ประโยชน์ของการจัดการองค์กร

Skip to navigation Skip to content

HomeBlogKnowledge Management มีประโยชน์อย่างไร

Knowledge Management คือ ?

Knowledge Management คือ การบริหารจัดการความรู้ที่ได้จากการสร้าง, คิดค้น, แลกเปลี่ยน, รวบรวม, จัดระเบียบ และประยุกต์ใช้ความรู้ที่ได้ทั้งจากตำรา และการถ่ายทอดจากตัวบุคคลมาบูรณาการเป็นข้อมูลสารสนเทศ เพื่อให้เกิดความรู้, ปัญญา และการนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ภายในองค์กรต่างๆ เปรียบเสมือนเป็นตัวช่วยให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การจัดการองค์ความรู้ประกอบไปด้วย ชุดของการปฏิบัติงานที่ถูกใช้โดยองค์กรต่างๆ เพื่อที่จะสร้าง แสดง แจกแจง และกระจายความรู้ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการนำไปใช้และเรียนรู้ภายในองค์กร จนกระทั่งนำไปสู่การพัฒนาการจัดการข้อมูลสารสนเทศที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อการดำเนินการธุรกิจที่ดี องค์กรขนาดใหญ่ส่วนมากจะมีการจัดสรรทรัพยากรสำหรับการจัดการองค์ความรู้ โดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือแผนกการจัดการทรัพยากรมนุษย์

ประโยชน์ของการจัดการองค์กร

ประเภทของความรู้

ความรู้แบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้

  1. Explicit Knowledge คือ ความรู้ที่ชัดแจ้ง(รูปธรรม) – เป็นความรู้ที่ผ่านการวิเคราะห์สังเคราะห์อย่างเป็นเหตุเป็นผลจนเป็นหลักการทั่วไป สามารถรวบรวมและถ่ายทอดออกมาเป็นการบันทึกแบบลายลักษณ์อักษร ตำรา ทฤษฎี หนังสือหรือคู่มือต่างๆ
  2. Tacit Knowledge คือ ความรู้ที่ฝังอยู่ในตัวคน(นามธรรม) – เป็นความรู้ที่อยู่ในตัวของบุคคล เกิดจากประสบการณ์ การเรียนรู้ ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ พรสวรรค์หรือสัญชาตญาณของแต่ละบุคคล ยากที่จะถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูดและลายลักษณ์อักษร แต่สามารถพัฒนาและแบ่งบันกันได้ ก่อให้ความได้เปรียบในการแข่งขัน เช่น การคิดวิเคราะห์ งานฝีมือ หรือทักษะในงานเฉพาะด้านต่างๆ เป็นต้น

ผลของ Knowledge Management

  • ผลผลิต : มีการปรับเปลี่ยน พัฒนาผลผลิตให้ดีขึ้น และได้นวัตกรรมใหม่ๆ
  • บุคลากร : มีการเรียนรู้ และพัฒนาเป็นบุคลากรที่มีทักษะ
  • ความรู้ในองค์กร : มีการจัดระเบียบรวบรวมอย่างเป็นระบบ พร้อมที่จะนำไปใช้ประโยชน์ได้ทันที
  • องค์กร : เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ มีความเข้มแข็ง พร้อมสู่ การแข่งขันและปรับตัวเพื่อความอยู่รอดอยู่เสมอ

ประโยชน์ของ Knowledge Management

  1. ป้องกันความรู้ที่ฝังอยู่ในตัวบุคคลเกิดการสูญหาย หากมีบุคลากรลาออก เกษียณอายุ หรือเสียชีวิต เพราะย่อมก่อให้เกิดผลกระทบกับงาน และองค์กรเป็นอย่างมาก
  2. ช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและความอยู่รอดขององค์กร
  3. เป็นเครื่องมือที่ช่วยพัฒนาและเพิ่มทักษะ ความรู้ ความสามารถ รวมถึงฝีมือของบุคลากรในองค์กรให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
  4. ไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูกด้วยตนเอง ช่วยลดขั้นตอนในการทำงาน ประหยัดเวลาและทรัพยากรที่ใช้ในการทำงานได้มากกว่า
  5. ก่อให้เกิดวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้ ค้นคว้า แบ่งปัน แลกเปลี่ยน ยอมรับฟังความคิดเห็น และถ่ายทอดความรู้กันซึ่งกันและกันภายในองค์กร เพื่อนำมาซึ่งผลลัพธ์ในการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  6. ช่วยสร้างความรักความสามัคคีให้เกิดขึ้นภายในองค์กรด้วย
  7. ทำให้เกิดแหล่งเรียนรู้ภายในองค์กร สามารถเรียนรู้และใช้ประโยชน์ได้อย่างรวดเร็ว
  8. เพิ่มความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และต่อยอดความรู้เดิม จนสร้างเป็นชิ้นงาน, ผลงาน, สิ่งประดิษฐ์ หรือนวัตกรรมใหม่ๆ ให้กับองค์กร
  9. ได้เรียนรู้ความผิดพลาดของคนอื่นซึ่งเป็นบทเรียนที่เกิดขึ้นในอดีต เพื่อเรียนรู้ ป้องกัน ต่อยอด และหาวิธีแก้ไขใหม่ๆที่ดีกว่า ยั่งยืนกว่า
  10. ช่วยให้บุคลากรในองค์กรมีแหล่งการเรียนรู้ ศึกษา และพัฒนาตนเองตลอดเวลา
  11. เพิ่มคุณค่าและมูลค่าให้กับผลผลิต หรือสินค้าขององค์กร
  12. ทุกคนในองค์กรมีสิทธิ์ในการเรียนรู้เท่าเทียมกัน

“จะดีแค่ไหน ถ้าเรามี Tools สำหรับ Knowledge Management?”

ที่มา :

  • http://www.okmd.or.th/upload/pdf/chapter1_kc.pdf
  • https://km.oncb.go.th/download/article/whatKM.pdf

Product :

Seed

บทความที่เกี่ยวข้อง :

เริ่มจัดการความรู้จากอะไร
ความรู้ในหน่วยงาน

Post navigation

   ประโยชน์ของ ระบบบริหารงานคุณภาพที่มีประสิทธิภาพ

        “ระบบบริหารงานคุณภาพ” ถ้าให้ความหมายกันตามชื่อ คือ การกำหนดระบบการบริหารจัดการในองค์กรใด องค์กรหนึ่ง 

ทั้งที่มุ่งเน้นผลกำไร และไม่แสวงหากำไร ให้มีการบริหารจัดการ ที่มีการกำหนด เป้าหมาย แผนงาน มาตรฐานงานแต่ละขั้นตอน

ให้มีความสัมพันธ์กัน มุ่งสร้าง ระบบที่มีการส่งมอบผลลัพธ์ที่ดี ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ในขั้นตอนถัดไป

       หรือผู้ใช้งานสุดท้าย (ลูกค้า) ระบบบริหารงานคุณภาพ ISO 9001:2015 จึงเป็นระบบที่มุ่งสร้างให้ทุกกระบวนการของการ

ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง สัมพันธ์กัน มีการดำเนินงานเป็นไปอย่างเป็นระเบียบ ระบบ สอดคล้องกับ มาตรฐานการปฏิบัติงานที่ต้องการ

เมื่อเอ่ยถึงประโยชน์ที่แท้จริง ที่องค์กรจะได้รับ หากมีประยุกต์ใช้

ระบบบริหารคุณภาพตามมาตรฐาน ISO 9001:2015 อย่างเต็มสิทธิภาพจะมีดังนี้

1.การดำเนินธุรกิจอยู่บนพื้นฐานของการจัดการกับความเสี่ยงอย่างครบถ้วน พอดี

2.มีเป้าหมาย ทิศทาง ความสำเร็จที่เป็นรูปธรรม วัดผลความสำเร็จได้ และเป็นไปอย่างเหมาะสม

3.มีการเตรียมการตอบสนองอย่างเพียงพอต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินต่างๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานตามแผนงานของธุรกิจและที่จะส่งผลกระทบต่อ

ความพึงพอใจของลูกค้า

4.มีสายการบังคับบัญชา บทบาท หน้าที่ความผิดชอบ ภารกิจ เป้าหมาย เหมาะสม ท้าทาย

5.มีการถ่ายทอด ฝึกอบรมการทำงาน การสอนงานของหัวหน้างาน รวมไปถึงการประเมินทักษะ ความสามารถอย่างเป็นระบบ

6.มีระบบเอกสาร ข้อมูลข่าวสาร และบันทึกต่างๆ ให้เป็นระบบ ระเบียบ ทำให้มีการวิเคราะห์ข้อมูล ได้อย่างต่อเนื่อง

7.มีการสอบเทียบ เครื่องมือ อุปกรณ์วัดงาน ให้มีประสิทธิภาพ เที่ยงตรง สร้างความน่าเชื่อถือ

8.มีการบำรุงรักษา อุปกรณ์ เครื่องจักร ให้ใช้งานได้อย่างเต็มสมรรถนะ

9.มีแผนการปฏิบัติงาน และมีหลักฐานการติดตามตามความคืบหน้าได้ ป้องกันการเกิดปัญหาการล่าช้าของการส่งมอบ ผลิตภัณฑ์ หรือบริการ

10.มีช่องทางการติดต่อ สื่อสาร รับคำสั่งซื้อ รับข้อร้องเรียน และวัดประเมินความพึงพอใจของลูกค้า

11.มีมาตรฐานการทำงานใน กระบวนต่างๆ อาทิเช่น การออกแบบ, การผลิต, การควบคุมคุณภาพ, การจัดการคลังสินค้า เป็นต้น

12.มีการตรวจติดตาม การเฝ้าระวัง การวัด วิเคราะห์ข้อมูล เพื่อให้มั่นใจถึงการบรรลุวัตถุประสงค์ ตามเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ขององค์กร

13.มีการประชุม ทบทวนประสิทธิภาพและประสิทธิผลการการดำเนินงานทั่วทั้งองค์กร

14.มีขั้นตอนการดำเนินการแก้ไขข้อบกพร่อง (สิ่งที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนด) อย่างเป็นระบบ สร้างมั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพการป้องกัน การเกิดซ้ำของ

ปัญหา

15.เกิดการ ปรับปรุง พัฒนา องค์กร อย่างต่อเนื่องทันกับทุกยุค ทุกสมัยจะเห็นว่า ข้อดีของการดำเนินงาน ตามระบบบริหารงานคุณภาพขององค์กรตาม

ISO 9001:2015 จึงไม่เพียงแต่มีไว้

     เพื่อ...ใส่กรอบแขวนไว้...แต่หากมีการตั้งอกตั้งใจทำตามข้อกำหนดแต่ละข้ออย่างจริงจังกันแล้ว ย่อมส่งผลดีกับทุกองค์กรแน่นอน