Volume: Show ฉบับที่ 44 เดือนเมษายน 2565 Writer Name: ผู้ช่วยศาสตราจารย์ แพทย์หญิงวิจิตรา เลี้ยงสว่างวงศ์ ภาควิชาเวชศาสตร์ฉุกเฉิน คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
เนื่องจากอุบัติการณ์ของผู้ป่วยหัวใจหยุดเต้นในที่เกิดเหตุในประเทศไทยมีจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี การนวดหัวใจผายปอดกู้ชีพในที่เกิดเหตุด้วยความรวดเร็วและมีคุณภาพ จึงมีความสำคัญต่ออัตราการรอดชีวิต ขั้นตอนการนวดหัวใจผายปอดกู้ชีพขั้นพื้นฐาน
มีดังนี้ 2) ประเมินความรู้สึกตัวผู้ป่วย โดยการ 3) โทร. 1669 เพื่อให้หน่วยกู้ชีพในพื้นที่ที่ใกล้เคียงที่สุดออกปฏิบัติการ 4) ใช้เครื่อง AED (Automated External Defibrillator) หรือเครื่องกระตุกหัวใจด้วยไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ ที่สามารถวินิจฉัยภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้โดยอัตโนมัติ และ สามารถให้การรักษาด้วยการช็อกไฟฟ้ากระตุกหัวใจโดยใช้กระแสไฟฟ้า หยุดรูปแบบการเต้นของหัวใจที่ผิดจังหวะ เพื่อเปิดโอกาสให้หัวใจกลับมาเต้นใหม่ในจังหวะที่ถูกต้องเนื่องจากอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ สามารถหาได้ในที่สาธารณะ เช่น ตามสถานีรถไฟ ห้างสรรพสินค้า ถือเป็นอุปกรณ์ที่สามารถใช้ปฐมพยาบาลช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยผู้ที่ช่วยเหลือไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในการใช้งาน AED มาก่อน เพราะคนทั่วไปก็สามารถใช้งานได้ง่าย 5) กดหน้าอก 30 ครั้ง การกดหน้าอกอย่างมีคุณภาพมีความสัมพันธ์โดยตรงกับอัตราการรอดชีวิต ผู้ช่วยเหลือจึงต้องเรียนรู้การกดหน้าอกดังนี้ กด เร็ว-แรง-ลึก ซึ่งหลักการพื้นฐานคือ ก่อนกดหน้าอกให้จัดท่าผู้ป่วยในท่านอนราบอยู่บนพื้นแข็งเพื่อที่ให้แรงกดมีความแรงเพียงพอที่จะทำให้เลือดออกจากหัวใจไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ขณะกดหน้าอกผู้ที่กดควรยืดแขนตรงและตั้งฉากกับลำตัวผู้ป่วย และไม่ยกมือออกจากอกของผู้ป่วย และยังต้องรู้หลักการการกดหน้าอกในแต่ละช่วงอายุดังนี้
6) เปิดทางเดินหายใจ เพื่อแก้ไขภาวะทางเดินหายใจส่วนบนอุดกลั้น เช่น มีน้ำลาย เสมหะ เลือด เศษอาหารอุดกั้น หรือลิ้นตกไปทางด้านหลัง สามารถใช้ได้กับผู้หมดสติทั่วไปที่ไม่มีการบาดเจ็บที่ศีรษะและคอ โดยการเอาฝ่ามือข้างหนึ่งดันหน้าผาก เอานิ้วชี้และนิ้วกลางของมืออีกข้างหนึ่งดึงคางขึ้น ใช้นิ้วมือดึงเฉพาะกระดูกขากรรไกรล่าง โดยไม่กดเนื้ออ่อนใต้คาง ให้หน้าผู้ป่วยเงยขึ้นจนฟันล่างถูกดึงขึ้นมาจนเกือบชนกับฟันบน อีกวิธีคือ วิธียกขากรรไกรล่าง (jaw trust)
เป็นการเปิดทางเดินหายใจโดยการยกส่วนของมุมกรามล่างร่วมกับเคลื่อน mandible มาด้านหน้าเล็กน้อย เพื่อให้ฟันล่างแยกออกมาด้านหน้าฟันบนเล็กน้อยโดยผู้ช่วยเหลืออยู่บนศีรษะผู้ป่วย ใช้ได้กับผู้ป่วยทุกประเภท โดยเฉพาะผู้ป่วยที่สงสัยการบาดเจ็บต่อกระดูกสันหลังส่วนต้นคอ การนวดหัวใจ ควรใช้อัตราเร็วเท่าไร- ต้องกดหน้าอกให้เร็วและแรง แต่อย่ากระแทก ด้วยอัตราความเร็วอย่างน้อย 100 ครั้งต่อนาที - กดลึกอย่างน้อย 2 นิ้ว หรือ 5 เซนติเมตร สำหรับผู้ใหญ่ - หลังการกดแต่ละครั้งต้องปล่อยให้อกคืนตัวจนสุด เพื่อให้หัวใจรับเลือดสำหรับสูบฉีดครั้งต่อไป หากไม่ปล่อยให้หน้าอกคืนตัวจนสุด จะทำให้เลือดที่ไปเลี้ยงอวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกายลดลง
การกดนวดหัวใจผู้ป่วยที่ถูกวิธีควรทำอย่างไรเริ่มทำการกดหน้าอก โดยจับผู้ป่วยนอนหงาย นั่งคุกเข่าข้างผู้ป่วย วางสันมือข้างหนึ่งตรงครึ่งล่างกระดูกหน้าอก (ตำแหน่งตรงกลางระหว่างหน้าอก ระดับเดียวกับหัวนมพอดี) และวางมืออีกข้างทับประสานกันไว้ เริ่มการกดหน้าอกด้วยความลึกอย่างน้อย 5 เซนติเมตร ในอัตราเร็ว 100-120 ครั้งต่อนาที สามารถปั๊มหัวใจตามจังหวะเพลง “สุขกันเถอะเรา” ...
อัตราส่วนในการนวดหัวใจต่อการช่วยหายใจคือข้อใดการดูแลเบื้องต้น การช่วยหายใจหลังขึ้นจากน ้า (AHA Class I, LOE C) ให้ใช้วิธีดั้งเดิมคือ A-B-C. การช่วยหายใจในครั้งแรก แนะน าให้ช่วย 5 ครั้ง (ตาม European Resuscitation Council; ERC) ตามต่อด้วยการกดนวดหน้าอก 30 ครั้ง และเข้าวงรอบ 30:2.
การใช้ 2 นิ้วเชยชายคางเพื่ออะไรการเปิดทางเดินหายใจด้วยวิธีแหงนหน้าเชยคาง ทำได้โดยวางมือข้างหนึ่งบนหน้าผากของทารก แล้วค่อย ๆ เงยศีรษะไปทางด้านหลัง ใช้นิ้วมือ 2 นิ้วยกคางให้เชิดขึ้น การทำแบบนี้จะช่วยทำให้ลิ้นไม่ไปกีดขวางทางเดินหายใจ การช่วยให้หายใจ
|