบรวม, จัดระเบียบ และประยุกต์ใช้ความรู้ที่ได้ทั้งจากตำรา
และการถ่ายทอดจากตัวบุคคลมาบูรณาการเป็นข้อมูลสารสนเทศ เพื่อให้เกิดความรู้, ปัญญา และการนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ภายในองค์กรต่างๆ เปรียบเสมือนเป็นตัวช่วยให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การจัดการองค์ความรู้ประกอบไปด้วย ชุดของการปฏิบัติงานที่ถูกใช้โดยองค์กรต่างๆ เพื่อที่จะสร้าง แสดง แจกแจง และกระจายความรู้ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการนำไปใช้และเรียนรู้ภายในองค์กร จนกระทั่งนำไปสู่การพัฒนาการจัดการข้อมูลสารสนเทศที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อการดำเนินการธุรกิจที่ดี
องค์กรขนาดใหญ่ส่วนมากจะมีการจัดสรรทรัพยากรสำหรับการจัดการองค์ความรู้ โดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือแผนกการจัดการทรัพยากรมนุษย์ ประเภทของความรู้ความรู้แบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้
ผลของ Knowledge Management
ประโยชน์ของ Knowledge Management
ที่มา :
Product : Seed บทความที่เกี่ยวข้อง : เริ่มจัดการความรู้จากอะไร Post navigationBrands Carouselประโยชน์ของ ระบบบริหารงานคุณภาพที่มีประสิทธิภาพ“ระบบบริหารงานคุณภาพ” ถ้าให้ความหมายกันตามชื่อ คือ การกำหนดระบบการบริหารจัดการในองค์กรใด องค์กรหนึ่ง ทั้งที่มุ่งเน้นผลกำไร และไม่แสวงหากำไร ให้มีการบริหารจัดการ ที่มีการกำหนด เป้าหมาย แผนงาน มาตรฐานงานแต่ละขั้นตอน ให้มีความสัมพันธ์กัน มุ่งสร้าง ระบบที่มีการส่งมอบผลลัพธ์ที่ดี ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ในขั้นตอนถัดไป หรือผู้ใช้งานสุดท้าย (ลูกค้า) ระบบบริหารงานคุณภาพ ISO 9001:2015 จึงเป็นระบบที่มุ่งสร้างให้ทุกกระบวนการของการ ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง สัมพันธ์กัน มีการดำเนินงานเป็นไปอย่างเป็นระเบียบ ระบบ สอดคล้องกับ มาตรฐานการปฏิบัติงานที่ต้องการ เมื่อเอ่ยถึงประโยชน์ที่แท้จริง ที่องค์กรจะได้รับ หากมีประยุกต์ใช้ ระบบบริหารคุณภาพตามมาตรฐาน ISO 9001:2015 อย่างเต็มสิทธิภาพจะมีดังนี้ 1.การดำเนินธุรกิจอยู่บนพื้นฐานของการจัดการกับความเสี่ยงอย่างครบถ้วน พอดี 2.มีเป้าหมาย ทิศทาง ความสำเร็จที่เป็นรูปธรรม วัดผลความสำเร็จได้ และเป็นไปอย่างเหมาะสม 3.มีการเตรียมการตอบสนองอย่างเพียงพอต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินต่างๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานตามแผนงานของธุรกิจและที่จะส่งผลกระทบต่อ ความพึงพอใจของลูกค้า 4.มีสายการบังคับบัญชา บทบาท หน้าที่ความผิดชอบ ภารกิจ เป้าหมาย เหมาะสม ท้าทาย 5.มีการถ่ายทอด ฝึกอบรมการทำงาน การสอนงานของหัวหน้างาน รวมไปถึงการประเมินทักษะ ความสามารถอย่างเป็นระบบ 6.มีระบบเอกสาร ข้อมูลข่าวสาร และบันทึกต่างๆ ให้เป็นระบบ ระเบียบ ทำให้มีการวิเคราะห์ข้อมูล ได้อย่างต่อเนื่อง 7.มีการสอบเทียบ เครื่องมือ อุปกรณ์วัดงาน ให้มีประสิทธิภาพ เที่ยงตรง สร้างความน่าเชื่อถือ 8.มีการบำรุงรักษา อุปกรณ์ เครื่องจักร ให้ใช้งานได้อย่างเต็มสมรรถนะ 9.มีแผนการปฏิบัติงาน และมีหลักฐานการติดตามตามความคืบหน้าได้ ป้องกันการเกิดปัญหาการล่าช้าของการส่งมอบ ผลิตภัณฑ์ หรือบริการ 10.มีช่องทางการติดต่อ สื่อสาร รับคำสั่งซื้อ รับข้อร้องเรียน และวัดประเมินความพึงพอใจของลูกค้า 11.มีมาตรฐานการทำงานใน กระบวนต่างๆ อาทิเช่น การออกแบบ, การผลิต, การควบคุมคุณภาพ, การจัดการคลังสินค้า เป็นต้น 12.มีการตรวจติดตาม การเฝ้าระวัง การวัด วิเคราะห์ข้อมูล เพื่อให้มั่นใจถึงการบรรลุวัตถุประสงค์ ตามเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ขององค์กร 13.มีการประชุม ทบทวนประสิทธิภาพและประสิทธิผลการการดำเนินงานทั่วทั้งองค์กร 14.มีขั้นตอนการดำเนินการแก้ไขข้อบกพร่อง (สิ่งที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนด) อย่างเป็นระบบ สร้างมั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพการป้องกัน การเกิดซ้ำของ ปัญหา 15.เกิดการ ปรับปรุง พัฒนา องค์กร อย่างต่อเนื่องทันกับทุกยุค ทุกสมัยจะเห็นว่า ข้อดีของการดำเนินงาน ตามระบบบริหารงานคุณภาพขององค์กรตาม ISO 9001:2015 จึงไม่เพียงแต่มีไว้ เพื่อ...ใส่กรอบแขวนไว้...แต่หากมีการตั้งอกตั้งใจทำตามข้อกำหนดแต่ละข้ออย่างจริงจังกันแล้ว ย่อมส่งผลดีกับทุกองค์กรแน่นอน
|